จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 

จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 6 ตอนที่ 1)

ผมให้ไอ้ทองบอกหมู่เทียวตำรวจเฝ้าบ้านให้ขึ้นมาหาผม ไอ้ทองหายออกไปแล้วกลับมาพร้อมกับหมู่เทียม เขาเข้ามายืนคอยรับคำสั่งอยู่หน้าประตูห้อง

“ ห้องถ่ายรูปเปิดอยู่หรือเปล่า ” ผมถามเขา

ในบ้านพิเศษทุกหลังของเรามีอุปกรณ์การทำประวัติและพิมพ์ลายมือ ถ่ายรูป อยู่ครบถ้วน เพื่อใช้ในกรณีต้องการทำประวัติฉุกเฉิน

“ ห้องถ่ายรูปปิดครับ ” หมู่เทียวตอบ “ กุญแจอยู่ที่สารวัตรโชติ สารวัตรจะมาตอนเช้าครับ ”

“ ห้องพิมพ์ลายมือล่ะ ”

“ ห้องพิมพ์ลายมือเปิดครับ กุญแจมีอยู่ที่ผม ”

ผมอ้อมไปไขกุญแจนิ้วมือของไอ้เจ๊กคนนี้ข้างหนึ่ง ดึงมันออกไปจากห้อง มันเดินกะโผลกกะเผลกตามผมมา ถึงประตูผมก็จ่อปืนเข้าที่ขมองของมัน รุนหลังให้เดินตามหมู่เทียมไปยังห้องพิมพ์ลายมือ ผมให้หมู่เทียมจัดการพิมพ์ลายมือของมันไว้ทั้งสองข้างในแบบฟอร์มพิมพ์ลายมือ ผมมีเรื่องที่จะต้องเล่นกับมัน ไอ้พวกนี้ทำยังไง ๆ มันก็ไม่ยอมพูดถ้ามันจะไม่พูด หรือได้รับคำสั่งมาไม่ให้พูดจะขู่มันก็เหนื่อยเปล่า พูดหรือไม่พูดมันก็ตายเหมือนกัน และยิ่งพูดกันคนละภาษาอย่างนี้ก็เลิกพูดได้ และข้อสำคัญ ผมไม่อยากให้ใครมาพูดซักถามมันด้วยภาษาของมันต่อจากผม เรื่องงานชิ้นนี้ของผมจะให้ใครมาเกี่ยวข้องอีกไม่ได้ มันต้องเป็นเรื่องของผมคนเดียว และผมต้องการให้คนที่ส่งมันมาเล่นงานผม ได้รู้จักผมมากกว่าที่มันรู้จักดีขึ้นอีกหน่อย เรื่องที่จะเก็บตัวเอาไว้สอบสวนนั้นไม่มีประโยชน์ ง้างปากมันก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จได้แน่นอน คนพวกนี้ไม่ว่าที่ไหนในโลก เขาอบรมสั่งการกันมาอย่างนั้นเหมือน ๆ กัน

หมู่เทียมจัดการพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว ผมก็สับกุญแจนิ้วมือเข้าที่เดิมของมัน ลากตัวมันลงมาข้างล่าง เปิดโรงรถให้ไอ้ทองนั่งคุมมันอยู่ที่นั่งด้านหลังอย่างเดิม ปืนสี่กระบอกยังอยู่เรียบร้อยบนเบาะที่นั่งข้าง ๆ ผม หมู่เทียมไปคอยเปิดประตูอยู่แล้วอย่างรู้กัน พอผมเคลื่อนรถไปถึงประตูก็เปิด ผมออกรถเลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่บึ่งออกไปทางพระโขนง
ผมบึ่งรถผ่านพระโขนงเข้าเขตสมุทรปราการ ผ่านสมุทรปราการตรงไปทางบางปู ผมชะลอความเร็วรถลงเมื่อมาถึงถนนตอนที่เปลี่ยว มีแต่ความเวิ้งว้างของป่าแสมและโคลนทั้งสองด้านยาวไกล ผมหยุดรถให้ไอ้ทองลากตัวไอ้เจ๊กนั่นลงจากรถ พอตีนถึงพื้นถนนผมก็ลั่นไกปืนในมือสองนัดเข้าสมองของมัน

ผมล้วงเอากุญแจมืออกมาไขกุญแจที่ติดนิ้วของมันออกยัดเข้ากระเป๋า ร่างของมันนอนเอียงหัวทิ่มดินอยู่ มันคงจะเดินทางไปคุยกับพวกมันสามคนนั้นล้งเล้งไปด้วยภาษาของพวกมันเรียบร้อยไปแล้ว ให้มีนไปถามไถ่กันเอาเองในโลกโน้นว่า เสียทีคนคนเดียวอย่างผมได้ยังไง

ผมเลี้ยวรถกลับตามเส้นทางเดิม เสียงปืนของผมคงจะไม่ดังไปถึงใคร ๆ เพราะที่ตรงนั้นมันเวิ้งว้างกว้างไกลเกินกว่าที่เสียงปืนจะแหวกอากาศไปถึงได้ ผมผ่านปากน้ำเข้าพระโขนงเข้าเส้นทางเดิม กลับเข้าบ้านพิเศษของผม หมู่เทียมลงมาเปิดประตูให้เมื่อได้ยินแตรสัญญาณ เขาไม่ได้ซักถามอะไร พวกนี้ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีแล้วในเรื่องสงสัย ห้ามการซักถามที่ไม่ใช่เรื่องของตัว ต้องเก็บความอยากรู้ไว้เฉย ๆ และไม่มีความอยากรู้ในเรื่องนอกหน้าที่

ผมเอารถเก็บ ทิ้งปืนไว้อย่างเก่า แล้วก็ขึ้นห้องพัก ผมสั่งหมู่เทียมปลุกตอนเจ็ดโมงเช้า ผมมีนัดที่จะต้องไปพบผู้การเยี่ยมอีกตอนแปดโมงตรง หัวถึงหมอนผมก็หลับเป็นตาย ไอ้ทองไม่ต้องเป็นห่วงมัน มันหาที่นอนเอาเองได้ หมู่เทียมคงจะจัดให้มันเอง

ผมตื่นนอนด้วยเสียงเรียกของหมู่เทียมที่หน้าห้อง ล้างหน้าล้างตาลบความง่วงงัวเงีย แล้วผมก็แต่งตัวลงมาชั้นล่าง หมู่เทียมทำข้าวต้มร้อน ๆ วางไว้ให้บนโต๊ะรับแขกแล้วโดยผมไม่ต้องสั่ง ผมก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอามาจากไหน ไอ้ทองกำลังนั่งโจ้ข้าวต้มอยู่แล้วก่อนหน้าผมที่พื้นปากประตูทางเข้าห้อง

“ เทียม ไปเอาข้าวต้มนี่มาจากไหน ” ผมถามเขา

“ หมู่ทองกับผมออกไปซื้อมาจากร้านหน้าปากตรอกครับ ” เขาตอบ “ ถือกันเข้ามาคนละชาม ”

“ ขอบใจมากเทียม ” ผมพูด พร้อมกับก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้าวต้มชามนั้น “ ทีหลังไม่ต้อง อย่าให้ต้องลำบาก และอั๊วไม่อยากให้ใครรู้อะไรในบ้านนี้โดยไม่จำเป็น คราวนี้แล้วไป ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ”

“ ครับ หมวด ” หมู่เทียมรับปาก ผมว่าเขาไม่สบายใจ

“ เดี๋ยวกูจะออกไปธุระ ” ผมหันไปพูดกับไอ้ทอง “ มึงอยู่ที่บ้านนี้ก่อน แล้วกูจะมารับ ”

“ จะไปไหนคนเดียวอีกล่ะ ” มันวางช้อนข้างต้ม “ เมื่อวานนี้ ถ้าไม่เอาไอ้ทองไปด้วยก๊องามไหมล่ะ ”

“ เออ มึงเก่ง มึงเพิ่งจะมีค่าดีกว่าหมาก็เมื่อวานนี้ ” ผมชำเลืองดูมัน “ แต่วันนี้ กูจะไปคนเดียว มึงไม่เสือกสักวันได้ไหมล่ะ ”

“ แล้วอย่าไปช้านักนะ ผมจะรอหมวดอยู่ที่นี่จนกว่าจะมารับ ” มันสำทับ

“ ซักวันหนึ่ง กูคงจะได้เตะมึงให้ดิ้นคาตีนกู ถ้ามึงไม่ลดความทะลึ่งของมึงลงเสียบ้าง ”

“ เตะไอ้ทองตายแล้ว จะเอาใครเป็นเพื่อนขี้ข้าได้อย่างไอ้ทองเล่า เมื่อคืนนี้ไม่ใช่ฝีมือไอ้ทองหรอกหรือที่มันดิ้นไปสามคนน่ะ ป่านนี้ไฟไหม้รถเป็นเศษเหล็กไปหมดแล้วก็ไม่รู้ ”

ผมถลึงตากับมัน ไอ้นี่พูดเรื่องที่ไม่น่าจะพูดออกมาด้วยความเคยปาก ดีที่เป็นหมู่เทียมที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีแล้ว ไม่นั้นก็คงจะถามว่ามันเรื่องอะไรกัน

ไอ้ทองรู้ตัว มันยกมือขั้นเขกหัวตัวเองโป๊กใหญ่

ผมจัดการกับข้าวต้มชามนั้นหมดเกลี้ยงแล้วก็ออกจากบ้าน นาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาอีกสิบนาทีจะแปดโมงเวลามีพอที่จะบึ่งไปถึงโรงแรมเอราวัณ ถ้ำของพันเอกเยี่ยม วีรพล ผู้การขี้เล่นคนนั้น

ผมมาถึงที่หมายทันเวลา ตอนที่ผมไปยืนเคาะประตูห้อง ๕๐๔ อยู่นั้นเป็นเวลาแปดโมงตรงพอดี

พอได้ยินเสียงร้องเชิญดังมาจากที่เบื้องบนประตู ผมก็เปิดประตูเข้า ตอนที่ผมเปิดประตูชั้นสอง ผมก็อดที่จะหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่งไม่ได้ ตามความเคยชิน ไม่รู้ว่าอีตาผู้การคนนี้แกจะเล่นอะไรของแกอีก

ผมหอบเอาไอ้ปืนสี่กระบอกนั้นพะรุงพะรังขึ้นมาด้วย ยัดมันเข้ากระเป๋ากางเกงข้างละกระบอก เหน็บไว้ที่เอวอีกข้างละกระบอก ปืนประจำตัว ปืนประจำตัวของผมอีกกระบอกนั้นผมเหน็บมันไว้ที่หน้าพุง ส่วนแบบฟอร์มพิมพ์ลายมือนั้นผมม้วนใส่กระเป๋ากางเกงไว้

ผู้การเยี่ยมชี้เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะให้ผมนั่งแล้วเริ่มเรื่องทันที

“ เมื่อคืนนี้ เล่นเสียกี่ศพล่ะ ผู้การของคุณเขาบอกมาที่ผม เขาได้ข่าวจากทางนครบาล

ผมนั่งนิ่ง ไม่รู้จะเลือกพูดถึงศพไหนก่อนดี

“ ผมต้องรีบสั่งไม่ให้คุณยุ่งกับเสี่ยตั้ง เพราะถ้าคุณไปทำอะไรเขาเข้ามันจะยุ่ง นอกจากจะยุ่งแล้ว คุณจะขาดตัวเชื่อมที่จะพาไปถึงตัวนายอุทิศ เขาเป็นคนใกล้ชิดของนายอุทิศมาก ”

ผมล้วงเอาปืนทั้งสี่กระบอกออกมาวางบนโต๊ะตรงหน้า พร้อมทั้งแบบฟอร์มพิมพ์ลายนิ้วมือใบนั้น

ผู้การเยี่ยมมองดูของเหล่านั้น แล้วเงยหน้าขึ้นมองผม นัยน์ตาของเขาตั้งคำถาม

“ ไอ้ปืนสี่กระบอกนี่ผมยึดมาจากคนสี่คน ” ผมตอบคำถามจากนัยน์ตาของเขา “ ส่วนลายพิมพ์มือนี่เป็นลายพิมพ์ของคนหนึ่งในสี่คนนั้น ”

“ สี่คนนี่ เวลานี้อยู่ที่ไหน ” เขาถาม

“ สามคนนอนเฝ้าถนนอยู่ที่พหลโยธิน ทางไปสนามบินครับ อีกคนนอนอยู่ทางไปบางปู ” ผมตอบ

“ แล้วใครเขามาเอาตัวมันไปจะว่ายังไง ” เสียงของเขาหนัก ๆ

“ ไปก็ไม่เป็นไรครับ ทั้งสี่คนนั่นพูดไม่ได้แล้วทั้งหมด สามคนที่พหลโยธินนั่นจะไหม้ไปกับไฟด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ตอนที่ผมดึงตัวคนที่สี่ออกมาจากที่นั่น ไฟกำลังลุกจะท่วมหลังคารถอยู่แล้ว ”

“ เล่าให้ผมฟังให้ละเอียดกว่านี้หน่อย ” เขาพูดเสียงเรียบ ๆ ทีนี้

“ พอผมได้รับโทรศัพท์เรียกจากท่าน ผมก็ออกมาจากที่นั่น พวกนี้ขับรถตามผมมาห่าง ๆ ผมก็เลยเล่นเอาเถิดกับเขา เพราะผมยังไม่ทราบว่าพวกมันเป็นใคร จนถึงเลยสนามเป้า มันก็ขับเร่งผ่านรถผม ดีที่ผมไหวทัน พอรถมันจะผ่าน ผมก็เบรคทันที ถ้ารถไม่หยุดอยู่กับที่ในทันทีเพราะผมเบรค ตัวผมก็คงจะปรุด้วยกระสุนปืนไปแล้ว กระสุนปืนหลายนัดผ่านหน้ากระจกรถผมไป แล้วมันก็ขับหนี ผมก็ไล่ตามไป คนของผมที่ไปด้วยยิงถังน้ำมันรถระเบิด เกิดไปไหม้รถ มันก็ต้องหยุดรถ แล้วโดดหนีออกมาคนละทิศ ผมกับคนของผมลงไปเก็บมันได้สามคน อีกคนที่ออกมาทีหลังเพราะทนไฟไม่ได้

ผมก็เอาตัวมันขึ้นรถไปสอบสวน มันไม่พูด ถึงจะพูดก็ไม่รู้เรื่องเพราะมันเป็นเจ๊ก ผมก็เลยได้แต่พิมพ์ลายมือมันไว้เพื่อตรวจ สอบ ก็แบบพิมพ์ลายมือที่วางอยู่ตรงหน้านี่แหละครับ แล้วผมก็พามันไปเที่ยวบางปู ให้มันนอนเฝ้าถนนอยู่ที่นั่น ใครจะไปเอาตัวมันมาก็พูดไม่ได้แล้วละครับ ปืนสี่กระบอกนี้เป็นของพวกมันคนละกระบอก และดูเหมือนว่าจะไม่มีทะเบียน หมายเลขก็ถูกลบหมด ผมก็เก็บเอามาให้ท่าน เผื่อว่าท่านอาจจะตรวจสอบได้... ครับ ”

ผู้การเยี่ยมนั่งนิ่งเอนหลังพิงเก้าอี้ลูบริมฝีปากเล่น มองหน้าผมแล้วส่ายหน้าทำปากจี๊กจั๊ก เขาคงยังหาคำพูดไม่ได้

ผมนั่งมองหน้าเขานิ่ง รอฟังคำพูด ครู่ใหญ่ผู้การเยี่ยมก็พูดออกมาว่า

“ ผมขอให้คุณหยุดการฆ่าคนลงเสียบ้าง ผมต้องตามแก้เรื่องให้อยู่ วันก่อนก็ศพหนึ่งไปสด ๆ ร้อน ๆ ยังไม่ทันข้ามวันดี ก็มีอีกสองศพ เมื่อคืนนี้ก็อีกสี่ จุดมุ่งหมายของผมอยู่ที่ตัวนายอุทิศ กว่าจะถึงตัวเขาคุณจะเหนื่อยเสียก่อน อย่าสนุกด้วยการฆ่าคนบ่อย ๆ นัก ”

“ พวกนั้นมันจะฆ่าผมเหมือนกัน ” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ปืนสี่กระบอกที่วางอยู่บนโต๊ะ “ ท่านดูเอาซิครับ ปืนสี่กระบอกนี่ มันเตรียมมาเล่นงานผมก่อน ถ้าผมพลาดนิดเดียวเมื่อคืนนี้ ผมก็ไม่ได้มานั่งอยู่ตรงหน้าท่านยังงี้ ”

“ ทำไมคุณไม่คุมตัวไปให้ทางท้องที่เขาสอบสวน บางทีเราอาจจะได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้นบ้าง ” ผู้การเยี่ยมยังลูบคางเล่นอยู่ขณะพูด

“ เหตุการณ์มันบังคับ ผมไม่มีทางกลับตัวได้ และอีกอย่างหนึ่ง ผมคิดว่าไอ้พวกนี้มันจะไม่ยอมพูดอะไรแน่ ผมว่าท่านต้องทราบดีว่ามันอบรบกันมาอย่างไร ”

“ ผมรู้ ” เขาพยักหน้าช้า ๆ “ แต่ผมมีวิธีการที่จะให้มันพูด ”

“ ถ้าเช่นนั้น คราวต่อไป ผมจะพยายามเอาตัวมันไปท้องที่ ถ้ามันไม่เหลือมือผม ถึงตอนนั้นบางทีท่านอาจจะได้รับรูปถ่ายของผมกองอยู่ที่ใดที่หนึ่งเสียก่อนอย่างคุณเชิดก็ได้ ” ผมชักไม่ชอบใจ

ผู้การเยี่ยมหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดไปด้วย

“ ประวัติของคุณชี้ให้เห็นว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ผู้การของคุณเขาส่งคุณมาให้ผมไม่ผิด และงานนี้จะล้มเหลวไม่ได้ ความปลอดภัยมั่นคงของชาติอยู่ที่คุณ แต่ถ้าคุณกลัว คุณจะถอนตัวเมื่อไรก็ได้ คุณมีสิทธิ์ ”

ในสมองของผมเดือดปุด ๆ เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ ผมลุกขึ้นโค้ง หันหลังจะก้าวเดิน

“ เดี๋ยวก่อน คุณยอดทวน ” เสียงผู้การเยี่ยมดังไล่หลังผมมา ผมหันกลับ เขาพูดต่อ “ อย่าใจน้อย คุณไม่ใช่เป็นคนใจน้อย นั่งลง ฟังผมพูดให้จบก่อน ”

ผมดึงเก้าอี้มานั่งลงอย่างเก่า นัยน์ตาจับนัยน์ตาเขา เขาไม่ใช่นายผม ผมมาให้เขาใช้เพราะนายของผมส่งมา และงานชิ้นนี้ถูกใจผม แต่ผมไม่ชอบคำพูดหมิ่นใจ

“ ผมขอโทษถ้าคำพูดของผมทำให้คุณไม่ชอบใจ ” เขาพูดเสียงเรียบ ๆ “ ที่ผมพูดไปแล้วนั้นขอให้ลืมเสีย ผมเรียกคุณมานี่ก็เพื่อจะให้ความรู้เกี่ยวกับเสี่ยตั้งเพิ่มเติม คุณจะได้ตามรอยถูก ”

ผมไม่พูด รอฟังเขาต่อ

“ เสี่ยตั้งคนนี้มีอะไร ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแม่ต๊อยอยู่ แต่ไม่ใช่ในทางชู้สาว ”

“ แม่ต๊อยคนนี้ไม่ใช่คนของท่านแน่นะครับ ” ผมถาม

“ ไม่ใช่ ” ผู้การเยี่ยมเสียงหนักแน่น “ แต่เขาจะเป็นประตูบานหนึ่งให้คุณก้าวไปสู่ตัวนายอุทิศได้ คุณเองก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ต๊อยเข้าให้แล้วไม่ใช่หรือ ” เขาจบประโยคด้วยยิ้มน้อย ๆ

อีตาผู้การเยี่ยมคนนี้ช่างรู้อะไร ๆ เกี่ยวกับผมมากเกินไปเสียแล้ว

“ อย่าแปลกใจที่ผมรู้เรื่องของคุณกับแม่ต๊อย ที่รู้ก็เพราะศพสามศพที่หน้าบ้านแม่คนนี้นั่นเอง เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไล่ ๆ กันสองวัน และโดยเฉพาะที่หน้าบ้านแม่คนนี้ในวันที่คุณไปนอนที่นั่น ฝีมือแทงด้วยมีดที่คอหอยเหมือน ๆ กัน ทั้งศพสองคนนั่นต้องเป็นฝีมือของคนที่ถนัดในทางนี้ เขาหามีดที่ใช้ไม่ได้ และผมก็จะไม่ถามคุณว่าคุณทำยังไงกับมัน ผมติดต่อทางนครบาลและตำรวจที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แล้วให้ทิ้งเรื่องทั้งหมด โดยผ่านทางหน่วยที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ถ้ามันเกิดมีศพขึ้นอีกบ่อย ๆ มันจะทำให้เขาเริ่มสงสัย ผมจึงอยากให้คุณเพลา ๆ มือลงบ้าง อย่าสนุกกับการฆ่าคนไปเสียทุกราย ”

เขาหยุดพูด คงจะคอยฟังจากผมบ้าง แต่ผมนิ่ง เขาจึงพูดต่อ

“ ผมต้องชมคุณอย่างหนึ่งที่ว่าคุณไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลยในที่เกิดเหตุ ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนเขายังควานหากันไม่พบ แต่ก็อย่านึกว่าเขาไม่มีความสามารถ วันหนึ่งคุณอาจจะพลาด แล้วผมก็ต้องเสียคนที่เหมาะกับงานไปคนหนึ่ง ”

“ ท่านบอกผมช้าวันหนึ่ง เมื่อคืนนี้เกิดศพขึ้นมาอีกสี่ศพเสียแล้ว แต่มันอยู่ในที่ต่าง ๆ กัน ” ผมพูด “ ผมยั้งมือไม่ได้เมื่อมันจะฆ่าผมก่อน เมื่อผมอยู่มันก็ต้องไป ”

“ ผมขอให้เป็นสี่ศพสุดท้าย ” ผู้การเยี่ยมพูด “ ต่อจากนี้ไป อย่าฆ่าคนโดยไม่จำเป็นอีก ”

ถ้าเป็นการต่อสู้ติดพันอยู่ละครับ ” ผมหาทางออก

“ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไอ้รอยมีดแทงอย่างบรรจงที่คอหอยทั้งสองศพนั่นมันไม่ใช่ร่องรอยของการต่อสู้ มันเป็นความตายที่คุณยัดเยียดให้มัน เราก็ได้แต่เพียงรู้ว่าทั้งหมดนั่นเป็นคนของเสี่ยตั้ง ไม่ได้มีโอกาสสอบสวนไปถึงอะไรที่ควรจะได้มากกว่านั้น ต่อไปอย่าให้มีอีก ”

“ ครับ ผมจะพยายาม ผมได้ทราบมาก่อนว่า ก่อนที่คุณเชิดจะเป็นศพ เขาออกไปเที่ยวกับเสี่ยตั้งใช่ไหมครับ ”

“ ใช่ ” เขาพยักหน้า

“ และเขาไปรับคุณเชิดออกมาจากบ้านแม่ต๊อย ”

“ ใช่อีก ผมไม่ให้คุณไปยุ่งกับเรื่องนี้แล้วยังไง ” เสียงของเขาหนัก ๆ

“ ผมทราบมาด้วยความบังเอิญ ก็อยากจะทราบว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่า มันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผมจะต้องทำอยู่เหมือนกัน ”

“ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าไปทำอะไรเขา ถ้าเขาเกิดมีอันเป็นไปอย่างหลาย ๆ ศพนั่นมันจะยุ่ง มันจะต้องถึงผู้ใหญ่ในวงการ เขากว้างขวางในวงการมาก ทั้งนายอุทิศและเขาได้เคยบริจาคเงินในการกุศลให้กับหลาย ๆ วงการ อันนี้เป็นความไม่สบายใจของผม เป้าหมายของเราอยู่ที่นายอุทิศคนเดียว ขาดคนนี้คนเดียว วงการนี้ก็ต้องสลายตัวไปเอง แต่ถ้าขาดเสี่ยตั้ง หาคนมาแทนได้ และจะยิ่งร้ายไปกว่าเดิม ”

“ เขาเป็นคนพาคุณเชิดไปพบกับความตาย ” ผมแย้ง

“ เขาเป็นแค่เพียงคนที่ไปรับเชิดออกมาจากบ้าน เรายังไม่แน่ใจว่า เขาเป็นคนสุดท้ายมที่อยู่กับคุณเชิด และเป็นคนทำให้คุณเชิดตาย ศพคุณเชิดเป็นแต่เพียงไปปรากฏที่ชายหาดชะอำเท่านั้น แกโดนทำร้ายที่ไหน และศพไปปรากฏที่นั่นได้อย่างไร เรายังมืดอยู่ แต่ผมเชื่อว่าเราจะต้องรู้ในอีกไม่กี่วัน และถ้ามีใครมายุ่งกับงานชิ้นนี้เพิ่มขึ้นอีก ก็อาจจะทำให้งานของเราเขว ”

“ ผู้การคงจะไม่ขัดข้องที่จะให้ผมทราบรายละเอียดเรื่องของคุณเชิดบ้าง เมื่อผลของมันปรากฏออกมาแล้วอย่างถูกต้อง ” ผมพูด

“ ถึงตอนนั้นแล้ว ผมจะบอกให้คุณทราบ ” เขาพูดพยักหน้ารับคำ

“ แล้วก็ ผมของการตรวจสอบลายมือและเจ้าของปืนทั้งสี่กระบอกนี้ ท่านจะให้ผมได้ทราบเมื่อไรครับ ” ผมชี้ไปที่ของที่ผมเอ่ยถึง

“ เรื่องลายมือ คุณจะได้ทราบภายในก่อนเที่ยงวันนี้ ให้หมุนมาที่ ๑๒๓ ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งตรง ส่วนเรื่องปืนนั้น คุณคอยฟังเสียงเรียกจากผม คงไม่เกินสองวันจากวันนี้ไป ”

“ ผมกลับได้แล้วใช่ไหมครับ ” ผมถาม

เขาพยักหน้าอีก ไม่พูด สายตาจับอยู่ที่ใบหน้าของผมเป๋ง

ผมลุกขึ้นยืนโค้งแล้วเดินออกมาจากที่นั่น ประตูห้องเปิดออกเองเมื่อผมถึงตรงหน้ามัน ผมก้าวออกไปมันก็ปิดสนิทเบา ๆ ทั้งสองชั้น ผมลองบิดลูกบิดดู มันไม่ขยับเขยื้อน




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2552
3 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2554 2:17:06 น.
Counter : 790 Pageviews.

 

มาดูคนจับปูน่ะ ดึกอย่างนี้ ปูๆ

 

โดย: ตาพรานบุญ 12 สิงหาคม 2552 2:07:59 น.  

 

เดี๋ยวไปดื่มวีต้าก่อนนะจ๊ะ เริ่มตาลายเลี้ยวววววว

 

โดย: Baby, funny falling 13 สิงหาคม 2552 13:01:22 น.  

 

สวัสดีค่ะ
กลับมา up blog แล้วค่ะ
หนีไปเที่ยวเชียงรายมา 4-5 วัน
ไปทำบุญด้วย เอาบุญมาฝากทุกคนที่แวะมาเยือนค่ะ



 

โดย: ธารน้อย 16 สิงหาคม 2552 2:40:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.