แรกแห่งแสง ตอนที่ 1
แรกแห่งแสง ตอนที่ 1
10 มิถุนายน 2551
โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ; เชียงใหม่ 10.02 น.
สวัสดีครับหมิงหมิง....
พ่อเขียนบันทึกถึงลูก ขณะนั่งรออยู่ในห้องพักหมายเลข 720 ตอนนี้แม่ของลูกหลับอยู่ในห้องพักฟื้นหลังจากผ่าตัด ส่วนหมิงหมิงนอนอยู่ในห้องเด็กอ่อน
ในที่สุด... วันที่พ่อและแม่รอคอยก็มาถึง แม้จะมาก่อนกำหนดไปสองวันก็ตาม...
................................
เที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน แม่เริ่มบ่นปวดท้อง แต่เมื่อดูจากกำหนดนัดการคลอด คุณหมอนัดไว้ในวันที่ 12 มิถุนายน อายุครรภ์ 38 สัปดาห์ แต่อาจเลื่อนขึ้นเลื่อนลงได้บวกลบประมาณ 3 วัน ตามที่คุณหมออธิบายไว้ก่อนหน้านั้น
ดีที่เมื่อคืนอยู่ๆพ่อก็ลุกขึ้นมาถูห้อง ดูดฝุ่น แม่ของลูกจัดเตรียมเสื้อผ้าและกระเป๋า สำหรับมาอยู่โรงพยาบาลในช่วงที่คลอดลูก
..................................
ประมาณตีสี่กว่าๆ... แม่ลุกขึ้นมาบ่นกับพ่อว่า รู้สึกเจ็บเตือนถี่ขึ้น เมื่อเปิดตำราคู่มือการตั้งครรภ์ดู ดูเหมือนว่า...ลูกใกล้จะคลอดแล้ว
6 โมงเช้า :
แม่เดินออกมาจากห้องน้ำ และบอกพ่อว่ามีมูกเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด รู้สึกว่าท้องแข็งขึ้นและเจ็บเตือนถี่ขึ้น
6 โมงครึ่ง :
พ่อกับแม่แต่งตัว ก่อนที่พ่อจะขับรถพาแม่มาโรงพยาบาล ใช้เวลาขับรถจากบ้านมาที่โรงพยาบาลเพียง 15 นาที
7.15 นาที :
พ่อกับแม่นั่งรออยู่ที่ห้องคลอดที่ 4 สูตินารีแพทย์เข้ามาตรวจดูครรภ์ของแม่ ก่อนเดินมาแจ้งให้พ่อทราบว่าช่องคลอดเปิด 2 เซนติเมตรแล้ว ต้องทำการคลอดภายในวันนี้เลย
8 โมงเช้า :
พยาบาลเข้ามาทำความสะอาดร่างกายของแม่ เจาะน้ำเกลือ เปลี่ยนชุดแต่งกาย เพื่อเตรียมเข้าห้องผ่าตัดในเวลาประมาณ 9 โมงเช้า
ระหว่างที่รออยู่ในห้องรอคลอด พ่อถ่ายรูปและชวนแม่ของลูกคุยตลอดเวลา พยายามคุยให้แม่หัวเราะเพื่อลดความเครียดและความกลัว
8.45 น. :
พ่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของโรงพยาบาล เพื่อเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดกับแม่ คุณหมอถามพ่ออีกครั้งว่า
“ไม่กลัวเลือดแน่นะ”
พ่อตอบว่า “ไม่กลัวครับ”
“ถ้าเป็นลมในห้องคลอด ปรับ 50 เท่าเลยนะ” คุณหมอพยายามถามย้ำให้แน่ใจ
“ถ้าปรับ 5 บาท 50 เท่าผมยอมจ่ายครับ”
คำตอบนี้เล่นเอาคุณหมอและพยาบาลหัวเราะกันลั่นเลย
พูดจบพ่อก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แม่ของลูกนอนรออยู่บนเตียงผ่าตัดโดยฉีดยาชาและยาบล็อกหลังเรียบร้อย
พ่อเดินไปยืนข้างๆแม่ คอยชวนคุยไปเรื่อยๆ คุณหมอและทีมแพทย์พยาบาลทำงานกันอย่างคล่องแคล่ว ทุกอย่างราบรื่นดีมาก
พ่อเดินถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอไปเรื่อยๆ....
พยาบาลเดินเข้ามาถามว่ากลัวเลือดไหม พ่อบอกว่าดูได้ครับ คุณพยาบาลเลยบอกว่าเดินมาดูด้านล่างก็ได้ จะเห็นชัดกว่ายืนอยู่ด้านบนซึ่งไม่เห็นอะไรนอกจากหน้าของแม่ แถมยังบอกด้วยว่าถ้าหน้ามืดจะเป็นลม ให้นั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างๆ และรีบบอกพยาบาลด่วน
แต่พ่อถ่ายรูปได้ครับ ทั้งตอนที่หมอผ่าตัดช่องท้องของแม่ และตอนที่คุณหมอควักลูกออกมาจากท้องของแม่ รวมทั้งบันทึก “เสียงแรก” ของลูกที่ร้องไห้ลั่นห้องคลอดด้วย
หมิงหมิงเกิดเวลา 08.59.05 น. น้ำหนักแรกเกิด 3390 กรัม ความสูง 53 เซ็นติเมตร
พยาบาลบอกว่าลูกตัวใหญ่มากทีเดียว มิน่าตอนที่อยู่ในท้องแม่ลูกถึงดิ้นเก่งมากจริงๆ
ในที่สุดเด็กชายณัชก็ลืมตาขึ้นมาดูโลก... และเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อและแม่ซะที
.....................................
18.00 น. :
พ่อกับแม่ได้เห็นหน้าของหมิงหมิงชัดๆ ตอนเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง หลังจากที่พยาบาลเข็นแม่ขึ้นมาจากห้องพักฟื้น พ่อขึ้นมารอแม่ในห้องพักประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ
ตอนที่พยาบาลเข็นลูกขึ้นมาที่ห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ก๋ง อาม่า และกิ๋มทั้งสองคนของลูกมาเยี่ยมพอดี
พยาบาลพยายามให้แม่ลองให้ลูกดูดนมเพื่อกระตุ้นน้ำนม ตอนนี้เต้านมของแม่ยังไม่มีน้ำนมครับ คงใช้เวลาอีกสัก 2-3 วัน จึงจะมีน้ำนมมากพอให้ลูกดื่ม
พ่อถ่ายรูปไว้เพียบเลยครับ คุณหมอขึ้นมาที่ห้องยังแซวว่า
“ว่ายังไงคุณพ่อขี้เห่อ...นี่ถ้ายังใช้ฟิล์มอยู่ สงสัยจะถ่ายรูปไปเป็นสิบม้วนแล้วมั้ง”
นั่นสิ....พ่อไม่รู้ว่าถ่ายรูปลูกไปเยอะขนาดไหน
พยาบาลพาหมิงหมิงขึ้นมาที่ห้องทุกๆ 3 ชั่วโมง ให้อยู่เล่นกับพ่อและแม่พักนึง แล้วจึงเข็นลงไปที่ห้องเด็กอ่อนเพื่อให้ลูกพัก
แม่เองจะได้พักด้วย เพราะยังคงเหนื่อย เพลียจากการเสียเลือด และเจ็บบาดแผลผ่าตัด แต่พักไม่ได้ต่อเนื่องหรอกครับ เพราะทุกๆครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่และพยาบาล จะผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาดูแล เปลี่ยนน้ำเกลือ วัดไข้ ทำความสะอาดร่างกายแม่
ลูกขึ้นมาที่ห้องครั้งที่ 2 ตอนห้าโมงเย็น.... เที่ยวนี้ลูกร้องไห้และไม่ค่อยยอมดูดนม เดี๋ยวสามทุ่มขึ้นมาอีก ตั้งใจดูดนมให้ดีดีนะครับ
กระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ก่อนหน้าวันคลอดหนึ่งวัน
เคสแรกยามเช้าตรู่....บรรยากาศหน้าห้องรอคลอด
เตรียมตัว...เตรียมใจ
เหมือนไปปิคนิกมั้ยครับ 555555
โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ......
Create Date : 26 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2551 13:16:08 น. |
|
59 comments
|
Counter : 1246 Pageviews. |
|
|
|
|
การเตรียมตัว เตรียมใจ
เพื่ออะไรสักอย่าง
จะว่าไปแล้วมีหลายอารมณ์มาก
อารมณ์แบบนี้
ดีดีไม่เคยเจอ
แต่พอเห็นภาพแล้ว
โอ๊ยยยย
ทำไมมันดูมีความสุขนักก็ไม่รู้