เห็ดหลินจือ … บล็อกที่ 49

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ (Lingzhi) เป็นยาจีนที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้ เห็ดหลินจือเป็นของหายาก มีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ โดยกล่าวไว้ว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งชีวิต” บำรุงร่างกาย ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง ชาวจีนโบราณยกย่องเห็ดหลินจือว่าดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน นอกจากจะมีสรรพคุณมากมายแล้วยังปลอดภัยไม่มีพิษต่อร่างกาย


สรรพคุณของเห็ดหลินจือ
ในสมัยโบราณกล่าวว่า เห็ดหลินจือทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ให้พลังชีวิตมากขึ้น ใช้บำรุงร่างกายทำให้มีกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีความจำดีขึ้น ทำให้ประสาทสัมผัสต่างๆ ชัดเจน ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสีหน้าแจ่มใส ชะลอความแก่ ส่วนสรรพคุณอื่นๆ ที่ได้รวบรวมไว้ ได้แก่ รักษาและต้านมะเร็ง รักษาโรคตับ ปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำ ขับปัสสาวะ แก้ไขภาวะการมีบุตรยาก ภาวะการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคภูมิแพ้ โรคประสาท ลมบ้าหมู เส้นเลือดอุดตันในสมอง อัมพาต อัมพฤกษ์ ปวดเมื่อย ปวดข้อ โรคเกาต์ โรคเอสแอลอี เส้นเลือดหัวใจตีบ ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเป็นพิษ แผลในกระเพาะอาหารและลำใส้ บำรุงสายตา และความเชื่อดังกล่าวยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

เห็ดหลินจือได้ถูกบันทึกไว้ว่า มีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมากกว่า 100 สายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่มีสรรพคุณทางยาดีที่สุด คือ Ganoderma lucidum หรือสายพันธุ์สีแดง .. เห็ดหลินจือ มีสารโพลีแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นสารยับยั้งอาการต่างๆ ข้างต้น เห็ดหลินจือในแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารโพลีแซคคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกัน แต่สายพันธุ์ที่มีสารโพลีแซคคาไรด์มากที่สุด คือ เห็ดหลินจือสีแดง

ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเห็ดหลินจือออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก การเลือกผลิตภัณฑ์ เห็ดหลินจือแดง ควรศึกษาตั้งแต่วิธีการเพาะปลูก ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ เพราะการจะได้เห็ดหลินจือที่มีคุณภาพที่ดี ตัวเห็ดหลินจือจะต้องได้รับการเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องความชื้น แสงสว่าง และสารอาหารที่ได้รับ .. ส่วนขั้นตอนการแปรรูป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะเป็นกระบวนการที่สกัดสารโพลีแซคคาไรด์จากตัวเห็ดออกมาให้ได้มากที่สุด .. นอกจากนี้การบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันความชื้นได้ดี เพราะความชื้นจะทำให้เห็ดหลินจือขึ้นรา เนื่องจากเห็ดหลินจือค่อนข้างไวต่อความชื้น

การรับประทานเห็ดหลินจือ
สำหรับผู้ที่รับประทานเห็ดหลินจือใหม่ๆ อาจจะรู้สึกมึนศีรษะ ปวดเมื่อย ปวดตามข้อ ง่วงนอน ผิวหนังเกิดอาการคัน อาเจียร อาการคล้ายท้องเสีย ท้องผูก มีปัสสาวะบ่อย ฯลฯ ถือเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับ อันเป็นเรื่องปกติของการบำบัดด้วยยาสมุนไพรแผนโบราณ เนื่องจากเมื่อตัวยาได้เริ่มเข้าไปบำบัดนั้น จะเข้าไปชะล้างสิ่งที่เป็นพิษในร่างกายให้สลายหรือขับสารพิษออกจากร่างกาย จึงทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติดังกล่าว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังฟื้นตัว ไม่ใช่ผลข้างเคียง
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เมื่อรับประทานเห็ดหลินจือแล้วอาจจะมีการขับถ่ายน้ำตาลออกมามากผิดปกติ ส่วนผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์อาจเกิดอาการเจ็บปวดมากขึ้น ผู้ป่วยโรคไต หรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไต จะปวดเมื่อยตามข้อ เท้าจะบวม ร่างกายอ่อนเพลีย ซึ่งอาการเช่นนี้จะเกิดขึ้นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 วัน หรือ 1 อาทิตย์ ก็จะกลับสู่สภาพปกติ แล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคน ไม่ต้องตกใจ ให้รับประทานเห็ดหลินจือต่อไป แต่หากมีอาการมาก ให้ลดจำนวนแคปซูลลง เมื่ออาการปกติให้รับประทานตามคำแนะนำต่อไป สำหรับผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยารักษาที่แพทย์สั่ง ก็สามารถรับประทานเห็ดหลินจือควบคู่ไปได้
ข้อแนะนำในการรับประทานเห็ดหลินจือ
• ควรรับประทานก่อนอาหาร 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะรับประทานขณะท้องว่างจะเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึม
• ใน 2 สัปดาห์แรกที่เริ่มรับประทานเห็ดหลินจือ ให้เริ่มรับประทานในปริมาณน้อยก่อนเพื่อให้ร่างกายปรับตัว
• ควรรับประทานวิตามินซีหรืออาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วย เพื่อช่วยในการดูดซึมสารโพลีแซคคาไรด์เข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากสารโพลีแซคคาไรด์มีโครงสร้างที่ซับซ้อนอาจจะย่อยยาก
• ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานเห็ดหลินจือ คือ ช่วงตื่นนอนตอนเช้าซึ่งเป็นเวลาที่ท้องว่างที่สุด
ยาแคปซูลเห็ดหลินจือ

กลุ่มของสารสำคัญที่พบในเห็ดหลินจือ
1. โพลีแซคคาไรด์(polysaccharides) .. ปรับระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ปกป้องตับ ยับยั้งการหลั่งสารฮิสตามิน ต่อต้านการเกิดหลอดเลือดใหม่ในมะเร็ง ปกป้องอันตรายจากการได้รับรังสี
2. ไตรเทอร์ปีนอยด์ (triterpenoids) .. ต้านเซลล์มะเร็ง ต้านไวรัสHIV ลดภาวะไขมันในเลือดสูง ลดความดันโลหิต ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ปกป้องตับจากสารพิษ บรรเทาอาการปวด กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ปรับระบบภูมิคุ้มกัน
3. โปรตีน LZ-8 .. ต้านการเกิดภูมิแพ้ ปรับระบบภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัส
4. นิวคลีโอไซด์และนิวคลีโอไทด์ (Nucleosides and Nucleotides) .. ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ต้านเชื้อไวรัส ปรับระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาปวด
5. สารอินทรีย์ที่มีธาตุเยอร์มาเนียม .. ต้านเซลล์มะเร็ง เพิ่มการไหลเวียนเลือดและประสิทธิภาพในการใช้ออกซิเจน
6.กรดโอเลอิคและสารภูมิแพ้ Cyclooctasulphur .. ต้านการหลั่งฮีสตามีน ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
เครื่องดื่มเห็ดหลินจือชนิดชง ภายใต้ลิขสิทธิ์องค์การเภสัชกรรม

เครื่องดื่มเห็ดหลินจือชนิดชง ภายใต้ลิขสิทธิ์องค์การเภสัชกรรม

เครื่องดื่มเห็ดหลินจือชนิดชง ภายใต้ลิขสิทธิ์องค์การเภสัชกรรม

ตัวอย่างการนำเห็ดหลินจือไปประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์
1. ใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งตามแผนปัจจุบัน เพื่อคงจำนวนเม็ดเลือดขาว เสริมระบบภูมิต้านทาน, ลดอันตรายจากเคมีบำบัด และลดสภาวะระดับเม็ดเลือดขาวต่ำจากการได้รับยาเคมีบำบัดและการฉายรังสี, ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยหลังได้รับการผ่าตัด ทำให้สงบ ระงับ ลดปวด และลดการพึ่งยา ระงับปวดรุนแรงในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็ง
2. ใช้ในการรักษาความผิดปกติของหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ, ขยายและเพิ่มการไหลเวียนเลือดของระบบหัวใจและหลอดเลือด, เพิ่มการบีบตัวของหัวใจ, ควบคุมความดันเลือดร่วมกับการรักษาโดยยาแผนปัจจุบัน, ลดไขมันในเลือด, ลดระดับน้ำตาลในเลือด, ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
3. ฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน (immunomodulatory effects) .. ต้านมะเร็ง, ต้านเชื้อไวรัส (เช่นต้านไวรัส HIV), ต้านการอักเสบ, เพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโรคภูมิอัตฆาต (autoimmune disorder), ป้องกันปฏิกิริยาภูมิแพ้
4. เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ออกซิเจนของร่างกาย .. ใช้ในการปรับสภาพร่างกายในที่สูง ความกดอากาศต่ำ, บรรเทาการปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ นอนไม่หลับ, บรรเทาการขาดออกซิเจนเนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
5. อื่นๆ เช่น ต้านอนุมูลอิสระ, ชะลอความแก่ (anti-aging), ใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เช่น สารสกัดเห็ดหลินจือร่วมกับ กลูตาไธโอน (glutathione) ในการปกป้องตับ.

สวัสดีค่ะ
จาก พรไม้หอม
หากท่านใดประสงค์จะโหวตให้บล็อกนี้ ขอความกรุณาโหวตในสาขาสุขภาพ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 14 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 14 ตุลาคม 2555 13:52:49 น. |
|
24 comments
|
Counter : 6175 Pageviews. |
 |
|
|
เห็ดหลินจือหน้าตาสวยจัง
ประโยชน์ก็เยอะ...น่าสนใจมาก
วันนี้หมดกระเป๋า .... แล้วจะกลับมาโหวตค่ะ