จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 13 ตอนที่ 2)

ผมพาแม่ต๊อยไปนั่งกินอาหารที่ร้านอาหารชั้นดีร้านหนึ่ง เวลาตอนนั้นมันใกล้จะสิบเอ็ดโมงแล้ว มันก็เลยเป็นอาหารกลางวันของผมไปด้วย

แม่ต๊อยดูสดชื่นขึ้นหลังจากได้อาหารเบา ๆ ที่หล่อนสั่งของหล่อนเอง เสร็จจากอาหารผมก็พาหล่อนมาที่บ้าน เลือกเอาที่นั่นเป็นที่คุยกัน
มาถึงบ้าน แม่ต๊อยก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ บอกว่าขออาบน้ำชำระร่างกายให้สบายเสียก่อน

ผมปล่อยให้หล่อนทำตามชอบใจ นั่งรออยู่ด้วยเบียร์เย็น ๆ ที่เปิดออกมาจากตู้เย็นหมดขวดเล็ก แม่ต๊อยก็เรียบร้อยอยู่ในชุดเสื้อนอนบาง ๆ เข้ามานั่งใกล้ ๆ ผม

“ คุยไปซิคะพี่ อยากรู้อะไร ต๊อยจะไม่ปิดพี่ ”

“ ตั้งแต่เรารู้จักกันมา ต๊อยเคยโกหกอะไรพี่บ้างหรือเปล่า ” ผมตั้งคำถามแรก

“ เคยค่ะ พี่ แต่มันเป็นเรื่องที่ต๊อยไม่อยากจะให้พี่รู้ และมันก็ไม่เป็นอันตรายอะไรกับพี่ ” หล่อนตอบ ไม่หลบสายตาผม

“ ต๊อยเป็นผู้หญิงคนหนึ่งของเสี่ยอุทิศใช่ไหม ” ผมยิงคำถามออกไปตรง ๆ

แม่ต๊อยนั่งก้มหน้าพักเดียวก็เงยหน้าขึ้นจ้องนัยน์ตาผม แล้วตอบ

“ ใช่ค่ะ พี่ ”

“ แล้วคุณเชิดนั่นล่ะ ”

“ พี่เชิดเป็นคนที่ต๊อยรัก และเป็นคนเดียวที่ต๊อยรัก ก่อนที่ต๊อยจะพบพี่ ”

“ เสี่ยอุทิศเขารู้เรื่องระหว่างต๊อยกับคุณเชิดหรือเปล่า ”

“ ต๊อยคิดว่าเขารู้ ต๊อยก็ตั้งใจว่า เมื่อเขามาพบ ต๊อยก็จะบอกเขาตรง ๆ ว่า ต๊อยจะขอเป็นอิสระจากเขาเพื่อมีผัวเป็นตัวเป็นตนเสียที ”

“ ต๊อยไม่ได้พบเขาอีกเลยหรือตอนที่คุณเชิดหายไป ”

“ ตั้งแต่พี่เชิดหายไป เขาไม่ได้พบต๊อยอีกเลย ”

“ เขาส่งเสี่ยตั้งมาพบแทนใช่ไหม ”

“ ต๊อยไม่รู้ว่า เสี่ยตั้งเขาจะมาเป็นตัวแทนหรือเปล่า เขามาพบก็คุยกันเฉย ๆ ”

“ ต๊อยรู้จักเสี่ยตั้งมานานแล้วซีถ้างั้น ”

“ ค่ะ ” หล่อนตอบสั้น ๆ หลบตาผม

“ ทำไมถึงต้องหลอกพี่ว่า ไม่เคยรู้จักกัน ” ผมซักต่อ

“ เขาสั่งไว้ให้บอกยังงั้น ”

ผมเข้าใจ มันต้องเป็นตอนที่เขารู้ว่าผมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับแม่ต๊อย แล้วเขากำลังเริ่มที่จะเล่นงานผมตามคำสั่งของนายอุทิศที่เขียนเป็นภาษาจีนสั่งการมาในนามบัตรที่ผมยึดได้และแปลออกมานั่น

ถ้านายอุทิศเกิดมีอันเป็นล้มหายตายจากไป ต๊อยจะลำบากไหม ” มันไม่น่าจะถาม แต่ผมถาม

หล่อนมองดูผมแวบหนึ่งก่อนที่จะพูด

“ เขาเคยมีบุญคุณกับต๊อย ต๊อยก็คงจะต้องเสียใจบ้างเป็นธรรมดา ทำไมหรือคะพี่ ”

“ เสียใจบ้างเป็นธรรมดาเท่านั้นหรือ ” ผมถามเหมือนถามไปเรื่อย ๆ

“ เขากับต๊อยไม่มีอะไรที่ผูกพันกันทางใจมากนัก ต๊อยทำมาหากินของต๊อยก็สบายแล้ว พี่ถามต๊อยทำไม ”

“ ก็ถามไปยังงั้นเอง ” ผมมองดูหล่อนแล้วยิ้ม

หล่อนมองดูผมเต็มตาคราวนี้ก่อนที่จะพูดว่า

“ นัยน์ตาพี่ไม่ได้บอกว่าพี่พูดไปยังงั้น ต๊อยดูออกนะ ”

ผมหัวเราะเพราะไม่มีอะไรดีกว่าที่จะทำอย่างนั้น ผมเลื่อนตัวเข้าไปหาหล่อน ดึงตัวมากอดเขี่ยแก้มเล่น

“ แล้วดูนัยน์ตาพี่ออกไหมล่ะว่าพี่รักต๊อยแค่ไหน ”

หล่อนซุกตัวอยู่กับอกผมขณะพูด

“ พี่ไม่ได้รักต๊อยหรอก ต๊อยรู้ คนอย่างพี่รักใครเป็นที่ไหน ทารุณโหดร้าย ใจทำด้วยหินอย่างนี้จะรักใครเป็น แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รัก ”

ผมหาคำตอบไม่ได้ จะว่ามันตรงใจดำก็ไม่เชิง ผมต้องหันไปเล่นกับหน้าอกของหล่อนที่เห็นไหว ๆ อยู่ในเสื้อนอนบาง ๆ ตัวนั้นด้วยมือข้างที่กอดหล่อนไว้ หล่อนเงยหน้าขึ้นมอง ปากผมก็ประทับลงไปบนปากของหล่อน ลิ้นทั้งของผมและของหล่อนมันก็ควานหากันวุ่นวายอยู่ในปากของกันและกัน นานเท่านาน เมื่อถอนริมฝีปากออก แม่ต๊อยก็ครางออกมา แล้วมือของหล่อนก็ควานอยู่ที่เป้ากางเกงของผม
ความอดทนที่ไม่น่าจะอดก็ขาดผึง ผมประคองหล่อนที่เตียงนอน เห็นจะไม่ต้องบอกก็ได้มั้งว่าผมประคองหล่อนไปที่นั่นทำไม

ผมนอนแผ่สองสลึงอยู่บนเตียงล่อนจ้อน หลังจากภารกิจยินยอมเรียบร้อยไปแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อน แม่ต๊อยซุกหัวอยู่ที่ต้นแขนของผมข้างที่หล่อนนอนหนุนอยู่ มือลูบไล้เล่นบนอกเปล่าเปลือยของผม รำพันเบา ๆ

“ พี่ยอดคะ รู้ตัวไหมว่าพี่เป็นคนน่ารักได้เหมือนกัน แต่เฉพาะบนเตียง ”

“ ถ้าคุณเชิดเขาโผล่มาเดี๋ยวนี้ อยากรู้นักว่าต๊อยจะรักใครมากกว่ากัน ” ผมเย้าเล่นเสียยังงั้น

ทีนี้หล่อนชะโงกตัวขึ้นมาจ้องผม

“ พี่ว่า พี่เชิดเขาหายไปแล้วจะไม่มาอีก พี่เคยบอกต๊อยว่ายังงั้น ”

“ เขาตายเสียแล้ว ” ผมพูดไปแค่นั้น

หล่อนควานสายตาไปทั่ว ๆ ใบหน้าผม แล้วกลับมาจ้องนิ่งประสานสายตา

“ เขาตายแล้วจริง ๆ เป็นการตายในหน้าที่ราชการและเป็นการตายที่มีเกียรติ ” ผมพูดช้า ๆ “ น้อยคนนักที่ได้มีโอกาสตายอย่างนั้น พี่ได้รับรู้และได้เห็นรูปถ่ายศพของเขาแล้ว ”

หล่อนซบหน้าลงกับอกผม นิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก็พึมพำเบา ๆ ออกมา

“ ต๊อยนึกแล้ว และนึกเช่นนั้นมานานแล้วตั้งแต่พี่บอกต๊อยเป็นนัย ๆ ในวันนั้น ต๊อยทำใจได้เสียแล้วละ พี่ยอด ถ้าเขายังอยู่เขาจะต้องมาหาต๊อย ไม่หายไปจนป่านนี้ ”

“ เขาคงรักต๊อยมาก ” ผมชักจะสงสารหล่อน

หล่อนพยักหน้าอยู่กับอกของผม

“ จ้ะ ต๊อยรู้ว่าเขารักต๊อยมาก และต๊อยก็รักเขามากอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน เราไม่ได้ทำบุญร่วมกันแต่ชาติก่อน เราจึงพรากจากกันอย่างนี้ ต๊อยทำใจได้นานแล้วละพี่ ”

แล้วหล่อนก็สูดลมหายใจลึก ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมารวย ๆ ปนสะอื้น

“ เขาตายเพราะเขาพลาดในการทำงานให้ชาติ ” ผมพูดต่อเบา ๆ “ ต๊อยควรที่จะภูมิใจที่มีคนรักอย่างเขา ”

หล่อนลูบไล้หน้าอกผมเล่นพลางพูดว่า

“ พี่เป็นตำรวจ งานของพี่ก็คงจะคล้าย ๆ กัน คงจะต้องเสี่ยงกับชีวิตพอ ๆ กัน ขออย่าให้พี่ต้องมีอันเป็นไปอีกคน เพราะความรักของต๊อยที่มีให้พี่ ต๊อยจะกลายเป็นคนกินผัว ”

ผมเกือบจะหลุดปากออกมาว่า ก็เกือบไปแล้วเหมือนกันและด้วยกรรมวิธีเดียวกันเสียด้วย แต่มันกลายเป็นเสียงเค้นหัวเราะออกมาแทน จนแม่ต๊อยต้องเงยหน้าขึ้นมองดูผมอีกแวบหนึ่งก่อนที่จะซุกหน้าลงไปอย่างเดิม

“ ต๊อยจะไม่หวงเอาพี่ไว้เป็นผัว ” หล่อนพูดทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่อย่างนั้น “ แต่พี่หมั่นมาหาต๊อยบ่อย ๆ หน่อยนะพี่ ต๊อยไม่รู้จะไปหาพี่ที่ไหนเวลาคิดถึง บ้านที่พี่เอาต๊อยไปไว้นั้นคงไม่ใช่บ้านจริง ๆ ของพี่หรอก ”

ผมก็ไม่รู้จะหาคำตอบที่ไหนมาตอบหล่อนได้อีกนั่นแหละ

“ แล้วต๊อยจะเอานายอุทิศเขาไปไว้ที่ไหน ” ผมกลับถามไปเสียที่โน่น

“ อย่าพูดถึงเขาอีกเลย พี่ ” หล่อนตอบทันที “ ถ้าเมื่อไรเขามาพบต๊อย ต๊อยก็จะบอกศาลากับเขา ของเป็นตัวของตัวเอง ต๊อยเคยถูกเมียใหญ่เป็นคนจีนส่งคนมาด่าว่าต๊อยถึงบ้านนี้ก็มี ต๊อยต้องขู่ว่าจะเรียกตำรวจมาจัดการ แต่ต๊อยว่าเขาคงจะไม่มาหาต๊อยอีกแล้วละ ”

“ พี่ก็ว่าอย่างงั้น เขาคงจะไม่ได้มาพบต๊อยอีกแล้ว ” ผมหลุดปากออกไปยังไงก็ไม่รู้

หล่อนเหลือบตาขึ้นมองผม

“ เสียงพี่ดุออก รู้ไหมพี่นี่นัยน์ตาก็ดุ เสียงยังดุอีก พี่ไม่ทำอะไรต๊อยอีกแล้วจริง ๆ นะจ๊ะ ”

ผมตบไหล่หล่อนเบา ๆ

“พี่เข้าใจต๊อยดีแล้ว ต่อไปนี้ พี่จะมีให้ต๊อยก็แต่ความรักและเอ็นดู ”

“ ปากหวานก็ได้นะ พี่นี่น่ะ ” หล่อนจิ้มนิ้วที่ปากผม “ น่าหวงออก อย่าให้ต๊อยถึงกับหวงก็แล้วกัน เดี๋ยวจะมีอันเป็นไปอีกคน ” แล้วหล่อนก็ลูบไล้เล่นกับร่างกายท่อนล่างของผม

ผมปล่อยให้หล่อนเพลินอยู่กับร่างกายส่วนนั้นของผมได้ไม่นาน มันก็ชักจะเอาเรื่อง

“ ต๊อยรักพี่อีกทีนะ ” แม่ต๊อยครางออกมา

ถามทำไมก็ไม่รู้

ผมหลับไปด้วยความอ่อนเพลียไม่รู้ว่านานเท่าไร ตอนที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั้น อากาศมันชักจะสลัว ๆ แล้ว โดนแม่ต๊อยกล่อมเสียจนหมดแรง หล่อนยังนอนซุกไหล่ผมอยู่ หายใจระรวย ตอนที่ผมรู้สึกตัวร่างกายเปล่าเปลือยทั้งคู่ พอผมขยับตัว หล่อนก็หรี่ตาขึ้นมองแล้วโอบแขนกอดผม พึมพำอู้อี้

“ คืนนี้นอนกับต๊อยที่นี่แหละนะพี่ ต๊อยก็จะไม่ไปทำงาน ”

ผมเขี่ยปอยผมที่เคลียที่หัวไหล่เล่น พูดว่า

“ พี่มีธุระที่จะต้องทำคืนนี้เสียด้วย เดี๋ยวต๊อยขับรถไปส่งพี่หน่อย ”

“ ส่งที่ไหนล่ะพี่ ”

“ ที่บ้านพี่ ”

“ เออ ดี ” หล่อนผงกหัวขึ้นมาพูด “ ต๊อยจะได้รู้จักบ้านพี่ไว้ ไม่ใช่บ้านที่พี่เอาต๊อยไปขังไว้นั่นนะ ”

“ ไม่ใช่ - - นั่นมันบ้านหลวง บ้านพี่เล็กกว่านั่นมาก ไปกันเถอะ ” ผมค่อย ๆ แกะแขนหล่อนออกแล้วลุกขึ้น แต่กลับหงายหลังดึงลงบนที่นอนอีก เรี่ยวแรงไม่รู้มันหายไปไหนหมด โดนแม่ต๊อยรีดเอาไปเสียหมดแรง แม่ต๊อยหัวเราะชอบใจ

ผมต้องค่อย ๆ ลุกขึ้น เข้าห้องน้ำจัดแจงชำระล้างกายให้สดชื่นขึ้น ออกมาจากห้องน้ำ แม่ต๊อยก็ยังนอนสิ้นแรงอยู่บนเตียง ผมต้องเข้าไปตีที่ก้น ไล่ให้เข้าห้องน้ำ จึงค่อย ๆ ผงกตัวลุกขึ้น เดินละเหี่ยไปเข้าห้องน้ำ

ผมมาถึงบ้านของผมเอาร่วมหกโมงเย็น จี๊ปของผมจอดอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว แต่ตัวไอ้ทองมารู้ว่ามันแอบอยู่ที่ไหน ผมเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบมันกำลังนอนเขลงอยู่ข้างเตียง เปิดวิทยุฟังเพลงลูกทุ่งอยู่อย่างสบายอารมณ์ มันผวารีบลุกขึ้นเมื่อเห็นผมถนัด แล้วเบี่ยงตัวหลบออกไปนอกห้อง มองผมอย่างระแวงระไว พอถึงประตู ผมก็ทำท่าขยับ มันก็เผ่นแวบออกประตูไป ไวยังกับลิง




 

Create Date : 30 กันยายน 2552
0 comments
Last Update : 30 กันยายน 2552 1:24:12 น.
Counter : 956 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.