<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
20 มิถุนายน 2555

:: การศึกษาและการศึกษาและการศึกษา ::






:: การศึกษาและการศึกษาและการศึกษา ::
















“การศึกษาไม่ได้หมายความว่าต้องเรียนมหาวิทยาลัย
ไม่มีตังค์เรียนก็ไม่เป็นไร เพราะโลกทั้งใบ
การศึกษาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่ ทุกโอกาส
ถ้าไม่เข้าใจ ไม่มีใจ
แม้แต่ในสถานศึกษาก็ไม่เรียกว่าการศึกษา
เป็นการประกอบพิธีกรรมเฉยๆ

เราคิดแบบนี้มานาน โลกของเราเป็นแบบนี้
ไม่เคร่ง เหมือนปล่อยลูกเข้าเซเว่นฯ เข้าโลตัส
หลายคนหัวเราะเยาะ เป็นไปได้ยังไง
กวีพาลูกเข้าห้าง ผมถือว่าที่ไหนเราก็ได้ความรู้
ในห้างก็มีร้านหนังสือ ผมพาลูกไปทุกที่
เพื่อนบางคนผิดหวังในตัวเรามาก
เพราะลูกเขาไม่แตะแม้แต่เป๊บซี่
เขาโฆษณาใหญ่โตว่าลูกไม่ดื่มน้ำอัดลม
เวลาดื่มต้องแอบๆไม่ให้คนเห็น เพราะไม่งั้นเสียฟอร์ม


บางทีผาเมฆ (ลูกชายของคุณศักดิ์สิริ) ถามว่า
พ่อ ขอกินน้ำไม่มีประโยชน์ครึ่งหนึ่งได้ไหม
ขอกินเป๊บซี่ น่าสงสารไหมล่ะ
เราบอก...เอาเลยลูก


ช่วงบ้าบิ๊กซีก็เข้าไป เล่นของเล่นให้มันรู้ไปเลย
สอนเขาไปด้วยว่าเดี๋ยวลูกก็เบื่อ โตขึ้นก็เบื่อ
ผมไม่ปิดกั้น แม้แต่เหล้า บุหรี่
พ่อ ขอลองจิบเบียร์หน่อย
เอาเลยลูก ให้เขาเต็มที่ เต็มที่กับเขา
ไม่เคยคิดทำ Home School เข้าระบบไปเลยลูก
ระบบที่ไม่ดี ไปเจอเลย
ครูที่งี่เง่า ไปเจอเลย
ถ้าครูงี่เง่า เราอย่างี่เง่า
เอาประโยชน์ให้ได้
ครูใจร้าย มองให้เห็นแง่ดีมีประโยชน์ให้ได้
ครูดุ ไม่มีเหตุผล ทนเอา
สำคัญอยู่ที่ตัวเรา


บางครั้งพ่อแม่ก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกัน
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรงี่เง่า ทำอะไรโง่ๆได้
ก็สอนเขาไป






ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

: กวีซีไรท์


จากหนังสือ - WRITER ปีที่ 1 ฉบับที่ 5


























บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้
ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวสองเรื่องที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวของการศึกษา


ครั้งหนึ่งมีนักวิจัยและนักภูมิศาสตร์เดินทางขึ้นไปบนยอดดอย
เพื่อทำการเก็บข้อมูลด้านการพยากรณ์อากาศ
สามวันเต็มๆที่นักวิจัยกลุ่มนี้ทำการเก็บข้อมูลด้วยเครื่องมือราคาแพง
จนในที่สุดผลการประมวลข้อมูลของเครื่องมือ
ก็บ่งชี้ว่าจะมีฝนตกในอีกห้าวันข้างหน้า

ชาวเขาผู้นำทางมองดูเครื่องมือนี้อย่างสนใจ
เขาถามว่ามันทำอะไรได้บ้าง
นักวิจัยบอกว่ามันเป็นเครื่องมือพยากรณ์อากาศ
สามารถบอกได้ว่าจะมีฝนตกในอีกกี่วันข้างหน้า
และจะตกหนักเพียงใด

ชาวเขาเลยบอกว่าเขาไม่ต้องใช้เครื่องมือยุ่งยากแบบนี้เลย
และสามารถบอกได้ว่าฝนจะตกเมื่อไหร่
นักวิจัยเลยลองให้ชาวเขาแสดงวิธีการให้ดู

ชาวเขาเอามีดพร้าที่เหน็บเอวอยู่
ปักลงไปในดิน เมื่อดึงขึ้นมามีเศษดินแดงติดอยู่ตรงคมมีด

“อีกสองวันมีฝนตกแน่นอน”


นักวิจัยพากันหัวเราะกับวิธีการของเขา
แต่แล้วสองวันต่อมาฝนก็ตกลงมาจริงๆ.....

ชาวเขาเล่าว่าเขาดูสภาพของดินที่ติดขึ้นมากับคมพร้า
ถ้าดินแฉะแสดงว่ามีความชื้นในดินและอากาศมากพอที่จะเกิดฝนนั่นเอง



















อีกเรื่อง....เป็นเรื่องเล่าแบบขำขันแนวเสียดสี


นักวิทยาศาสตร์ของรัซเซียและอเมริกากำลังแข่งขันกันอย่างหนัก
ในเรื่องการพัฒนาโครงการสำรวจอวกาศและจักรวาล

สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุด คือ การจดบันทึกข้อมูลลงในกระดาษ
เพราะในยานอวกาศนั้นมีสภาพไร้แรงดึงดูด
ปากกาหมึกไม่สามารถเขียนตัวอักษรได้
ทุกครั้งที่เขียนหมึกจะไหลย้อนกลับออกมาเป็นหยดกลมๆ
ลอยไปในอากาศที่ไร้แรงดึงดูด


ทีมนักวิทยาศาสตร์อเมริกันจึงทุ่มเงินกว่า 3 ล้านเหรียญ
ใช้เวลาทดลอง ค้นคว้าและสร้างปากกานานกว่า 3 เดือน
ในที่สุดก็สามารถผลิตปากกาแบบพิเศษ
ที่ใช้เขียนข้อความลงบนกระดาษได้โดยหมึกไม่เลอะเทอะ

พวกเขาประกาศความสำเร็จนี้ไปทั่วโลก

และเมื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องนี้
ไปยังทีมนักวิทยาศาสตร์รัซเซีย
พวกเขาได้รับคำตอบว่า



“พวกเราไม่เสียเงินซักกะแดงเดียวเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้
พวกเราใช้ดินสอเขียนว่ะ”


















การศึกษา คือ สิ่งที่เราต้องทำให้ผู้เรียน “งอกงาม”
ความงอกงามทางความคิด
เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่ “งอกเงย”


ผมคิดว่าบางทีสิ่งที่สำคัญมากกว่า “ความรู้”
คือ “วิธีคิด” ที่จะนำมาซึ่งความรู้
และ “วิจารณญาณ” ที่จะกลั่นกรองข้อมูลนับล้าน
เพื่อการต่อยอดความคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากสิ่งเก่า




สิ่งที่สำคัญมากกว่าการเป็นคนเก่งและท่องจำข้อมูลได้เยอะ
น่าจะเป็นความสุขและความสนุกขณะเรียนรู้


ความรู้ไม่ควรถูกจำกัดไปด้วยข้อจำกัด
ไม่ควรถูกกรอบกฎ ชุดความเชื่อ หรือทัศนคติของผู้ใหญ่
ครอบงำและตัดสินว่าอะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้

เด็กควรได้มีโอกาสลองคิด ลองค้น
ลองคว้าโอกาสในการแสงหาคำตอบด้วยตัวเอง
โดยมีผู้ปกครองและครู ตลอดจนสิ่งแวดล้อม
ที่เอื้อต่อการค้นหาคำตอบของเขา


วิธีนี้จะทำให้ “วิชาการ” เป็น “วิชาเกิน”



วิชาที่เกินกว่าการเรียนรู้ในกรอบแคบๆ
แต่เป็นองค์ความรู้ที่เกินออกไปจากตำราที่มีอยู่
และทำให้การศึกษาไม่เป็นเพียงเรื่องที่น่าเบื่อในห้องหับและสถานศึกษา






















หลายครั้งที่เราดูข่าว
พบนักประดิษฐ์ที่สามารถทำอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้เองในบ้านได้
ทั้งๆที่เรียนจบประถม 4

เกษตรกรบางท่านวางแผนและจัดการระบบต่างๆในสวนของตนเองได้ยอดเยี่ยม
ชนิดที่ตำราในมหาวิทยาลัยใดก็ไม่มีสอน

เรามีปราชญ์ชาวบ้านมากมายที่แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะในการปฏิบัติงาน
แต่เราไม่เคยนำภูมิปัญญาเหล่านั้นมาต่อยอดและสอนเด็กของเรา


เราปล่อยบุคคลและความคิดทรงคุณค่าเหล่านี้
ล่องลอยผ่านไป

แม้จะมีการยกย่องบุคคลเหล่านี้
แต่เราก็ทำอย่างฉาบฉวย
วาบเดียวแล้วลืมเลือน

ในขณะที่นักการศึกษาและนักการเมืองหลายชุด
ไปคิดค้นปรับปรุง เพื่อหวังเปลี่ยนแปลงปฏิรูประบบการศึกษาของชาติ
ซึ่งที่ผ่านมาก็พิสูจน์ไปแล้วว่า
มันไม่เคยได้ผลที่ดีเลยไม่ว่าจะเป็นสมัยรัฐบาลใด....
















การศึกษาคืออะไร ?
อะไรคือการศึกษา ?


ไม่ต้องไปถามรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ไม่ต้องไปถามนักการศึกษา

ถามตัวเรานั่นล่ะ...

เราเรียนมาแบบไหน ?
เราชอบสิ่งที่เราเคยเรียนมาหรือไม่ ?
ความรู้แบบไหนที่เรารู้มา
แล้วมันแก้ปัญหาในชีวิตของเราได้บ้างไหม ?

ที่สุดแล้ว....การศึกษาแบบนั้นมันทำให้เราเป็นอย่างไร ?
มีวิธีคิด มีมุมมองต่อโลกและตัวเองอย่างไร ?

คำถามแบบนี้ต่างหากที่จะตอบตัวเราเองได้
ว่าการศึกษาที่แท้จริงนั้น คือ อะไร ?









Create Date : 20 มิถุนายน 2555
Last Update : 27 มกราคม 2556 7:33:10 น. 84 comments
Counter : 2301 Pageviews.  

 
เจิมก่อน แล้วค่อยมาอ่าน


โดย: simplyusana วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:6:07:06 น.  

 
สวัสดีครับ

เห็นเวลาในการอัปบล๊อคของคุณก๋าแล้ว แสดงว่าหายดีแล้วใช่ไหม

ทุกวันนี้ก็ยังศึกษาอยู่ เวลานี้ก็เรียนรู้อยู่กับคุณก๋า ฮิๆ


โดย: จิรโรจน์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:6:22:59 น.  

 
มาสวัสดีก่อน สาย ๆ จะแวะมาอ่านเพิ่มครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:6:43:30 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณก๋าในยามเช้าครับ

การศึกษาของประเทศเราปรับเปลี่ยนกันได้เกือบทุกสมัย
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ดูว่าใช้เวลาลองผิดลองถูกกันอยู่ทุกปีการศึกษา
ดูว่ายังคงต้องหาการศึกษาที่ถูกต้อง และเหมาะสมกันต่อไป


โดย: ถปรร วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:6:45:53 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า

เป็นพล็อตที่เร่งรีบเขียนเพื่อส่่งค่ะ
ไม่จัดว่าเป็นการระบายเท่าไหร่ มีความรู้สึกปนเปบ้างเล็กน้อย อิ อิ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:6:51:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ

เช้านี้ยุ่งมาก.. แว๊บ..ทักแล้ว ไปล่ะ


โดย: Poongie @ bloggang IP: 115.67.0.160 วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:7:10:04 น.  

 
นาน ๆ จะเข้ามาที แวะมาเยี่ยมและอ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการศึกษาค่ะ


โดย: malarn cha วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:7:15:07 น.  

 

การเรียนรู้ด้วยตัวเองที่มีผู้ใหญ่คอยดูแลความปลอดภัย
เด็กก็จะได้รู้ผิดรู้ถูก เช่นบอกว่าเปลวเทียนร้อนนะ อย่าจับ
ยิ่งบอกอย่า เขาก็ยิ่งอยากรู้ ก็บอกลองดูนิดๆซิ จะได้รู้ว่าร้อนจริง ทุกอย่างให้ลองก็ต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ค่ะ

น้องหมิง หมิง มีความสุขจัง

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:7:17:06 น.  

 
อรุณสวัสดิ์จ๊ะหมิง หมิง
ไปโรงเรียนด้วยกันนะจ๊ะemo


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:7:28:47 น.  

 
ประสบการณ์บางครั้งเป็นบทเรียนมีค่า
มากกว่าการนั่งเขียน นั่งอ่านในห้องเรียนแคบๆ
เพราะประสบการณ์คือโลกกว้างของการเรียนรู้

......


รอบหน้า สเปนเจอฝรั่งเศสค่ะพี่ก๋า


โดย: fonrin วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:7:44:32 น.  

 
สวัสดีคะคุณก๋า

บางทีพ่อแม่ก็ไม่มีเหตุผลอย่างที่คุณศักดิ์สิริเขียนไว้นะคะ
เราเองก็มีลูกเป็นกระจกสะท้อน
ให้ปรับการแนะนำสั่งสอนในบ้าน

วันนี้ใช้เวลาอ่านเยอะเลยคะ
จากที่บ้านแล้วมาอ่านอีกในที่ทำงาน
สุขสันต์ัวันพุธค่ะคุณก๋า


โดย: A IP: 119.46.151.21 วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:03:02 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อ้อย

เวลาสอนลูก
หลายครั้งผมต้องเตือนตัวเองก่อน
ว่าเราก็เป็นคนธรรมดานะ
เราไม่ไ่ด้เป็นอัจฉริยะ
เราไม่ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ

แล้วทำไมเราไปเรียกร้องความสมบูรณืแบบจากลูก

วิธีคิดแบบนี้
บางครั้งช่วยเตือนสติตัวผมเองได้ดีมากเลยครับ

บางครั้งเราเลี้ยงลุก
แต่เผลอลืมไปว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็ก
เด็กที่อาจยังสนุกกับสิ่งที่เขาสนใจ
ไม่ใช่สิ่งที่เ่ราสนใจน่ะครับ












โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:08:34 น.  

 
เสียดายสวีเดน แพ้สองนัด
มาชนะนัดสุดท้ายเท่านั้นเอง
อย่างน้อยก็มีแต้มกลับบ้านล่ะค่ะ
ไม่ต้องแบกไข่ขึ้นเครื่อง 555


โดย: fonrin วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:09:39 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะน้องก๋า
มาอ่าน การศึกษา สั่งสม เสียดสี งอกงาม และงอกเงย


โดย: ดอกไม้หน้าฝน วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:13:26 น.  

 
หวัดดีคับหมิงหมิง ..
วันนี้แวะมาหาหมิงหมิงแต่เช้าเลย ก่อนยะก๋านเลยครับ..

หมิงหมิง ใหญ่ขึ้นจ๊าดดนักเลย ..

ผมทรงนี้หล่อครับ..


โดย: Nongpurch วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:23:45 น.  

 
ชอบรูปในอุโมงค์ัจัง

เพิ่งได้อ่านจากหน้าเฟซนักเขียนคนโปรดเราคนหนึ่ง มันเป็นภาษาอังกฤษนะคะ ประมาณว่า...

คนทุกคนมีอัจฉริยภาพในตัวเอง แต่ถ้าเราไปตัดสินปลาว่ามันปีนต้นไม้เก่งเพียงใด มันก็จะอยู่โดยคิดว่าตัวเองโง่ไปตลอดชีวิต

ซึ่ง...โคตรจะจริงเลยค่ะคุณก๋า หุๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:26:45 น.  

 
การศึกษา คือ การเรียนรู้

การเรียนรู้ คือ การแสดงออกซึ่งความคิด นำไปสู่การปฎิบัติ

เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทุกที่ที่เราอยู่ สามารถเรียนรู้ได้ทั้งหมด
อยู่ที่ว่าจะเรียนรู้หรือไม่ ในขณะที่เราทำงาน งานก็เป็นสาวนหนึ่งของการเรียนรู้
เรียนรู้เพื่อไปปรับแก้ แก้ปัญหาที่เกิดจากกระบวนการในการทำงาน
แก้ปัญหาที่เกิดในองค์กร เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ

อันนี้ใช่หรือเปล่าคะพี่ก๋า

สวัสดียามเช้าค่ะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:42:15 น.  

 
อ่านบทสัมภาษณ์คุณศักดิ์สิริ แล้วชอบจังคะ
บางคนคาดหวังในภาพลักษณ์ที่เราเป็น
แล้วก็นึกเอาเองว่าเราต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามที่เค้าคิดเอาเอง
โดยลืมนึกไปว่า คนเราก็มีชีวิตในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย มีบทบาทที่ต่างกันไปในแต่ละด้าน ที่เราได้เห็นได้สัมผัสอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเขาก็ได้

ชอบแนวคิดคุณศักดิ์สิริด้วยคะ ให้ลูกได้รู้ในทุกสิ่ง เด็กที่ถูกกรอบไว้น่าสงสารมาก

สวัสดีตอนสาย ๆ คะคุณก๋า


โดย: บ้านสีขาว วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:44:17 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าเช่นกันค่ะ ขอให้มาดามหายไว ๆ นะ หมิง ๆ ไปเล่นน้ำที่ไหนมาคะ


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:8:47:33 น.  

 
ในระดับอุดมศึกษา ได้มีโอกาสสอบเข้าและเรียนต่อ ในมหาลัยที่ดีค่ะ มหาลัยนี้ให้มุมมองความคิดที่ดีต่อตัวเองมาก ถึงจะไม่สามารถเรียนจนจบจากที่นี้ได้

แต่สุดท้ายจริงๆที่มหาลัยนี้สอนก็คือ "การยอมรับความจริง" มีวิธีการที่จะสามารถทำให้เรียนต่อไปจนจบได้

" แต่ไม่ได้ทำค่ะ "

ผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาได้ ย้อนกลับมามองดูตัวเอง รู้สึก "ภูมิใจ" ค่ะ

เพราะเราไม่ได้หลอกมหาลัย ไม่ได้หลอกตัวเอง ยอมรับในสิ่งที่เกิดมาจากเหตุ และ ผลที่เรากระทำ

สิ่งเหล่านี้แหละค่ะ ที่สำหรับอ้อเรียกว่า "วิชาเกิน"

รูปภาพวันนี้ หมิง หมิง ดู "แสบ" ใช้ได้เลยค่ะ 555


โดย: aorming วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:06:14 น.  

 
สวัสดีตอนสาย ๆ ค่ะอ้ายก๋า การศึกษา...ไม่มีที่สิ้นสุด

ตราบที่ชีวิตยังมีลมหายใจ มีเรื่องให้ศึกษาอยู่ตลอดเวลา

ห้องเรียนก็คือโลกของเรานี่เอง มีวิชาหลายแขนงแยกศาสตร์ศิลป์

จนนับไม่ถ้วน แต่บางคนก็มองว่าการศึกษาคือ การเข้าไปนั่งในรั้ว

สถาบันแล้วเดินออกมาพร้อมกระดาษเชิดชูเกียรติหนึ่งใบเท่านั้นเอง


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:09:07 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า วันนี้มาอ่านเรื่องของการศึกษา ก็มีความเห็นว่าใช่เลยค่ะ การศึกษามีตลอดชีวิตของเรานะคะ สิ่งที่คิดค้นอะไรขึ้นมานั่นก็ถือว่าเป็นการศึกษาเช่นกันค่ะ คนสมัยก่อนได้เรียนหนังสือจบชั้นประถม 4 แต่มีความสามารถมากกว่าเด็กปริญญาสมัยนี้ซะอีกค่ะ ฉะนั้นกิ่งถึงว่าการศึกษาและหลักสูตรที่เราเรียนมันเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลาจนตามไม่ทันทำให้เราไม่ล้าหลังแต่เราไม่รู้เรื่องค่ะ 555

ถ้ากลับไปเอาหลักสูตรสมัยก่อนมาปัดฝุ่นและเริ่มต้นสอนกันใหม่และต่อยอดความรู้สมัยใหม่เข้าไป โดยไม่ต้องไม่ต้องเปลี่ยนหลักสูตรทั้งหมดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างนี้กิ่งว่าต้องมีเด็กเก่งและมีความสามารถมากกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆค่ะ

กิ่งรู้ว่าหลักสูตรการสอนเปลี่ยนไปมากเพราะไปรับสอนพิเศษเด็กเนี่ยล่ะค่ะ อิอิ

ถ้าพูดอีกต้องยาวแน่เลยค่ะ แหะ แหะ พอก่อนเน้อ

น้องหมิงหมิงน่ารักมากเลยค่ะ








โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:10:37 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งคับว่า ควรกลับไปตั้งคำถามกับตนเองว่า
ที่สุดแล้ว....การศึกษาแบบนั้นมันทำให้เราเป็นอย่างไร ?
มีวิธีคิด มีมุมมองต่อโลกและตัวเองอย่างไร ?

แต่ที่แน่ๆ...การศึกษาของไทยตอนนี้คล้ายบะหมี่สำเร็จรูปเลย คือชงป้อนรสชาดเดียวกันหมด...เพียงแต่รอขึ้นอืดหรือเป่า? แล้วแต่เด็กที่จะรับ


โดย: biocellulose วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:13:33 น.  

 
อ้อ..อีกนิดนะคะ เห็นตุณก๋าเรียกน้องวรรณ ดาวริมทะเลว่าพี่ ต่อไปนี้คุณก๋าก็ต้องเรียกกิ่งว่า พี่แล้วค่ะ อิอิ คงต้องเป็นพี่กิ่งแล้วเน้อ ความจริงก็รู้ตัวนานแล้วค่ะว่าเป็นพี่คุณก๋าแต่ยังไม่อยากแก่น่ะ 555 แต่ตอนนี้ยอมรับแล้วค่า ว่าต้องเป็นพี่กิ่งแล้วเน้อน้องก๋า อิอิ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:13:54 น.  

 
กะว่าก๋า Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โหวตฮื้อน้องก๋าโตยเน้อ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:16:14 น.  

 
เรียนรู้ตลอดชีวิต สรรพสิ่งล้วนมีสองด้าน ไม่มีอะไร

สมบูรณ์แบบมีข้อดีและข้อเสียไปคนละแบบ ชีวิตมีความ

แตกต่างหลากหลาย พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆจากความไม่รู้

ไปสู่ความรู้ พึ่งตัวเองให้ได้และช่วยเหลือแบ่งปันผู้ที่ด้อย

กว่าบ้าง ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดทำพูดแต่สิ่งที่ดี

ชีวิตก็น่าจะมีความสุขพอแล้ว


โดย: พรไม้หอม วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:26:07 น.  

 
สวัสดีตอนสายๆค่ะคุณก๋า
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
การศึกษาไม่ได้อยู่แค่ในห้องแคบๆจริงๆ
เราเรียนรู้ได้ตลอดเวลา...


โดย: phunsud วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:38:32 น.  

 


ทุกอย่างอยู่ที่วิธีคิดจริงๆค่ะ
ช่วงนี้สาวน้อยในดงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องการสอบเข้ามหา'ลัย
fufu และเหล่าคนโตกว่า ต้องฟังวิธีคิดของพวกเขาทุกวัน
สนุกสนานดีค่ะ มันไม่ซ้ำกันสักวัน


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:38:34 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดียามสายๆ ヾ(@⌒ー⌒@)ノ

สวัสดีคุณก๋า พาน้องหมิงๆ ไปเล่นที่ไหนมา ดูท่าทางสนุกไม่น้อยเลย 555

สถาบันการศึกษา สอนให้คนเป็นคนดี .....

พ่อแม่ สอนให้คนเป็นดี.....

อยู่ที่ตัวบุคคล ว่า จะทำหรือป่าว???? (`_´)ゞ


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:40:41 น.  

 
..ครูที่งี่เง่า ไปเจอเลย
ถ้าครูงี่เง่า เราอย่างี่เง่า
เอาประโยชน์ให้ได้
ครูใจร้าย มองให้เห็นแง่ดีมีประโยชน์ให้ได้
ครูดุ ไม่มีเหตุผล ทนเอา
สำคัญอยู่ที่ตัวเรา..


ชอบประโยคนี้ที่สุดเลยครับ
เยี่ยม



โดย: peeradol33189 วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:9:46:46 น.  

 
ความสุขและความสนุกขณะเรียนรู้
...
ใช่แล้วค่ะพี่
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ใกล้จะหายแล้วล่ะค่ะ เมื่อวานแทบแย่ค่ะ ได้นอนพักผ่อนแล้ววันนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ
...
มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:10:00:30 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

น้องหมิงหมิงในอิริยาบถต่างๆน่ารักอ่ะ โตขึ้นต้องหล่อกว่าพ่อแน่ๆเลย

การศึกษา อืมม คุณก๋า นี่หนอนหนังสือจริงๆนะค่ะ


โดย: PrettyNatty วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:10:15:44 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า ไม่ได้เข้าบล็อกแก๊งค์มาหลายวัน วันนี้เข้ามาอ่านบล็อกเลยแวะมาทักทายก่อนเลยค่า


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:10:24:27 น.  

 


อารุนสวัดดีครับ

เผลอ ที่ไร คนเรามักจะอยากเปลื่ยนนู้นเปลื่ยนนี่ให้เป็นอย่างใจเราคิดเสมอ อยากให้พี่ลองให้คำนิยามคำว่า เกมส์ออนไลน์
ดูครับว่า มีด้านที่ดีและด้านที่ไม่ได้อย่างไร


โดย: เสือย้อมแมว วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:10:42:00 น.  

 
ภาพหมิง หมิง วันนี้ที่นำไปฝาก ขอเรียกว่า

**เริงร่ากับสายน้ำ** ดูแล้ว มีความสุข


เด็กค่ะ เราปิดกั้น ควบคุมไม่ได้ตลอดเวลา
อยู่ในสายตาพ่อ-แม่ เพื่อให้ พ่อ-แม่ พอใจ เขาก็ ทำตามที่สอน

อยู่ กับเพื่อน เดียวเพื่อน ไม่ยอมรับ เขาก็ทำตามเพื่อน


คิดว่า สอนให้เขา แยกแยะ ผิด-ถูก ด้วยตัวเขาเอง เป็นการดี


แต่พ่อ-แม่มักปิดกั้น เพราะความรัก ความห่วงใยค่ะ





โดย: ตาลเหลือง (ตาลเหลือง ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:01:51 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า..

เดือนหน้าจะส่งน้องสาวไปแอ่วเจียงใหม่นะค่ะ

เรื่องการศึกษา ไม่ต้องเรียนในห้อง ก็สามารถเรียนรู้วิชาต่างๆได้

ผู้เป็นพ่อ-เป็นแม่ -เป็นผู้ใหญ่ก็สอนลูกๆได้

สอนจากประสพการณ์จริงๆ เด็กๆจะได้เรียนรู้นะค่ะ

ขึ้นอยู่กลับว่า เรามีเวลา /

การเอาใจใส่ของพ่อ-แม่หรือเปล่า..?





โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:12:22 น.  

 
ความรู้ก็ดี แต่ประสบการณ์ และวิธีแก้ปัญหาตามสภาพและสถานการณ์ แบบชาวเขา และชาวรัสเซีย เจ๋งกว่า


โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:15:47 น.  

 
เย้ เข้าบ้านน้องก๋าได้ซะที ไม่ง้อfb ก็ได้เชอะ

เอ๋ หรือเป็นกลยุทธ์ให้เราล็อกอิน กันลืมรหัส - -"

พี่หล่ะชอบจริง ๆ ที่ก๋าบอกว่า การศึกษาในสถานศึกษาหากไม่มีใจ ไม่เข้าใจ ก็เป็นแต่เพียง พิธีกรรมทางการศึกษา ทำให้เห็นภาพเลยหล่ะก๋า

เวลาไปต่างประเทศแล้วเห็นเค้าเอามือลูบ ๆ โอ่งยักษ์ที่พระราชวังปักกิ่ง เราถามเพื่อน ว่าลูบทำไม เพื่อนบอกว่า ไม่รู้เห็นเค้าลูบเลยลูบมั่ง ไกด์หันมาบอกว่า "โอ่งนี้มีไว้ใส่น้ำ ใต้โอ่งไว้ใส่ฟืน ต้มน้ำให้เดือด รอบ ๆ วังจะได้อุ่นเวลาหน้าหนาว" กร๊ากกกก 555 พิธีกรรมลูบโอ่ง อันนี้ไม่ได้เล่าไว้ในตอนไปเที่ยวปักกิ่งซิเนอะ

เดี๋ยวขอเวลาไปอ่านต่อก่อนนะ กลัวจริง ๆ คอมเม้นท์ยาว ๆ แล้วกดพลาด หน้าจอเหลือแต่ความว่างเปล่า


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:19:34 น.  

 
อ่านมาเจอท่อนฮุค ของกวีซีไรท์

เพื่อนที่ญี่ปุ่น เลี้ยงลูกได้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกตัวเอง ลูกของเค้าเป็นเด็กนิ่งๆ เงียบ ๆ หงิม ๆ ไม่เถียง ไม่หือ ไม่อือ เค้าก็เลยสอนลูกได้ง่ายมาก พี่ไปเห็นลูกเพื่อนวันที่ไปกินข้าวกันที่ฟูจิ เค้ากินหอมใหญ่ด้วยอ่ะ (พี่ไม่กินมันเหม็น) กินต้นหอม (พี่ไม่กินมันเหม็น) กินแครอท กินเห็ด กินผักกาดขาว กินหน่อไม้ฝรั่ง กินผักทุกอย่าง

พี่ชมเค้าว่า เก่งเนอะ ไม่เหมือนเด็กไทย ถ้าอย่างไหนไม่ชอบ พ่อแม่ก็มักไม่บังคับกิน ถึงแม้จะรู้ว่ามีประโยชน์ เพื่อนบอกว่าไม่รู้ซิแต่ลูกเรากินง่าย เลี้ยงง่าย ที่สำคัญพี่เห็นเค้ากินข้าวหมดชาม(ทั้งที่พี่กินไม่หมด อิ่มพุงจะแตก) เพื่อนบอกอีกว่า พอเค้ากินข้าวอิ่มทุกมื้อ เค้าก็ไม่ร้องขอขนม อาจจะมีบ้างที่อยากกิน ก็ให้เค้ากินไม่ได้ขัด น้ำเป๊บซี่ก็มีบ้างแต่เค้าไม่ติด เยี่ยมจริง ๆ

ในขณะที่น้าสาวพี่ วันนั้นไปเยี่ยมที่บ้านเค้า แล้วเห็นว่าเด็ก ๆ ชอบกินช็อคโกแลต (พี่หน่ะชอบจะตายไป วันไหนไม่กินมีอารมณ์บูด) M&M น้าสาวก็ให้ลูกกินนะ แต่มีลิมิต 2 เม็ด เจ้ยยยยยยยยย ในถุงมีหลายสิบเลยนะ เค้าร้องงอแงเลยเชียว พี่หล่ะรู้สึกผิดจริง ๆ ตรูไม่น่าเอามาให้หลานเล้ยยยยย น้าสาวบอกอีกว่าน้ำอัดลมก็ไม่ให้กินนะเดี๋ยวฟันผุ แล้วก็บลา บลา บลา ...... ข้อห้ามเยอะจริงวุ้ย พี่ว่าแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ มันเกินไป สุดโต่งเกินไป ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกรัก - -"

มิน่า น้องชายของพี่ ถึงได้บอกว่า พี่ชอบตามใจหลาน เอ๋สงสัยเรานี่หล่ะมั้งจะทำให้หลานเสียนิสัย 555


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:30:36 น.  

 
ท่อนต่อมายิ่งสนุก

แต่ก่อน พ่อของพี่จะแม่นมากเรื่องลมฝน ลมฟ้า ถึงขนาดบอกได้เลยว่า ข้างขึ้น ข้างแรม วันไหนปลาจะเยอะ

พี่เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกแปลกมากเลย เพราะพ่อพี่ไม่ใช่ชาวเลย์ และก็ไม่ใช่ชาวสวน ชาวนา แต่กลับรู้

หลัง ๆ มานี้พ่อก็ยังแม่นในระดับหนึ่ง แต่ตั้งแต่เกิดวิกฤติทางภูมิอากาศแล้ว ก็เริ่มคาดเดาได้ยาก

วิธีการพ่อบอกว่าเอามาจากคนจีน โดยดูปฎิทินทางจีนเท่านั้น

สมัยก่อนพ่อส่งของทางเรือ เข้าคลองที ต้องดูปฎิทินดี ๆ ถ้าวันไหนน้ำน้อย ต้องรีบออกแต่เช้าก่อนที่น้ำจะลง จนแห้งขอดหมดคลอง ไม่เช่นนั้นเข้าคลองไปแล้วก็ไม่ต้องออกจากคลองอีกเลยจนกว่าน้ำจะขึ้น ปัจจุบันพ่อยังคงใช้วิธีนี้อยู่ และคอยบอกคอยเตือนลูกน้องเสมอ ๆ เพื่อไม่ให้ต้องไปนอนค้างอยู่ในคลอง (ก๋าน่าจะรู้จักคลองนะ ลำน้ำเล็ก ๆ ที่แยกตัวจากแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างคลองบางกอกน้อย)

ส่วนพี่มีวิธีดูว่าฝนจะตกแนวใหม่ ดูจากมดเดินขบวน วันแรกเค้าจะเดินแบบไม่เร่งรีบ แต่พอถึงวันที่ห้าเป็นต้นไป เดินกันเป็นบ้าเป็นหลัง เท่านี้หล่ะอีกไม่กี่วันฝนตกแน่นอน หลัง ๆ พ่อมักจะถามว่า "โอ๋ว่าฝนจะตกมั๊ย" 555



โดย: oa (rosebay ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:40:30 น.  

 
อะไรคือการศึกษา

ไม่รู้


โดย: พจมารร้าย วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:11:55:08 น.  

 
ทีแรก พี่คิดว่าก๋าจะเขียนแบบฮาร์ดคอร์ เลยซะอีก แต่อ่านแล้วเข้าที และสนุกดี

ดูเหมือนเรื่องปากกากะดินสอ จะคล้าย ๆ เรื่อง 30+โสด on sale เลยแฮะ นางเอกจะไปถ่ายรูปที่ขั้วโลกเหนือ ต้องซื้อปากกาแบบพิเศษเพื่อไปเขียน แต่ดันมีผู้ชายคนนึงซื้อให้ซะก่อน ส่วนพระเอกเหรอก็เอาดินสอให้นางเอกหน่ะซิ

ตอนนั้นมุมมองของพี่ มุ่งอยู่ที่การเลือกคนรัก เพราะนั่นคือหนังรัก แต่พอมาเปรียบกับการศึกษา อืมก็ใช้ได้เหมือนกันแฮะ

มีเรื่องเล่า เมื่อวาน ลูกชายของลูกค้า แวะมาส่งของแทนพ่อเค้า แล้วเราก็เลยคุยกัน เรื่องที่เค้าออกจากงาน

พี่ถามเค้าว่า จบอะไรมา เค้าบอกว่าคณะบริหารธุรกิจ สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ

พี่ถามว่า เรียนอะไรบ้าง เค้าบอกว่า เรียนพวก microsoft ทั้งหมด แล้วก็โปรแกรมที่ใช้กับธุรกิจ

อืม ถ้าจบปริญญาตรีแล้วได้แค่นี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับ จบ ปวช. แต่พี่ไม่ได้บอกเค้านะ เพราะตอนพี่เรียน ปวช. ก็เรียนตัวเดียวกันเด๊ะ ๆ กับทีเค้าว่ามา

พี่ว่ามันน่าเสียดาย ที่เค้าต้องเสียเวลา 4 ปี ในการเรียนในสิ่งซึ่งตนคิดว่าใช่ในทีแรก แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ และเค้าก็บอกว่า สมัครได้แต่งานธุรการ (ก็แหง๋หล่ะซิ) หางานยากด้วย (ก็ใช่อีกนั่นหล่ะ) เพราะถ้าพี่เป็นเจ้าของธุรกิจ ต้นทุนทางแรงงาน ระหว่างปริญญาตรี(15,000บาท) กับ ปวช.(6,000 บาท) พี่ก็คงไม่เลือกหรอกนะวุฒิ ป.ตรีหน่ะ

สุดท้าย พี่เลยบอกว่าเค้าไปว่า "คณบดีของคณะ ไม่เก่ง" ถ้าระดับอุดมศึกษา ส่วนมาก คณบดีและทีมงานเป็นผู้กำหนดหลักสูตรและรายวิชา

พี่ก็เลยพึ่งถึงบางอ้อ ปิ๊งป่อง มิน่าหล่ะเด็กจบมาถึงไม่มีงานทำ หรือมีงานก็ไม่ตรงกับที่เรียนมา

พูดไปกรณีข้างต้น เหมือนเป็นลูกผีลูกคน จะวิศวฯ คอมฯก็ไม่ใช่ จะบริหาร คอม ก็ไม่เชิง

เหมือนกรณีของน้องชายพี่ คณะวิทยาศาสตร์ เทคนิคการถ่ายภาพ จะวิทยาฯก็ไม่ใช่ จะนิเทศฯ ก็ไม่เชิง

ถ้าแก้ไขที่ระบบไม่ได้(เพราะเค้าใหญ่กว่าเรา) ทางเดียวคือ ถ้าหลานจะไปเรียนที่ไหน พี่ต้องขอดูคู่มือ และดูรายวิชาไปเลย

กรณีการศึกษาภาคบังคับ (ประถม มัธยม) ใครเป็นผู้กำหนดหลักสูตร กระทรวงศึกษาธิการใช่มะ นั่นหล่ะ กระทรวงศึกษาธิการไม่เก่งพอ เราคงแก้ไขกระทรวงฯไม่ได้ (เพราะเค้าใหญ่กว่าเรา) ทางเดียวคือ ทำแบบที่น้องก๋าทำ โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง เลือกโรงเรียนในแบบที่พ่อแม่คิดว่าเหมาะกับลูกเรา ก็มันทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้วนี่เนอะ ^^ จบข่าว


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:12:03:40 น.  

 
สวัสดีครับ พี่ก๋า
ช่วงนี้มีเรื่องหลายเรื่อง เครียดปวดหัว คงหายๆๆไปบ้างนะครับ อิอิ


โดย: Sleeping_prince วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:12:37:38 น.  

 
อ่านเรื่องเป๊บซี่แล้วโดนใจ...พี่เคยได้ยินแบบนั้นจริงๆ นะ ลูกตัวไม่ดื่มน้ำอัดลมไม่กินของไม่มีประโยชน์ เด็กก็คือเด็กเนาะ

พี่ชอบเป๊บซี่ มักมีติดบ้านตลอด เมฆขอกินเรื่อยๆ แบบจิบๆ เค้ารู้ว่ามันแสบท้อง แต่มันอร่อย มันชื่นใจเนาะ หมอกไม่กินเลย ไม่ชอบน้ำอัดลมแต่ไหนแต่ไร บ้านพี่มีขนมถุงตลอด ลูกอมก็มีบ้าง ลองคิดดูว่า เด็ก...ขาดการลิ้มรสลูกอม จะเป็นยังไง เหมือนพาเค้าไปทะเล แต่ไม่ให้เล่นทราย เล่นน้ำ แต่ทั้งหมดนี้ เราดูแล้วว่า ไม่เยอะเกินไป ดูแลกันได้

ปราชญ์ชาวบ้าน มีอยู่จริง นำมาใช้ได้จริง แต่คนไม่นิยมจริงๆ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบรรทัดฐานการยอมรับของสังคม

พี่ว่ายังไงเราก็ยังอยู่ในยุคการแข่งขันไม่มีจบสิ้นหรอก อยู่ที่ว่าเราจะเข้าสนามแข่งกับกีฬาทุกประเภทรึป่าว

ปล. ชอบรูปโปรไฟล์จ้ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:12:50:16 น.  

 
เรื่องปากกาไฮเทค กับการแก้ปัญหาด้วยดินสอนี่ เราฟังครั้งแรก ชอบมาก การศึกษาสำคัญมากค่ะ

เมื่อวานเราอ่านหนังสื ดม ได เป็นไดอารี่เขียนโดยโน๊ต อุดม เขาก็บอกว่าเขาอยากทำโครงการเพื่อการศึกษา เพราะตอนเด็กๆ เขาอยากเรียน แต่ไม่มีทุน

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราไปติดต่อทางวัดเรื่องทำบุญ พ่อนั่งเฝ้ารถ พ่อบอกว่า สักครู่มีเด็กหนีเรียนสิบกว่าคน ครูขี่มอเตอร์ไซค์ไล่กวด ครูพ้อว่า อุตส่าห์มาสอนฟรีๆ อยากให้ได้ดี ทำไมต้องหนีเรียนลูกเอ๋ย

ได้ยินแล้วเศร้าค่ะ สงสารครูค่ะคุณก๋า


โดย: Love At First Click วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:12:53:18 น.  

 
ถามตัวเรานั่นล่ะ...

เราเรียนมาแบบไหน ?
เราชอบสิ่งที่เราเคยเรียนมาหรือไม่ ?
ความรู้แบบไหนที่เรารู้มา
แล้วมันแก้ปัญหาในชีวิตของเราได้บ้างไหม ?

ที่สุดแล้ว....การศึกษาแบบนั้นมันทำให้เราเป็นอย่างไร ?
มีวิธีคิด มีมุมมองต่อโลกและตัวเองอย่างไร ?

คำถามแบบนี้ต่างหากที่จะตอบตัวเราเองได้
ว่าการศึกษาที่แท้จริงนั้น คือ อะไร ?


ชอบประโยคข้างบนนี้มากค่ะ ถุกใจจริง ๆ แม่บุญมีความคิดเห็นอีกนิดว่า ประสบการณ์นั้น...สำคัญมาก เหมือนชาวนาพยากรณือากาสด้วยมีดพร้า เรามักจะได้ยินคนแก่พูดเสมอว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน เพราะท่านเหล่านั้นรู้เห็นมาก่อน จึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ?

แประสบการณื...อีกเช่นกัน ที่สอนแม่บุญมากมายในการดำรงชีวิต ทั้งในเรื่องงานอีกด้วย บางครั้งฝรั่ง...ก้ดูถูก หาว่าเป็นไปได้อย่างไร ?
เช่น เมือมือโดนของร้อนดาด...ในกรณีที่ไม่มากมายจนต้องถึงหมอ แม่บุญจะใช้เกลือ..มาทาทับเอาไว้แล้วทำงานต่อ ฝรั่งหัวเราะ..หาว่างมงาย วิ่งหายาตาต่าง ๆ มาทา เอามือจุ่มน้ำให้คลายร้อน
อีกวัน แผลที่โดนดาด ไม่โป่งพอง ยุบและแห้งไปในที่สุด ฝรั่งงง ..เพราะแผลของเขาที่เอามือจุ่มน้ำ พอง...เป็นน้ำ และแตก ทำให้แสบ ทำงานไม่ได้ ...คราวนี้ไทยหัวเราะ...


โดย: Maeboon วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:13:59:28 น.  

 
หวัดดีครับเฮียกิจ


โดย: jonykeano วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:14:29:09 น.  

 
มาอ่านการศึกษา และการศึกษาค่า คุณก๋า


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:14:30:50 น.  

 
หากคิดว่าเราเรียนจบแล้วตอนที่เราเรียนจบเราก้จบมันตรงนั้นล่ะเนาะพี่เนาะemoemo


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:14:32:48 น.  

 
สวัสดียามบ่ายครับคุณก๋า

คุณก๋าคงใกล้หายแล้ว แต่ผมเริ่มระโหยโรยแรง เมื่อคืนเจ็บคอมาก ตอนนี้กลืนน้ำลายลำบาก คิดว่าติดจากลูก ลูกเป็นมา 3 วันแล้ว

กินยาเข้าไป 2 เวลา ตอนนี้ยังไม่ทุเลาเลยครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:14:53:41 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า เห็นภาพของหมิงหมิงในอริยาบทต่างๆแล้ว รู้เลยว่าหมิงหมิงมีความสุขทุกกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวจริงๆ ชอบเนื้อเรื่องที่นำมาให้อ่านค่ะ แต่ดูหมิงหมิงแล้วอิ่มใจอิอิ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: หญิงแก่น วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:14:54:53 น.  

 
เห็นด้วยค่ะคุณก๋า

ความรู้ท่วมหัวก็เอาตัวไม่รอดหากคิดไม่เป็น

ปล บ๊ะจ่างหนึ่งเป็นแบบประยุกต์ตามใจฉัน
ถ้ามีใบไผ่จะหัดห่อค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:14:56:10 น.  

 


สวัสดียามบ่ายค่ะน้องก๋า
แวะมาบอกว่ายังรักและคิดถึงเหมือนเดิมนะคะ
เพียงแต่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย
แว่ว ๆว่าน้องก๋าก็ไม่ค่อยสบายเหมือนกัน
สำหรับพี่แม่หมูคงหยุดวิ่งเล่นอีกยาวค่ะ
อีก 2 เดือนก็มีผ่าตัดรอบสองค่ะ
ดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่เรารักให้ดี ๆนะคะ
ทานอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอนะน้อง
พี่แม่หมูโดนมาแล้วค่าาาา
ร่างกายอ่อนแอมากไม่มีอาหารไปสู้กะโรคเลย


โดย: jamaica วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:15:05:27 น.  

 
ทักทายค่ะน้องก๋า

ว่าจะเข้ามาหลายวันแล้ว ก็ไม่ได้เข้ามาซักที
ช่วงนี้มีแต่คนเจ็บไข้ได้ป่วยกันนะคะ

พี่เองก็เป็นงูสวัด ยังไม่หายเลย ต้องใช้เวลาเหมือนกัน
เข้ามาวันนึง ได้ไม่กี่บ้าน เพราะอ่านมากๆไม่ไหว
ปวดหัว ปวดตา ปวดเนื้อตัวไปหมด
ก็เลยทำให้เข้ามาไม่ถึงบ้านนี้ซึกที

ก๋าเป็นงัยบ้าง หายดีหรือยัง แต่หมิงๆหายดีแล้วใช่ไหม
บอกตามตรงว่าวันนี้เข้ามาก็ไม่ได้อ่านนะ
ถ้าเรื่องยาว ต้องขอผ่านก่อน คงไม่ว่ากันนะ
มีเวลาค่อยมาตามอ่านทีหลัง
วันนี้เลยไม่มีความคิดเห็นที่จะคอมเม้นท์จ้า


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:15:40:20 น.  

 
มาอ่านมาคิดครับน้องก๋า ^^

ขอเสนอแนวคิดเรื่องการศึกษานิดนึงนะครับ

บางทีคนชอบพูดว่าการศึกษาเป็นปัญหาของสังคม

ผมฟังแล้วก็ไม่สบายใจแทนคุณครูนะครับ แหะๆ

เหมือนว่าครูต้องรับผิดชอบทั้งหมดหรือเปล่า

หรือระบบการศึกษาต้องรับผิดชอบ

ที่น้องก๋าเขียนมาก็คือคำตอบนะครับว่า

ทุกๆคนต้องเข้าใจว่าการศึกษานั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่

ไม่ใช่มีในสถาบันการศึกษาเท่านั้น

แล้วก็มีอีกประโยคนึงครับ

"เราไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ทำให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นมา"

ไอสน์ไตน์กล่าวไว้

การศึกษามันเกิดจากคนในสังคม จากค่านิยมผิดๆที่ปลูกฝังกันเข้ามานานนม เราไม่สามารถเอาคนที่มีค่านิยมนี้มาสร้างการศึกษาที่ดีได้

คุณครูสมัยนี้ไม่ตั้งใจสอนในห้อง เพื่อให้เด็กมาเรียนพิเศษกับตัวเองนอกเวลา นี่เป็นตัวอย่างครับ

เราไม่สามารถเขียนกฏหมายให้โลกสงบสุขได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างอีกอันนึง

ต้องมีแนวคิดอื่นที่ต่างไปจากแนวคิดนี้

ที่คิดได้ก็คือศาสนาครับ

เพราะศาสดาก็คือคนที่คิดต่างและช่วยโหนโลกให้กลิ้งลงเหวช้าลงสักเล็กน้อย แม้ว่าสุดท้ายจะสู้ไม่ได้ก็ตาม

คำสอนเรื่องความจริงของทุกสิ่ง การปล่อยวาง การรักษาและดูแลธรรมชาติ การเป็นมิตรกับธรรมชาติ คำสอนก็มีอยู่แล้วในศาสนานะครับ พอไม่มีตัวรั้งไว้ โลกก็เลยเคลื่อนลงเหวเร็วแบบทุกวันนี้ครับ

นี่เป็นมุมมองที่คิดว่าน้องก๋าก็คงจะคิดอยู่เหมือนกันนะครับผม ^^







โดย: วนารักษ์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:15:44:19 น.  

 
ทักทาย จ๊ะ แว๊บมา จากห้องตะพาบ ..
ข้อคิดดีมากเลยคุณก๋า ..
พี่ว่าตรงไหนให้ความรู้ คือการศึกษาทั้งนั้น ถ้าเราชอบ นั่นแหละ คือ สำเร็จ ..มันอยู่ที่ตัวเรา ..
ชอบทุกๆ ข้อคิด ..
โชคดี บ้านพี่ไม่ติดน้ำอัดลม .. กินบ้างเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ไม่ค่อย..ดีกว่า..
ภาพประกอบหมิงๆ เริงร่า หายดีแล้ว ใช่ไหม นั่น..




โดย: tifun วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:16:42:27 น.  

 
แหะๆ ต้องขอบคุณนักเขียนคนโปรดค่ะ เราก็อ่านมาจากหน้าเฟซเค้าเหมือนกันค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:16:47:13 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า
ยามเย็นวันพุธ ฝนง่วงมากเลยค่ะ
เพิ่งกลับจากโรงเรียน
เด็กๆทุกวันนี้ไอ้วิชาการได้บ้างไม่ได้บ้างนี่ฝนพอเข้าใจค่ะ
แต่กาลเทศะ มารยาทและความคิดเค้า ค่อนข้างอ่อนแอค่ะ
ความอยากรู้ อยากเรียนนี่ลดน้อยลงมาก


โดย: น้ำเคียงดิน วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:17:46:41 น.  

 
หวัดดีครับน้องก๋า

การศึกษาสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก
วิวัฒนาการของโลกออนไลน์และการสื่อสาร
อีกไม่นานคงขยับกันมโหฬารอย่างเลี่ยงไม่ได้

ฝรั่งเขียนหนัีงสือไว้แยะ...เกี่ยวกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21


โดย: Dingtech วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:18:47:40 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
---------------------------
เริ่มเย็นก็เริ่มตั้งป้อมอยู่หน้าคอม สวัสดียามเย็นนะคะคุณก๋า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:18:54:11 น.  

 
เบื่อระบบค่ะ...
ยิ่งเรียนยิ่งไม่รู้เรื่อง
15 ปีเรียนฟรี..จริงอ่ะ..
เรื่องหลอกเด็กหลอกผู้ปกครอง
หาเสียง..เฮ้อ..


โดย: Calla Lily วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:19:03:49 น.  

 
ถูกใจบทสัมภาษณ์ของคุณศักดิ์สิริขนาด
แต่ถ้าจะบ่าถูกใจของอีกหลายๆคน อิอิ

emoemo


โดย: BongKet วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:19:20:10 น.  

 
แล้วคืออะไรกันแน่การศึกษา ขึ้นกับแต่ละคนมังคะ เพราะเรียนรุ้ได้ไม่เท่ากันและได้ไม่เหมือนกัน ^^


โดย: ริมน้ำ_ขอบฟ้า (rimnam_kobfa ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:19:46:01 น.  

 
วันนี้ไปนั่งรถแอ่า อิดดีเหมือนกั๋นเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:20:16:38 น.  

 
การศึกษาแคบมากหากจะเป็นไปตามระบบ ที่ผู้ใหญ่ วางไว้ให้เด็กได้เรียนรองรับอาชีพที่นายทุนวางไว้เป็นแรงงานในอนาคต

การเรียนรู้หากตอบตนเองได้ในคำถามพี่ก๋าเขียนทิ้งท้ายไว้ .....เติบโตขึ้น เด็กๆคงไม่งง สับสัน กับปัญหาที่ผ่านมากระทบชีวิต เพราะได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจเป็นปัญญาแล้วนั่นเอง
ลองผิดลองถูกในชีวิต...แต่ปัญญามีเราจะไม่หลงผิดค่ะ

.....ทุกวันนี้หนู ยังรู้สึกว่า ชีวิตยังหลงทางในบางช่วง กับสิ่งที่เรียนรู้ผ่านมาในชีวิต.........ค่ะพี่ก๋า


โดย: saaikaew (Green_Marble ) วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:20:34:30 น.  

 
จอดับ กร๊าก ผวนแล้วเป็นเรื่อง จอดำก็ผวนแล้วไม่ดีครับ แต่เปลี่ยนคำคงลำบากเนอะ "ไม่มีภาพเนื่องจากถูกระงับสัญญาณ"
พี่ก๋าดูหนวดกุ้งหรือก้างปลาเลยครับ ชัดแจ๋วแหวว แต่ก็ขึ้นกับพื้นที่ด้วยนะ ถ้า กทม. ตึกสูงๆเยอะคงดูยากหน่อย


บางเรื่องก็ดูถูกภูมิปัญญาชาวบ้านไม่ได้เลยครับ ความฉลาดในการเอาสิ่งต่างๆรอบตัวมาใช้เป็นเรื่องที่เรียบรู้และสืบเนื่องกันมายาวนาน บางทีวิทยาศาสตร์น่าจะจับเอาบางจุดมาต่อยอด อย่างการจิ้มดินทำนายได้แม่นยำกว่าการวัดสภาพอากาศ ก็เปลี่ยนเครื่องวัดอากาศไปตรวจสอบดินแทนซะ แต่ก็ต้องแล้วแต่ลักษณะภูมิศาสตร์ของพื้นที่นั้น ชาวบ้านคงรู้ดีกว่าคนสร้างอุปกรณ์
เรื่องอุตุนิยมที่บ้านผมนิยมดูมดมากกว่าฟังกรมอุตุครับ

ส่วนเรื่องขำขันของรัสเซียจริงๆก็คือผงคาร์บอนจะไปอุดตามชิ้นส่วนยานอวกาศให้เสียหายได้ เลยต้องพัฒนาปากกาเขียนในอวกาศขึ้นมาครับ

รอบตัวเรามีนักคิดมากมาย แม้แต่เด็กที่ถามเรื่องทวีปที่พี่ก๋าเล่าในเฟซบุ๊ค แต่คนที่มีหน้าที่เปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาจริงๆกลับคัดเอากลุ่มคนไร้หัวคิดระดับประเทศมารวมกัน เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง


โดย: ชีริว วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:20:36:53 น.  

 
กินข้าว กินยา แล้วมานั่งเคลียร์งานจนเสร็จ ดูบล็อกแก็งค์อีกแป๊บก็จะเข้าไปให้เมียจอดับเล่นละครับ 555

ไรกันนี่..บอกจอมืดก็ได้น่า 555


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:20:56:40 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
------------------------------------------
ขอบคุณที่แวะไปทักทายกัน ขอให้มีความสุขมากๆนะคะคุณก๋า
-------------------------
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ลงสะพาน...เลี้ยวขวา Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: poepum วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:20:57:58 น.  

 
ครับน้องก๋า ใช่เลยครับ ศาสนาก็คงเหมือนการศึกษานะครับ ไม่ใช่สถาบันที่สร้างความงมงาย แต่การเข้าถึงธรรมะก็เป็นหน้าที่ของแต่ละคนที่จะต้องเรียนรู้ด้วยเช่นกัน

แหมอย่างนี้ก็เรียกว่าใช้ได้เลยนะครับ ขอบคุณที่ช่วยแชร์ความเห็นนะครับ ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:21:05:25 น.  

 

ถูกต้องเลยเน๊าะ
ขอบใจที่น้องก๋านำมาฝากจ๊ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:21:08:40 น.  

 
เหนื่อยจังเลยค่ะศิษย์พี่

ไม่ได้อ่านอะไรเลย

แต่แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงก่อน

ปล.คืนนี้ยังอยู่ที่โรงเรียนต่อเป็นคืนที่ 3 เพราะต้องคียร์ข้อมูลนักเรียนเพื่อของบประมาณอุดหนุนของรัฐบาล...เค้ากำหนดให้คีย์โดยกำหนดระยะเวลาว่าคีย์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันนี้...แต่ระบบที่เค้าทำมาให้เราคีย์ออนไลน์ดันไม่เสถียรซะงั้น...(error) - -"


โดย: minporee วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:21:28:15 น.  

 
สวัสดีเจ้าปี้ก๋า แวะมาไหว้ก่อนไปนอนเน้อเจ้า
กะลังเข้าเน็ตเป็นแต้เป็นว่าก่อวันเนี๊ยะ


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:21:32:24 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
ความรู้มีอยู่ทุกที่ต้องเรียนรู้กันทุกวัน
แต่เราชอบที่จะเรียนรู้สิ่งที่เราสนใจมากกว่าสิ่งที่คนอื่นหามาให้นะคะ
ชอบเรื่องดินสอค่ะคุณก๋า


โดย: blueberryblossom วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:21:41:39 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ขอบคุณค่ะ พี่ก๋า
...
น้องอยากหายมากมากค่ะ
ฝันดีนะคะ พี่ก๋า


โดย: Nissan_n วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:21:56:33 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:22:13:38 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

คนเราศึกษาเรียนรู้ได้ตลอดวินาที หากเพียงตื่น...

แต่ผมมักจะหลับหรือไม่ก็สลึมสลือประจำเลยครับ


โดย: เงามืดในประวัติศาสตร์ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:22:17:35 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
หายป่วยแล้วใช่ไหม

เทศกาลบะจ่าง หยิบมาฝากค่ะ



โดย: pantawan วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:22:30:23 น.  

 
สำหรับน้องริน การศึกษา ก็คือการ คิดต่างเจ้า

คิดต่างจากเดิมที่บทรูปธรรมเรียนมา

แน่นอนย่อมจะเกิดความคิดต่างที่เพิ่มขึ้นแหม
ที่ไม่ใช่เกิดภายนตำราเท่านั้น



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:23:13:41 น.  

 
ตอบเหมือนเดิม อยากให้ รมต. มาอ่าน blog นี้จังเลย อิอิ


จริงๆแล้ว อยากเสนอแนวคิดพัฒนาการศึกษา

ลองให้เงินเดือนครู เท่ากะพวกหมอ ดิ

ลองนึกถึงเพื่อนร่วมห้องเรียนสมัยเรายังเรียนอยู่ พวกระดับหัวกระทิ

มีใครเป็นครูบ้าง



โดย: อสูรกายไทฟอน วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:23:18:42 น.  

 
เรื่องนี้คุยกันได้ยาว หลายประเด็น ผมเคยเขียนบล็อกเรื่องใกล้เคียงโรงเรียนในฝัน มันเป็นโรงเรียนในระบบนี่แหละ แต่หลายๆ เรื่องได้รับการปรับปรุงจากปัจจุบันชนิดที่ผมกล้าพนันได้เลยว่าประเทศไทยทำไม่ได้ ต่อให้ทำได้ ค่าเทอมก็จะเป็นราคาที่ผู้เรียนไม่สามารถเรียนได้

คนเราชอบตีค่าคนด้วยกระดาษ เครื่องมือ เดี๋ยวนี้พนักงานทั่วไปไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาาา ยังต้องพูดภาาาอังกฤษได้เลย ถ้าผมพูดแรงๆ ก็ต้องบอกว่าเอาไปทำพระแสงหอกอะไร

การศึกษามีอยู่ทุกที่แม้แต่การเข้าบล็อกแกงค์ เราก็ได้ความรู้ เพียงแต่เราจะสามารถเก็บมันไปได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกข้อความที่คอมเม้นต์ก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายเหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ทำยอด ไม่ว่าเราจะพิมพ์อะไรข้อความที่เราพิมพ์ก็เป็นได้แค่ขยะในสายตาเขา แต่ในมุมมองคนที่หาความรู้มันอาจเป็นทองก็ได้


พอดีมันมีเรื่องงี่เง่าครับ อันนี้พูดหยาบๆ เลย เลยตัดสินใจไม่เผยตัวดีกว่า เพราะมันงี่เง่าเกินกว่าผมจะรับได้ แล้วคงไม่ดีเท่าไหร่นักถ้าผมจะเล่า

ความจริงตอนที่คุณดีดีติดต่อเรื่องสัมภาษณ์ ผมคิดก่อนเลยว่าถ้าต้องโชว์รูปผมจะปฏิเสธทันที เรื่องที่เขียนไม่ได้ตั้งใจให้ออกแนวเครียด แต่พอดีมันเข้าทางปืน เลยยิงเลย

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:0:39:35 น.  

 
ศึกอะไรก็ไม่เท่า ศึกษา
ศึกอื่นยังเลิกลา

แต่่ศึกษา ยังอีกยาว

ฝันดีครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:0:48:14 น.  

 
อ่านถ้อยคำของคุณศักดิ์สิริ
แล้วอึ้งไปเลยค่ะ

เห็นด้วยเด็กต้องเจอกับความจริง


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:18:15:53 น.  

 
emo

อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ


โดย: เสี่ยวเฟย วันที่: 22 มิถุนายน 2555 เวลา:16:03:59 น.  

 
ข้อความพวกนี้ดีหนักหนาจริง ๆคะ
ขอบคุณมากนะคะ
เป็นครูเด็กเล็กที่ว่ายากแล้ว
กับพ่อแม่ของเด็กนี่ยากยิ่งกว่าคะ
แฮะแฮะ


โดย: แม่อาเดียว IP: 49.48.239.223 วันที่: 23 มิถุนายน 2555 เวลา:9:57:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]