Group Blog
|
ทนายอ้วนพาเที่ยว - เกาะกระแสละคร "บางระจัน" พาไปเที่ยว - อนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจัน จ.สิงห์บุรี สถานที่ท่องเที่ยว : อนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี, สิงห์บุรี Thailand พิกัด GPS : 14° 48' 18.41" N 100° 19' 14.02" E ขอเกาะกระแสละคร บางระจัน ของช่อง 3นิดนึงนะครับพอดีว่าเป็นรูปที่ไปเที่ยวมานานแล้วอยากจะเอามาลงบล็อกแต่ไม่รู้ว่าจะเขียนออกไปทางไหนดีพอดีที่ช่อง 3 มาโปรโมทละครฟอร์มยักษ์เรื่อง บางระจันก็เลยสวมรอยช่วงนี้เอามาโพสซะเรย อิอิอิ
มีเรื่องขำปนความเอ๋อนิดนึงจะมาเล่าให้ฟังนะครับก่อนจะไปอนุสาวรีย์วีรชนบ้านบางระจันเราก็ไปตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรีเพื่อไปซื้อปลาช่อนแม่ลากันก่อนเสร็จแล้วก็ว่าจะไปเที่ยวอนุสาวรีย์วีรชนบ้านบางระจันกัน ตอนแรกก็ไม่ได้เปิด GPRSนะครับ ประมาณมั่นใจมากว่าจะต้องอยู่ที่ อำเภอบางระจัน แน่ๆ(อะไรดลใจให้คิดอย่างนั้นก็ไม่รู้ครับ)พอไปถึงอำเภอบางระจันก็หาอนุสาวรีย์วีรชนบ้านบางระจันไม่เจอ วนอยู่หลายตลบถึงได้เปิด GPRS แล้วถึงได้รู้ว่าอนุสาวรีย์วีรชนบ้านบางระจันไม่ได้อยู่ทิ่อำเภอบางระจันแต่อยู่ในเขตอำเภอค่ายบางระจัน จากอำเภอเมืองถ้าจะไปอำเภอบางระจันจะต้องไปทางขวาแต่ถ้าจะไปอำเภอค่ายบางระจันให้ไปทางซ้าย แถมให้ว่าเลยตลาดสดเทศบาลไปไม่ไกลเลย ....แหม่ๆ ความโง่มันมาก่อนความฉลาดนะครับ ขับชมวิวไปกลับประมาณ 40กิโลเมตรเท่านั้นเอง อิอิอิ
ห้ามถามนะครับว่าอนุสาวรีย์บางระจันไปยังไงเพราะเจ้าของบล็อกกด GPRS มาคราบ (แล้วกด GPRSมาจากอำเภอบางระจันด้วยถ้าใครจะตามรอยการเดินทางต้องไปตั้งต้นที่อำเภอบางระจันนะ ฮ่าๆๆ)เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมามากมายครับ กด GPRS คำว่า อนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจันเท่านั้น GPRS ก็จะพาคุณๆมาถูกที่จนได้ครับ สังเกตดีๆนะครับอนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจัน ของแท้ต้องอยู่ตรงข้าม วัดโพธิ์เก้าต้น นะครับถ้าผิดไปจากนี้ให้คิดว่าน่าจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่ถูกต้องครับ
อนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจัน อยู่ภายในอุทยานวีรชนค่ายบางระจัน อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีประมาณ15 กิโลเมตรบนทางหลวงหมายเลข 3032 และอย่างที่ได้บอกไปแล้วอยู่คนละฝั่งถนนกับวัดโพธิ์เก้าต้นซึ่งเป็นวัดสำคัญที่มีบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับวีรกรรมของชาวบ้านบางระจันด้วยครับ
ภายในอุทยานวีรชนค่ายบางระจันทำเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีอนุสาวรีย์วีรชนชาวบ้านบางระจันเป็นจุดศูนย์กลางของสวนสาธารณะ บริเวณรอบๆได้จำลองค่ายในสมัยโบราณและมีศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์วีรชนค่ายบางระจันโดยจัดห้องนิทรรศการแบ่งออกเป็นห้องๆ3 ห้อง ห้องแรกจัดแสดงเรื่องค่ายบางระจัน เครื่องใช้โบราณ แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยหนังใหญ่ ส่วนห้องที่สองจัดแสดงมรดกเมืองสิงห์บุรีและห้องที่สามแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองสิงห์บุรีและของดีเมืองสิงห์บุรี
จากที่จอดรถเราต้องออกแรงเดินไปยังอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันแต่เป็นระยะทางที่ไม่ไกลครับตัวอนุสาวรีย์สร้างบนเนินสูงต้องขึ้นบันไดหลายขั้นเลยครับ เฉพาะอนุสาวรีย์สร้างเป็นรูปเหมือนของหัวหน้าวีรชนชาวบ้านบางระจันทั้ง11 คน มี นายแท่น นายดอก นายดอกแก้ว นายอิน นายเมือง ขุนสรรค์ พันเรืองนายทองแสงใหญ่ นายโชติ นายทองเหม็น และนายจันทร์หนวดเขี้ยวทำท่าพร้อมจะต่อสู้กับพม่า กองหัตถศิลปกรมศิลปากรเริ่มดำเนินการหล่ออนุสาวรีย์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2509 จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะนำไปติดตั้งได้ในพ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาในวโรกาสเปิดอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันเมื่อวันที่29 กรกฎาคม 2519 มีพระราชดำรัสไว้ว่า
"วีรกรรมในครั้งนั้นเป็นของผู้ที่รักแผ่นดินไทยเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทั้งมวลทั้งในอดีตและปัจจุบันมีกำลังใจและเตือนสติให้มีความสามัคคีและรักษาจิตใจให้เข้มแข็งเพื่อรักษาประเทศไทยให้ตนเองและเพื่อความมั่นคงของแผ่นดิน....."
ที่ฐานด้านหนึ่งของอนุสาวรีย์มีคำจารึกไว้ว่า
"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด ณ วันที่... เดือน... พุทธศักราช ๒๕๑๙ เมื่อเดือนสาม ปีระกา พุทธศักราช ๒๓๐๘ นายจันหนวดเขี้ยว นายโชติ นายดอก นายทองแก้ว นายทองเหม็น นายทองแสงใหญ่ นายแท่น นายเมือง พันเรือง ขุนสรรค์ และนายอิน ได้เป็นหัวหน้ารวบรวมชาวบ้านตั้งค่ายต่อสู้พม่าที่บ้านบางระจัน มีพระอาจารย์ธรรมโชติเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาคมบำรุงขวัญ ตั้งแต่เดือนสี่ ปีระกา พุทธศักราช ๒๓๐๘ จนถึงเดือนเจ็ด ปีจอพุทธศักราช ๒๓๐๙ วีรชนค่ายบางระจันได้ต่อสู้พม่าด้วยความกล้าหาญและด้วยกำลังใจอันเด็ดเดี่ยว ยอมสละแม้เลือดเนื้อและชีวิตเพื่อรักษาแผ่นดินไทย รบชนะพม่าถึงเจ็ดครั้ง จนพม่าครั่นคร้ามฝีมือ รัฐบาลและประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์นี้ขึ้น
เพื่อประกาศเกียรติคุณของวีรชนค่ายบางระจันให้ยั่งยืนชั่วกาลนาน"
เรื่องราวของวีกรรมชาวบ้านบางระจันเป็นการรบเพื่อป้องกันตัวเองของชาวบ้านละแวกเมืองสิงห์บุรีที่พากันมากหลบหนีภัยศึกพม่าอยู่ที่บางระจันในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 ชาวบ้านบางระจันได้ร่วมกันสู้รบต้านทานทัพพม่าได้ถึง 8 ครั้งในระยะเวลานานถึง 5เดือน
นักวิชาการประวัติศาสตร์ในปัจจุบันบางท่านมีความเห็นว่าเรื่องราวของชาวบ้านบางระจันที่สู้รบกับพม่าจะตัวตายอาจจะมีจริงหรือไม่มีจริง หรือถ้ามีอยู่จริงก็เป็นพียงการต่อสู้กับพม่าเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้นเพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกเกี่ยวกับชาวบ้านบางระจันมีเพียงพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเท่านั้น ไม่ปรากฏในพงศาวดารหรือบันทึกทางประวัติศาสตร์ฉบับอื่นแม้แต่พงศาวดารร่วมสมัยคราวสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เช่น คำให้การชาวกรุงเก่า หรือแม้แต่ในพงศาวดารของฝ่ายพม่าเองด้วยในช่วงที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ระบาดรัฐบาลในสมัยนั้นได้ยกเอาวีรกรรมของชาวบ้านบางระจันเป็นตัวอย่างในความรักชาติบ้านเมือง ได้บรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนรู้ของนักเรียน มีเพลงปลุกใจทำเป็นละครและทำเป็นภาพยนตร์
ในความคิดของเจ้าของบล็อก ถึงแม้ว่าวีรกรรมของชาวบ้านบางระจันในความจริงแล้วเป็นแค่เพียงการป้องกันตัวจากผู้รุกรานและอาจจะต่อสู้ไม่ถึง 5 เดือน ดังที่นักวิชาการประวัติศาสตร์สมัยใหม่ได้ให้ความเห็นไว้แต่เรื่องราวของการสู้เพื่อป้องกันตัวเองจากภัยที่มาถึงตัวก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่องเชิดชูนะครับ
ปูลู ตอนแรกว่าจะเอารายละเอียดเรื่องการรบของชาวบ้านบางระจันกับประวัติหัวหน้าวีรชนชาวบ้านบางระจันมาเขียนไว้ด้วยแต่คิดว่ามันคงละเอียดเกินไปถ้าสนใจจะอ่านเนื้อหาที่เป้นประวัติศาสตร์มากๆแล้วคลิกที่ลิงค์ข้างล่างเลยนะคราบ
วิกิพีเดีย การรบที่บางระจัน
//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8% A3%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9% 88%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%
Sutasinee 101 - วีรกรรมชาวบ้านบางระจัน
sadoodta.com อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน และอุทยานค่ายบางระจัน
//www.sadoodta.com/info/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8% B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8% B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3% E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2% E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0% B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8% B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0% B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0% B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99
Chubby Lawyer Tour ............................ เที่ยวไป .... ตามใจฉัน
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะน้องบอล
ว่าแต่พาเที่ยวอย่างเดียว ไม่มีพาชิมด้วยเหรอคะ โดย: เนินน้ำ วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:15:34:04 น.
มาตามคุณบอลไประลึกความหลังด้วยคนค่ะ
เคยไปครั้งนึงนานมากแล้ว จะให้ไปอีกรอบก็คงไปไม่ถูกเหมือนกันค่ะ สมัยนั้นไปตามแผนที่ และอาศัยถามชาวบ้านแถวๆนั้นไป ^_^ โดย: phunsud วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:15:41:07 น.
เรื่องอาหารนี่ต้องยกให้ทนายอ้วนค่ะ แม่โมถนัดแต่เรื่องลูก กะเรื่องเที่ยวอิ อิ
โดย: mariabamboo วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:17:05:55 น.
อ่านแล้วฮึกเหิม ถึงวีรกรรมของชาวบ้านผู้กล้านะคะ
แต่สำหรับละครเรื่องบางระจันเวอร์ชั่นใหม่ ยังไม่แน่ใจ..อิอิ เห็นแต่เทรลเลอร์ มีดาราหน้าลูกครึ่งเมคอัพจัดเต็มอยู่หลายหน่อ แต่ก็นั่นแหละ พี่ไม่ค่อยใช่แฟนละครเท่าใดอ่ะค่า น้องบอลเขียนได้รายละเอียดครบถ้วนมาก ๆ นะคะ โดย: secreate วันที่: 9 มกราคม 2558 เวลา:1:02:22 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 157 คน [?] Friends Blog
|
เรายังไม่เคยไปเลยค่ะคุณบอล
เห็นที่เม้นท์เลยต้องถาม เค้าปลดเพราะทะเลาะหรือมันครบหกเดือนแล้วปะคะ? อย่างของเราตอนนี้ก็ปลดแล้ว เพราะครบหกเดือนหลังแล้วน่ะค่ะ แหะๆ
แล้วมีอะไรกันคะนั่น? ถึงได้ทะเลาะกันง่ะค่ะ?