<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
28 กรกฏาคม 2559

:: ชีวิตซ้ำชั้น ? ::







:: ชีวิตซ้ำชั้น ? ::


ภาพและคำ : กะว่าก๋า










อีกหนึ่งนโยบายด้านการศึกษาที่กำลังถูกผลักดันออกมา

"สอบตก --- ซ้ำชั้น"

คนอายุ 40 กว่านิดๆแบบผม
เคยผ่านแนวคิดนี้มาก่อน

โง่ --- ถูกเพื่อนกับครูถากถาง
โง่ --- ซ้ำชั้น
โง่ --- ออกจากโรงเรียน

คำถามของครูผู้สอน
คือระหว่างการสอบตกแล้วสอบซ่อม
กับสอบตกแล้วซ้ำชั้น
อะไรดีกว่ากัน ?
ส่วนใหญ่ครูไม่เห็นด้วยกับการซ้ำชั้น
เพราะทำให้ภาระของเด็กที่เลื่อนชั้นขึ้นมากับครูมีมากขึ้น
เด็กปรับตัวกับเพื่อนใหม่ไม่ได้ รู้สึกมีปมด้อย ฯลฯ

ผมกลับรู้สึกว่าการสอบได้หรือสอบตก
ไม่ได้เป็น "ปัญหาเร่งด่วน"

ปัญหาเร่งด่วนที่ผมรู้สึกมากที่สุดในตอนนี้
คือ เด็กไทยกำลังอยู่ในภาวะ "ไม่มีความสุขกับการเรียนรู้"

เด็กปฐมวัยไปจนถึงชั้นประถม
เรียนรู้อย่างไม่มีความสุข

เด็กระดับมัธยมไปจนถึงระดับอุดมศึกษา
ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือมีความถนัดด้านใด

รู้แต่ต้องเรียนให้เก่ง สอบให้ได้เกรดและคะแนนสูงๆ
เพื่อจะได้สอบเข้าโรงเรียนดีดี เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้

นโยบายด้านการศึกษาที่ถูกนำเสนอออกมาในช่วงนี้
ทั้งหมดแทบไม่ได้แก้ปัญหาหลักของประเทศที่มีอยู่
ได้แต่วนอยู่กับผิวและเปลือกของปัญหา

สิ่งที่เราควรหันกลับมามองอย่างเร่งด่วนที่สุด
คือ คุณภาพของหลักสูตร (เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้)
คุณภาพของครู (รวมทั้งสวัสดิการ)
การสร้างโอกาสในการเข้าถึงความรู้ของผู้เรียน
(เช่น การสร้างห้องสมุดที่ดี การสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ดี ฯลฯ)

และสิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ "ทัศนคติของพ่อแม่ที่มีต่อการเรียน"
อย่างสุดท้ายสำคัญมาก มากกว่าตัวเด็กด้วยซ้ำ

เพราะ "เด็ก" ในวันนี้
เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกลากจูงไปด้วยคำว่า รัก เป็นห่วง
อยากให้มีอนาคตที่ดี อยากให้ลูกรวย และประสบความสำเร็จ
จนพ่อแม่จำนวนมากไม่สนใจแล้วว่าเด็กจะมีความสุขหรือไม่
ในขณะที่เติบโตและเรียนรู้

สถาบันกวดวิชากำลังโกยเงินอย่างไม่หยุดหย่อน
จากความรู้สึก "กลัว" ของพ่อแม่
กลัวว่าลูกตัวเองจะด้อยกว่าลูกคนอื่น

เด็กต้องเรียนรู้อะไรอย่างมากมายในแต่ละวัน
จนลืมไปแล้วว่าความสวยงามในการใช้ชีวิตเป็นอย่างไร

เราจะสร้างอัจฉริยะที่ไม่มีความสุขออกมาทำไมมากมาย

ขอเด็กที่เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ
มีความสุขกับการเรียนรู้ สนุกกับการใช้ชีวิตบ้างได้ไหม

หรือที่สุดแล้วเราจะเลือกยอมรับ "ระบบการศึกษา"
อย่างที่เป็นอยู่ อย่างไม่กล้าขัดขืนและยอมจำนน






Create Date : 28 กรกฎาคม 2559
Last Update : 10 พฤษภาคม 2560 8:06:25 น. 35 comments
Counter : 2271 Pageviews.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


เด็กบางคนวัดแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ก็ปล่อยไปไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ส่วนตัวแม่โมยังชอบระบบเดิมอยู่ เพราะหลาย ๆ ประเทศยังอิงการซ้ำชั้นของเด็กที่พัฒนาการการเรียนรู้ไม่ถึงเกณฑ์ ปล่อยไปมีแต่ผลเสียตัวเด็กเอง

ส่วนเรื่อง มฐ.การศึกษาไทย อยากให้ผู้ใหญ่ในสภาคิดได้อย่างพี่ก๋านะคะ ออกมาแก้ไขอะไรมากมายได้แต่เปลือก แกน แท้ ๆ ยังหาสาระจุดยืนยังไม่ได้ คิดไม่ตกเด็กรุ่นหลังได้อะไรเป็นมรดกวิชาการ


โดย: mariabamboo วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:7:15:09 น.  

 
อยากให้ผู้มีความรับผิดชอบมีความคิดเห็นแบบคุณก๋าจังเด็กไทยจะได้ไม่ต้องไร้ความสุขในการเรียน ยิ่งในปัจจุบันนี้การแข่งขันสูงทุกอย่างต้องเข้าไปกวดวิชากันหมดถ้าไม่ไปก็กลัวลูกจะสู้ไม่ได้ จะไม่ทัน จะไม่มีที่เรียนดีๆน่าเศร้าใจจริงๆค่ะ


โดย: zungzaa วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:7:42:00 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ออมอำพัน วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:8:05:18 น.  

 
เขียนได้โดนมากเลยค่ะ

จริงๆ ตัวเองก็ไม่ชอบนะคะ ระบบที่ให้เด็กซ้ำชั้น มันเหมือนกับการตอกย้ำและประจาน ให้เด็กสอบซ่อมดีกว่านะคะ

ส่วนที่ว่า โรงเรียนกวดวิชาหาเงินกับความกลัวของพ่อแม่ผู้ปกครอง อันนี้ก็ถูกอีกแหละค่ะ

เคยเปรียบเทียบระบบการเรียนของเมืองไทยกับประเทศในยุโรปนะคะ มันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กๆ มีความสุขในการเรียนที่ไม่มากมาย ไม่ต้องแข่งขัน ทำให้เขามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ออมอำพัน Literature Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: Sai Eeuu วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:8:17:11 น.  

 
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
วันนี้มาแนวเข้มข้นด้วยเนื้อหาสาระ



โดย: หอมกร วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:8:28:19 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า
ผมกับพี่ชายเข้าเรียนพร้อมกัน พอพี่ชายขึ้นป.2 แม่บอกให้ผมเรียนซ้ำชั้น ป. 1 ต่อ
ด้วยเหตุผล จะได้ใช้ของพี่ ลดค่าใช้จ่าย
ป.1 จะคิดอะไรได้ครับ 55 ไม่น้อยใจ ไม่รู้สึกปมด้อย
แต่ถ้ากลับมาใช้ใหม่ ซ้ำชั้นในวัยที่รู้อะไรมากมาย เช่น ป.4 ม.3 ปมด้อยตามมาแน่ครับ เว้นแต่จะเกเรมากๆ ถึงอยู่ได้ครับ

การศึกษา น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น การแข่งขัน
แข่งขันกันเรียน แข่งขันแย่งกันเข้าทำงาน
ช่วงชีวิตที่มีความสุขหายไปกับการแข่งขัน
เราได้ คนที่แข่งขัน แข่งขันกันเป็นใหญ่เป็นโต
แข่งขันกันจนตายไปข้างหนึ่ง

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:8:34:01 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะคุณก๋า
ต้องปรับหลายเรื่องเลย ไม่ว่าจะหลักสูตรการเรียนการสอน
คุณภาพของครู ของโรงเรียน
ทัศนคติและความเชื่อของพ่อแม่ผู้ปกครอง
เยอะเลยนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:8:59:02 น.  

 
ปัญหาของการสอบซ่อมคือ ต่อให้เด็กยังไม่ผ่าน บางทีก็ต้องให้ผ่าน หรือทำยังไงก็ได้ให้เขาผ่านค่ะ

แต่เรื่องซ้ำชั้นนี่มันก็สร้างปัญหาจริงๆ

บอกไม่ถูกเหมือนกันนะคะ


เรื่องการแก้ทัศนคตินี่ก็ย้ากยาก คือไงดี บางทีความสุขกับสิ่งที่สังคมต้องการเพื่อพัฒนาประเทศก็ต่างกัน

อย่างญี่ปุ่น คนสมัยเก่าๆ นี่ก็เข้มงวดเรื่องการเรียนมาก จะเป็นจะตายกับการสอบเข้ามหาลัยดังไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันการได้คนที่มีคุณภาพด้านการเรียนก็ทำให้เขาพัฒนาอะไรได้เยอะมาก (ซึ่งไม่ได้หมายถึงการสร้างคนเรียนเก่งอย่างเดียว วิธีคิด วิธีทำงาน การทุ่มเทกับการทำงานก็ด้วย) แต่ก็สร้างความเครียด คนฆ่าตัวตายเยอะ

ขณะที่เรื่องของความสุข..ทำยังไงให้ความสุขควบคู่กับการพัฒนาไปได้

เราเองก็ต้องหาวิธีบาลานซ์ค่ะ

เพราะเราก็เคยเห็นเด็กที่เอาแต่มีความสุข แต่ไม่สามารถหาสาระในการเรียนรู้ได้เลย บางทีคำว่า เรียนรู้อย่างมีความสุขก็อาจจะเป็นคำตอบ แต่มันต้องอยู่ตรงจุดที่พอดีว่า ไม่ทำให้เด็กเผลอไปกับความสุขมากเกินไปด้วยน่ะค่ะ

เคยอยู่ในแวดวงการศึกษา แล้วเห็นปัญหาเยอะมาก

ยิ่งนโยบายช่วงหนึ่งที่ห้ามลงโทษเด็ก ชลายด์เซนเตอร์ ฯลฯ ต่างๆ นานามากมาย โดยนโยบายเหมือนจะดี แต่พอปฏิบัติจริง มันกลับกลายเป็นทุกวันนี้เด็กไม่มีคุณภาพเลยจริงๆ เขียนหนังสือผิดกันเยอะมาก เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางการตัดสินเยอะมาก (ไม่สนว่ากฎเกณฑ์สังคมเค้าจะเป็นอย่างไร ไม่สนว่ามันถูกต้องจริงๆ มั้ย แต่ตรูเห็นว่าถูก เพราะตรูได้ประโยชน์) และเหมือน 18 ปีของการเรียนที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเข้าหัวกันเลยจริงๆ ชอบแต่ได้ใช้ชีวิต แต่งตัว กินเหล้า ฯลฯ (เราอยู่เอกชนที่ไม่ต้องสอบเข้าด้วยมั้งคะ เลยมีโอกาสเห็นเด็กที่..มาเพื่อใช้ชีวิตไปวันๆ เยอะมาก)

ปัญหาอีกอย่างคือ การประเมินคุณภาพครูผู้สอนที่ต้องเอาเวลามาทำเอกสาร สร้างหลักฐานเพื่อนำเสนอให้เกณฑ์การประเมินผ่าน จนไม่มีเวลาเอามาเตรียมการสอนให้กับเด็ก ครูเสียเวลาไปกับสิ่งเหล่านี้เยอะมากๆๆๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทำเลยนะคะ เราอยากให้ครูมีรายได้ที่ดี มีสวัสดิการที่ดี จนทำให้คนเรียนเก่งๆ สอนดีๆ คนดีๆ คนมีคุณภาพอยากมาเป็นครูเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว

เพราะการได้ครูดี สอนดี คนดี มีทัศนคติ มันเป็นเบ้าหลอมที่สำคัญมากๆ เลยค่ะที่จะทำให้เด็กที่ออกมาเป็นยังไง

พูดตรงๆ เห็นเด็กสมัยนี้แล้ว ห่วงอนาคตชาติมาก



วันนี้คุยซะยาวเลย เป็นประเด็นที่คิดมานานมากแล้วน่ะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:01:11 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า...

ขอขอบคุณที่อวยพรวันเกิดให้นะค่ะ..

ขอให้ครอบครัวของคุณก๋ามีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:18:19 น.  

 
สวัสดียามเช้า ครับคุณก๋า


โดย: ต้อง (Tongstory95 ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:19:48 น.  

 
เจอเด็กหลายคนเลยค่ะ ที่เน้น เงิน คือ ชอบเงิน อธิฐานขอให้ตัวเองรวยๆ T_T ดีใจที่คนให้เงิน ประมาณนั้น ซีเคยได้เงินเป็ฯรางวัลในการทำงานบางอย่าง มี้ต้องบอกให้เธอเอาไปคืนเจ้าภาพและบอกว่ามาช่วยด้วยใจ เจ้าภาพยืนยันให้ทุกคน ก็เลยบอกว่า งั้นให้บอกว่าเอ็นดูให้ไปซื้อขนม ไม่ใช่ว่า ให้เพราะมาช่วยงานบุญ


โดย: kae+aoe วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:28:56 น.  

 
กะว่าก๋าอายุ40กว่าเหรรอ ชีเนตรอายุ40พอดี


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:28:57 น.  

 
เห็นด้วยเลยค่ะ

ระบบการศึกษาของไทยควรปรับปรุงอย่างเร่งด่วน

เด็กเดี๋ยวนี้มีแต่ต้ั้งหน้าตั้งตาเรียน

เรียนในห้อง เรียนพิเศษ เรียน เรียน และเรียน

แต่ไม่รู้เลยว่าต้องเรียนไปเพื่ออะไร อนาคตอยากทำงานอะไร

รู้เพียงแต่ว่าต้องเรียน

ส่วนเด็กที่ไม่เรียน ก็ไม่สนใจไรทั้งนั้น ไม่เรียนต่อไป สอบตกก็ซ่อม พวกนี้ก็ไม่มีอนาคตอยู่ดี

แล้วใครกันล่ะที่ผิด พ่อแม่ ครู ระบบการศึกษา

คิดแล้วก็อ่อนใจ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:31:33 น.  

 
เห็นด้วยเลยค่ะพี่
การศึกษาในส่วนที่ควรพัฒนาปรับปรุงจริงๆ ไม่ได้รับการแก้ไข ไปแก้ไขอะไรกันก็ไม่รู้


ทักทายยามสายค่ะพี่ก๋า


โดย: blog pu วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:58:59 น.  

 
555 พูดกันไปก็ป่วยการครับ
เพราะ มันต้องร่วมด้วยช่วยกันทุกฝ่าย
ทั้ง ผู้กำหนดนโยบาย กระทรวง ทบวง กรม
ไล่ลงมายัน ผู้บริหาร มหาวิทยาลัย รร. ครู ผู้ปกครอง แล้วก็ตัวเด็กเองด้วย

ต้องช่วยกันคนละไม้ คนละมือ
อ.เต๊ะ เคยสอนมาหมดทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะมหาลัยของรัฐ หรือของเอกชน
โรงเรียนกวดวิชาก็ยังสอนด้วย แฮ่ๆ

ไม่ใช่ขยันนะครับ เพราะไม่งั้นไม่พอกิน6มื้อ เย้ย 555

เจอผู้บริหารรวมทั้ง พ่อแม่ เด็กๆ มาหลากหลาย ทุกคนจ้องแต่ผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น การศึกษา เดี๋ยวนี้ จึงเป็นธุรกิจไปหมด

เศรษฐกิจ จะดีไม่ดี พ่อแม่ก็ต้องดิ้นรน หาเงินส่งลูกเรียน ยิ่ง รร. ทางเลือกของคุณก๋านี่
ต้องขายกระเป๋าแยะเลยนะครับ ไม่งั้นไม่พอค่าเทอม หมิงหมิง เย้ย 555

ยิ่งครูยุคใหม่นี่ เค้าไม่ค่อยเน้นสอนในห้องแล้วด้วยส่วนใหญ่ไปหาสอนกันนอก รร.กันหมดเพราะรายได้ดีกว่า

เด็กๆในระบบ เลยป้อแป้ร่อแร่กันไปหมด
ไม่งั้นก้เน้นแต่ทำวิจัย ทำตำแหน่ง ลาเรียนต่อกันทั้งปี หนีทุนกันก้แยะ 555

ส่วนครูอาจารย์ ที่ตั้งใจสอนกันจริงๆ ก็ยิ่งเพิ่มภาระ เพราะ ครู อาจารย์กาฝากประเภทนี้มีแยะ มีทุกที

อย่างมหาลัยที่คุณก๋าจบมานี่แหละตัวดี
ด๊อกเตอร์ เดินจะชนกันตาย แต่ไม่ยอมสอนทำแต่วิจัย ที่ได้ทุนแยะๆ ได้กล่องได้หน้า

เลยต้องมาจ้าง ครูมืออาชีพ รุปหล่อๆ พุงกลมๆ แบบ อ.เต๊ะ นี่แหละไปสอนแทนนะครับ เย้ย 555





โดย: multiple วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:10:14:04 น.  

 

ขอบคุณค่ะลุงก๋า



ตอนเรียนไม่เคยสนใจเลยว่าจะเรียนรู้อะไร ขอแค่สอบผ่านเป็นพอจะได้ไม่โดนล้อโดนด่า


โดย: praewa cute วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:11:12:08 น.  

 
โห่พี่ ของมาดามนี่แพ้อย่างหนักเลยนะคะ

แต่แพ้ของทะเลมันก็ดีอย่างนะพี่ ไม่เปลือง 555

แต่โชคดีนะที่ปุ๊ไม่แพ้กุ้ง เพราะกุ้งแม่น้ำที่อยุธยา ทั้งสด ทั้งอร่อยเลยพี่


โดย: blog pu วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:13:22:55 น.  

 
ว่ากันตามตรงนะคะครูในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เรียกว่า 90%เป็นครุรับจ้างไม่ใช่ครูโดยจิตวิญญาณเหมือนสมัยก่อนที่จะมาตามเอาใจใส่กวดขันเด็ก สอนไปวันๆเพื่อตกเย็นเด็กจะได้มาเรียนมาเพิ่ม เสาร์-อาทิตย์เรียนพิเศษ มันเป็นวงเวียนวัฏจักรคุยกันไม่จบ


โดย: zungzaa วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:33:28 น.  

 
ไว้อาลัยกับการศึกษาไทย


โดย: The Kop Civil วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:40:03 น.  

 

มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: white in the dark วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:41:54 น.  

 
มันสับสนไปหมดเจ้าว่าควรจะเป็นอย่างไรดีเจ้า


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:46:49 น.  

 
พี่ไม่ได้รู้สึกแย่มากกับระบบการศึกษาบ้านเรา

มองว่าในดีมีเสีย ในเสียมีดีค่ะ พ่อแม่ทุกคนคงอยากให้ลูกเรียนอย่างมีความสุข คิดเป็นตามวัย สมวัยที่ควรจะเป็น

ยังพูดว่าพ่อแม่สามารถจัดการได้ ถ้าเด็กไม่ชอบ ไม่มีความสุขในชั้นเรียนนั้น

โรงเรียนทางเลือก อาจไม่ใช่ทางออกของชนชั้นกลางถึงล่างนัก และถ้าจะต้องจำยอมเรียนในระบบที่มีอยู่ จะทำยังไง ไม่เรียนหรือ หรือต้องโฮมสคูล โดยพ่อแม่สอนเอง

ที่ต้องคิดดี ๆ คือ ไม่ว่าในสังคมแบบใด เด็กมีภูมิคุ้มกันดีพอหรือไม่ กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวแบบนี้ เราปกป้องเค้าเก็บเค้าไว้อยู่กับบ้านไม่ได้ตลอดหรอกนะ

อย่าผลักภาระให้ระบบการศึกษาอย่างเดียว เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพหรือไม่ ประกอบด้วยอะไรหลายอย่างค่ะ ครอบครัวสำคัญที่สุด


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:49:11 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

หัวข้องานเขียนในวันนี้ ยังอยู่ในวงการศึกษาเหมือนเมื่อวานเนอะ อ่านจาก คอมเม้นท์ ของสมาชิกในบล็อกแก๊งแล้ว ทุกคนก็ห่วงใย ระบบการศึกษาของไทย ซึ่งนับวันน่าจะถอยหลัง นะ ครูอยู่ในช่วง ทั้งระบบ ตกซ้ำชั้น และ ระบบ เกรด ตกวิชาใด ก็สอบซ่อมวิชาที่ตก สองระบบ นี้ ถ้าคนเป็นครู และเคยอยู่ในสองระบบ นี้ น่าจะมีความคิดตรงกันนะ คือ ทั้งสอง ระบบ ต่างมีข้อดี ข้อเสีย ข้อดี ของระบบเรียนซ้ำชั้น คือ ทำให้เด็กตั้งใจเรียนมากขึ้น เพราะถ้าตก เขาจะต้องเสียเวลา 1 ปี เรียนใหม่ทุกวิชา (ซึ่งก็มีข้อดี ทำให้ความรู้แน่นขึ้น อิอิ) ข้อเสียของระบบนี้ ก็อย่างที่ว่า ต้องอับอาย และเพื่อนจะหาว่าโง่ เสียเวลาด้วย เปลืองงบประมาณ
ส่วนระบบเกรด ตก ก็ซ่อมได้ ก็ดีอย่างไม่เสียเวลาเรียนซ่ำทั้งปี แต่เด็กก็ไม่ค่อยตั้งใจเรียน ยิ่งมีการให้ส่งรายงาน เพื่อเป็นคะแนนเก็บ โอกาสตกจะน้อยลง ถ้าขยัน มีงานส่งนะ ถ้าไม่รับผิดชอบ ก็เป็นปัญหาอีก ติด ร อีก เพิ่มภาระ ให้ครูผู้สอนต้องมาสอนเพิ่ม มาสอบใหม่ ความรู้ไม่แน่นนัก เพราะมีคะแนนเก็บ คะแนนรายงานมาช่วยเยอะ ไม่ใช่เป็นการสอบอย่างเดียว
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก ทั้งตัวครูผู้สอน จะมีจรรยาบรรณมากน้อยแค่ไหน กั๊กวิชาที่สอนหรือเปล่า ต้องไปเรียนพิเศษกับเขานะ สภาวะ ค่านิยมของพ่อแม่ ที่กลัวลูกจะแพ้คนอื่น ส่งลูกเรียนกวดวิชา สารพัดวิชา จุดนี้ น่าสงสารเด็กมาก ชีวิตวันเด็กของเขา แทบจะไม่มีเลย ไม่เหมือนสมัยพวกเรา เรียนเสร็จ มีโอกาสได้เล่น เดินเที่ยว เสาร์อาทิตย์ไปดูหนังดูละคร
การจะแก้ไข ปัญหาทางการศึกษา จึงต้องระดมสมองทุก ๆ ฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐ ฝ่ายผู้ปกครอง และตัวแทนเด็กนักเรียน ด้วย ก็ยิ่งดี แต่มันก็เป็นเพียงความฝันเนอะ พวกเราก็ได้แต่เสนอความคิดเห็นกันไป แลกเปลี่ยนกันไป เฮ้อ!
น่าจะเอาข้อเขียน ความคิดเห็นของพวกเราทั้งหมด ส่งไปให้ ร.ม.ต. กระทรวงศึกษา นำไปคิด ไปประชุมหารือ วางนโยบาย ดีไหม ห้าห้าห้า (ชอบฝัน อิอิ)
โหมด หมวดการศึกษา ก็แล้วกันนะจ๊ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:23:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณก๋า

เห็นด้วยทุกประการที่กล่าวมา
ว่าการศึกษาไทยตอนนี้ เหมือนคนป่วยเป็นมะเร็ง
เรื้อรัง เจ็บหนัก รักษายาก จริงๆนะคะ

ดูเด็กๆตอนนี้ เรียนหนัก เครียด และดูไม่ Happy จริงๆค่ะ
เสาร์ อาทิตย์ ก็ต้องไปเรียนพิเศษ เพราะกลัวเกรดไม่ดี เอนท์ไม่ติด

การสอบเข้ามหาวิทยาลัย กลายเป็นเรื่องที่หนักหนาและเป็นทุกอย่างของชีวิตไปแล้ว ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลย

หลายคนยังถือคติ เรียนคณะอะไรก็ได้ ขอให้เอนท์ติด
มันใช่ไหมเอ่ย

ระบบการศึกษาก็ตะบี้ตะบัน เน้นผลการเรียน เน้นเกรด เน้นคะแนนสอบกันเข้าไป

เหนื่อยใจจริงๆนะคะ


โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:48:20 น.  

 
เกิด 2519 ค่ะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:16:18:45 น.  

 
มาสวัสดียามใกล้เย็นค่ะ

พี่กำลังคิดว่า คนอายุเท่าพี่เนี่ย
โชคดีหลายๆ ที่ไม่ต้องคิดเรื่องการศึกษา
อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน
ยิ่งในฐานะครู พี่ใช้เวลามากจริงๆกว่าจะให้
เกรดใครได้ ยิ่งถ้าจะต้องให้ตก ยิ่งคิดหนัก
ถามตัวเองด้วยว่า ในระหว่างการเรียนการสอน
เค้าไม่ตั้งใจเรียน หรือเราสอนไม่ชัดเจน

ปัญหาการศึกษาบ้านเราไม่ได้อยู่ที่สวนใด
ส่วนหนึ่งของระบบ แต่เพราะแต่ละส่วนไม่
เกื้อหนุนกัน การแก้ส่วนใดส่วนหนึ่งจึงไม่
สามารถแก้ทั้งระบบได้



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:16:39:12 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณก๋าทุกประการค่ะ
เด็กนักเรียนสมัยนี้เหมือนหุ่นยนตร์ที่ถูกลากจูงไป
น่าสงสาร

วันนี้มาสั้นๆค่ะ มึนกับการคลิกเข้าบล็อกมาก
ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยค่ะ



โดย: mambymam วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:17:54:20 น.  

 
สวัสดีคะคุณก๋า
อ่านแนวความคิดของคุณก๋าเรื่องการศึกษาของเด็กไทย
ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าเห็นด้วยคะ
มันเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ถูกแก้แล้วแก้อีกมาทุกยุคสมัย

ว่าแต่ เอ...รุ่นคุณก๋า ยังมีตกซ้ำชั้นอยู่รึคร้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:18:09:51 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไอเอิร์ธ Technology Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog



โดย: ก้นกะลา วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:18:17:03 น.  

 








หุ .. หุ ..

พี่ป๋อง เรียน ไม่เก่ง .. ค่ะ ..

โคด .. ไม่เก่ง ..

ได้เกรด .. 2 ฝ่าๆ ..

ได้ที่ โหล่ .. ตล๊อด .. ตล๊อด ..




คร๊ายยยยยยย .. จา คิ๊ดดดด ..

ว่า .. วันนี้ จา มา .. ทำ อาชีพ .. นักแปล ได้ ..

งง กับ พี่ป๋อง ทั้ง อากง อาม่า อาอี้ อากู๋ .. อาเจ็ก อาแปะ ..






^_^











โดย: สมาชิกหมายเลข 3192593 วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:19:04:45 น.  

 
สวัสดีค่า พี่ก๋า ^^
มาอ่านแล้วคิดเหมือนพี่ก๋า
แต่สังคมอยู่ยากอะ กวดวิชาเป็นเหมือนค่านิยมไปแล้ว
พ่อแม่กลัวก็อย่าง ครูที่มีรายได้จากกวดวิชาก็อย่าง
เด็กที่กลัวสอบเข้าไม่ได้หรือเรียนไม่ดีก็อย่าง ทุกอย่างมันเอื้อกันหมดเลย
ให้เกิดวงจรการศึกษาแบบนี้
น้องหมิงหมิงโชคดีที่พี่ก๋าเข้าใจ
แต่ยิ่งโตมาจะยิ่งเหนื่อยเนาะ
ตอนนุ่นเรียนมปลายก็กวดวิชาแต่ไม่มากค่ะ
ไม่ไหวเหนื่อยเกินการบ้านเยอะเรียนก็ค่ำ
แย่เลย แหะๆ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ค่า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Education Blog ดู Blog
multiple Fanclub Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ไม่ชอบที่ต้องบอกระบบโหวตก็แบบนี้ค่ะ
มาทั้งทีโหวตได้แค่ 10 เอง >///<



โดย: lovereason วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:21:05:04 น.  

 
เห็นด้วยกะคุณก๋ามากๆ
ไม่อยากโทษการศึกษาของไทยเราอย่างเดียว
อยากโทษคนเป็นพ่อแม่ด้วย
สมัยนี้เด็กเรียนหนักกับระบบการศึกษาแล้ว
พ่อแม่ยังยัดเยียดให้เรียนอย่างอื่นอีกเยอะแยะ เหมือนกลัวลูกจะตกเทรนด์
ไม่ทันเพื่อนอะไรทำนองนั้น

สามวันนี้ต้องไปรับหลานแทนเพราะพ่อแม่เขาติดงาน
เจอกระเป๋าหลานสาวอายุ 7ขวบ
หนักกว่าตะกร้าที่เราไปจ่ายตลาดอีก
ทำไงให้เด็กไม่ต้องพกหนังสือหนักขนาดนี้น่ะ

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:22:07:51 น.  

 
คุณก๋าพูดตรงใจหลาย ๆ เรื่องเลยค่ะ ... เด็กสมัยนี้เรียนหนักจนแทบจะหาความสนุกจากห้องเรียนไม่เจอเนาะ การเรียนเต็มไปด้วยการแข่งขันและเร่งรีบ ... จุดอ่อนคืออีกอย่างคือหลักสูตรการเรียนของบ้านเรา ความรู้ที่บรรจุในหลักสูตร พอเรียนจบออกไปจริง ๆ นำไปประยุกต์ใช้ไม่ได้มากเท่าที่ควร (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)


กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: Tristy วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:22:54:29 น.  

 
ปัญหาเรื่องนี้มีหลายประเด็นเลยนะคะคุณก๋า
พ่อแม่ที่คาดหวังในตัวลูกสูง จนกลายเป็นความกดดันเด็ก
เคยมีข่าวลูกสอบเอนทรานซ์ติดคณะที่พ่อแม่ต้องการ
แล้วฆ่าตัวตายค่ะ
เป็นเรื่องจริงใกล้ตัวต๋าสมัยยังเรียนอยู่ที่น่าตกใจน่ะค่ะ

ประเด็นอื่นๆและปัญหานี้เหมือนผูกโยงกันหลายฝ่าย
ถ้าทัศนคติและความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นได้
ทิศทางเรื่องนี้คงจะดีขึ้นนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

.................................

นอนหลับฝันดีค่ะคุณก๋า


โดย: Sweet_pills วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:22:57:43 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
แม่โอ๋เรนเจอร์ Literature Blog ดู Blog
multiple Fanclub Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
Tongstory95 Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ออกจากนั่งกรรมฐาน
หลายคนบอกว่าพี่อุ้มเปลี่ยนไป๊ อิอิอิ
ตรงไหนก้ไม่รู้ 555
แต่ที่แน่แน่มีสติมากขึ้น
ยอมอโหสิกรรม ยอมให้อภัยคนที่ทำกับพี่อุ้มไว้
นี่ถือว่าลดอัตตาเยอะเลย
เหมือนกำลังจะขึ้นฃั้นใหม่
พี่อุ้มเหมือนเป็นนักเรียนใหม่ อิอิอิ


โดย: อุ้มสี วันที่: 29 กรกฎาคม 2559 เวลา:1:12:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]