:: เมื่อพ่อแม่ต้องตอบคำถามเรื่องโรงเรียนทางเลือก ::
:: เมื่อพ่อแม่ต้องตอบคำถามเรื่องโรงเรียนทางเลือก ::
สถานที่ : โรงเรียนต้นกล้า เชียงใหม่
หมิงหมิงปิดเทอมไปเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 จบการศึกษาในระดับอนุบาล 1 เป็นที่เรียบร้อย
จนถึงวันนี้พ่อก็ยังคงพูดคุย และตอบคำถามเรื่อง “โรงเรียนทางเลือก” อยู่เสมอๆ
คำถามเดิมๆ และต้องคอยตอบซ้ำๆ
“หมิงหมิงเรียนที่ไหน ?”
“โรงเรียนทางเลือกเป็นยังไง ?”
“ไม่มีสอบแล้ววัดผลแบบไหน ?”
“ทำไมยังไม่เรียนอ่านเขียนอีก ?”
“จบอนุบาลสามจะเอาไปเรียนต่อที่ไหน ?”
“อะไรนะ..ไม่มีการสอบ แล้วเวลาสอบเรียนต่อจะทำได้หรือ ?”
“การเรียนการสอนเป็นอย่างไรบ้าง?”
“สงสัยจะให้เด็กไปวิ่งเล่นเฉยๆล่ะมั้ง ก็เด็กยังเล็กอยู่นี่นา ?
ฯลฯ
ทุกครั้งที่มีคนถาม พ่อก็ตอบไปตามความรู้สึกของตัวเอง ไม่ได้อ้างอิงหลัก “วิชาการ” อะไรเลย เพราะพ่อเป็นพวกเชื่อในหลัก “วิชาเกิน” 5555
ทฤษฎีที่มีก็คงอธิบายได้ละเอียดอยู่แล้ว ว่าการจัดระบบการศึกษาทางเลือกนั้นเป็นอย่างไร มีกี่รูปแบบ มีกี่วิธี ใครเป็นคนค้นคิด ประเทศไหนทดลองใช้เป็นที่แรก
นั่นเป็นหลักวิชาการที่พ่อก็ศึกษามาเช่นกัน
แต่ที่สุดแล้ว.... นิยามความหมายของพ่อ
การศึกษาสำหรับเด็กเล็กแบบลูก ก็คือ การเรียนรู้ผ่านความสนุกสนาน ไม่ใช่ผ่านการบังคับและยัดเยียด
ลูกไม่ต้องรีบเก่ง ลูกไม่ต้องรีบเขียนอ่าน ลูกไม่ต้องรีบเติบโต
คติประจำใจของพ่อคือ
เดินช้าช้า เดินเรื่อยเรื่อย อย่าหยุดเดิน
พ่อใช้วิธีคิดแบบนี้ในการดำเนินชีวิต และเมื่อพ่อมีลูก พ่อก็อยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตแบบนี้เช่นกัน (ถ้าลูกชอบ)
การเรียนรู้ในความหมายของพ่อ ต้องเป็นการเรียนรู้ผ่านความชอบ ความสนใจและรักในการเรียนรู้
สมัยที่พ่อเรียนหนังสือ มีหลายครั้งที่พ่อไม่ชอบวิธีการสอนของครู ไม่ชอบเนื้อหาวิชาที่ครูสอน แต่พ่อต้องเรียน ต้องทำ ต้องสอบ เพราะถูกบังคับและวัดผล
หลายคนเชื่อว่าการเรียนการสอนแบบนี้ ทำให้เด็กเก่งและมีระเบียบวินัย
แต่พ่อไม่ชอบวินัยที่สร้างจากกฎและระเบียบที่แข็งทื่อ พ่อชอบวินัยที่เกิดขึ้นในตัวเองด้วยความยืดหยุ่น
พ่อไม่ชอบการสั่งให้ทำโดยไม่มีเหตุผล แต่ชอบให้การเรียนรู้เกิดขึ้นผ่านความเต็มใจและความสนใจใคร่รู้
โรงเรียนในระบบใช่จะมีแต่ข้อเสีย แน่นอน...ข้อดีก็มี แต่พ่อชอบการเรียนการสอนในระบบโรงเรียนทางเลือกมากกว่า
เพราะเป็นการเรียนรู้ผ่านความสนุกสนาน เป็นการศึกษาอย่างมีความสุข และเรียนรู้ในสิ่งที่เด็กชอบและสนใจจริงๆ
ลูกเรียนจบชั้นอนุบาล 1 ที่โรงเรียนต้นกล้าแล้ว
พ่อพอใจในวิธีการสอนของครูเป็นอย่างมาก เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้านที่เป็นไปในเชิงบวก เห็นความสุขที่เกิดขึ้นทุกๆวันที่ลูกไปโรงเรียน หลายอย่างที่เป็นนิสัยด้านลบก็ค่อยๆปรับปรุงแก้ไขกันไป โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างครูและผู้ปกครอง
มีคำถามที่พ่อแอบยิ้มในใจ มีคนถามพ่อว่าอยากให้ลูกเรียนมหาวิทยาลัยที่ไหน ?
เขาถามพ่อว่าลูกจะเรียนในระดับปริญญาตรีที่ไหน ทั้งๆที่ลูกของพ่อเพิ่งเรียนอนุบาล 1
พ่อแม่เดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันไปหมดแล้วหนอ ?
พ่อไม่มีมีคำตอบหรอกครับ
พ่อว่าคนเรามีความสุขไปทีละวันก็พอแล้ว การเรียนรู้ก็เหมือนกัน ไม่ต้องไปเร่งที่จะรู้จักวิชาความรู้จนหมดโลกหรอก การคิดแบบนั้นมันทำให้เราเหนื่อย
ชอบอะไร รักอะไร สนใจสิ่งใด เรียนรู้สิ่งนั้นนะลูก
แล้วก็มีความสุขกับการเรียนรู้ในสิ่งที่ลูกรักอย่างดีที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่พ่อและคาดหวังที่จะเห็นจากการศึกษาของลูก
พ่อคาดหวังเพียงเท่านั้นเอง
Create Date : 23 มีนาคม 2555 |
|
88 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2556 7:31:27 น. |
Counter : 1645 Pageviews. |
|
|
คติประจำใจของพ่อคือ
เดินช้าช้า
เดินเรื่อยเรื่อย
อย่าหยุดเดิน
^^
ชอบประโยคนี้ของพี่ก๋ามากเลยค่ะ
น้องหมิงหมิง โชคดีจังเลยค่ะ ที่มีคุณพ่อที่พร้อมเข้าใจลูกแบบพี่ก๋า