Group Blog
|
ทนายอ้วนพาเที่ยว - ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โรงพยาบาลอภัยภูเบศร สถานที่ท่องเที่ยว : ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โรงพยาบาลอภัยภูเบศร, ปราจีนบุรี Thailand พิกัด GPS : 14° 3' 15.65" N 101° 23' 42.45" E ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เลขที่ 32/7 หมู่ 12 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำบางปะกงครับ ในปี พ.ศ. 2452 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ว่าจ้างบริษัท โฮวาร์ด เออร์สกิน สร้างตึกเพื่อใช้เป็นที่ประทับแรม รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมิ่อเสด็จฯ มายังมณฑลปราจีนบุรี จะได้สมพระเกียรติ แต่ยังสร้างไม่ทันเสร็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสรรคตเสียก่อนในปีพ.ศ. 2453 ในปี พ.ศ. 2455 ตึกหลังนี้ได้ใช้รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ถึงแก่อสัญกรรม ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เป็นมรดกตกทอดมาถึงพระยาอภัยวงศ์วรเศรฐ และถวายเป็นของทูลพระขวัญ ในวันอภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 (พระนามเดิมว่า เครือแก้ว อภัยวงศ์ ทรงมีศักดิ์เป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานบ้านและที่ดินทั้งหมดเป็นสิทธิ์ขาดแก่พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 ขณะพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีประทับที่ประเทศอังกฤษ ได้พระราชทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นแก่มณฑลทหารบกที่ 2 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้เป็นที่ทำการโรงพยาบาลปราจีนบุรี เนื่องจากทรงมีพระประสงค์จะสนองพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระองค์มีพระประสงค์จะสร้างโรงพยาบาลอยู่แล้ว ต่อมาเมื่อเสด็จนิวัตประเทศไทย พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ได้พระราชทานนามใหม่เป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2509 โดยสมเด็จเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เสด็จฯ มาทรงเปิดป้าย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมทั้งทรงรับโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ของทั้งสองพระองค์ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตัวอย่างของอาคารแบบตะวันตกที่สร้างขึ้นในจังหวัดปราจีนบุรี มีรูปแบบสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกับศิลปะแบบ French Baroque ผสมผสานกับลวดลายปูนปั้นที่เลียนแบบศิลปะแบบ Rococo โดยมีรูปแบบคล้ายคลึงกับตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่สร้างขึ้นก่อนในเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา อาคารนี้เป็นที่ระลึกถึงความจงรักภักดีของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เจ้าเมืองพระตะบองในขณะนั้น ที่อพยพผู้คนจากเมืองพระตะบองเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและตั้งถิ่นฐานในจังหวัดปราจีนบุรีในคราวที่สยามจำต้องสูญเสียดินแดนพระตะบองเพื่อแลกกับจันทบุรีและตราดภายหลังจากวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแบบยุโรปความสูง 2 ชั้น หลังคาทรงบั้นหยา มุงกระเบื้องสี่เหลี่ยมเล็ก ด้านหน้าของทั้ง 2 ชั้นมีโถงระเบียงซึ่งยื่นออกมารองรับหน้าบันที่ชั้นหลังคาโดยมีโดมเตี้ยๆอยู่เบื้องหลัง ส่วนของหน้าบันประดับลวดลายปูนปั้นรูปต้นไม้และใบไม้ มีเครื่องบอกทิศทางลมด้วยโลหะรูปไก่อยู่บนส่วนบนของอาคาร ซุ้มประตูหน้าต่าง ขื่อ คาน เสา ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นเป็นลายใบไม้ม้วนช่อดอกไม้ม้วนลายขมวดก้นหอย ลายหน้าสิงห์ ลายรูปช้าง พื้นอาคารทุกห้องปูด้วยกระเบื้องโมเสคลวดลายต่าง ๆ ซึ่งเป็นลวดลายดั้งเดิมตั้งแต่สร้างตึกเสาบันไดทำเลียนแบบเสาโรมัน และระเบียงราวบันไดเป็นไม้แกะสลักลวดลาย เพดานห้องมีภาพเขียนสีแบบปูนเปียกหรือ fresco ซึ่งแต่ละห้องจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ส่วนด้านในตึกแบ่งออกเป็น 4 ห้องได้แก่ 1. ห้องแสดงประวัติของเจ้าพระยาภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) ![]() 2. ห้องที่สองเป็นห้องที่งดงามที่สุดคือ ห้องโถงกลางชั้นล่าง ซึ่งยังคงลักษณะการตกแต่งภายในเป็นแบบเดิมอยู่ครบถ้วนตั้งแต่ลวดลายกระเบื้องปูพื้นภาพเขียนสีปูนเปียก (fresco) บนเพดานและลายปูนปั้น ปัจจุบันใช้เป็นห้องโถงที่จัดแสดงรูปปั้นของเจ้าพระยาภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) และพระฉายาลักษณ์ของ พระนางเจ้าสุวัทนาพระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งทั้งสองพระองค์เป็นหลานและเหลนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และยังมีการจัดแสดงของใช้ประจำตัวของท่านที่น่าสนใจ เช่น ตราประทับของท่านที่ทำมาจากงาช้าง กระดุมเสื้อที่สลักเป็นรูปไก่ และตะเกียงโบราณ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() 3. ห้องชั้นล่างซีกซ้ายของอาคารจัดรวบรวมเครื่องมือเทคโนโลยีในการผลิตยาในอดีต เช่น หินบทยาในสมัยทวารวดี ครกบดยา รางบดยา มีดหั่นสมุนไพรแห้ง และยังมีการจัดแสดงตัวอย่างสมุนไพรและเครื่องดองที่มีใช้ในอดีต เช่น รากของว่านสาวหลง จะมีกลิ่นหอม คนไทยสมัยก่อนเชื่อว่าเพียงแต่ใครพกติดตัวไปทิศทางใดผู้ที่ได้กลิ่นก็จะงงงวยและหลงใหลอย่างยิ่ง สมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักคือสาบแร้งสาบกาทั้งต้นสามารถแก้ไข้ นอกจากพืชสมุนไพรแล้วยังมีเขาสัตว์ชนิดต่างๆกระดูกและแร่ธาตุที่ใช้ในการรักษาอีกด้วยในห้องนี้ยังมีการรวบรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หมอยาเคารพนับถือ และมีดหมอหลวง ในอดีตซึ่งผู้ที่จะเป็นหมอยาพื้นบ้านได้นั้นต้องมีความอดทนขยันมีคุณธรรมและต้องเป็นผู้ที่มีศิลเพราะการรักษาของหมอยา เป็นการใช้สมุนไพรรักษาควบคู่ไปกับคาถาเวทมนตร์ต้องมีการบูชาครูทุกครั้งที่มีการรักษาผู้ป่วย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() 4. ชั้นบนของอาคารได้จัดแสดงเกี่ยวกับความรู้ตำรับตำรายาไทยโบราณตำราดั้งเดิมของไทยที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์มีตั้งแต่คัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทยสมุดข่อยและหนังสือหายากจำนวนมากกว่า 200 เล่ม ฉบับที่เป็นคัมภีร์ใบลานและหนังสือสมุดไทยมีอายุร่วม 100 ปีเขียนด้วยลายมือภาษาโบราณ เช่น อักษรขอม ไทยน้อย ภาษาบาลีเป็นต้น ถูกจัดไว้ในหมวดหมู่ตามระบบการจัดเอกสารโบราณและได้รับการซ่อมแซมเพื่ออนุรักษ์ให้คงอยู่กับคนไทยตลอดไป เดิม ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ถูกใช้เป็นตึกอำนวยการของโรงพยาบาล ได้มีการดัดแปลงทำชั้นล่างเป็นห้องตรวจโรค ห้องจำหน่ายยา และห้องผ่าตัด ชั้นบนทำหน้าที่รับคนไขัหญิง โดยมีเรือนคนไข้ชายแยกต่างหาก มีเตียงรับคนไข้ 50 เตียง มีโรงประกอบอาหารคนไข้ โรงซักฟอก ที่เก็บศพ เรือนพักคนงาน บ้านพักนายแพทย์ อย่างละ 1 หลัง บ้านพักพยาบาลอีก 3 หลัง การเข้าถึงโรงพยาบาล เข้าได้ทางเรือเพียงอย่างเดียว จนมีการสร้างถนนขึ้นในปี พ.ศ. 2486 จนถึงปี พ.ศ. 2512 ตึกอำนวยการในปัจจุบันได้ก่อสร้างเสร็จ ส่วนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรใช้ในการประชุมสัมมนาในบางกรณี โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรบำบัดรักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติของกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2533 นอกจากนี้ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังได้รับรางวัลพระราชทานอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี 2542 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศในขณะนั้น) ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีสำหรับข้อมูลครับ ตำนานอภัยภูเบศร เล่าขานตำนานแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร – museumthailand.com โรงพยาบาลอภัยภูเบศร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร – วิกิพีเดีย ตึกอภัยภูเบศรให้ชมอีกครั้ง ลายกุหลาบค้นพบใหม่ – thaipost.net ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ![]() ![]() ![]() เป็นอาคารแบบสมัยก่อนเลยนะครับ ชื่ออภัยภูเบศรได้เห็นบ่อยๆ ครับ
โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ตามเที่ยวครับ
มีเพื่อนบล็อกแก๊งชื่อวนารักษ์ หรือ หมออ๋า ทันตแพทย์ทำงานที่นี่ครับ ![]() โดย: สองแผ่นดิน
![]() ![]() ตึกแบบนี้น่าสงสัยจริง
ว่าเจ้าของเดิมยังสถิตย์อยู่หรือเปล่าคุณบอล ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: หอมกร
![]() ![]() อาคารเก่าๆ
สำหรับผมมีเสน่ห์มากครับ ดูได้ไม่เบื่อเลย อาคารหลังนี้ก็สวยงามมากครับ สีสันตัดกัน ด้านในอาคารก็คลาสสิก อาการกรดไหลย้อนเวลาเป็นขึ้นมา ทรมานมากเลยนะครับ จะนั่งจะนอนมันอึดอัดตัวไปหมดเลย ขอให้คุณบอลหายเร็วๆนะครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ตึกงดงามมากทั้งภายนอก ภายใน รวมถึงสวนด้วยนะคะ
ขอบคุณคุณบอลที่พาชมค่ะ ![]() โดย: Sweet_pills
![]() ![]() |
ทนายอ้วน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Friends Blog
|
จำได้ว่าตอนที่ไป ได้ซื้อเหมือนเป็นไม้อะไรสักอย่าง จะเอามาต้มน้ำกินค่ะ
สุดท้ายไม่ได้ต้มเลย ถุงไม้ก็หายไปแย้วววววว
ผ่านห้องที่เค้านวดกัน อยากนวดบ้างค่ะ แต่อด ต้องจองคิดไว้ก่อน
ไปเขื่อนขุนด่านมาด้วยค่ะ แดดร้อนม๊ากกกกกกกกกกกกกก 55555