จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

จับปูดำ ขยำปูนา บทที่ 1 ตอนที่ 2

ผมไปถึงโรงแรมที่ว่านั้น เวลาก่อนแปดโมงสักห้านาที พนักงานของโรงแรมบอกผมว่า ห้องพิเศษเลขที่ ๔๐๔ อยู่ชั้นบนสุด ผมก้าวเข้าไปในลิฟต์ให้มันพาผมขึ้นไปชั้นนั้น

ผมเดินไล่เลขห้องไปจนถึงเลข ๔๐๔ มันอยู่ปลายของตึกสุดพอดี
ผมเคาะเบา ๆ ที่ประตูห้องนั้น มีเสียง “ เชิญ ” ดังออกมาจากที่ใดที่หนึ่งเหนือประตูนั้น คล้ายจากลำโพงขยายเสียง

ผมเปิดประตูเข้าไป พบกับประตูอีกชั้นหนึ่งซึ่งปิดอยู่อีก ผมหันมาจะดึงประตูชั้นนอกปิด มันก็ปิดลั่นเองดังกริ๊ก ผมลองดึงลูกบิดอีกที ดึงไม่ออก ผมไม่แน่ใจว่าจะดึงเอาปืนออกมาจากเอวดีหรือไม่ดี ถ้าข้างในเป็นผู้ที่ผมจะต้องมารายงานตัวจริง ๆ มันออกจะไม่เหมาะ ผมตัดสินใจไม่ดึงมันออกมา

ผมก้าวเข้าไปที่ประคูชั้นใน ค่อย ๆ ดึงลูกบิดเปิดเข้าไป

ไฟในห้องซึ่งเปิดสว่างอยู่ตอนที่ผมก้าวเข้าไปดับพรึ่บทันที ผมทิ้งตัวลงนอนราบบนพื้น แล้วกลิ้งตัวหลุน ๆ ไปห่างจากประตู ตอนนี้ปืนที่เอวของผมอยู่ในอุ้งมือของผมแล้ว

ผมนอนคว่ำยันร่างเงียบอยู่กับพื้นนั้น ทุกสิ่งในห้องเงียบกริบจนผมแทบจะได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ผมกำลังแช่งด่าตัวเองที่ดันเชื่อหนังสือฉบับนั้น พาตัวเองเข้ามาติดกับของใครก็ไม่รู้ ผมนึกถึงสารวัตรท้องที่ที่ส่งหนังสือให้ผม ผมด่าแม่เขาในใจ มันก็น่าจะเฉลียวใจสักนิดว่า หัวหน้าหน่วยอะไรถึงจะดันมาอยู่ที่โรงแรม ถึงตัวผมเองก็เถอะ มันก็น่าจะยืมตีนใครมาเตะตัวเองสักทีให้หายโง่

มันเงียบจริง ๆ ไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวอะไรเลย มืดก็มืด นัยน์ตาผมมันน่าจะชินกับความมืดได้แล้ว แต่มันก็ยังมองไม่เห็นอะไร ไอ้ห้องนี้ต้องมีม่านอย่างหนาบังแสงสว่างจากภายนอกแน่ ถึงไม่มีอะไรเลยแม้แต่จะสลัว ๆ พอให้มองเห็น

ผมแนบหูลงจากพื้นที่ผมนอนอยู่ ผมเยินเสียงฝีเท้าลากเบา ๆ ไปบนพื้นห้องนั้น มันเป็นเสียงฝีเท้าไม่ต่ำกว่าสองคู่ คล้ายกับกำลังค่อย ๆ คืบก้าวไปตามพื้น และใกล้เข้ามายังที่ผมนอนนิ่งอยู่

ผมค่อย ๆ แหย่เท้าออกไปข้าง ๆ เพื่อจะควานดูว่าจะไปกระทบกับอะไรเข้าหรือเปล่า เมื่อพบว่ามันว่างผมก็ค่อย ๆ พลิกร่างไปทางนั้น แนบหูลงกับพื้น เสียงฝีเท้านั้นเงียบไป ผมแนบหูฟังอยู่จนได้ยินเสียงเดิมค่อย ๆ ลากไปตามพื้นอีก มันผ่านไปทางที่ผมนอนอยู่เมื่อกี้นี้

ในโอกาสอย่างนั้นปืนในมือของผมไม่มีประโยชน์อะไร ผมจะยิงสุ่ม ๆ ออกไป ก็เท่ากับเอาแสงไฟจากปากลำกล้องเป็นที่หมายให้มันเล่นงานสวนเอาผมเข้า และข้อสำคัญ ผมไม่รู้ว่ามันมีกันกี่คน ผมนอนราบนิ่งอยู่อย่างนั้น คอยจังหวะ

แค่ถ้ามันจะเล่นงานผม ทำไมมันจึงต้องปิดไฟมืดหมด ... ผมเกิดความคิดขึ้นมา เมื่อคิด ๆ ไป หรือมันไม่อยากให้ผมเห็นว่าใครเป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมมาคนเดียว มันเล่นงานผมจนอยู่ ผมก็หมดโอกาสไปพูดกับใคร ถึงจะเห็นหน้าพวกมัน มันไม่ค่อยจะเข้าท่าสักหน่อย ไอ้วิธีการอย่างนี้มันไม่เข้าท่า ผมยิ้มอยู่ในความมืด

ผมค่อย ๆ ควานเท้าของผมต่อไปอีก แล้วก็ค่อย ๆ กระเถิบตัวตามเท้าไปทีละน้อย ๆ จนเท้าของผมไปกระทบเข้ากับอะไรสิ่งหนึ่ง ผมค่อย ๆ ใช้เท้าข้างนั้นเขี่ยลูบดู มันเป็นขาเก้าอี้ ผมแนบหูลงกับพื้นอีก เสียงฝีเท้านั้นยังดังแผ่วเข้าหูเป็นพัก ๆ ผมเขี่ยเก้าอี้ตัวนั้นด้วยเท้าอย่างแรง มันล้มลงบนพื้นดังโครม

ผมแนบหูกับพื้น เสียงฝีเท้านั้นเงียบลงทันที ผมนิ่ง แนบหูอยู่อย่างนั้น ครู่เดียวเสียงลากเท้าแผ่ว ๆ ก็มาเข้าหูผมอีก ทีนี้มันดังมาทางที่ผมนอนอยู่

ผมนิ่งเงียบกลั้นลมหายใจ ค่อย ๆ ผ่อนมันออกมาทีละน้อยไม่ให้เกิดเสียง เพราะในความมืดที่เงียบสนิทอย่างนั้น เสียงอะไรมันดังไปหมดแม้แต่เสียงลงหายใจ หูของผมที่ยังแนบอยู่กับพื้นห้องได้ยินเสียงฝีเท้านั้นค่อย ๆ คืบเข้ามา คืบเข้ามาอย่างระมัดระวัง จนผมรู้สึกว่ามันมาหยุดนิ่งอยู่ตรงหัวผมนี่เอง

ผมค่อย ๆ ยื่นมือข้างที่ไม่ได้ถือปืนไปข้างหน้า ค่อย ๆ คืบไป คืบไปช้า ๆ หูของผมยังคงแนบพื้นอยู่ เสียงนั้นยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ผมค่อย ๆ ควานมือไปตามพื้นห้องทีละนิด –ทีละนิด มือของผมก็ไปสะดุดเอาสิ่งหนึ่งเข้า สิ่งนั้นขยับได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของรองเท้าข้างหนึ่ง และมันค่อย ๆ เลื่อนกวาดไปตามพื้นห้องเหมือนกับมาชนเอามือผมเข้า แต่เจ้าของรองเท้านั้นยังไม่รู้สึกตัว เพราะผมไวกว่า ผมชักมือออกเสียทัน

ผมค่อย ๆ เสือกมือไปทางทิศทางนั้นอีกช้า ๆ ไอ้รองเท้าข้างนั้นลากพื้นมากระทบมือผมอีก คราวนี้ผมไม่ชักมือกลับ ผมลูบปราดขึ้นไปตามส่วนของรองเท้าคู่นั้นอย่างรวดเร็ว ผมคว้าข้อเท้าข้างนั้นได้ เจ้าของเท้าข้างนั้นขยับจะสะบัด แต่ช้ากว่าผม ผมกระชากข้อเท้าข้างนั้นเต็มเหนี่ยว พร้อมทั้งผุดลุกขึ้น เสียงเจ้าของเท้าข้างนั้นล้มดังโครม ตัวผมก็เผ่นตามเสียงนั้นเข้าไป

ในลักษณาการเช่นนั้น ผู้ที่กำลังล้มย่อมไม่มีหลัก และผู้ที่รู้ตัวก่อนย่อมได้เปรียบ ความได้เปรียบเพียงเสี้ยวของวินาทีนี้เองที่จะต้องรีบฉวยเอาไว้ ผมถึงตัวมันก่อน ผมประเคนกำปั้นลงไปบนส่วนที่ผมโจนไปถึง ไม่รู้ว่ามันจะเป็นส่วนไหนของร่างกาย ผมได้ยินเสียงร้องดังอุ้บ พอได้ยินเสียงร้อง ผมก็รู้ว่าหัวมันอยู่ตรงไหน ผมตะปบลงไปตรงนั้น เจอเอาใบหน้าของใครไม่รู้เข้าเต็มรัก แล้วมือของผมก็ควานหาลูกกระเดือก
ทุกจังหวะนี้เป็นไปติดต่อกัน ผมยันมือข้างนั้นเข้าคอหอยมันแล้วบีบแน่น ปืนในมืออีกข้างหนึ่งของผมทิ่มปากกระบอกลงบนหัวขมองของเจ้าของร่างนั้น พร้อมกับผมตะคอกลงไปว่า

“ อย่าดิ้น ขยับนิดเดียวอั๊วจะกระดิกไกปืนที่กำลังจ่อขมองลื้ออยู่นี่ ”

เท่านั้นเอง ร่างที่กำลังจะถีบหนีและตีนที่กำลังป่ายจะหาทางดิ้นออกของร่างนั้นก็หยุดนิ่ง ผมได้ยินเสียงหายใจฟืดฟาดจนลมหายใจนั้นมาปะทะใบหน้าผม

แล้วไฟในห้องนั้นก็สว่างพรึ่บขึ้น




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2552
2 comments
Last Update : 20 กรกฎาคม 2552 22:20:15 น.
Counter : 930 Pageviews.

 


แวะมาทักทายค่ะ วันนี้ง่วงจังเลย ไปนอนก่อนนะค

วันหน้าจะมาอ่านนะคะ

 

โดย: yaynongya 21 กรกฎาคม 2552 20:37:10 น.  

 

แค่แวะมาทักทายกันก็ปลื้มแล้วค่ะ
ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะคะ

 

โดย: ธารน้อย 22 กรกฎาคม 2552 1:56:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.