จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ"บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 5)

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย"
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 5

ขบวนการเสรีไทยในประเทศจึงมีกำลังเพิ่มขึ้นมาก เมื่อฝ่ายอักษะเริ่มหมดแรง ถึงขนาดเอาอาวุธร้าย ๆ มาทิ้งลงกลางท้องสนามหลวง เย้ยกองทัพญี่ปุ่นเล่น ให้พวกเสรีไทยไปรอรับที่นั่น ผมก็เป็นคนหนึ่งในขบวนที่นำกำลังไปรอรับร่มที่ลอยลงมาจากอากาศโดยเครื่องบินอเมริกันนำมาทิ้งให้ ที่ปลายร่มนั้นมีถุงบรรจุทั้งอาวุธและยารักษาโรคที่อเมริกันเอามาทิ้งให้ ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นกองทหารญี่ปุ่นยังตั้งอยู่ทั่วไปในกรุง

ผมเป็นรองสารวัตรอยู่โรงพักชนะสงคราม เจ้าของท้องที่ ขณะที่มีการเล่นปาหี่เย้ยญี่ปุ่นวันนั้น

ผมถูกย้ายจากเมืองชล ฯ มาอยู่ชนะสงครามก็เพราะเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาจะให้มาคุมหน่วยเสรีไทย หน่วยที่มีที่ตั้งอยู่ในบ้านมลิวัลย์ ซึ่งเดิมเป็นวังของกรมหมื่นอนุวัฒน์จาตุรงค์ ถนนพระอาทิตย์ วันนี้ ถูกยึดตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 รัฐบาลยึดเอามาเป็นที่ทำการของรัฐบาลแห่งหนึ่ง วังนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “บ้านมลิวัลย์” ตั้งแต่คราวนั้น

ที่นั่นเป็นที่พักพิงของขบวนการเสรีไทยหน่วยย่อย มีนักเรียนไทยจากอเมริกาที่โดดร่มลงมาอยู่ที่นั่นหลายคน หนึ่งในจำนวนนั้นมีคนชื่อ สิทธิ เศวตศิลา อยู่ด้วย นอกจากนักเรียนไทยแล้วก็ยังมีฝรั่งหัวแดงชาติอเมริกันอยู่ด้วยอีกสองคน เรียกว่าตั้งหน่วยทำงานลับกันใต้จมูกญี่ปุ่นทีเดียว เพราะขณะนั้นหน่วยทหารญี่ปุ่นมีอยู่เกลื่อนกรุง ผมมีหน้าที่ต้องรักษาความปลอดภัยให้หน่วยที่อยู่ใน”บ้านมลิวัลย์” นั้น หน้าที่หลักของผมก็คือ รองสารวัตรสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ทั้งโรงพักนั้นมีผมคนเดียวที่รู้ความลับนี้ และทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยนี้แต่ผู้เดียว นายตำรวจผู้อื่นไม่มีใครเขารู้ด้วย แม้แต่สารวัตรของผม

คืนวันหนึ่งผมต้องทิ้งเวรไปดูแลพวกอเมริกันที่เพิ่งโดดร่มลงมาใหม่ ๆ จัดที่ทางและแนะนำวิธีการให้ ผมกำลังเข้าเวร 18.00 น. ของวันนั้นอยู่ ตอนสองทุ่มผมได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ในขบวนการท่านหนึ่งให้รีบไปดูแลเรื่องนี้ที่บ้านนั้น ผมก็ต้องทิ้งเวรไป ได้แต่บอกนายสิบเวรว่าผมจะออกไปธุระหน่อย ผมไปถึงบ้านลับนั้น จัดการเรื่องราวของผมเสร็จสิ้นเรียบร้อย กลับมาเข้าเวรตามปกติ ก็เจอเอาบันทึกของท่านผู้บังคับการของผมเข้า ท่านมาที่โรงพักมาตรวจ ไม่พบนายร้อยเวร ถามนายสิบเวรก็ไม่รู้ว่าผมไปไหน ท่านก็ลงบันทึกในสมุดตรวจว่าผมทิ้งเวรไปโดยละทิ้งหน้าที่ขณะเป็นยามสงคราม ให้ผมชึ้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเหตุผลที่ละทิ้งหน้าที่ไป

ผมจะทำยังไงดี เรื่องจะไปรบกวนนายใหญ่ที่สั่งการเรื่องงานด้านเสรีไทยนั้น ผมไม่อยากทำ รุ่งเช้าผมก็ไปพบท่านผู้บังคับการด้วยตนเอง เพื่อชี้แจงด้วยวาจา ผมเรียนท่านว่า ที่ผมทิ้งเวรไปนั้นผมไม่ได้ไปไหน ผมไปทำหน้าที่ซึ่งเปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นความลับ ผมจึงมาเรียนชี้แจงด้วยวาจา

ผมโดนท่านผู้บังคับการด่าเอาว่า ผมทำงานลับโดยท่านไม่รู้ได้อย่างไร ผู้ใหญ่จะใช้ผมก็ต้องผ่านให้ท่านทราบก่อน ผมมาแอบอ้างเอาเองเป็นข้อแก้ตัวมากกว่า ท่านไล่ผมให้ไปชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรตามสั่ง

ผมก็ต้องกลับมาเขียนชี้แจงไปว่า ผมขอยอมรับสารภาพว่าผมทิ้งหน้าที่ไปจริง ขอยอมรับโทษทัณฑ์ทุกประการโดยไม่ได้แย้ง ผมส่งรายงานชี้แจงนั้นขึ้นไปตามลำดับชั้นอย่างนั้น รายงานของผมผ่านไปตามลำดับชั้นจากสารวัตรของผมไปจนถึงผู้บังคับการ ทุกท่านต่างลงความเห็นในคำชี้แจงของผม ให้ลงโทษสถานหนัก เพราะเป็นการละทิ้งหน้าที่ในยามสงคราม ถึงขนาดปลดออก

การปลดออกจะต้องถึงท่านอธิบดี ซึ่งขณะนั้น อธิบดีกรมตำรวจคือ พลตำรวจเอกหลวงอดุลเดชจรัส ท่านรู้เรื่องงานของผมดี เพราะท่านเป็นบุคคลชั้นนำคนหนึ่งของขบวนการเสรีไทย และท่านเองก็เป็นคนสั่งให้ผมไปอยู่ชนะสงครามเพื่องานนี้ และคืนนั้นก็ท่านนั่นแหละที่โทร.มาสั่งให้ผมไปทำงานนั้น

ท่านอธิบดีแทงลงมาในรายงานชี้แจงของผมว่า “ให้ว่ากล่าวตักเตือน”

เมื่อรายงานฉบับนั้นกลับลงมาตามลำดับ เพื่อแจ้งให้ทราบ ทุกคนต่างแปลกใจไปตาม ๆ กัน ที่เสนอกันไปว่า ให้ขังบ้าง ให้ปลดบ้าง ต่างก็งง ทำไมท่านอธิบดีจึงสั่งการให้ว่ากล่าว ซึ่งเป็นการลงโทษที่เบาที่สุด และไม่ต้องลงในสมุดประวัติ

เป็นที่ฮือฮากันมากในวงการนครบาลสมัยนั้น ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น คนทำผิดขนาดละทิ้งหน้าที่เวรไปในยามสงคราม และยอมสารภาพ กลับได้รับโทษเพียงให้ว่ากล่าวตักเตือน หลาย ๆ คนงงกับคำสั่งนั้น และผมก็อธิบายอะไรไม่ได้ ผมต้องเขียนคำชี้แจงไปอย่างนั้นเพราะจะชี้แจงไปตามความจริงไม่ได้ มันเป็นงานลับขนาดเปิดเผยไม่ได้

ลงท้ายเพื่อไม่ให้เป็นการยุ่งยากภายหลัง เพราะงานนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร ท่านอธิบดีจึงเรียกท่านผู้บังคับการของผมไปพบ และสั่งมอบหมายให้เป็นคนหนึ่งในขบวนการเสรีไทยด้วย ท่านผู้บังคับการจึงเข้าใจผม วันหนึ่งท่านก็มาพูดกับผมว่า ทำไมไม่พูดกันให้รู้เรื่อง ผมก็ไม่มีคำตอบให้ท่านอยู่ดี

เมื่อสงครามสงบลง เพราะระเบิดปรมาณูสองลูกที่อเมริกันไปหย่อนลงบนเกาะฮิโรชิมาและนางาซากิของญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นต้องยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขเมื่ออเมริกันขู่ว่า ถ้าไม่ยอมแพ้ ระเบิดลูกที่สามจะมาลงที่กรุงโตเกียว นั่นแหละญี่ปุ่นจึงยอมแพ้ราบคาบ เพราะได้ระเบิดปรมาณูนี้มาลงลูกเดียว มันก็ทำให้เกาะทั้งเกาะราพณาสูรไป คนตายเป็นแสน ถ้าลงโตเกียว พระราชวังของพระเจ้าจักรพรรดิจะไปเหลืออะไร ญี่ปุ่นนั้นจงรักภักดีต่อพระเจ้าจักรพรรดิมาก จำต้องวางอาวุธยอมแพ้ ครั้งนั้นนายทหารญี่ปุ่นหลายคนกระทำพิธีฮาราคีรี คว้านทอง ยอมตายเมื่อต้องยอมแพ้อย่างหมดศักดิ์ศรี

เสรีไทยก็ขึ้นปรากฎตัวออกมาจากใต้ดิน ให้ประชาชนทราบว่าอะไรเป็นอะไร แล้วบุคคลในขบวนการนี้ก็สลายตัวไปเอง โดยไม่ได้เรียกร้องข้อตอบแทนอะไร มีแต่ตอนต้น ๆ ของการตั้งรัฐบาลที่ต้องเชิญหัวหน้าขบวนการเสรีไทยในอเมริกามาเป็นนายกรัฐมนตรีไปก่อน เพราะท่านจอมพล ป. พิบูลสงครามนั้น ต้องตกเป็นผู้ต้องหาอาชญากรสงคราม ถูกจับตัวดำเนินคดี รัฐมนตรีหลายคนในคณะโดนข้อหานี้ด้วย แต่ลงท้ายก็ได้รับการปล่อยตัวหมด ตามคำพิพากษาของศาล

บุคคลสำคัญหลายคนในขณะเสรีไทยต้องตั้งรัฐบาลขึ้นเพื่อปกครองประเทศ โดยมีทหารอังกฤษ อเมริกัน มาตั้งหน่วยแทนทหารญี่ปุ่น ทำการกวาดล้างญี่ปุ่นทั่วประเทศ สงครามสงบเมื่อปี 2488 ราว ๆ เดือนสิงหาคม ผมย้ายจากชนะสงครามไปอยู่กองตรวจนครบาลที่กรมตำรวจต้องตั้งขึ้นเพื่อปราบโจรที่ชุกชุมหลังสงคราม ตัวบุคคลที่มาอยู่ในหน่วยนี้ ส่วนมากก็มาจากนายตำรวจที่ทำงานอยู่ในขบวนการเสรีไทย มีมือปราบหลายคนที่มารวมกันอยู่ในหน่วยนี้ ผมก็ถูกเรียกตัวเข้าไปอยู่ในหน่วยนี้เหมือนกัน เที่ยวไล่ยิงผู้ร้ายไม่เว้นแต่ละวัน มันชุกจริง ๆ ครับ

สงครามเสร็จคนก็จนลง แล้วยังมีทหารที่ปลดปล่อยมาใหม่ ๆ ไม่มีงานอาชีพ จะให้เอาอะไรเลี้ยงท้องและลูกเมีย ก็ต้องจี้ปล้นกันไปทั่ว สมัยนั้นกว่าจะปราบปรามกันเสร็จก็ต้องกินเวลาเป็นเดือน ๆ และเสียผู้ร้ายไปหลายศพ ตำรวจของผมโดนลูกระเบิดตายไปสองคน ขาขาดไปอีกคน กว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ความสงบเรียบร้อย และผู้คนทำหากินกันเป็นปกติได้ พวกผมได้รับเหรียญตราเป็นบำเหน็จ เงินนั้นรัฐบาลยังไม่มีให้ เอาเหรียญตราไปก่อน

เมื่อเติบโตขึ้น ผมก็ต้องถูกย้ายไปกินตำแหน่งสารวัตรที่ภาษีเจริญ ในยศร้อยตำรวจโท แล้วก็ย้ายเข้ามาเป็นสารวัตรสอบสวนกลางแทนนายตำรวจรุ่นพี่ที่ไปเป็นผู้ช่วยเลขา ฯ รัฐมนตรีมหาดไทย ผมก็เข้ามาเป็นสารวัตรแทนเขา เพราะเขาเจาะจงตัวผมมาให้แทน

ผมอยู่ในตำแหน่งสารวัตรสอบสวนกลางไม่กี่เดือนก็เป็นอันต้องโดนย้ายไปประจำที่กองตำรวจสันติบาล กองกำกับการ 2 ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการสืบสวนทางการเมืองโดยเฉพาะ สาเหตุที่โดนย้ายก็เพราะผมเกิดไปมีเรื่องกับท่านผู้บังคับการของผมเข้า โดยผมไม่ตามใจท่าน

ท่านสั่งตำรวจทั้งกองบังคับการ ซึ่งมีอยู่สามกองกำกับการด้วยกัน ให้ส่งตำรวจในหน่วยออกไปตรวจบัญชีร้านค้าของเก่าทั่วพระนคร ร้านไหนบัญชีไม่เรียบร้อย ก็ให้เจ้าของร้านมาปรับ ผมรู้ดีว่างานประเภทนี้ มันเป็นงานซึ่งไม่น่าที่กองสอบสวนจะเอามาทำ เขามีเจ้าหน้าที่ทางกองโรงจำนำและร้านค้าของเก่าดูแลจัดการอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ทางกองสอบสวนจะไปยุ่งด้วย เรามีเรื่องของเราที่จะต้องทำอยู่มากแล้ว ทำไมถึงจะเที่ยวไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นที่เขามีหน้าที่ดูแลของเขาอยู่ ผมก็ไม่ส่งคนในกองของผมไปสักคน ตำรวจในบังคับบัญชาของผมไม่ได้ไปร่วมงานนี้กับเขา

ผมถูกผู้บังคับการเรียกตัวเข้าไปชี้แจง ผมก็เข้าไปพบ ชี้แจงตามความรู้สึกของผม ท่านหาว่าผมขัดคำสั่ง สั่งตั้งกรรมการสอบสวน ผมก็ชี้แจงไปกับคณะกรรมการสอบสวนว่า การที่ผมไม่ส่งตำรวจของผมเข่าไปร่วมในการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ ก็เพราะผมรู้ว่าเจตนาของผู้ที่สั่งการเป็นอย่างไร และพวกร้านค้าและโรงจำนำโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว เรื่องบัญน้ำบัญชีย่อมมีข้อบกพร่องทุกแห่ง ที่จะให้เรียบร้อยนั้นไม่มี เมื่อทางตำรวจจะเข้าไปตรวจบัญชี เขาก็ต้องวิ่งเต้นกัน และเรื่องวิ่งเต้นนี้เขาทำกันอย่างไรก็น่าจะรู้กันอยู่ แล้วก็ไม่เห็นมีใครที่โดนตรวจแล้วมีความผิด บรรดาร้านค้าของเก่าและโดรงรับจำนำที่โดนตรวจนั้น มีใครที่โดนจับมาบ้างไหม เห็นได้รับการปล่อยตัวไปทุกราย เพราะอะไร ผมจะไม่เขียนในรายงานนี้ หรือผู้บังคับการจะสั่งให้ผมเขียนรายงานให้ละเอียดถึงเงื่อนงำต่าง ๆ ในการสั่งการนี้ ผมจะได้เขียนรายงานให้ละเอียดถึงเบื้องหลังของคำสั่งตรวจค้นนี้

คำชี้แจงของผมที่ส่งขึ้นไป หายเงียบไป ไม่มีคำสั่งกลับมาอีก




 

Create Date : 16 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 16 มกราคม 2553 1:52:38 น.
Counter : 1287 Pageviews.

 

 

โดย: นนนี่มาแล้ว 16 มกราคม 2553 9:24:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.