จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 2 ตอนที่ 5)

บ้านของแม่ต๊อย เป็นบ้านเช่าแบบบังกะโลชั้นเดียว อยู่ลึกเข้าไปในซอยอะไรผมก็ไม่รู้จัก ผมขับไอ้จี๊ปสัปรังเคคู่ชีพของผมตามหล่อนติด ๆ มา ไม่ทันได้อ่านป้ายชื่อตรอกว่าเขาเขียนไว้ว่าชื่ออะไร รู้แต่ว่าเป็นซอยแถว ๆ บางรัก ผมมัวแต่จำทางเข้าออกและหมายตาทางเลี้ยวเอาไว้ เผื่อขากลับจะได้ไม่หลง ผมไม่แน่ใจว่าผมจะได้กลับเมื่อไหร่

บ้านนั้นเป็นบ้านที่มีห้องเพียงสองห้อง ห้องที่เข้าไปห้องแรกเป็นห้องรับแขก ขนาดกว้างพอที่จะกั้นเป็นบริเวณที่รับประทานอาหาร มีโต๊ะอาหารขนาดนั่งหกคนอยู่โต๊ะหนึ่ง แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้รับแขกขนาดเจ็ดแปดคนวางอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องนั้น บริเวณที่เป็นห้องอาหารถูกแบ่งออกเป็นห้องครัวย่อม ๆ มีเครื่องครัวและตู้ถ้วยชามอยู่ด้วยกัน ดูกะทัดรัดดีสำหรับที่จะอยู่คนเดียว อีกห้องหนึ่งคงเป็นห้องนอน ผมเดาเอา เพราะมีประตูอยู่ตรงนั้น

แม่ต๊อยใม่ได้ยุ่งกับประตูบานนั้น หล่อนตรงไปจัดการหาน้ำรินใส่ถ้วยแก้วที่หล่อนเปิดตู้กระจกชั้นบนของที่วางเครื่องครัวอยู่นั้น แล้วถือมาด้วยมือสองข้าง เอามาวางไว้ตรงหน้าผมแล้วว่า

“ ดื่มน้ำเสียก่อนซีคะ เดี๋ยวหมอจะคอแห้ง ”

ว่าแล้วหล่อนก็ทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ผมที่โต๊ะรับแขก หงายฝ่ามือยื่นมาตรงหน้า

“ เอ้า ดูลายมือต่อ อย่าให้เสียเวลา ”

“ เครื่องดื่มที่กินแล้วไม่เมา มีไหม ” ผมชี้ไปที่แก้วน้ำตรงหน้า “ ไอ้พวกนี้ ผมดื่มไม่ได้ ดื่มเข้าไปทีไรเมาทุกที ”

หล่อนหัวเราะคิก

“ ประเดี๋ยวจะให้ดื่มเหล้า ตอนนี้น้ำเปล่าไปก่อน เดี๋ยวหมอจะเมาเสียก่อน ดูไม่รู้เรื่อง ”

“ ไอ้น้ำเปล่านี่แหละจะทำให้เมา หมอห้ามผมนักหนา ไม่ให้แตะต้องโดยไม่จำเป็น ”

“ เรื่องมากนัก หมอคนนี้ ” ว่าแล้วหล่อนก็ลุกขึ้นเดินไปที่ตู้ทึบแถวหนึ่งที่อยู่บนที่วางเครื่องครัว เปิดตู้นั้นจัดการเอาขวดวิสกี้ออกมาขวดหนึ่ง แล้วก็เริ่มผสมวิสกี้กับโซดาใส่ถ้วย เดินถือมาวางตรงหน้าผม

ผมยกแก้วเหล้ากระดกดื่มเข้าคอสองพรวดมันก็เกลี้ยงถ้วย แล้วผมก็วางถ้วยลงบนโต๊ะ หันไปมองหล่อน

“ ต๊าย ! ” แม่ต๊อยร้องออกมา “ กินเหล้ายังงี้คงไม่ได้แก่ตายหรอก เอาอีกไหมล่ะ ”

“ เอามาวางทั้งขวดดีกว่า ” ผมว่า “ หมอจะได้สมองโปร่ง ดูให้ทะลุปรุโปร่งไปเลย ”

“ แล้วอย่าเล่ห์เก๊นะ ” หล่อนพูดพร้อมกับลุกขึ้น “ มาหลอกกินเหล้าเปล่า ๆ ละก็คอยดู ”

หล่อนกลับมาที่โต๊ะรับแขกด้วยขวดเหล้าอยู่ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างเป็นขวดโซดาเย็นเจี๊ยบ วางของในมือลงบนโต๊ะแล้วว่า
“ ลงทุนเลี้ยงหมอถึงยังงี้แล้ว อย่าเบี้ยวนะ ฉันเอาตายด้วย ”

“ เอาตายก๊ยิ่งชอบ ” ผมเอื้อมมือไปรินเหล้า พูดไปด้วย

“ บ้า ! ” หล่อนร้องออกมา พร้อมกับซัดผมเผียะใหญ่ที่ต้นแขน “ รินเหล้าเสร็จแล้วรีบ ๆ ดูเสียดี ๆ ”

ผมดึงเอามือที่หงายแบอยู่ตรงหน้า มาวางไว้บนผ่ามือของผม ลูบ ๆ คลำเล่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วว่า

“ มือต๊อยทำไมนุ่มยังงี้ เหมือนมือคุณหญิงคุณนาย ”

“ อย่านอกเรื่อง ดึกมากแล้ว เสียเวลา คนยิ่งอยากรู้ ยิ่งโยกเยก ”

หล่อนหันมาทำตาขึงกับผม แล้วพยักหน้าไปทางแก้วเหล้าบนโต๊ะ “ เอ้า เอาเสียอีกสักอึกก่อนก็ได้ ”

ผมเอื้อมมือไปยกแก้วเหล้าขึ้นเทลงคออึกใหญ่ วางแก้วลงแล้วจับมือหล่อนมาหงายบนตัก ทำเป็นมองผ่ามือนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าช้า ๆ

“ ลายมือของคุณอาภัพเรื่องคู่ ”

“ ทำไมคะ อาภัพยังไง ”

“ คุณมีคู่ไม่ได้ จะต้องมีอันเป็นไป คุณเกิดเดือนอะไร ”

“ เดือนกุมภา ต้น ๆ เดือน ”

“ ปีล่ะ ”

“ ปีฉลู ”

“ วันอะไร ”

“ วันอังคาร ”

“ อ๊ะ ” ผมกระแทกเสียงออกมาเบา ๆ ในมาดของหมอดู “ คู่ของคุณจะต้องเป็นคนที่เกิดเดือนพฤศจิกา วันพฤหัส ปีชวด พ่อคนนั้นของคุณเขาเกิดวันเดือนปีอะไรล่ะ รู้มั้ย ”

“ ไม่รู้ซี ฉันก็ไม่ได้ถามเขา รู้แต่ว่าเขาเกิดปีมะโรง หรืออะไรนี่แหละ ”

“ ถ้าปีมะโรงก็ยิ่งเป็นโทษใหญ่ จะต้องมีอันเป็นต้องพรากจากกัน ”

ใบหน้าของแม่ต๊อกสลดลงทันที สายตากลงมองดูพื้นนิ่ง ถอนหายใจลึก พึมพำออกมาเบา ๆ ว่า

“ อาจไม่ใช่ปีมะโรงก็ได้ ฉันก็ไม่ค่อยจะแน่ใจ ”

“ เขาหายไปกี่วันแล้วล่ะ ”

“ อาทิตย์กว่า เกือบสองอาทิตย์แล้วมั้ง เขาไม่เคยหายไปนานอย่างนี้ ”

ผมดึงมือหล่อนออกมา หงายอยู่บนผ่ามือของผมอีก สั่นหน้าช้า ๆ

“ ในเส้นลายมือนี่บอกชัดว่าคุณจะต้องเสียของรัก จะต้องพลัดพรากจากคนที่คุณรัก มีคนที่เกิดในวันเดือนปีที่บอกแล้วเท่านั้นที่จะอยู่กับคุณได้ยืด ”

หล่อนหันหน้ามามองผม

“ คุณว่าเดือนอะไร ปีอะไรนะ ที่จะเป็นคู่อยู่กับฉันได้ยืด ”

“ วันพฤหัส เดือนพฤศจิกา ปีชวด ”

“ แล้วคุณล่ะ เกิดเดือนปีอะไร ”

“ วันพฤหัส ปีชวด เดือนพฤศจิกา ”

“ บ้า ! ” หล่อนซัดแขนผมเผียะแรง ๆ “ ฉันนึกแล้วจะต้องมาแบบนี้ คอยไปเถอะ ”

“ ผมก็จะคอยจริง ๆ อย่าลืมว่าคุณรับปากไปหยก ๆ เมื่อกี้นี้ ”

เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น แม่ต๊อยลุกเดินไปที่เคาน์เตอร์เล็ก ๆ ซึ่งกั้นเป็นครัวอยู่ ผมก็เพิ่งรู้ว่าที่นั่นมีโทรศัพท์วางอยู่ตรงนั้น เคาน์เตอร์เล็ก ๆ นั่นกั้นบังอยู่

แม่ต๊อยพูดโทรศัพท์ไปพลางหันมามองทางผมเป็นพัก ๆ ผมได้ยินแต่เสียงค่ะ ๆ ค่ะ ๆ แล้วหล่อนก็วางหูเดินกลับมานั่งข้าง ๆ ผม

“ ดึกแล้วละ ต๊อยจะนอน คุณจะกลับหรือยังล่ะ ”

“ ไอ้กลับน่ะ ยังไม่อยากกลับ แต่เจ้าของบ้านไล่ก็ต้องกลับ ” ผมพูดพลางลุกขึ้น “ ขอโทรศัพท์หน่อยได้ไหม เดี๋ยวทางโรงพิมพ์จะปิด หาที่นอนไม่ได้ ”

แม่ต๊อยพยักหน้า ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์ ยกเอาโทรศัพท์ขึ้นมาทั้งเครื่อง อ่านหมายเลขโทรศัพท์เครื่องนั้นที่เขียนไว้ตรงกลางแป้นวงกลม ผมท่องจำหมายเลขนั้นไว้ในใจ แล้วยกเครื่องกลับคืนที่เดิม หันกลับออกมา

“ ไม่ต้องโทร ฯ ก็ได้ ” ผมว่า “ เดี๋ยวเด็กมันก็จะต้องตื่นขึ้นมารับ ผมไปละ ถ้าอยากจะดูหมออีกก็เอาไว้วันหลัง ผมจะไปหาที่ซิลเวอร์สตาร์ ในลายมือคุณมีเรื่องที่ไม่ดีอีกแยะ ”

หล่อนลุกขึ้นเดินตามมาที่ประตู ผมขยับมือลูกบิดประตูแล้วหันมาพูด

“ พ่อคนนั้นของคุณ เขาชื่ออะไรนะ ผมจะได้ลงในคอลัมน์ประกาศหาตัวให้ ”

“ เออ จริงซีนะ ” หล่อนจับแขนผมดึงเบา ๆ “ ฉันก็ลืมไปว่า คุณเป็นนักหนังสือพิมพ์ ช่วยลงประกาศหาตัวเขาให้ด้วยก็ดี เขาชื่อ เชิด ทรงพลัง เป็นร้อยเอกทหารบก ช่วยด้วยนะคะ คุณ...” หล่อนชะงัก “ ต๊าย – ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย คุยมาตั้งค่อนคืน มัวแต่ตื่นเต้นเรื่องดูหมอ ”

“ เรียกผมว่า ยอด ” ผมบอกไปสั้น ๆ

หล่อนปล่อยแขนผมแล้วเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูเปิดให้ แก้มของหล่อนเฉียดจมูกผมไป ผมจุ๊บที่แก้มข้างนั้นเบา ๆ ทีหนึ่ง หล่อนเหลือบตาขึ้นมองดูผม ตีแขนผมเบา ๆ ด้วยมือข้างที่ว่าง

“ สวัสดีค่ะ ยอด ”

ผมเดินออกมาที่รถของผมจอดสงบนิ่งอยู่ ล้วงกุญแจรถออกจาก
กระเป๋า เดินควงพวงกุญแจเข้าไปหารถ

เสียงผิดปกติที่ซุ้มพุ่มไม้ตรงหน้าคนละฝั่งถนน ทำให้ผมชะงักแวบเดียว ผมทิ้งตัวลงบังข้างรถจี๊ป พวงกุญแจตกลงบนพื้นถนน เสียงซุ้มไม้ตรงหน้านั้นไหวสวบสาบแล้วก็มีประกายไฟแวบขึ้นที่ตรงนั้นพร้อมกับเสียงก้องกัมปนาทแผดขึ้น เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เสียงกระสุนแหวกอากาศข้ามหัวผมไป




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 0:19:37 น.
Counter : 743 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.