กินอย่างไรจึงจะไม่แก่ และอายุยืน ...บล็อกที่ 273

กินอย่างไรจึงจะไม่แก่ และอายุยืนเรียบเรียงจาก.......ฟอร์เวิร์ดเมล
กินอย่างไรจึงจะไม่แก่ และอายุยืน????
คำตอบ คือ กินสายกลาง
กินสายกลาง คือ กินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง แต่..... งดมื้อเย็น
หากเปรียบตัวเราเป็น รถยนต์...
ตื่นเช้ามา เราต้องเติมน้ำมันก่อนหรือกินมื้อเช้าก่อน... รถจึงจะวิ่งได้
พอถึงเที่ยง น้ำมันรถยังไม่หมด แต่เราเติมอีกครั้ง
ครั้นถึงเย็นก่อนนอน น้ำมันก็ยังไม่หมด

พิสูจน์ได้ดังนี้ ............ ในไข่เจียว 1 ฟองโตๆ จะมีไข่แดงหนัก 50 กรัม
ในไข่แดง จะมีคลอเรสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่
ฉะนั้น ไข่แดง 50 กรัม จึงให้พลังงาน 450 แคลอรี่
ซึ่งพลังงาน 450 แคลอรี่ นี้... หากจะออกกำลังกาย โดยขี่จักรยานตั้งแรงต้านไว้ 1.3 ก.ก. ความเร็วที่ปั่นบันไดจักรยาน 60 รอบต่อนาที ขี่อยู่นาน 60 นาที ก็จะเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลท่วมตัวทีเดียว.... แต่จะใช้พลังงานไปเพียง 300 แคลอรี่
นั่นแสดงว่า ไข่เจียวฟองเดียว ออกกำลังกายจนเหนื่อยหอบ พลังงานก็ยังใช้ไม่หมด

ฉะนั้นถ้ากินมื้อเช้า และกินมื้อเที่ยงแล้ว เมื่อเวลาล่วงไปจนถึงเย็น พลังงานก็จะยังคงเหลืออยู่อย่างแน่นอน
จึงไม่จำเป็นจะต้องไปเติมอีก
เพราะเวลานอน ร่างกายจะนำพลังงานที่เหลือใช้ ไปเก็บในที่ต่างๆ โดยตับเป็นผู้ทำงานนี้
ถ้าพลังงานเหลือมาก การนำพลังงานไปเก็บในที่ต่างๆ ก็มาก........ จะทำให้อ้วน
และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมด โดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ จะต้องค้างอยู่ในหลอดเลือด ซึ่งยิ่งค้างสะสมอยู่มากเท่าใด รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือแก่เร็วขึ้น นั่นเอง
หากวันไหนหลอดเลือดอุดตัน เช่น ............
อุดตันที่สมอง ...........จะกลายเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก
ถ้าอุดตันที่ไต ........... ก็จะต้องล้างไต เปลี่ยนไต
ถ้าอุดตันที่ขา ........... อาจจะต้องตัดขา
และถ้าอุดตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ...........ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร
ฉะนั้นการกินมื้อเย็น จึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อมถึงเสียชีวิต ให้เร็วขึ้นไปอีก
มื้อเย็นจึงเป็นมื้ออันตราย .............เป็นมื้อตายผ่อนส่ง
ยิ่งกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก .............ยิ่งตายเร็ว
ถ้าไม่กินมื้อเย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อมช้า ............. อายุยืน


การไม่กินอาหารมื้อเย็น เป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัวเองอย่างมาก ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส ทั้งสุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี มีความมุ่งมั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจทีเดียว
แต่ก็ไม่ควรหักโหม จะต้องค่อยๆฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชินด้วย
การฝึกอาจกระทำได้ดังนี้
1. ค่อยๆลดปริมาณอาหารมื้อเย็น ทีละน้อยๆ เช่น ลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือ 1 1/2 จาน สัก 3 - 4 เดือน พอกระเพาะเริ่มชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อไปเหลือ ครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลย กินแต่กับข้าวนิดหน่อย และต่อไปกินแต่ผักหรือผลไม้ สุดท้ายก็ งดอาหารเย็น
2. ร่นเวลากินอาหารเย็น เช่นจาก 2 ทุ่มมาเป็น 1 ทุ่ม ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ร่นไปเรื่อยๆ
..
3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ในถ้วยน้ำซุปหรือน้ำเปล่า คนแล้วดื่ม แล้วดื่มน้ำตามอีก 4 - 5 แก้ว
4. กินมังสวิรัตเป็นมื้อเย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารที่ไม่มีพิษ(แต่ต้องล้างให้ถูกวิธี) ร่างกายจะได้พัก ไม่ต้องทำลายพิษของอาหารประเภทเนื้อสัตว์
พิษที่สะสมไว้ จะถูกตับและไตกำจัดหมดไปเองได้ โดยร่างกายจะใช้เวลาในการขับพิษถึง 18 ช.ม. ...เป็นพิษที่ติดมากับมื้อเช้า และมื้อเที่ยงนั่นเอง
ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็น จึงเป็นเวลาที่ตับ และไตจะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้า และมื้อเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุกวัน
และนี่เอง เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติให้พระฉันเพียง 2 มื้อ คือ มื้อเช้า กับ มื้อเพล
ขอขอบคุณ
ภาพจาก...อินเตอร์เน็ต เรียบเรียงข้อมูลจาก.......ฟอร์เวิร์ดเมล สวัสดีค่ะ
จาก พรไม้หอม
หากท่านใดประสงค์จะโหวตให้บล็อกนี้ ขอความกรุณาโหวตในสาขาสุขภาพ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 01 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2559 15:53:28 น. |
|
25 comments
|
Counter : 2527 Pageviews. |
 |
|
ทำเอาหิวข้าวทันทีเลยค่าาาา
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Home & Garden Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog
ความคิดถึงฉันหอมหวาน Diarist ดู Blog
zungzaa Travel Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog