ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 20)

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย"
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 20

เผ่า จับมือปืนยิงจอมพล ป.

ผมก็ไม่ทราบว่าสมัยนั้นหลักสูตรของนักเรียนนายร้อยทหารบกจะต้องเรียนกี่ปี จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า นักเรียนนายร้อย เผ่า ศรียานนท์ เรียนสำเร็จในปีไหน ออกรับกระบี่ยศร้อยตรีได้เมื่อไหร่ แต่มาทราบว่า ตอนที่ท่านไปอยู่เป็นนายทหารคนสนิทของท่าน จอมพล ป. พิบูลสงคราม สมัยที่ท่านจอมพลยังมียศแค่พันเอก เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยญี่ปุ่นขึ้นเมืองไทยนั้น ท่านมียศร้อยตรี เป็นนายทหารคนสนิทของท่านนายก ฯ ที่รู้ก็เพราะเกิดเรื่องมีการยิงท่านนายก ฯ ภายในบ้าน คนยิงเป็นคนใช้ในบ้าน ชื่อ นายลี บุญตา เป็นคนรับใช้ใกล้ชิด ขณะที่ท่านนายก ฯ หลวงพิบูล ฯ กำลังแต่งตัวจะออกไปทำงาน ขาข้างหนึ่งยังอยู่ในกางเกง ก็ถูกนายลี คนรับใช้ที่หยิบกางเกงให้ ควักปืนออกมายิงท่านนายก ฯ ต้องเขยกหนี เพราะขาข้างหนึ่งยังอยู่ในขากางเกง สลัดออกก็ไม่ได้ ต้องเขยกหนีไปรอบ ๆ ห้อง ก็มี ร้อยตรี เผ่า ศรียานนท์ นี่แหละที่ได้ยินเสียงปืน ก็วิ่งถลาเข้ามาในห้อง มาสกัดกั้นจับตัวนายลีไว้ได้ โดยไม่เสียเลือดเนื้อ

เป็นวีรกรรมอันแรกของท่านที่มีต่อท่านนายกรัฐมนตรี ได้ช่วยชีวิตท่านนายก ฯ ไว้อย่างกล้าหาญ นายลี บุญตา ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตในไม่กี่วันต่อมา

ท่านนายกรัฐมนตรี หลวงพิบูลสงคราม นั้นเป็นนายก ฯ ขึ้นมาด้วยการเชิญท่านพันเอก เจ้าคุณพหล พลพยุหเสนา นายก ฯ คนแรกของคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 ลงจากตำแหน่ง

ท่านเจ้าคุณพหล ฯ ท่านเป็นตัวหัวหน้าที่ของคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 นั้น ซึ่งเมื่อทำการสำเร็จใหม่ ๆ ได้เชิญท่านเจ้าคุณมโนปกรณ์นิติธาดา ซึ่งเป็นคนนอก เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาคณะผู้ก่อการก็เชิญท่านเจ้าคุณมโน ฯ ลงจากเก้าอี้ เพราะเป็นท่าจะไม่ดี ที่ได้เสี่ยงทำการชนิดเอาคอพาดเขียงจนสำเร็จแล้ว ทำไมถึงได้ไปเชิญเอาบุคคลภายนอกเข้ามาครองอำนาจ ท่านเจ้าคุณพหล ฯ ก็ต้องเชิญเจ้าคุณมโน ฯ ลงจากเก้าอี้นายก ฯ เสียดี ๆ ตัวขึ้นเป็นเองจะเหมาะกว่า

ในการต่อมาอีกไท้กี่ปี ประมาณปี 2481 – 2482 ชาวคณะผู้ก่อการคงจะเห็นว่าท่านเจ้าคุณพหล ฯ นั้น ท่านมีอายุมากเกินไป ปกครองประเทศไม่ทันอกท้นใจ ก็เลยเชิญท่านเจ้าคุณพหล ฯ ลงจากเก้าอี้ไปอีก และเชิญท่านพันเอก หลวงพิบูลสงคราม นายทหารหนุ่มเลือดแรง ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทน ตอนที่หลวงพิบูล ฯ ขึ้นเป็นนายก ฯ นั้น ท่านมีอายุเพียงสามสิบเศษ ๆ เท่านั้น ยังหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว

ผมจำใบหน้าท่าทางของท่านได้ติดตา เพราะเมื่อปี 2483 ต้นเดือนพฤษภาคม วันที่ 1 นั้น ผมสำเร็จออกมาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ได้ยศร้อยตำรวจตรี ท่านเป็นคนติดยศให้ผมบนบ่า ท่านยังพูดกระซิบที่หูผมเบา ๆ ว่า

“ บ่าร้อนจัง ”

จะไม่ร้อนยังไง ก่อนที่ท่านจะให้กระบี่ ติดดาว และให้ใบประกาศนียบัตรนั้น ท่านขึ้นยืนบนแท่นแล้วก็พูดให้โอวาทเสียยาวเหยียดร่วมชั่วโมง ยิ่งพูดก็ยิ่งมัน ผมจำได้ว่า ท่านใช้คำว่า “ ในที่สุด ” ซักสิบกว่าเที่ยวเห็นจะได้ พอพูดถึงในที่สุดนี้ ท่านก็จะพูดอะไรของท่านต่อไปอีก พวกเราก็นึกว่าจะจบ พอพูด ๆ ไปก็มาถึงคำ “ ในที่สุดนี้ ” อีก นึกว่าจะจบ ก็ยังไม่จบ ท่านติดลมบนเสียแล้ว จนเมื่อถึง “ ในที่สุดนี้ ” เราก็คิดว่าจะจบได้แล้ว แต่ก็ยังมีต่อ

ท่านใช้คำว่า “ ในที่สุดนี้ ” ถึงสิบกว่าเที่ยว จึงถึงจุดจบของโอวาทอันยาวเหยียดของท่าน พวกนักเรียนที่ยืนเข้าแถวคอยรับกระบี่ ติดดาว ก็ยืนกันขาแข็งอยู่ท่ามกลางแดดยามบ่ายร่วมชั่วโมง ฟังในที่สุดนี้ของท่านเพลินไป บางคนเกือบจะล้มทั้งยืน ดีที่เป็นคนหนุ่มแน่น ยังแข็งแรงอยู่ เพิ่งจะได้รับการฝึกฝนอย่างเฉียบขาดจากโรงเรียนมาหมาด ๆ ไม่งั้นก็ตงจะละลายเป็นขี้ผึ้งไปในกลางแดดนั้นแล้ว บ่ามันก็ร้อนไปทุกคน ท่านแตะมือลงบนบ่าเพื่อจะติดยศให้ ก็เลยบ่นออกมาว่า

“ แหม บ่าร้อนจัง ”

ในระยะนั้น ทางด้านยุโรป เยอรมันนำทัพเข้าบุกดินแดงแถบนั้นราบไปแล้ว เป็นการเปิดฉากสงครามโลกครั้งที่สอง พวกผมกำลังเรียนอยู่ปีที่สาม ปีสุดท้าย ก็เกือบจะต้องออกมารับราชการก่อนกำหนดเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ แต่ทางการเห็นว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะสำเร็จแล้ว จึงได้เรียนต่อจนจบหลักสูตรออกมารับกระบี่ตอนต้นปีได้ เดือนต่อมาในปีนั้น นักเรียนออกมาก่อนกำหนดอีกสองรุ่น ตามหลังรุ่นผมออกมา รุ่นต่อจากรุ่นผม ได้เรียนสองปีแปดเดือนก็ออกรับราชการ อีกรุ่นต่อมา ได้เรียนหนึ่งปีแปดเดือนก็ต้องออกตามมาอีก มารับหน้าศึก ข่าวญี่ปุ่นจะบุกเมืองไทยนั้นมีมานานแล้ว และในปี 2484 เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนที่นักเรียนรุ่นที่เรียนปีแปดเดือนออกมารับราชการนั้น ญี่ปุ่นก็บุกเมืองไทยในวันที่ 8 ธันวาคม 2484 นั่นเอง

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2553		0 comments
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2553 5:59:43 น.
Counter : 1157 Pageviews.
Share Tweet