เรื่องของภาษา - ตลกสังคม ตอนที่ 29
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
สมัยเมื่อมีมนุษย์เกิดมาในโลก เมื่อกี่ล้านปีมาแล้วก็ไม่รู้นั้น มนุษย์สมัยนั้นจะพูดจาให้มันรู้เรื่องกันได้ยังไง ก็ไม่มีใครกล่าวถึง เขาก็คงจะมีภาษาอะไรของเขา ถ่ายทอดความต้องการให้กันและกันรับรู้ได้ เท่าที่รู้มา ภาษารักของคนสมัยหินนั้น ดุดันมาก คือว่า เมื่อฝ่ายชายชอบฝ่ายหญิงคนไหน ก็ใช้ไม้พลองเคาะหัวฝ่ายหญิงให้สลบ แล้วก็ลากเข้าถ้ำไป จะลากไปทำอะไรก็เห็นจะไม่ต้องบอก
มาสมัยนี้ จะทำยังงั้นไม่ได้ เพราะเรามีภาษารักพูดจาเกลี้ยกล่อมใจกันให้รู้เรื่องได้ ไม่ต้องใช้กำลัง แต่ก็ยังบางรายที่พูดกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็ฝ่ายหญิงไม่เออออหอหมกด้วย ก็ยังใช้กรรมวิธีสมัยหินอยู่ ผิดกันแต่ว่า ไม่ได้ใช้ไม้พลองตี เอากันแต่เพียงพาพวกมาฉุด เอาเฉย ๆ เท่านั้น
ผู้ที่คิดค้นภาษาที่ใช้พูดจาขีดเขียนให้รู้เรื่องกันได้นี้ ต้องเป็นอัจฉริยะ แล้วก็แตกฉานกันออกไปเป็นหลายภาษา นับไม่ถ้วน ที่ใช้กันอยู่บนโลกนี้ วิวัฒนาการทางภาษานี้ ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนต้องร่ำเรียนกัน ให้สามารถพูดจาให้รู้เรื่องกันได้กับคนต่างชาติ
ภาษาไทยเป็นภาษาที่ล้ำลึกที่สุดในโลก ที่ผมว่าอย่างนี้คงจะไม่ผิด เราต้องยกความเป็นอัจฉริยะนี้ให้กับพ่อขุนรามคำแหง พระบิดาแห่งภาษาไทย
ภาษาไทยที่ท่านค้นคิดขึ้นมาใช้นี้ เป็นภาษาที่เรียนยากที่สุดในโลก คนไทยพูดภาษาอะไรก็ได้ชัดทุกภาษา และสามารถพูดได้ชัดเท่า ๆ กับเจ้าของภาษา แต่ชาวต่างชาติที่จะพูดภาษาไทยให้ชัดเหมือนคนไทยพูดนั้นหายาก เพราะภาษาไทยมีเสียงสูง เสียงต่ำ เหมือนเสียงดนตรี ผิดกับภาษาอื่น ๆ ลิ้นของคนต่างชาติจึงออกเสียงภาษาไทยให้ชัดอย่างคนไทยไม่ได้ อย่างเก่งก็ใกล้เคียงเท่านั้น
ภาษาต่าง ๆ ในโลกนี้นั้น บางทีคำพูดมีความหมายดี ๆ ในภาษาของเขา แต่ออกเสียงมามันดันไปเป็นภาษาหยาบโลนของอีกภาษาหนึ่งได้
อย่างเช่นคำว่า หู ของไทย ลองให้แปลเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วดูซี ฟังได้เสียที่ไหน
เมื่อตอนที่ผมอยู่อังกฤษ ผมจ้างแม่บ้านวันละสองชั่วโมงตอนเช้า ให้แกมาทำความสะอาด และทำอาหารเช้าให้กิน วันหนึ่ง บังเอิญมีเพื่อนมาจากเมืองไทยมาพักอยู่ด้วย เขาไม่รู้ภาษาอังกฤษเลย จะมาเรียนที่โรงเรียนภาษาที่กรุงลอนดอน แล้วเขาตื่นแต่เช้าก่อนผมเสมอ ๆ
เช้าวันหนึ่ง ยายแม่บ้านมาเคาะประตูห้องผมโครมคราม เรียกผมให้ออกมาพูดกัน ผมก็เปิดประตูออกมา หน้าของแกแดงก่ำด้วยความโกรธ ชี้ไปทางเพื่อนของผมคนนั้น แล้วให้ผมจัดการว่ากล่าวเพื่อนคนนั้น แกว่า เขาพูดจาหยาบกับแก ดูถูกแก
ผมสอบถามก็ได้ความว่า ไอ้เสือนั่นเกิดอยากได้พริกไทยมาโรยหน้าไข่ดาวที่แกทอดให้กิน ทีนี้มันพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ดันพูดออกมาเป็นภาษาไทย มันไม่รู้ว่า พริกไทย ภาษาอังกฤษเขาว่ายังไง มันก็ออกภาษาไทยออกมาว่า พริก พริก แล้วแถมทำมือห่อเป็นรูปขวดเสียอีก กว่าผมจะอธิบายให้ยายแม่บ้านเข้าใจก็เหนื่อย แต่พอแกรู้ แกก็ขอโทษ แล้วหัวเราะชอบใจ
แล้วก็อย่างภาษาญี่ปุ่นยังงี้ ถ้าเราอยากได้ มะระ ไปพูดกับคนญี่ปุ่นว่า มะระ ก็มีเรื่อง เพราะมันไปตรงกับอวัยวะเพศของผู้ชายถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วถ้าเราว่า ไอ้นี่ขี้เหร่ ญี่ปุ่นกลับชอบ เพราะดันแปลว่า สวย เสียนี่
ความบังเอิญของภาษามีอยู่มากมาย อีสาวคนหนึ่ง ชวนฝรั่งไปกินอาหารจีน แล้วอยากถามฝรั่งว่า เอาฟักตุ๋นไหม เพราะแกไม่รู้ว่า คำว่า ฟัก นั้น ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าอะไร ก็พูดอังกฤษแกมไทยออกมาว่า
ยูว้อนต์ .. เอ้อ ... ซุบฟักฮะ
ฝรั่งก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ไม่รู้ว่า อีสาวจะเอายังไงกันแน่
อย่างน้ำส้มคั้น ก็พูดกับฝรั่งไม่ได้ ไอ้น้ำส้มน่ะพอไปได้ แต่ไอ้ คั้น นี่ซิ มันไม่เพราะสำหรับภาษาอังกฤษ
ถ้าคนอังกฤษเกิดอยากกินมะม่วงขึ้นมา ไปพูดกับคนญี่ปุ่นว่า อยากกินแมงโก้ ก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดกันได้ เพราะว่า ไอ้คำว่า แมงโก้ นี้ญี่ปุ่นแปลว่า อวัยวะเพศของผู้หญิง
ที่ชักตัวอย่างมานี้ เป็นเพียงส่วนปลีกย่อย ไอ้ที่จะ ๆ ยังมีมากกว่านี้ จะเขียนต่อไปเดี๋ยวก็จะหาว่า ผมเป็นคนสัปดนไป
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2553 1:09:14 น. |
Counter : 927 Pageviews. |
|
|
|