:: หมิงหมิงกับโลก ::
:: หมิงหมิงกับโลก ::
ทุกวันนี้เราสอนกันแต่ความรู้ (Knowledge) แต่ไม่ได้สอนให้เกิดปัญญา (Wisdom) ความรู้นั้นเปรียบเสมือนอาวุธ เราสามารถใช้อาวุธได้ทั้งในทางสร้างสรรค์ และในการทำลาย สิ่งที่จะควบคุมให้เราใช้อาวุธไปในทางที่เป็นประโยชน์จริงๆ จึงคือ ปัญญา... เพราะปัญญาประกอบด้วยความรักและความเมตตาเป็นพื้นฐาน เมื่อมีสองสิ่งนี้ ความคิดที่จะทำร้าย แก่งแย่งริษยาผู้อื่น ก็จะไม่เกิดขึ้น
หัวใจสำคัญที่สุดของการศึกษา จึงไม่ได้อยู่ที่การเรียนการสอน เพื่อให้คนออกมาประกอบอาชีพ หาเงินหาทอง และเอาไปซื้อความสุขใส่ตัว ซึ่งคนทั่วไปเรียกมันว่า “ความสำเร็จในชีวิต” แต่หัวใจของการศึกษา... อยู่ที่การทำให้มนุษย์ได้เรียนรู้จักตนเองอย่างแท้จริง เรียนรู้ความสัมพันธ์ที่คนควรมีต่อธรรมชาติ ต่อผู้คนรอบข้าง และต่อตนเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากผู้อื่น
: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมมา (บรรณาธิการ ,นักเขียน)
นิตยสาร : OPEN ปีที่ 3 ฉบับที่ 25
พ่อหวังอะไรจากระบบการศึกษา...
พ่อหวังว่ามันจะเป็นเส้นทางหนึ่งในการค้นพบตัวเองของลูก วันนี้ลูกสามขวบ โลกแห่งการเรียนรู้คู่ขนานไปกับการเล่น
แต่เมื่อลูกโตขึ้น เติบโตขึ้น ลูกต้องไปพบเจอกับระบบการศึกษา ที่อาจทำให้ลูกสงสัยว่า “การศึกษาที่แท้จริง” นั้นคืออะไร ?
เหมือนที่พ่อเคยสงสัย เหมือนที่พ่อเคยลุกขึ้นมาถามครู เพื่อน และคณะฯ ด้วยความรุนแรงและตรงไปตรงมา...
พ่อประท้วงครูในแผนกด้วยการจัดนิทรรศการตำหนิครูในแผนกอย่างรุนแรง พ่อปิดห้องแล้วเรียกเพื่อนร่วมรุ่นมาพูดคุยตำหนิติเตียนอย่างเปิดอก
ในวัยนั้น...พ่อมีแต่ความแรง มีแต่ความอยากเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตนเองคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ที่สุดแล้ว...ที่นั่นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย นอกจากตัวพ่อเอง....
พ่อหวังว่าลูกจะเรียนรู้ว่าการศึกษาที่แท้จริง มิได้จบอยู่แค่ในห้องเรียนแคบๆ หรือภายในขอบรั้วโรงเรียน ความรู้ไม่ได้หยุดอยู่ที่การจบการศึกษาและรับปริญญา
และไม่ว่าลูกจะอยากเรียนอะไร มันควรเป็นสิ่งที่ตอบคำถามในใจลูกได้ว่า ลูกเลือกเรียนสาขาวิชานั้นเพราะอะไร ?
และไม่ว่าลูกจะชอบหรือเลือกวิชาสาขาใด ขอให้ลูกรู้เอาไว้ว่า “การศึกษาที่แท้จริง” ต้องมีหน้าที่นำพาและตอบคำถามผู้เรียนให้ได้ว่า
“การศึกษาคือการพัฒนาความคิดและฝึกให้ผู้เรียนแก้ไขปัญหา”
การศึกษามีหน้าที่เท่านี้เองลูก...
ไม่ว่าลูกจะเรียนแพทย์ศาสตร์ สถาปัตยกรรม ศิลปะศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ภาษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ
ทุกสาขาวิชาจะต้องสอนให้ลูกรู้จัก “แก้ปัญหา” ฝึกการแก้ไขปัญหาจากง่ายไปหายาก
เป็นการสอนให้ลูกรู้จักการพัฒนาความคิด เป็นการจำลองโลกแห่งความจริงสู่ห้องเรียน เป็นการเชื่อมโยงชีวิตจริงกับโลกจำลองในสถานศึกษา
เพราะชีวิตคนเรานั้นเกิดมาเพื่อรับมือกับปัญหานานาที่ถาโถมมาตลอด
ถ้าเราติดอาวุธทางปัญญาเอาไว้ มีการฝึกคิด ฝึกปฏิบัติจริง ลูกจะไม่ได้เก่งแค่การเรียนหรือสอบ แต่ลูกจะตอบคำถามชีวิตตัวเองได้ในทุกๆเรื่อง เมื่อเจอปัญหาและความผิดพลาดลูกจะไม่ท้อถอยง่ายๆ ลูกจะสนุกกับการแก้ปัญหาต่างๆในชีวิต ตั้งแต่เรื่องๆง่ายอย่างการจ่ายของในตลาด การขับรถ การมีแฟนแล้วอกหัก การเข้าใจเรื่องในสังคม ไปจนถึงการทำใจให้ยอมรับการตายจากพลัดพรากของคนรอบตัวลูก ฯลฯ
โจทย์เลขง่ายๆ...จาก บวก ลบ คูณ หาร กลายเป็นตรีโกณมิติ หรือสูตรเคมียากๆ ล้วนแต่ฝึกให้ลูกจดจำ คิดตาม และค้นหาวิธีการในการตอบโจทย์เหล่านั้น
การผ่านโจทย์หรือข้อสอบในการเรียน เหมือนการเรียนรู้ในชีวิตจริง ที่เราต้องผ่านโจทย์ของชีวิตที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ตามวัยวันที่ผ่านไป
ระบบการศึกษาในปัจจุบันกลับแยกส่วนความคิด และประดิษฐ์คนเข้าสู่สายพานการผลิตของบริษัท เราถูกทำให้เชื่อว่า คนเรียนเก่งต้องเป็นหมอ เวลาเรียนต้องเลือกโรงเรียนดังๆเพื่อสร้างคอนเนกชั่น ต้องเลือกสาขาวิชายอดนิยม จบมาแล้วจะได้หางานง่าย รวยเร็วๆ
เด็กถูกจับยัดลงไปในระบบการคัดเลือกคัดกรองนักเรียนด้วยเงิน พ่อแม่ที่รวยกว่ามีโอกาสมากกว่าในการเลือกโรงเรียนที่พร้อมกว่าให้กับลูกของตนเอง เด็กถูกจับเรียนพิเศษตั้งแต่ยังตัวน้อยๆ เพราะพ่อแม่คาดหวังที่นั่งในโรงเรียนชื่อดัง เด็กต้องแบกความคาดหวังของคนรอบตัวตั้งแต่เด็กไปจนถึงขั้นตอนการเอนทรานซ์ โดยที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆไม่เคยคิดเลย ว่าได้ผลักความเครียดให้เด็กแบกรับไปแล้วมากมายเท่าใด
พ่อไปเจอประโยคนี้เมื่อนานมาแล้วและชอบมาก เขาเขียนไว้ว่า
“คนเก่ง” ...ใช้เวลา 2-3 ปี ก็สอนให้เก่งได้ แต่ “คนดี”...ต้องใช้เวลา “ชั่วชีวิต” สอนกัน
: ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน
จาก : Internet & Forward mail
นิยามความหมายของ “คนเก่ง” จึงเป็นอะไรที่พ่อไม่เคยสนใจเลย สอบได้ที่เท่าไหร่ ไม่สำคัญเท่ากับลูกได้เรียนรู้อะไรบ้าง “เกียรตินิยม” บนใบทรานสคริปต์ ไม่สำคัญเท่ากับ “เกียรตินิยม” แห่งตัวตนที่เราได้สร้างทำประโยชน์ให้กับคนอื่น
เรียนแต่ดี อย่าดีแต่เรียน รู้แต่ดี อย่าดีแต่รู้
พ่อหวังว่าลูกจะมีความสุขในการเรียนรู้ มีความสุขไปกับการเล่น ร้องเพลง มีความสุขไปกับทุกขั้นตอนของชีวิต
เพราะชีวิตคือการเรียนรู้นะลูกนะ
Create Date : 09 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 19 สิงหาคม 2554 6:23:48 น. |
|
126 comments
|
Counter : 1941 Pageviews. |
|
|
|
คนเก่ง ...ใช้เวลา 2-3 ปี ก็สอนให้เก่งได้
แต่ คนดี...ต้องใช้เวลา ชั่วชีวิต สอนกัน
ชอบเหมือนกันค่า คุณก๋า
อย่างนี้ต้องมีน้องให้ 2 หมิงแล้วแหละ
จะได้เหนื่อยทีเดียว555555555