:: หมิงหมิงป่วย ป่วยและป่วย ::
:: หมิงหมิงป่วย ป่วยและป่วย ::
ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2552 หมิงหมิงเริ่มป่วยเป็นหวัด นับจากวันที่เป็น....จนวันที่หายขาด กินเวลาทั้งสิ้น 22 วัน
หมิงหมิงมีอาการเป็นไข้ น้ำมูกไหล ไอ พ่อและแม่พาหมิงหมิงไปหาป้าหมอที่โรงพยาบาลทุกอาทิตย์ เปลี่ยนยาแล้วเปลี่ยนยาอีก
แต่ทำยังไงก็ไม่หายขาด จะหายๆ...ก็กลับมาเป็นอีก เนื่องจากติดหวัดกันวนไปเวียนมาทั้งบ้าน... เดี๋ยวพี่ข้าวปั้น พี่ข้าวทิพย์เป็น เดี๋ยวหมิงหมิงเป็น อาแปะ อาอึ้ม ก๋ง สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นหวัดโดยไม่หายขาดสักที
การมีเด็กอยู่ด้วยกันเล่นด้วยกันตลอด โอกาสหายจากหวัดยิ่งยากมากขึ้น
คืนวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม หมิงหมิงมีอาการไข้ขึ้นสูง 39 องศา ไม่ว่าจะเช็ดตัวหรือให้ยาแก้ไข้ยังไงไข้ก็ไม่ลด พ่อกับแม่เลยปรึกษากันว่า ต้องพาหมิงหมิงไปหาป้าหมอโดยด่วน
คืนนี้เองที่หมิงหมิงต้องเข้านอนโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก น้ำตาแม่เกือบไหลตอนที่พยาบาลเจาะมือหมิงหมิง เพื่อเอาเลือดไปตรวจหาสาเหตุของโรค และเนื่องจากพยาบาลหาเส้นเลือดไม่เจอ จึงต้องเจาะมือทั้งสองข้าง
หมิงหมิงร้องอย่างน่าสงสารด้วยความเจ็บปวด ลูกตะโกนอยู่ 5 คำที่พูดได้ คือ ป่ะป๊า หม่าม๊า หม่ำหม่ำ ไหนไหน (นม) แล้วก็บับเบิ้ล ตะโกน 5 คำนี้สลับกับการร้องไห้ตลอดเวลา
บับเบิ้ลคือถ้วยเล็กๆที่หมิงหมิงเอาไว้ใส่น้ำยาเป่าฟองสบู่ที่บ้าน ในระหว่างช่วงป่วยลูกติดเจ้าถ้วยนี้มาก ไม่เคยเอาไว้ห่างตัว ตื่นมาก็ร้องหาแต่บับเบิ้ลๆ ตอนนอนก็ถือไว้จนหลับทุกคืน...
ผลการตรวจเลือดและเอ็กซเรย์ปอด ออกมาว่าหมิงหมิงติดเชื้อแบคทีเรียในปอด และมีอาการปอดบวมเล็กน้อย หูอักเสบ ไข้สูง ป้าหมอบอกว่าโดยปกติเม็ดเลือดขาวจะมี 5000 – 10000 แต่หมิงหมิงมีค่าเม็ดเลือดขาวถึง 30000 เลยทีเดียว
ทำให้หมิงหมิงต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลสองคืน โดยมีนางพยาบาลและคุณหมอคอยดูแลตลอดเวลา... ผลของการถูกเจาะมือ ทำให้หมิงหมิงร้องไห้ทุกครั้ง ที่เห็นนางพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง ขนาดยังไม่ทำอะไรแค่เห็นชุดฟอร์ม หมิงหมิงก็โบกมือไม่เอา และร้องไห้ทุกครั้ง....
เมื่อครบกำหนด....หมิงหมิงมีอาการดีขึ้น การให้ยาทางเส้นเลือดทำให้ลูกหายดีอย่างรวดเร็ว ตอนที่พยาบาลให้ยา หมิงหมิงจะหลับยาวมาก ไม่กระดุกกระดิกหรือพลิกตัวเลย
เมื่อกลับมาบ้านหมิงหมิงร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด กลับมาทานข้าวได้เยอะขึ้น วิ่งเล่นทั้งวันอย่างมีความสุข....
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม ป้าหมอนัดไปตรวจอาการอีกครั้ง แม่เป็นคนขับรถ โดยมีพ่ออุ้มหมิงหมิงอยู่ด้านหน้าคนขับ เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เมื่อแม่จะถอยจอดเข้าซอง แต่เท้าดันไปเหยียบคันเร่ง รถจึงพุ่งชนรถอีกคันที่จอดอยู่ ดีที่หมิงหมิงไม่เป็นอะไรเลย รถของคู่กรณีและรถของเราบุบและสีถลอกเล็กน้อย แต่เนื่องจากมีประกันเลยทำให้คุยกันง่าย แม่โทรไปขอโทษเจ้าของรถ และเจ้าของรถก็ไม่ติดใจเอาความใดใดๆ เนื่องจากต่างคนต่างมีประกันชั้นหนึ่ง
เมื่อก่อนพ่อไม่เคยสนใจเรื่องของการประกันเลย แต่ในครั้งนี้ที่หมิงหมิงป่วย เพราะเราทำประกันไว้ค่ารักษาหมิงหมิงจึงได้จ่ายเองน้อยมากแค่ 900 บาทเท่านั้นเอง จากค่ารักษาทั้งหมดประมาณ 11000 บาท (2 คืน 3 วัน)
และเรื่องรถจบลงอย่างง่ายดาย โดยให้ประกันเป็นคนดูแล.....
พ่อไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องของความซวยหรือกรรมอะไรหรอก ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ถ้าเราประมาท
หมิงหมิงกำลังจะครบ 1 ขวบกับ 5 เดือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ พ่อปรารถนาให้หมิงหมิงแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี
อย่าป่วยแบบนี้อีกเลยนะลูก พ่อกับแม่ทรมานใจเหลือเกิน
มือขวามีเข็มเสียบอยู่ตลอดเวลา พยาบาลเลยต้องใช้ผ้าอ้อมพันแขนไว้ เพราะกลัวหมิงหมิงดึงเข็มออกมา
มือซ้ายถือบับเบิ้ลคู่ชีพ 5555
จ๋อยสนิท
แต่วันนี้หมิงหมิงยิ้มออกแล้วครับ
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 22 มกราคม 2553 8:04:56 น. |
|
114 comments
|
Counter : 2374 Pageviews. |
|
|
|
หายวันหายคืนนะคะคุณเก่ง อ่านไปแอบเศร้าตามไปด้วย
เด็กๆป่วยเนี้ยเค้าน่าสงสารเนอะ เฮ่อ!
ดีนะคะรถมีประกันชั้นหนึ่งตกลงกันง่ายขึ้น ค่ารักษาน้องหมิงหมิงแพงอ่า
นี่ไม่มีประกันต้องจ่ายเต็มๆแน่ๆเลย โชคดีที่พ่อก๋าทำประกันเอาไวให้น้อง
บางสิ่งบางอย่างเราคิดว่ามันไม่น่าจะสำคัญแต่แบบนี้สำคัญแน่นอน
เห็นรูปสองหมิงยิ้มแล้วมีความสุขตามไปด้วย หายแล้ว เย้ๆ