เรื่อง ตำรวจลาว (จริง ๆ) - ตลกสังคม ตอนที่ 22
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ที่ผมต้องเติมวงเล็บว่า จริง ๆ ลงไปข้างหลังคำว่า ตำรวจลาว นั้น ก็เพราะว่า คราวที่แล้ว ผมลงไตเติ้ลไว้ว่า ตำรวจลาว แล้วมันดันผ่าไปเป็นเรื่องทหารลาวเข้าให้ โดยความประมาทของผมเอง ก็ต้องขออภัยไว้เสีย ณ ที่นี้
ตำรวจลาวก็เป็นตำรวจในสมัยปี พ.ศ. ๒๕๐๘ สมัยที่ผมไปอาศัยพักพิงอยู่ที่นั่นก่อนที่จะกลับเมืองไทยในปีพ.ศ. ๒๕๑๒ ได้ทันเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานให้ลูกสาวคนที่สอง
ผมอยู่ที่ลาวสี่ปีครึ่ง ประกอบอาชีพหลายอย่าง ตั้งแต่เขียนหนังสือ ส่งหนังสือพิมพ์ในเมืองไทย รับจ้างแปลหนังสือ จนถึงทอดกล้วยแขกขาย
ครับ ! ... ทอดกล้วยแขกขายจริง ๆ ... ที่หน้าร้าน สีมาลา ของพ่อประชา ซึ่งผมอาศัยเขาอยู่
นุ่งผ้าขะม้าผืนเดียว นั่งทอดกล้วยแขกขาย ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่ผ่านไปมาหน้าร้านนั่นแหละ
ผมมีลูกค้าเยอะ หลาย ๆ คนที่รู้จักผม เขาก็แวะเวียนมาอัดหนุนกัน ทั้งผู้หญิงผู้ชาย มาจากกรุงเทพ ฯ ก็มี
เขาอยากมาดูผมทอดกล้วยแขก นัยว่า ข่าวนี้ดังมาถึงกรุงเทพ ฯ
มีนักหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปผมเอาไว้ก็มี แต่ผมไม่ทราบว่า เขาเอาไปลงหนังสือพิมพ์ของเขาหรือเปล่า
ตำรวจลาว แต่งเครื่องแบบคล้าย ๆ ตำรวจไทย เครื่องหมายยศก็คล้ายกัน เพียงแต่ไม่มีผ้าพันหมวกสีเลิอดหมูอย่างตำรวจไทยเท่านั้น
สมัยนั้น มีหน่วยช่วยเหลือของอเมริกันประจำอยู่ในลาวเหมือนของไทย ที่นั่นเขาเรียกว่า องค์การ ยูเสด ย่อมาจากคำว่า ยู เอส เอส (USS) เลยอ่านว่า ยูเสด เสียเลย
พนักงานที่ประจำอยู่ที่องค์การนี้ ส่วนมากเป็นชาวฟิลิปปินส์ มีคนอเมริกันเป็นหัวหน้าอยู่ไม่กี่คน ชาวฟิลิปปินโน จึงเพ่นพ่านอยู่ในเวียงจันทุกหนทุกแห่ง บางคนได้เมียลาวก็มีมาก
ผมเอาตัวรอดกฎหมายลาวไปได้คราวหนึ่งก็เพราะเหตุที่ฟิลิปปินส์เต็มลาวนี่แหละ
ผมมีรถยนต์ใช้คันหนึ่ง ซื้อจากเพื่อนคนไทยคนหนึ่งที่ไปทำมาหากินอยู่ที่เวียงจัน เขาขายให้ในราคามิตรภาพ เป็นรถเฟี๊ยต ๑๓๐๐ สีเลือดหมู ผมชอบสีมันเพราะเป็นสีตำรวจ
ไอ้รถคันนี้เกือบพังตอนที่ผมเอามันหลบเข้าไปอยู่ในสถานทูตไทย เมื่อตอนเขายิงกันเอง แล้วเขายิงเข้าไปในสถานทูตไทยด้วย รถผมเลยพรุนไปรอบคัน ต้องส่งมาซ่อมทางกรุงเทพ ฯ เสียไปหลายอัฐ จะไปเรียกค่าเสียหายกับใครก็ไม่ได้
แต่ก็ยังดี ทางรัฐบาลลาวเขาขอโทษมาทางสถานทูตไทย ในความผิดพลาดอันนั้น เขาว่า เขาตั้งใจจะยิงข้ามสถานทูตไทยไปยังค่ายตำรวจ ซึ่งอยู่บนถนนสายเดียวกันนั้น แต่ทำไมลูกกระสุนปืน ค. มันถึงได้หล่นลงไปในสถานทูตไทยตั้งยี่สิบกว่าลูกได้ก็ไม่ทราบ
ขอโทษแล้วก็เป็นอันเจ๊ากันไป
ผมซ่อมรถเสร็จก็เอามันกลับมาใช้อย่างเดิม ส่วนมากจะใช้ไปซื้อข้าวของและเที่ยวกลางคืน
วันหนึ่ง ผมขับรถไปซื้อของที่ร้านขายของแบบ ดีพารต์เมนต์สโตร์ ร้านหนึ่งที่อยู่ริมถนนชัยเชษฐา ซึ่งเป็นถนนที่สำคัญถนนหนึ่งในจำนวนถนนสำคัญ ซึ่งเวียงจันมีอยู่สองสาย
ผมจอดรถไว้ริมถนนหน้าร้านนั้น เพราะถนนว่างดี โดยเฉพาะที่หน้าร้านพอดี แล้วผมก็เข้าไปซื้อของในร้านสองสามอย่าง ได้ของแล้วก็กลับออกมาที่รถ จะกลับบ้าน
ตำรวจจราจรสองนายกำลังเดินวนรอบรถของผมอยู่ เขาเห็นผมเดินมาที่รถจะไขกุญแจเปิดประตูรถ เขาก็เข้ามาหาผมทั้งสองคน แล้วพูดว่า
รถของเจ้าหวา แปลว่า รถของคุณหรือ
ผมรู้ทันทีว่า ผมต้องโดนเล่นงานแน่ ผมจึงมองเขาเฉยอยู่
ที่ตรงนี้จอดบ๊อได้ เจ้าซิต้องเสียค่าปรับ ไปโรงพัก เขาพูดต่อ
ผมนึกถึงฟิลิปปินส์ขึ้นมาได้ ผมก็ส่งภาษาอังกฤษออกไปตามเรื่อง เรื่อยเปื่อยไป
เขายืนงง ถอดหมวกออก เกาหัวแกรก ๆ แล้วมองดูหน้ากัน แล้วก็หันมามองผม ผมก็มองเขาเฉยอยู่
บักฟิลิปปินส์ ช่างแม่มัน คนหนึ่งพูด แล้วก็ดึงแขนเพื่อนอีกคนเดินจากผมไป
ผมรอดมาได้เพียงเส้นยาแดงผ่าแปด
ขอบคุณ ฟิลิปปินส์ !
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2553 15:53:01 น. |
Counter : 2634 Pageviews. |
|
|
|