จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
13 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 68)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 68

สินบนจับฝิ่น

ผมกลับไปพักผ่อนที่บ้าน วันรุ่งขึ้นก็ไปหาเจ้านายที่วังปารุสก์

“ มึงไปพบเขาได้ที่... ” ที่จุด ๆ ไว้นั่นเป็นชื่อกรมกองทหารแห่งหนึ่ง แถว ๆ บางซื่อ

เจ้านายพูดกับผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะดี

“ เขาเตรียมเงินไว้ให้มึงแล้ว และของคนของมึงด้วย ไปเหอะ เขาบอกกูเมื่อเช้านี้ ไปเดี๋ยวนี้ก็ได้ ”

ผมก็ออกจากวังปารุสก์ ตรงไปที่หน่วยที่ท่านบอกไว้ ที่นั่นรถผมเข้าออกได้สบายอยู่แล้ว เพราะเป็นที่ที่ผมเคยเข้าออกบ่อยสมัยก่อน ผมมีบัตรผ่านติดรถอยู่

ผมเข้าไปถึงบ้านพักท่านผู้บังคับหน่วย ท่านที่ยกมือห้ามขบวนรถของผมวันนั้น ผมขึ้นบ้านด้วยความเคยชิน

ผมพบภริยาของท่านรอรับผมอยู่ในห้องรับแขก ตัวท่านไม่อยู่ คุณหญิงของท่านออกมารับแขกแทน ให้ผมนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งในห้องรับแขก ในห้องไม่มีใครนอกจากคุณหญิงกับผม

คุณหญิงส่งซองให้ผม พูดว่า
“ ในนั้น มีเงินสองหมื่น เป็นของคุณ ”

ผมมองดูซองในมือที่คุณหญิงส่งให้ผม ผมไม่รับ พูดว่า
“ ทำไมสองหมื่นล่ะครับ เห็นท่านอธิบดีบอกว่า ผมจะได้สองแสน และของตำรวจของผมอีกคนละสองหมื่น ห้าคนด้วยกัน ”

คุณหญิงมองหน้าผม พูดหัวเราะ ๆ ว่า
“ เขาให้มาแค่นั่นแหละ พ่อค้าเขาขาดทุน มีให้ได้แค่นี้ ”

คำพูดนั้นมันฟังพิกล เล่นกันดื้อ ๆ ยังงี้เอง จากสองแสนเหลือสองหมื่น แล้วยังจะต้องเอาไปแบ่งให้ตำรวจที่ร่วมจับกุมด้วย มันจะออกตลกไม่เข้าท่ามากไปหน่อย ผมถามไป

“ มันไม่ตลกไปหน่อยหรือครับ ”

“ ก็เขาให้มาแค่นี้ ฉันก็มอบให้เท่าที่เขาให้มา เขาว่าเขาขาดทุนมากคราวนี้ ”

มันก็ยังฟังไม่ออกอยู่ดี ได้ของคืนไปครบถ้วนแล้วมันจะยังขาดทุนอีกได้ยังไง ผมมองดูซองที่วางบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้น พูดว่า

“ คุณหญิงเก็บเอาไว้เถอะครับ ผมฝากไว้ทำบุญด้วย จะอุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ใหญ่ของใครก็ตามใจ ผมลาละครับ ”

ผมลงจากบ้านนั้น ขึ้นรถออกมา ไปรายงานให้ท่านทราบถึงเรื่องเงินที่เขาให้ผม แล้วผมทิ้งไว้ให้ฝากทำบุญทั้งหมดนั่น

“ ไอ้ห่า ” ท่านคำรามออกมา “ มันเล่นยังงี้เชียวหรือวะ ”

เรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้ ยังมีอะไรสนุก ๆ เกิดขึ้นอีก

หนังสือพิมพ์วันรุ่งขึ้นลงข่าวเรื่องจับฝิ่นรายนี้ครึกโครม ไม่ทราบว่าเขาไปเอาข่าวมาจากทางไหน วันที่ไปจับนั้นก็ไม่เห็นมีหนังสือพิมพ์ฉบับไหนตามไป ข่าวพาดหัวออกมาว่า มีการจับฝิ่นรายใหญ่ได้ถึงหลายคันรถ หนักหลายตัน

เจ้านายเรียกผมเข้าวังปารุสก์อีก
“ เฮ้ย ใครไปให้ข่าวหนังสือพิมพ์วะ เดี๋ยวมันแห่กันมาจะว่ายังไง ”

“ ให้เป็นข่าวเสียบ้างก็ดีครับ ” ผมว่า “ ผมจะให้สัมภาษณ์เองก็ได้ ว่าของกลางมันอยู่ที่ไหน ”

“ ไอ้บ้า ” เสียงคำราม “ มึงก็พูดเป็นเล่นเรื่อย กูว่า หนังสือพิมพ์มันเอาแน่ จะแก้ไขยังไงดี มึงช่วยกูคิด ”

เป็นเสียยังงี้ แทนที่ฝ่ายทำผิดจะต้องคิด กลับเป็นฝ่ายจับกุมต้องมาคิด

นี่แหละ สุภาพบุรุษทางการเมือง

“ ทางทหารเขาจะเข้าใจเราผิดว่า ไม่ช่วยเหลือเขา ” สุภาพบุรุษรำพึง “ เราจะพูดกับหนังสือพิมพ์ยังไง ถ้ามันแห่กันมาหาข่าว มันต้องมากันแน่ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ มึงต้องเป็นคนคิดแก้ปัญหานี่ ”

ก็ต้องเป็นผมอีก ผมบอกไปทันที
“ ก็ให้ทางเขาขนเอาฝิ่นมาคืนเป็นของกลางเสียบ้าง เล่นเก็บไปหมดก็ไม่ถูก ท่านบอกเขาซิครับ ให้ขนเอามาให้เราเก็บเป็นของกลางสักสี่-ห้าสิบกระป๋อง ให้มันดูจำนวนมากหน่อย อย่าให้มันดูกระจอกนัก เพราะทางรถไฟเขาก็ต้องรู้ข่าวว่าขนมาเป็นตู้ หนังสือพิมพ์ก็คงไปเอาข่าวจากทางนั้นมาด้วย ”

ท่านคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พยักหน้า
“ เออ เดี๋ยวกูจะพูดกับเขา มึงจะเอาเมื่อไหร่ ”

“ วันนี้ก็ดีครับ ไม่รู้ว่าเขาจะแห่กันมาเมื่อไหร่ แต่ต้องเร็วแน่ ”

“ เอาก็เอา เดี๋ยวกูจะพูดกับไอ้ ... มัน ” ที่จุด ๆ ไว้นั่นก็เป็นชื่อของท่านที่ไปกั้นสกัดขบวนของผมในวันนั้น “ แล้วมึงจะให้เขาขนไปไว้ที่ไหน ”

ผมคิดอยู่ประเดี๋ยวเดียวก็ได้ที่ที่จะเอาของไปเก็บ

เมื่อก่อนนี้ กองตรวจนครบาลเหนือมีที่ทำงานอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนพรหมเก่า ซึ่งยกมารวมกับสถานีชนะสงคราม ตัวสถานีเก่า กองตรวจก็เข้าไปยึดเอามาเป็นที่ตั้งกองตรวจเหนือ ตอนนี้ที่นั่นว่าง และมีห้องขังใหญ่โตพอที่จะเก็บของกลางได้ ผมก็บอกเข้านายไปให้เขาขนเอาของไปเก็บที่นั่น ผมจะไปดูแลให้เอง

ตกลงก็ให้เขาแบ่งของมาให้บ้าง เป็นของกลาง เผื่อหนังสือพิมพ์มาสัมภาษณ์ ทางฝ่ายนั้นเขาก็ตกลง และนัดจะขนของกลางไปตอนบ่ายวันนั้น

ผมไปคอยอยู่ที่สถานีตำรวจบางขุนพรหมเก่า ที่อยู่ข้าง ๆ วังบางขุนพรหม บนถนนสามเสน สักครู่ก็มีรถบรรทุกคันหนึ่ง บรรทุกกระป๋องลักษณะเหมือนกระป๋องใส่ฝิ่นที่ผมไปจับมาที่สถานีช่องแค วันก่อนนั้น คนที่คุมมาเป็นคนนอกเครื่องแบบ เขาช่วยกันขนกระป๋องบรรจุฝิ่นทั้งหมดสี่สิบกระป๋องพอดี ๆ ลงจากรถ ผมนำเขาให้ขนเข้าไปในสถานีตำรวจเก่านั้น ซึ่งมีห้องขังขนาดใหญ่อยู่กลางสถานี ให้เขาขนกระป๋องหนัก ๆ ทั้งสี่สิบใบเข้าไว้ในห้องขังนั้น ลั่นกุญแจเรียบร้อย จัดตำรวจของผมเป็นเวรผลัดเปลี่ยนกัน เฝ้าของกลางไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

หนังสือพิมพ์ติดต่อมา ขอดูของกลางจริง ๆ ในตอนเย็นวันนั้นเอง

ผมนัดให้เขามากันในวันรุ่งขึ้น และจะนัดเจ้าหน้าที่ทางสรรพสามิตมาตรวจสอบของกลางด้วย เขาถามว่า ของกลางได้ทราบว่ามีจำนวนมาก เต็มตู้รถไฟใช่ไหม

ผมตอบเขาว่า มีมากแต่ไม่เต็มตู้ ได้มาสี่สิบกระป๋องก็ราว ๆ สิบกิโล ทั้งหมดก็ร่วมครึ่งตัน เขาถามผมถึงสถานที่เก็บของกลาง ผมก็บอกสถานที่ให้ และนัดให้เขาไปพบผมพร้อมกันที่นั่นตอนเช้าวันรุ่งขึ้น จะได้นัดให้เข้าหน้าที่สรรพสามิตมาเปิดกระป๋องตรวจของกลางพร้อมกัน ต่อหน้าหนังสือพิมพ์ ให้หายข้องใจเสียเลย




Create Date : 13 เมษายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 0:49:11 น. 3 comments
Counter : 913 Pageviews.

 
กำลังสนุกเลย..รออ่านต่ออยู่นะ...

ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:0:56:15 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: TREE AND LOVE วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:9:13:09 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:13:34:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.