เมื่อปลายเดือนที่แล้วเจ้าของบล็อกได้รับคำเชิญจากคุณหนุ่มให้ไปชิมบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่ร้าน Guru Gyuu สาขา2 ซึ่งสาขา 2 นี่เพิ่งเปิดใหม่ ทางร้านมีบุฟเฟ่ต์ราคาใหม่เริ่มวันแรกในวันเสาร์ที่23 มิถุนายน ที่ผ่านมาแต่เจ้าของบล็อกไปไม่ได้เนื่องจากติดงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนๆมัธยม6 อาทิตย์ถัดมาก็ติดพาน้ำปิงไปเที่ยวชะอำกับเพื่อนๆ เพิ่งจะว่างไปชิมเมื่อเสาร์ที่6 มิถุนายนที่ผ่านมาเองครับ 

Guru Gyuu สาขา 2 สะพานควาย

วิธีการมาร้าน  Guru Gyuu สาขา2  ก็มาไม่ยากเลยครับใช้ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิพอผ่านแยกสะพานควายก็ให้ชิดซ้ายๆไว้ครับ พอเห็นธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ก็ให้ชิดซ้ายไว้ได้เลยครับร้าน Guru Gyuu สาขา 2 จะอยู่เป็นร้านที่สองถัดจากทางเข้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ (ร้านแรกเป็นร้านแหนมเนื่อง) ถ้าเอารถไปเองสามารถจอดรถได้ข้างร้านประมาณ 5คัน จอดในซอยข้างร้านได้อีกจำนวนหนึ่ง และถ้ามาหลัง 18.00 น. หรือวันเสาร์ –อาทิตย์ ก็สามารถจอดริมถนนหน้าร้านได้อีกครับ

สำหรับท่านที่ไม่อยากเอารถมาเองก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าBTSมาลงที่สถานีสะพานควายได้นะครับ แล้วลงทางฝั่งธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ แต่จะเดินไกลหน่อยครับ

ลักษณะร้าน GuruGyuu สาขา 2 เป็นร้านประเภทห้องแถวจำนวน 2ติดกัน ภายในกว้างขวางใช้ได้ครับ ทั้งร้านตกแต่งแนวญี่ปุ่นโมเดิร์นใช้สีดำ – แดงเป็นหลังมีสีเหลืองมาแซมๆเล็กน้อยเพื่อความสดใสครับหน้าร้านวางเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งรอจำนวนหนึ่งครับ 

พอเข้าไปในร้านก็มีที่นั่งเยอะอยู่เหมือนกันครับนอกจากนั้นบนชั้นลอยของร้านก็ยังกั้นเป็นห้องอีกส่วนหนึ่งด้วยแต่ว่าไม่ได้ขึ้นไปดูครับว่ามีกี่โต๊ะแต่รวมๆน่าจะประมาณ 20 กว่าๆโต๊ะนะครับ สำหรับระบบการดูดควันของร้าน  Guru Gyuu สาขา2 ไม่ได้ใช้ระบบต่อท่อขึ้นบนเพดานเหมือนกับร้านปิ้งย่าง ทั่วไปนะครับแต่ทางร้านใช้ระบบการต่อท่อกำจัดควันจากตัวเตาลงด้านล่างในร้านจึงไม่มีควันมารบกวนเลยถึงแม้ว่าจะมีลูกค้าเต็มร้านก็ตามไฟที่ปิ้งก็แรงดีมากๆครับ ถ้าเอาเนื้อ หรือหมูไปปิ้งประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นก็จะสุกด้านหนึ่งและกลับด้านได้เลยครับ และตัวกระทะก็เป็นเทฟลอนทำให้อาหารที่ปิ้งไม่ติดกระทะเวลาที่ปิ้งๆไปซักพักก็จะมีน้องๆพนักงานมาเช็ดกระที่ปิ้งให้ด้วยบริการดีเยี่ยมเลยครับ

เวลาเปิด – ปิด ร้านนะครับ วันจันทร์ –วันอังคาร เปิดเวลา 16.30 – 23.00 น.และวันพุธ – วันอาทิตย์ เปิดเวลา 11.30 –23.00 น. ครับ 

แนะนำเมนูของร้านก่อนนะครับสำหรับท่านที่มีเวลาน้อย หรือไม่ถนัดแนวบุฟเฟ่ต์ทางร้านก็มีเมนู ala cart ให้ด้วยนะครับ เป็น Happy Lunch Set เป็นเนื้อตุ๋นกูรูStewed Beef กับ หมูตุ๋นกูรู Stewed Pork Rib + ซุป และชาเขียว 1 แก้ว ในราคาพิเศษ 119 บาท (จากราคา 149 บาท) วันพุธ – ศุกร์ ก่อนบ่าย 3 โมง

บุฟเฟ่ต์ราคา 299 บาท เมนูทั้งหมด 19 เมนู /ทานได้ 2 ชั่วโมง / ไม่รวมเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นเมนูบุฟเฟ่ต์อย่างด่วนในเวลาจำกัด(เฉพาะวันพุธ – ศุกร์ ก่อนบ่าย 3 โมงเท่านั้น) 

บุฟเฟ่ต์ราคา   444 บาท (เด็กที่มีส่วนสูง 100 – 120 ซม 250บาท) มีเมนูทั้งหมด 33 เมนู / ทานได้ 2ชั่วโมง / ไม่รวมเครื่องดื่ม ราคานี้รวมพุดดิ้งและผลไม้ 1 ชุด ให้ด้วยนะครับ 

บุฟเฟ่ต์ราคา 555 บาท (เด็กที่มีส่วนสูง 100 – 120 ซม 300 บาท) มีเมนูทั้งหมด 52 เมนู / ทานได้ 2 ชั่วโมง /ไม่รวมเครื่องดื่ม ราคานี้รวมพุดดิ้งและผลไม้1 ชุด ให้ด้วยเช่นกันครับ

สำหรับเครื่องดื่มทางร้านไม่ได้รวมไว้ในราคาบุฟเฟ่ต์ก็เพราะว่าบางทีลูกค้าไม่ได้เน้นเครื่องดื่มครับแต่ทางร้านก็มีเครื่องดื่มรีฟิลไว้บริการในราคา 55 บาท / ท่าน โดยสามารถเลือกเครื่องดื่มได้ไมอั้นจากเครื่องดื่ม10 ชนิด และสามารถเปลี่ยนเครื่องดื่มได้ตลอดในเวลา 2 ชั่วโมงครับ

และมาถึงไฮไลท์สำหรับวันนี้ครับ BuffetSuper ราคา 1555 บาท(เด็กที่มีส่วนสูง 100 – 120 ซม 899 บาท) ซึ่งนอกจากจะมีเมนู 52 เมนูจแล้วก็ยังมีเมนูซุปเปอร์เพิ่มขึ้นมาอีก 13 เมนู ทานได้ 2 ชั่วโมง / รวมขนมหวานและเครื่องดื่มแล้ว (ให้บริการที่ร้าน Guru Gyuu สาขา 2เท่านั้น)

สำหรับเมนูของ Buffet Super จะเป็นเมนูทุกเมนูที่อยู่ในบุฟเฟ่ต์ตั้งแต่ราคา 299 / 444 และ 555 และมีเมนูสุดยอดวัตถุดิบอีก 13 เมนู ครับเดี๋ยวเราค่อยมาดูกันนะครับว่าแต่ละเมนูดีงามอย่างไร

และสำหรับคอเหล้าทั้งหลายในช่วงโปรโมชั่นนี้ถ้าสั่งชุดบุฟเฟ่ต์ราคา1555 บาท สามารถดื่มเครื่องดื่มอัลกอร์ฮอส์ได้ไม่อั้นภายใน 2 ชั่วโมงด้วยนะครับเครื่องดื่มมีให้เลือกมากมายตั้งแต่เบียร์สิงห์ เบียร์อาซาฮี ไฮเนเก้น สาเกเยลลี่สาเกร้อน สาเกเย็น เหล้าบ๊วยและโซจู เครื่องดื่มทุกอย่างจะเสิร์ฟทั้งขวดครับแต่มีข้อแม้ว่าต้องดื่มให้หมดนะครับ ยกเว้นเหล้าบ๊วยและสาเกเย็นจะเสิร์ฟเป็นแก้วแต่สามารถดื่มได้ตลอด 2 ชั่วโมงเช่นกันครับ

สำหรับโปรโมชั่นคอเหล้าต้องรีบกันหน่อยนะครับเพราะว่าทางร้านแจ้งว่าโปรโมชั่นนี้จะมีถึงก่อนเข้าพรรษา วันที่ 30 กรกฎาคานี้เท่านั้นครับเพราะทางร้านสนับสนุนแคมเปญ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ครับ

น้ำจิ้มที่ร้านนี้มี 4 ชนิดครับ คือ

น้ำจิ้มซีฟู๊ด (สูตรเฉพาะของทางร้าน)น้ำจิ้มอันนี้เด็ดมากครับ เปรี้ยว เผ็ด กำลังดีทีเดียว  น้ำจิ้มกิว ทะเระอันนี้ก็เป็นสูตรของทางร้านอีกเช่นเดียวกันครับ รสออกเค็มๆ หวานๆ เปรี้ยวนิดๆทานแล้วสดชื่นดีครับ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเผ็ดมากครับ แต่ถ้าชอบทานเผ็ดก็ปรุงพริกกระเทียมบีบมะนาวเพิ่มได้นะครับ  น้ำจิ้มโคชูจังสำหรับจานนี้เจ้าของบล็อกคิดว่ารสอ่อนไปนิดนะครับ  และน้ำจิ้มมิโซะ หรือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นน้ำจิ้มแบบนี้ถ้าไม่ชอบทานเผ็ดก็จะออกรสชาติเค็มๆ หวานนิดๆ แต่ถ้าชอบแบบแซ่บๆ ไทยๆก็ใส่กระเทียม พริก แล้วบีบมะนาวลงไปก็ได้ครับ

สำหรับคนที่รักการรับประทานเนื้อขอกระซิบดังๆเลยว่าร้าน  Guru Gyuu เค้าคัดสรรแต่เนื้อคุณภาพเยี่ยมๆมาทั้งนั้น ในบุฟเฟ่ต์ราคา 299 / 444 และ 555 บาท ทางร้าน Guru Gyuu จะใช้เนื้อเกรดพรีเมี่ยมอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นสุดยอดเมนู 13 เมนูบุฟเฟ่ต์ในราคา 1555 บาทเป็นเนื้อเกรดซุปเปอร์ที่เรียกว่า A 5 เลยครับ ตามปกติแล้วจะเป็นเมนูราคาแพงในร้านอาหารแบบHi end เท่านั้นครับ คุณหนุ่มยังย้ำนักย้ำหนาว่า“เนื้อของเราเป็นเนื้อไทยเกรดพรีเมียมและเกรดซุปเปอร์ครับ” ซึ่งในการหาเนื้อไทยเกรดพรีเมี่ยมและเกรดซุปเปอร์ก็ไม่ได้หามาง่ายๆเลยเพราะวัวเนื้อไทยยังมีน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคแล้วเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมก็ยิ่งมีน้อยลงไปอีก เนื้อบางส่วนก็จะมีปริมาณที่น้อยมากในวันหนึ่งตัวแล้วคุณหนุ่มก็ยังต้องไปตามล่าหาเนื้อส่วนนั้นมาให้ลูกค้าที่น่ารักอย่างเราๆด้วยอิอิอิ

ทีนี้เรามารู้จักกับสุดยอดเมนูทั้ง  13 เมนูกันครับ

ซุปเปอร์บูลโกกิ เป็นเนื้อหัวไหล่เกรดพรีเมี่ยมเนื้อนุ่มพอให้เคี้ยวได้ รสชาติเนื้อแบบไม่จิ้มน้ำจิ้มเข้มข้นมากๆครับ 

ลิ้นวัวซุเปอร์ เนื้อส่วนที่เรียกว่าลิ้นวัวทางร้าน  Guru Gyuu จะคัดมาเฉพาะโคนลิ้นครับเพราะจะมีความนุ่มกว่าส่วนปลาย ขอบอกว่าเนื้อส่วนนี้สุดยอดมากเลยครับรสสัมผัสจะหนึบๆ นุ่มๆ ให้ความรู้สึกแตกต่างกับการทานเนื้อส่วนอื่นๆ แต่ก็ยังมีความนุ่มอยู่ด้วย เรียกว่า“กำลังกิน” พอดีๆเลยครับ

คารุบิ ส่วนนี้จะเป็นเนื้อติดซี่โครงคัดพิเศษเกรดซุปเปอร์ครับเค้าจะหั่นแบบติดซี่โครงนิดๆมาด้วย รสสัมผัสก็จะเหนียวนุ่ม กำลังเคี้ยวเลยครับ เจ้าของบล็อกชอบเนื้อส่วนนี้เป็นพิเศษเลยครับ

ซุเปอร์คารุบิ เป็นเนื้อติดซี่โครงคัดพิเศษเกรดซุปเปอร์เช่นกันครับแต่เค้าจะแล่เอากระดูกซี่โครงออกหมด รสชาติก็เหมือนกับเนื้อส่วนคารุบินะครับแต่ว่าไม่มีกระดูกซี่โครงมากวนใจตอนกินเท่านั้น

เนื้อใบพาย ของทางร้าน GuruGyuu จะเป็นเนื้อใบพายคัดพิเศษเกรดซุปเปอร์ครับ เนื้อใบพายเป็นส่วนที่เล็กมีปริมาณน้อยกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ ลักษณะขอเนื้อใบพายจะเป็นเส้นด้านหนึ่งจะมีความหนากว่าอีกด้านหนึ่ง  เนื้อส่วนใบพายนี้มีความนุ่มมากที่สุดครับเพราะเป็นเนื้อที่อยู่ส่วนด้านในๆเข้าปากละลายเลยทีเดียวครับ

หอยนางรมสด ทางร้าน GuruGyuu สั่งตรงมาจากญี่ปุ่นทีเดียวนะครับคุณหนุ่มเล่าให้ฟังว่าตอนที่สั่งมาจากญี่ปุ่นยังเป็นๆอยู่ ถ้าทานสดๆรสชาติของตัวหอยจะเข้มข้นกว่าหอยนางรมเมืองไทยครับ

ขาปูกูรู เป็นขาปูอลาสก้า ครับ ขาปูขาใหญ่มว๊ากกก เนื้อแน่นดีจริงๆทางร้าน  Guru Gyuu จะนำเข้ามาแบบสุกแล้วครับรับประกันเรื่องความแน่นครับ

กุ้งลายกูรู ทางร้านจะใช้กุ้งลายเสือ หรือกุ้งม้าลายตัวใหญ่ๆ ครับ ความยาวของตัวกุ้งมากกว่า S4 อีกนะครับมันที่หัวกุ้งเยิ้มๆเลยคราบบบ

หอยจำแลง ทางร้าน GuruGyuu จะใช้หอยหวาน หรือหอยหมาก ตัวโตๆ ที่ละ 4-5 ตัวครับ เนื้อจะกรึบๆ เคี้ยวสนุกมากๆครับ วิธีสังเกตุว่าหอยชนิดนี้สุกดีหรือยังก็ให้ลองแกะออกจากเปลือกดูถ้าแกะง่ายๆแสดงว่าสุกดีแล้วครับ

อกเป็ดรมควัน รสเข้มข้นมากๆครับ ไม่เหม็นสาบเป็ดเลยครับ

3 เมนูสุดท้ายเป็นเมนูแบบ ทาทากิคือเป็นเมนูที่สามารถกินดิบๆได้เลยมี กิว ทาทากิที่เป็นเนื้อย่างด้านนอกพอสุกราดทาทากิซอส มากุโร่ ทาทากิที่เป็นเนื้อแดงของปลาทูน่าย่างให้ด้านนอกพอสุกแล้วราทาทากิซอส และเมนูซาลมอนทาทากิ ที่เป็นเนื้อปลาซาลมอนย่างให้ด้านนอกพอสุกแล้วราทาทากิซอสเช่นกันเมนูทาทากินี้สามารถกินแบบดิบๆ โรยเกลือ บีบมะนาวนิดหน่อยหรือจะเอามาปิ้งให้สุกอีกทีก็ได้รสชาติที่แตกต่างออกไปครับ 

พอหมด 13เมนูซุปเปอร์คุณหนุ่มก็จัดเมนูอื่นๆมาให้อีกล้วนแต่เป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้านทั้งนั้นเช่นกุ้งแม่น้ำ หอยเชลส์ ไส้กรอก ปลาหมึกไข่ หนวดปลาหมึก และหน่อไม้ฝรั่งสดอันนี้ขอพูดรวมๆเลยนะครับชอบทุกเมนูครับ ไส้กรอกจะเป็นไส้กรอกเกรดส่งออกญี่ปุ่น ย่างแล้วหนังกรุบๆกรอบๆ มากๆ เช่นเดียวกับหนวดปลาหมึกและหอยเชลส์เคี้ยวสนุกมากๆหน่อไม้ฝรั่งเวลาโดนความร้อนแล้วหวาน หอมดีจังครับ ปลาหมึกไข่ทางร้านการันตีว่าเป็นปลาหมึกไข่ทุกตัวครับแต่ถ้านอกฤดูทางร้านจะแจ้งล่วงหน้าครับ 

พอหมดอาหารชุดที่  2 เราก็อิ่มกันพอดีครับเหลือบมองดูเวลาเราใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงพอดีๆเลยครับ ของหวานเลยขอ Mini Pudding กับผลไม้ครับ  .... กระซิบว่า MiniPudding นี่เป็น signatureของร้านเหมือนกันครับ 

โดยรวมแล้ว ร้าน GuruGyuu เมนูมีคุณภาพอาหารหลากหลาย เลือกแต่ของดีๆมาบริการให้ลูกค้าครับ เนื้อที่มีบริการทางร้านก็จะหั่นตามออร์เดอร์ไม่มีการหั่นเอาไว้ก่อนรับประกันความสดสะอาด บริการก็ดี กระทะย่างก็เป็นเทฟล่อนไม่ติดกระทะ เช็ดทำความสะอาดก็ง่าย ระบบกำจัดควันก็ดีรับประทานเสร็จไม่มีกลิ่นควันติดตัวเลยครับราคาก็มีให้เลือกตามความพอใจ อย่างนี้ต้องบอกต่อแล้วครับ

สอบถามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/GuruGyuu

หรือที่ Line ID: gurugyuu

Chubby Lawyer’s Café’ ……………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน