ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 7)
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 7
รัฐประหารปี 2490
วันที่เกิดการปฏิวัติที่เรียกว่ารัฐประหารนั้น ผมนั่งอยู่กับเพื่อนวงใหญ่ในวันฉลองของศิษย์เก่าโรงเรียนสายปัญญา ที่สวนอัมพร วันที่ 9 พฤศจิกายน 2490
ผมกำลังสนุกสนานกับพรรคพวกกลุ่มใหญ่ร่วมสิบคนที่โต๊ะใกล้วงดนตรี ข้าง ๆ ฟลอร์ เวลาประมาณเกือบสามทุ่มเห็นจะได้ งานนั้นมีท่านนายก ฯ หลวงธำรง ฯ มาร่วมด้วยในฐานะประธานงาน นั่งโต๊ะยาวตรงกลาง หันหน้าหาเวลาดนตรี ท่านนายก ฯ นั่งเก้าอี้กลางแถวเด่น มองจากโต๊ะผมเห็นชัด ผมกำลังจะออกเต้นรำ ก็เห็นใครคนหนึ่งเดินรีบ ๆ เข้ามาหาทานนายก ฯ ก้มลงกระซิบอะไรกับท่านนายก ฯ อยู่ แล้วคนคนนั้นก็รีบผละออกไป ผมวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์ กลับมาอีกที ท่านนายก ฯ หายไปเสียแล้วจากที่นั่ง แต่อีกหลายคนในแถวนั้นยังอยู่ ผมพาคู่ของผมกลับมาที่โต๊ะ ความรู้สึกในใจของผมขณะนั้นมันพิกล ผมนั่งกินเหล้าอยู่อีกครู่เดียวก็ได้ยินเสียงอึกทึกทางหน้าบันไดทางขึ้นสถานลีลาศนั้น เสียงคล้ายเสียงสายพานรถเกราะบดมาตามถนน เสียงนี้ผมคุ้นกับมัน
เสียงดังหนัก ๆ นั้นมาหยุดตรงหน้าทางขึ้นเวที แล้วก็มีนายทหารในเครื่องแบบพร้อมรบเดินเขย่าเสปอร์กรุ๋งกริ๋งขึ้นมาอย่างเร่งรีบ มีทหารในเครื่องแบบพร้อมอาวุธติดตามมาอีกสองคน นายทหารคนนั้นก้าวฉับ ๆ ไปที่แถวที่เรียงรายหน้าฟลอร์นั้น ตรงไปที่คุณหลวงธำรง ฯ เพิ่งจะลุกไป เขาชะงักเมื่อมองเห็นเก้าอี้ว่างเปล่า ก้าวเข้าไปหาคนที่ยังนั่งอยู่ ก้มลงพูดอะไรกัน เดี๋ยวเดียวก็เขย่าเสปอร์กลับลงไป เสียงล้อรถสายพานบดถนนกึง ๆ ออกไป
ผมบอกตัวเองว่า เอาแล้ว
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ ล้วงเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะ บอกพรรคพวกว่า ผมมีธุระต้องรีบไปเสียแล้ว เสียหายเท่าไหร่ก็เอาเงินนี่จ่ายไปผมเผ่นออกมาจากที่นั่น โดยไม่ให้พรรคพวกทันได้ถามอะไร
ผมเดินรีบ ๆ มาที่รถของผมที่จอดอยู่ใกล้ทางขึ้น บึ่งรถไปที่จุดนัดหมายทันที พี่เชื้อบอกผมไว้ว่า ถ้ามีเรื่องให้ไปพบกันที่เมรุเผาศพวัดเทพศิรินทร์ ที่นั่นเป็นจุดนัดหมายที่จะรวมพล ในรถผมมีอาวุธประจำพร้อมอยู่แล้ว ทั้งปืนกลมือและระเบิด ผมบึ่งไปที่เมรุวัดเทพ ฯ ทันที
ผมจอดรถแอบเงามืดอยู่ข้างเมรุ จอดเงียบอยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นมีใครมา หรือว่าเขายังไม่รู้เรื่องกัน ผมจอดรถรออยู่เป็นชั่วโมง ก็ไม่มีใครมา ผมนั่งอยู่ในรถคนเดียว มืดก็มืด เมรุเผาศพก็อยู่ข้าง ๆ ไม่ไกล ดีไม่ดี ผีจะมาแทนเอา ผมรออยู่อีกครู่ใหญ่ ไม่มีใครมา ผมก็ติดเครื่องบึ่งกลับบ้านนอน
ผมตื่นตอนเช้าด้วยมือเมียสะกิด ลืมตาขึ้นมามันยังเช้าอยู่ อากาศยังสลัว ๆ ไม่รู้ว่าเขาสะกิดทำไม แล้วเขาก็กระซิบที่หูว่า พี่ พี่ ทหารล้อมบ้านเรา
ผมลุกขึ้นทันที คว้าปืนกลทอมป์สันที่วางอยู่ข้างตัว ย่อตัวเดินไปที่ริมหน้าต่าง ชะเง้อคอขึ้นมอง ปืนกุมอยู่ในมือพร้อมที่จะใช้การ
ที่ริมรั้วบ้านผม มีแถวทหารในเครื่องแบบพร้อมรบ ขยายแถวรายล้อมอยู่ นายทหารในเครื่องแบบยศร้อยเอกนำหน้าแถวทหาร ค่อย ๆ ย่องเข้ามาทางประตูบ้านที่เปิดอยู่ ผมชะโงกหน้าออกไปทางหน้าต่าง ถามไปว่า มาหาใครครับ
ร้อยเอกคนนั้นเงยหน้าขึ้น พอเห็นผมเขาก็ยกมือตะเบ๊ะ บ้านคุณทอง กัณหาธรรม อยู่หลังไหนครับ คำถามของเขาทำให้ผมโล่งอก บ้านคุณทอง กัณหาธรรม รัฐมนตรีคนหนึ่งในคณะรัฐบาล อยู่หลังบ้านผม รั้วชนกัน ผมรู้จักดี
อยู่หลังบ้านนี่แหละครับ ผมบอกร้อยเอกคนนั้น พร้อมกับชี้ทางให้ ขออนุญาตผ่านบ้านไปหน่อยได้ไหมครับ ร้อยเอกตะเบ๊ะอีก สุภาพเรียบร้อยดี เชิญครับ ผมอนุญาตเขาไปทันที
เขายกมือตะเบ๊ะอีกที ก่อนที่จะนำทหารของเขาผ่านประตูบ้านผม แล้วขยายแถวผ่านบ้านผมไปทางด้านหลัง เลยออกไปทางด้านนั้น ปรากฏว่าคุณทองหนีไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทหารทั้งแถวก็เลยออกไปทางด้านนั้นเลย ไม่กลับมายุ่งกับผมอีก
วันนั้นผมไปทำงานเป็นปกติ ที่กองผมมีนายตำรวจหายไปสองสามคน ผู้กำกับประจวบของผมอยู่ที่ทำงานเป็นปกติ ผมก็ไม่ได้รายงานให้ท่านทราบถึงเรื่องที่เกิดที่บ้านผม พูดไปเดี๋ยวจะมากเรื่อง
คณะรัฐประหารทำการครั้งนั้นสำเร็จลงด้วยดี ท่านปรีดี ฯ ลงเรือหนีไปก่อนหน้านั้นเหมือนกัน เขาพากันหนีไปหมด มีผมคนเดียวที่ไม่รู้อะไรกับเขา มาทราบทีหลังว่า เขาเปลี่ยนที่ชุมนุมพล จากวัดเทพ ฯ ไปที่บ้านคุณหลวงสังวร ฯ ที่บางนา รวมกำลังกันที่นั่น โดยไม่ได้บอกถึงการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ให้ผมรู้ เขาอาจคิดว่าผมเป็นพวกรัฐประหารไปแล้วก็ได้ เพราะเรื่องที่ผมไปบอกเขาถึงที่ถูกชวนเข้าพวกปฏิวัตินั่น
บุคคลสำคัญของรัฐบาลที่ไปชุมนุมกันที่บ้านคุณหลวงสังวร ฯ ผู้รักษาการณ์อธิบดีตำรวจนั้น ก็อพยพหลบหนีกันออกทางน้ำกันไปหมดเหมือนกัน ไม่มีใครในคณะรัฐบาลถูกควบคุมตัวได้สักคน ที่ท้า ๆ เขาให้ปฏิวัตินั้น นึกว่าจะสู้ท้าแล้วหนีเท่านั้นเอง
Create Date : 19 มกราคม 2553 |
Last Update : 19 มกราคม 2553 1:30:38 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1264 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีที่ได้รู้จัก และยินดีให้ไปเยี่ยมบ่อยๆค่ะ