กลับมาเป็นนักเรียนที่ดีอีกครั้งหนึ่งนะครับ หลังจากใจแตกไป 1 เดือนเต็มๆ คริๆ นั่งรอ นอนรอพี่โอมาแจ้งโจทย์เดือนนี้เลยครับ
ซึ่งเดือนนี้ก็ได้รับเกียรติจาก พี่บิ๊ บ่ง บ๊ง ในการออกโจทย์ให้ทำเมนูที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำสักที จะเป็นเมนูใหม่ที่อยากลองทำ เมนูที่่เคยเห็นแล้วต้องเก็บภาพและสูตรไว้ด้วยความชอบและชวนให้อยากลองทำมาก หรือเมนูที่เคยทำเมื่อนานมากแล้ว ซึ่งอร่อยและติดใจ แต่ยังไม่ได้ลองทำซ้ำอีกสักที จะเป็นอาหารคาวหรือขนมหวานได้ทั้งนั้น
ที่มาที่ไปของเมนูที่จะนำเสนอในวันนี้ถือว่าเป็นเมนูที่หาวัตถุดิบ (ที่ถูกใจ) ค่อนข้างยากครับ "เนื้อหอยแครง" ถึงจะมีขายตามตลาดสดทั่วไปแต่ส่วนมากจะมีขนาดเล็กไม่ถูกใจ ขนาดที่ใหญ่ถูกใจน่าจะเป็นที่แมคโครซึ่งก็ไม่ได้มีตลอด เรียกว่า "ตาดีได้ตาร้ายก็อด" เพราะฉะนั้นถ้าตั้งใจทำมากไปเดินหาเนื้อหอยแครงที่แมคโครมักจะไม่ได้ แต่ถ้าไม่ได้อยากทำมักจะเจอเนื้อหอยแครงตัวใหญ่ๆ อวบๆ ก็็เลยจัดการซื้อมาแช่ฟรีซเอาไว้แล้วไปตามหาใบชะพลูอีกที .... ดูประดักประเดิดมากๆ
แกงคั่วใบชะพลูหอยแครง
ส่วนประกอบ
เนื้อหอยแครงลวก
ใบชะพลูซอย
กะทิ (ไม่ต้องแยกหัว - หาง)
น้ำพริกแกงคั่ว
เครื่องปรุง
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา
วิธีทำ
แบ่งกะทิมาส่วนหนึ่งซัก 1 - 2 ถ้วย (แล้วแต่ปริมาณแกง) ใส่ลงในหม้อแล้วน้ำขึ้นตั้งไฟให้เดือด พอเดือดดีแล้วเคี่ยวต่ออีกซัก 5-7 นาทีให้กระทิข้นขึ้น ใส่น้ำพริกแกงคั่วลงละลายให้หมด หรี่ไฟลงเล็กน้อย เคี่ยวต่อจนหอมกลิ่นน้ำพริกแกง
(แกงคั่วโดยทั่วไปแล้วจะไม่ให้กระทิแตกมันมากนะครับจึงไม่ต้องผัดน้ำพริกก่อน เทคนิคการทำแกงคั่วต้องใจเย็นๆครับ รอให้กะทิข้นขึ้นเรื่อยๆจะหอมกลิ่นน้ำพริกแกงเองครับ ถ้ากะทิแห้งเกินไประหว่างที่เคี่ยวกับน้ำพริกแกงก็ค่อยๆเติมกะทิลงไปได้นะครับ)
พอกะทิหอมกลิ่นเครื่องแกงดีก็ปรุงรสส่วนหนึ่งก่อนด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาให้ออกเค็มนำติดหวานนิดเดียว - ซึ่งถ้าใช้กะทิสดก็จะออกรสหวานนิดๆอยู่แล้ว
ใส่เนื้อหอยแครงลวกลงไป เคี่ยวต่อซัก 10 - 15 นาที ให้น้ำแกงซึมเข้าเต็มที่ ระหว่างนี้ถ้ากะทิแห้งไปก็ค่อยๆเติมได้ครับ
ใส่ใบชะพลูซอยลงไป เล็งดูให้ปริมาณเนื้อแกงพอดีๆกับน้ำแกงนะครับ ใบชะพลูจะคายน้ำออกมานิดหน่อยครับ ถ้าจะเติมกะทิควรจะรอให้ใบชะพลูสุกเต็มที่ก่อน ชิมรสดูอีกที พอเดือดอีกทีก็ปิดไฟได้ครับ
ตักเสิร์ฟ
แกงคั่วร้อนๆ รับประทานกับข้าวสวย
ลักษณะขอแกงจะข้นๆ มีน้ำพอดีๆกับเนื้อแกง รสชาติจะออกเผ็ดๆ เค็มๆ หวานนิดๆครับ