จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 37)

ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 37

ม้าทั้งคู่นั้นควบผ่านหมู่บ้านไปอีกสองสามหมู่บ้านโดยไม่แวะ ตะวันเริ่มขึ้นสูงทุกขณะ เมื่อทิวไม้ของหมู่บ้านชายอำเภอเดิมบาง ฯ ปรากฏให้เห็นลิบ ๆ ข้างหน้า เวลาก็ล่วงเข้าเพล ม้าทั้งสองเร่งเข้าสู่ตัวหมู่บ้านชายอำเภอนั้น ผ่านหมู่บ้านเข้าไปด้วยการลดฝีเท้าลง ย่างม้าเรื่อย ๆ เข้าไปจนถึงเขตอำเภอ ความแออัดของบ้านช่องค่อย ๆ หนาแน่นขึ้น ทวนนำพ่อย่างม้าตรงเรื่อยเข้าไปยังตัวอำเภอ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบังคับการ

ชายฉกรรจ์หลายคนที่กำลังเดินไปมากันเป็นกลุ่ม ๆ รวมทั้งตำรวจในเครื่องแบบหลายคนที่กำลังเดินตรวจตราอยู่บริเวณนั้น ต่างหยุดมองดูม้าทั้งสองที่มีคนอยู่บนหลังเยื้องย่างช้า ๆ ผ่านไปนั้นด้วยความแปลกใจ

“ เฮ้ย นั่นเสือฝ้ายนี่หว่า ” บางกลุ่มอุทานออกมาอย่างนั้น

ทวนหยุดม้าเมื่อเข้ามาถึงตัวอำเภอ เขาลงจากหลังม้า เสือฝ้ายทำตาม เดินจูงม้าตามไปที่ราวไม้ยาวที่มีม้าผูกอยู่สองสามตัว ทวนผูกม้าไว้ที่ราวนั้น รับบังเหียนจากพ่อมาผูกไว้ข้าง ๆ

“ ไอ้เทพ ” เสียงใครคนหนึ่งตะโกนขึ้น พร้อมกับเดินรีบ ๆ เข้ามาหา

ทวนหันไปโบกมือทักทาย พาเสือผู้พ่อเดินอย่างรีบ ๆ ขึ้นไปยังกองบังคับการ

ผู้คนกำลังขวักไขว่อยู่บนที่ทำการ หลาย ๆ คนหันมามองคนทั้งสอง บางคนที่พอจะรู้จักเสือก็หยุดชะงักมองอย่างแปลกใจ ทวนไม่ได้เอาใจใส่กับอากัปกิริยาพวกนั้น เขาพาพ่อเดินตรงไปยังห้องของผู้บังคับการ ยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง

“ เชิญ ” เสียงก้องตอบออกมา ทวนผลักบานประตูเดินนำหน้าพ่อเข้าไป

พันตำรวจเอกพิชัย พิทักษ์มนตรี เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร

ทวน ทองรุ่ง ชิดเท้าโค้งทำความเคารพ “ กระผม ร้อยตำรวจเอก เทพ พงษ์พิมาน ขออนุญาตรายงานตัว ครับผม ”

ผู้บังคับการกวาดสายตาไปที่ร่างของเสือฝ้ายที่ยืนนิ่งด้วยกิริยาสำรวมข้างทวน เขาเบนสายตามาที่ทวน พยักหน้าชี้ที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะ

“ นั่งลงซิ ทั้งสองคน ”

บุคคลทั้งสองพ่อลูกเดินเข้ามาเลื่อนเก้าอี้สองตัวที่หน้าโต๊ะลงนั่ง

“ กระผมนำตัวเสือฝ้ายมามอบตัว ครับผม ” ทวนพูด นั่งตัวตรง

“ เป็นยังไง ยังสบายดีอยู่หรือ ฝ้าย ” ผู้บังคับการพูดยิ้ม ๆ

“ ก้อ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ จะสบายได้ยังไง ” เสือฝ้ายพูดระบายยิ้มเช่นกัน

“ นี่ เขาเป็นผู้ร่วมงานของผมคนหนึ่ง เมื่อครั้งสงคราม ” ผู้บังคับการหันมาพูดกับทวน “ เราเคยทำงานเสรีไทยมาด้วยกัน ทำลายกำลังของกองทัพญี่ปุ่นไม่รู้เท่าไหร่ เขาเป็นกำลังที่สำคัญมากในแถบสุพรรณ ฯ ”

ทวนหันมามองพ่อแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร

“ ไปเอาตัวมาจากไหน ” ผู้บังคับการถามขึ้น

“ จากบ้านกอไผ่ ครับผม ” ทวนตอบ “ กระผมขวนให้มามอบตัว เพราะพ่อคิดจะเลิกการกระทำผิดกฎหมายเสียที ”

“ เป็นพ่อด้วยหรือ ” ผู้บังคับการถามอย่างสงสัย

“ ครับผม พ่อเลี้ยงผมมาตั้งแต่เล็ก ๆ เท่าที่ผมจำความได้ ”

“ ตามประวัติของคุณจากทะเบียนในโรงเรียนนายร้อยทหารบก ระบุไว้เพียงว่า มีความเกี่ยวข้องในการเป็นญาติห่าง ๆ กับบุคคลผู้ที่สงสัยว่าจะมีพฤติกรรมในทางไม่สุจริตเท่านั้น ผู้ที่พาคุณเข้าเรียนเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพบก ที่ทางกรมยุทธศึกษาเชื่อถือ คุณจึงได้รับการอนุมัติให้สอบคัดเลือกเข้าเรียนได้ และคุณก็ทำคะแนนในการสอบคัดเลือกได้เป็นที่หนึ่งของพวกที่สมัครสอบเข้าทั้งหมด คุณจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนนายร้อยด้วยการอนุมัติของท่านเจ้ากรม ฯ ขณะนั้น คุณเป็นอะไรกับท่านนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านนั้น ”

ทวนหันมาทางพ่ออีกครั้ง ก่อนที่จะพูด “ กระผมหนีจากพ่อมาตั้งแต่อายุได้เพียงสิบเอ็ด เพราะทางบ้านก่อไผ่ไม่มีที่เรียนหนังสือ กระผมหนีมาตัวคนเดียว มาอาศัยที่วัดบางลำพูอยู่ ได้หลวงพ่อองค์หนึ่งเลี้ยงไว้ที่กุฏิของท่าน และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดนั้น หลวงพ่อท่านเอากระผมไปฝากไว้กับท่านพันเอกหลวงพิเทศโยธา ซึ่งมาหาหลวงพ่อบ่อย ๆ ให้ท่านเลี้ยงผมไว้ ผมเติบโตที่บ้านท่านผู้นั้น และได้เข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อเรียนจบชั้น ม.๘ นี่เป็นประวัติของกระผมที่ไม่มีปรากฏในสมุดทะเบียนประวัติ ครับผม ”

“ แล้วคุณก็เลือกเรียนวิชาการตำรวจในโรงเรียนนายร้อยทหารบกทำไม ”

“ กระผมอยากเป็นตำรวจ ”

“ รักตำรวจมากงั้นเรอะ ”

“ ก็ไม่เชิงครับ ผมเลือกสมัครเรียนตำรวจเพราะอยากทำความแปลกใจให้พ่อ ”

“ แล้วระหว่างที่หนีมาอยู่ตามลำพังกับพระนั้น ทางพ่อไม่ได้ติดตามเลยหรือ ”

“ ผมไม่ทราบครับผม แต่ตลอดเวลาที่กระผมอยู่ที่วัดจนไปอยู่กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านนั้น จนสำเร็จออกมาจากโรงเรียนนายร้อย กระผมไม่ได้พบพ่อเลย ” ทวนตอบเสียงหนักแน่น

“ ทางพ่อก็ไม่ได้ออกติดตามบ้างเลยหรือ ” ผู้บังคับการหันมาทางเสือฝ้าย

“ มันอยากหนีไปก็ช่างมัน แล้วมันก็คงจะกลับมาหาเอง ” เสือตอบเสียงเรียบ ๆ

“ แล้วรู้บ้างไหมว่า เขากลับไปหาเพราะอะไร ” ผู้บังคับการถาม

“ จะไปรู้อะไรทำไม มันกลับมาหา ก็อยู่ด้วยกันพ่อกับลูก จะไปเมื่อไหร่ กลับมาเมื่อไหร่ ก็ไม่เห็นจะแปลก กลับมาอยู่ด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน ”

“ ไปปล้นก็ไปด้วยกันงั้นหรือ ”

เสือพยักหน้า “ ก็ยังงั้น มันกลับมานั่นสงครามเลิกแล้ว ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่ามันเป็นตำรวจ ”

“ เออ ดี ” พันตำรวจเอกพิชัยหัวเราะ “ พ่อลูกคู่นี้เหมาะสมกันจริง ๆ ลูกหายไป ไอ้พ่อก็ไม่รู้ไมชี้ ไม่ออกตาม ลูกกลับมา ก็ไม่ไต่ถามว่าไปไหนมา เออ ดี-ดี ”

“ จะไปถามมันทำไมให้มากเรื่อง ” เสือตอบหัวเราะหึ ๆ “ มันกลับมาหาก็ดีแล้ว จะได้อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ”

“ งานปล้นน่ะหรือ ”

“ ก็ยังงั้น ” เสือหัวเราะ “ จะให้ไปทำงานอะไร หลังสงครามมีแต่ปืนกับกระสุนเต็มบ้านไปหมด ข้าวสักเม็ดก็ยังไม่มี ที่มีก็เป็นของที่ปล้นมาได้จากญี่ปุ่นสมัยสงคราม ”

“ ทำไมถึงไม่คิดทำมาหากินที่มันสุจริต หลังจากทำงานให้ชาติบ้านเมืองแล้วก็ควรจะเลิกอาชีพโจร ทำมาหากินสุจริต ให้เป็นการช่วยบ้านเมืองอีกทางหนึ่ง ”

“ เลิกได้ยังไง ” เสือขึ้นเสียง “ คนของผมเป็นร้อยเป็นพัน ที่ใช้งานมันอยู่ระหว่างทำงานเสรีไทย ที่ล้มหายตายจากไปก็มีไม่น้อย ครอบครัวของมันใครจะเลี้ยง แล้วไอ้พวกเศรษฐีหลังสงครามมันก็รีดนาทาเร้นกับชาวบ้านจนจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก โจรผู้ร้ายก็ชุกชุมไปหมดเมื่อสงครามเลิกใหม่ ๆ ผมก็ต้องคุมไอ้พวกนี้เป็นโจรมั่ง ปล้นแต่พวกเศรษฐีที่ไม่มีคุณธรรมพวกนั้น เอามาแจกจ่ายไอ้พวกที่จน ๆ ถ้าผมไม่ทำ ใครจะทำ ”

“ แต่มันเป็นการผิดกฎหมาย ”

“ ก็ต้องยอมทำผิด ดีกว่าที่จะเห็นพวกลูกบ้านและพวกลูกน้องอดตาย คนของผมมีเป็นร้อยเป็นพันหลายหมู่บ้านที่กะเกณฑ์มันมารบ พอสงครามเลิกจะไปทิ้งมันได้ยังไง มันไม่มีใครที่จะเลี้ยงดูพวกมันกับลูกเมีย มีใครที่ไหนที่มาช่วยมัน ทางการเคยที่จะเหลียวแลมันมั่งมั้ย ”

“ ความจริงมันก็ถูก แต่มันผิดกฎหมาย ศีลธรรมกับกฎหมาย บางทีมันก็เดินสวนกัน ” ผู้บังคับการพูดช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำ

เสือหัวเราะ “ เมื่อทำแล้ว มันก็เลิกยาก ถึงแม้ว่าอยากจะเลิก หันมาทำมาหากินอย่างสุจริต มันก็ต้องเลยตามเลย ไหนยังจะต้องทิ้งคนที่มันจงรักภักดีกับเรามาเป็นชั่วลูกชั่วหลาน เป็นร้อย ๆ พัน ๆ คน ผมก็ต้องปล่อยตามบุญตามกรรมไป ”

“ นี่ก็คิดตกแล้วหรือที่จะเข้ามอบตัว ” ผู้บังคับการถามสียงต่ำ ๆ

เสือหันไปทางทวนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ “ เขาเป็นคนแนะให้เลิก จะพามามอบตัว ไอ้พวกทางบ้านยังไม่มีใครรู้เรื่อง ”

“ แล้วจะคิดทำยังไงกับพวกนั้น ”

“ ไม่รู้เหมือนกัน ...ไอ้คนนี้ ” เสือหันไปทางทวนอีก “ มันคงคิดของมันไว้แล้ว ”

พันตำรวจเอกพิชัย มองไปที่ทวน พลางพูด “ คิดว่า เขาคงคิดไว้แล้วเหมือนกัน หรือยังไง เทพ ”

ทวนมองหน้าผู้บังคับบัญชานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า “ ที่ผมคิดเอาไว้นั้น ก็ต้องอาศัยความกรุณาของผู้บังคับบัญชาชั้นสูงด้วย ผมหาทางไว้ให้พ่อแล้ว แต่ทางผู้ใหญ่ของทางราชการจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ผมอยากจะให้ชื่อของเสือฝ้ายหายไปจากความทรงจำของคนทั่วไป คุณความดีที่เสือฝ้ายได้ทำไว้ให้กับทางราชการก็มี ถ้าทางเบื้องสูงคิดจะกรุณา กระผมก็เห็นว่ายังพอจะมีทางที่จะให้ความปรานีกับพ่อ ”

“ คุณคิดยังไง ”

“ กระผมอยากจะให้การมอบตัวครั้งนี้เป็นความลับ ไม่ให้ปรากฏในหลักฐานทางราชการ ถ้าหากท่านผู้บังคับการจะกรุณาได้ โดยพูดกับท่านอธิบดีและผู้ใหญ่ทางกระทรวง กระผมได้รับคำสั่งให้นำตัวเสือฝ้ายมามอบทั้ง ๆ ที่มีชีวิต กระผมก็ได้กระทำตามคำสั่งแล้วขณะนี้ เสือฝ้ายยังมีโอกาสที่จะทำความดีความชอบให้กับทางราชการอีกมากมาย ด้วยการเกลี้ยกล่อมให้ชุมโจรที่เชื่อถือออกมามอบตัว ประพฤติตัวเป็นพลเมืองดีได้อีกหลายกลุ่ม หลายพวก ทำให้ไม่เปลืองเวลาและกำลังคนในการปราบปรามได้อีกมากมาย ลดความสิ้นเปลืองทั้งกำลังคนและงบประมาณในการปราบปรามไปได้ไม่ใช่น้อย กระผมคิดว่า ถ้าหากท่านผู้บังคับการจะนำความคิดของกระผมนี้ขึ้นพูดกับผู้ใหญ่ กระผมคิดว่าอาจจะมีช่องทาง ครับผม ”

พันตำรวจเอกพิชัยนั่งจ้องหน้าทวนนิ่งอยู่ หัวเราะหึ ๆ ออกมา พูดว่า

“ ในที่สุด คุณก็มาใช้ผม แต่เอาละ ผมจะพยายาม ในเมื่อคุณได้ทำงานครั้งนี้สำเร็จลงด้วยดี สมกับจุดประสงค์ของทางกรมตำรวจ การนำตัวเสือฝ้ายมาได้โดยมีชีวิตเช่นนี้ เป็นงานที่ทำไม่ได้ง่าย ๆ ผมจะพยายามที่จะพูดกับทางผู้ใหญ่ในเรื่องการปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษต่อเสือฝ้าย แต่จะทำสำเร็จแค่ไหน ก็ต้องคอยดูกัน ”

“ กระผมเชื่อในความตั้งใจดีของท่าน ครับผม ”

ผู้บังคับการหัวเราะ หันไปทางเสือ พยักหน้าไปที่ทวน

“ ลูกชายของลื้อเขาฉลาดพูดอย่างนี้ เขานี่แหละเป็นคนที่ทำให้เรื่องนี้สำเร็จลงด้วยดี เขาถูกส่งไปทำงานประเภทนี้ตั้งแต่เขาสำเร็จออกมาจากโรงเรียนนายร้อยไม่กี่ปี ทางกรมมีประวัติส่วนตัวของเขาอยู่อย่างละเอียด เมื่อชุมโจรเริ่มก่อตัวขึ้นหลังสงคราม และชื่อเสือฝ้ายดังขึ้นมาทั่วเมือง เขาก็ถูกคัดตัวให้มาทำงานนี้โดยเฉพาะ เมื่อเขาได้เป็นร้อยตำรวจเอกหมาด ๆ เขาถูกตัดขาดจากงานปกติทางกรมเพื่อไปทำงานนี้ รายงานของเขาขาดหายไปหลายเดือน จนครั้งสุดท้ายเราได้รับข่าวว่า เขาได้เข้าไปร่วมขบวนการเสือฝ้ายอย่างลึกซึ้งแล้ว ทางเราก็เบาใจ เพราะเชื่อในฝีมือของเขาว่าจะต้องได้รับรายงานจากเขาในไม่ช้า และเราก็ได้รับจริง ๆ ลื้อควรภูมิใจในตัวลูกชายของลื้อคนนี้ และควรจะภูมิใจในตัวเองด้วยที่กรมตำรวจต้องตั้งหน่วยปราบปรามพิเศษขึ้น เพื่อปราบปรามลื้อโดยเฉพาะอีกเหมือนกัน และเขาเลือกเอาอั๊วซึ่งเคยทำงานเสรีไทยร่วมกับลื้อ ให้มาเป็นผู้บังคับการหน่วยนี้ เพื่อเผชิญหน้ากับลื้อเพื่อนเก่า เขาต้องการตัวลื้อเป็น ๆ ”

เสือฝ้ายนั่งนิ่งขรึม ไม่มีกิริยาอะไรแสดงออกมา




 

Create Date : 01 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 1 มกราคม 2553 3:24:39 น.
Counter : 820 Pageviews.

 


สวัสดีปีใหม่....2553
ขอให้สำลักความสุข
ขอให้ทุกข์กระเด็น
ขอให้เห็นรอยยิ้ม
ขอให้อิ่มความรัก
ขอให้หนักเงินทอง
ขอให้มองฟ้าสวย
ขอให้รวยความฝัน
ขอให้มั่นความดี
ขอให้มีแรงใจ
ในปีใหม่ นี้เทอญ

 

โดย: หน่อยอิง 1 มกราคม 2553 7:59:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.