จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 9 ตอนที่ 2)


ชายคนหนึ่งรูปร่างสมบูรณ์ สูงใหญ่ ผิวขาวแบบคนจีนยืนอยู่ตรงหน้าผม ผมเคยเห็นเขาในหน้าหนังสือพิมพ์หลายหน เป็นรูปถ่ายในวันที่เขาบริจาคเงินจำนวนล้าน บำรุงสาธารณกุศลในงานต่าง ๆ บ้าง รูปถ่ายของเขาในงานเลี้ยงรับรองของทางราชการบ้าง และรูปถ่ายของเขาขณะกำลังมอบเงินหลายแสนให้กับทางหน่วยราชการที่จัดงานเพื่อการกุศล เขาเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มากมายในกิจการกุศลหลายครั้ง

นายอุทิศ ตัณผลานุสนธิ์คนนั้น ... !

ผมไม่รู้ว่าเขาเข้ามาทางไหน – อย่างไร ไอ้เสียงลั่นครืดนั่นเอง ผมกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง ฝาทุกด้านปิดสนิท แม้แต่ที่พื้นห้องก็ไม่มีร่องรอยอะไรเลย

เขาหัวเราะออกมาค่อนข้างจะดัง แล้วพูดออกมาด้วยสำเนียงไทยปนจีนว่า

“ สวัสดีครับ คุณร้อยตำรวจโทยอดทวน ผมทราบว่าคุณต้องการพบผม ผมก็มาหา ”

ผมนั่งจ้องตาเขานิ่ง ลองขยับมือที่ไขว้อยู่ข้างหลัง มันติดแน่นไม่ยอมขยับเขยื้อน

“ คุณต้องนั่งไม่สบายหน่อย ” เขาพูดออกมาอีก เสียงหัวเราะยังดังอยู่ “ ต้องขอโทษที่ต้อนรับคุณด้วยวิธีนี้ คุณมีอะไรที่จะพูดกับผมก็พูดมาซีครับ ”

ความรู้สึกของผมบอกว่า ขณะนี้ภายในห้องไม่มีใครอื่นนอกจากเขากับผม เสี่ยตั้งกับผู้หญิงสองคนนั่นหายไปไหนเมื่อไหร่ ผมไม่ทันได้รู้สึก ผมไม่พูด จ้องนัยน์ตาเขาอยู่อย่างนั้น ในหัวผมคิดหาทางออกอยู่ แต่คิดยังไงมันก็ยังมองไม่เห็นทาง

“ คุณเล่นงานคนของผมไปแล้วหลายศพ ” เขาพูดต่อข้างเดียว “ ผมขอชมฝีไม้ลายมือของคุณว่า หาคนเปรียบได้ยาก คนของผมแต่ละคนที่มีฝีมือ ที่ผมสั่งมาโดยเฉพาะ เขาเป็นนักสู้ฝีมือดีของเมืองจีนทั้งหกเจ็ดคนนั้น กว่าเราจะฝึกเขาขึ้นมาได้ก็ต้องเสียเวลาและเงินไปมากมาย แต่คุณมาทำลายเขาได้เพียงเวลาไม่กี่วัน อันนี้ผมขอชมเชยฝีมือคุณจริง ๆ และผมก็ได้รู้ว่า เขาคัดคุณมาเพื่องานนี้ใช่ไหมครับ ”

ผมยังจ้องนัยน์ตาไม่กระพริบ

“ เมื่อคุณไม่พูด ผมก็จะพูดให้ฟังเอง ” เขายิ้มอย่างคนอารมณ์ดี “ คุณจะมีชีวิตอยู่อีกเพียงไม่กี่นาที จะได้เก็บเอาไว้เป็นความรู้ไปเล่าให้ยมบาลฟัง ผมรู้จนกระทั่งว่าเขาส่งคุณให้สืบว่า ผมให้เงินสนับสนุนองค์การคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยหรือเปล่า ผมรู้ได้ยังไงนั้น ผมบอกไม่ได้ ผมรู้ก็แล้วกัน ไม่มีอะไรที่ผมอยากจะรู้แล้วไม่ได้รู้ ที่ว่าลับ ๆ ในทางราชการนั้น สำหรับผมมันไม่ใช่ความลับ ผมบริจาคเงินเพื่อการกุศลหลายแห่งได้ ทำไมผมถึงจะให้เงินกับพวกผมบ้างไม่ได้ ผมไม่เชื่อว่าเมืองไทยจะอยู่ได้ และผมไม่ได้ตั้งใจที่จะตายในเมืองไทย ผมมีบ้านที่เกิดของผมในซัวเถา ต้นตระกูลของผมเกิดที่นั่น ผมก็ต้องไปตายที่นั่น ผมถือสัญชาติไทยอยู่ในขณะนี้ก็จริง แต่สัญชาติที่ผมซื้อมาได้ด้วยเงินไม่ใช่สัญชาติที่แท้จริง ของผม ” แล้วเขาก็หัวเราะลั่นห้อง

ในหัวของผมมันเหมือนมีอะไรเดือดปุด ๆ อยู่ในนั้นขึ้นมาอีก ผมนึกด่าแม่ใครอยู่ในใจ

“ เพื่อนของคุณตายไปแล้วคนหนึ่ง เขาตายแบบที่คุณกำลังจะตายอีกไม่กี่นาทีนี้ ไม่มีบาดแผล แต่ศพของคุณจะไม่ไปอยู่ที่ชะอำ มันจะไปอยู่อีกฝั่งของทะเล ผมจะต้องคิดดูก่อนว่าจะให้คุณไปอยู่ที่ไหน เพื่อนของคุณมีความผิดสองอย่าง อย่างหนึ่งเขาคิดจะทำลายผม อย่างที่สอง เขามายุ่งกับเด็กของผมมากเกินไป คุณก็มีความผิดอย่างเดียวกับเขาเหมือน ๆ กัน คุณก็ต้องไปอย่างเดียวกับเขา ”

ผมนึกถึงแม่ต๊อยขึ้นมาทันที คำว่าเด็กของเขาคงจะเป็นแม่คนนี้ แม่เก๋พูดไม่ผิด

“ คุณมีอะไรที่จะสั่งเสียอีกไหม ถ้าเป็นการสั่งเสียถึงคนภายนอก ผมก็จะจัดการให้ถึงได้ ” เขาพูดต่อ “ มีอะไรก็รีบ ๆ บอกมาเสีย เวลามีน้อย ”

ผมยังจ้องนัยน์ตาเขาอยู่อย่างเดิม เตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญกับภัยทุกอย่างที่จะมาถึง มันถึงคราวอับจนก็ต้องยอม แล้วผมก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นห่วง ผู้การเยี่ยมก็จะต้องหาคนมาทดแทนอีกต่อไป ผมจะถูกตัดบัญชีออกไป ก็เท่านั้น มันเป็นงานที่ไม่มีเหรียญตราให้ และไม่มีพิธีศพที่หรูหราสำหรับคนทำงานประเภทนี้

“ ถ้ายังงั้นก็ขอให้ไปสู่ที่เป็นสุขเป็นสุข อโหสิให้ผมด้วย คุณยอดทวน ” เขาพูด แล้วไอ้เสียงฝาลั่นครืด ๆ นั่นก็ดังขึ้นอีกทางข้างหลังผม เขาเดินผ่านผมไปทางนั้น เสียงครืด ๆ ดังมาอีกแล้วก็เงียบ ไฟในห้องดับมืดมองไม่เห็นอะไรเลย มันมืดทึบจริง ๆ

กลิ่นอะไรโชยฉุย ๆ เข้ามาในห้อง มันค่อย ๆ ส่งกลิ่นแรงขึ้น – แรงขึ้น – จนผมอึดอัด ทั้งเหม็นและหายใจไม่ออก ผมกลั้นลมหายใจไว้ พยายามที่ไม่สูดมันเข้าไป รู้ว่ามันเป็นกลิ่นแก๊สพิษชนิดหนึ่ง แต่กลั้นลมหายใจไว้นานได้เท่าที่ผ่อนลมหายใจออก ไอ้กลิ่นนั่นก็เข้ามาในจมูกอีก ผมพยายามสู้กับมันด้วยการกลั้นลมหายใจเป็นพัก ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าทางรอดไม่มี มันเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่จะทำได้

แล้วความรู้สึกของผมก็ค่อย ๆ เลือนราง หัวหมุนติ้ว ๆ ลมหายใจขัด เจ็บที่หน้าอกอย่างรุนแรง ลำคออ่อนพับลงไป ความรู้สึกดับวูบ...




Create Date : 27 สิงหาคม 2552
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 1:02:31 น. 3 comments
Counter : 734 Pageviews.

 


๙๙
๙๙๙
๙๙๙๙
๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙

ปอ ป้า..เจิมให้...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:9:42:46 น.  

 
สวัสดีค่ะ....

ขอบคุณที่แวะเยี่ยมบ้านป้า..นะคะ

เห็นนวนิยายแล้ว น่าอ่านมาก...ค่ะ แต่คงต้องใช้เวลามาอ่านย้อนหลังอีกนานทีเดียว

หวังว่าต่อไปคงจะมีโอกาสได้พูดคุยกันอีก...นะคะ

โชคดี มีความสุขในทุกวันดี ๆ ...นะคะ


โดย: พรหมญาณี วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:9:44:29 น.  

 

ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับมงคลที่ให้มา
จะต้องโชคดีแน่ ๆ เลย

ส่วนนวนิยายนี้ เป็นเรื่องที่คุณพ่อประพันธ์ไว้ เมื่อ30 ปีที่แล้ว เห็นว่ายังน่าอ่านอยู่ เลย up มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน

ไม่อยากให้งานของคุณพ่อถูกลืมนะคะ





โดย: ธารน้อย วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:3:10:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.