เปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ดี ... บล็อกที่ 67

เปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ดี
เขียนโดย ดร.แพง ชินพงศ์ บทความเรื่อง '5 นาทีเปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ดี' น.ส.พ. ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 2 มกราคม 2556
เป็นธรรมดาสำหรับทุกคน ที่ต้องมีทั้ง เวลาที่รู้สึกอารมณ์ดี และเวลาที่อารมณ์เสีย ตามแต่ว่าในช่วงนั้นๆ เราต้องประสบพบเจออะไรมาบ้าง แล้วอารมณ์ของเรานี่แหละที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราได้เลยทีเดียว
ถ้าเราอารมณ์ดี เราก็มีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่เวลาที่เรารู้สึกไม่ดี เช่น โกรธ ไม่พอใจ หงุดหงิด กังวลใจ ไม่สบายใจ อาจทำให้วันๆ นั้นของเราดูมืดมน หมดสนุกไปเลยก็ได้
ลองมาดูวิธีที่จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ที่แจ่มใสได้ภายใน 5 นาที กันดีกว่า
1. เดินออกจากเหตุการณ์
บางครั้งเราอาจถูกคนในครอบครัว เพื่อน คนในที่ทำงาน คนบนท้องถนน ทำอะไรให้เรารู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ และเราอาจจะรู้สึกอยากตอบโต้กลับไปให้สะใจ แต่ให้คิดเสียว่า การทำเช่นนั้นอาจยิ่งทำให้เรื่องมันหนักหนาเข้าไปอีก ดังนั้น แทนที่จะทำให้วันที่ดีๆ หมดไป ให้ใช้วิธีเดินหนีไปจะดีกว่า เพราะบางครั้งการเดินออกจากปัญหามาก่อน ก็ดีกว่าการที่จะมานั่งโต้เถียงกันแบบไม่รู้จักจบ ในขณะที่อารมณ์ยังไม่ปกตินั้น คนเรามักจะขาดสติและการคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ถูกต้อง การย้ายตัวของเราออกมาจากปัญหา บางทีช่วยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีหายไปได้ ทั้งยังช่วยลดความเครียด และสามารถทำให้เรากลับมาเผชิญ และแก้ปัญหาได้อย่างฉลาด และมีสติอีกครั้ง
2. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ที่ช่วยลดความเครียด และทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลาย และอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีสัตว์เลี้ยงอาจเปลี่ยนเป็น การใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น นอนใต้ต้นไม้ ฟังเสียงใบไม้ ฟังเสียงนกร้อง เดินดูต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า หรือรดน้ำ พรวนดิน หาซื้อพันธุ์ไม้ต่างๆ มาปลูก ก็เป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง
3. ออกกำลังกาย
การเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหยาะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเครียดที่ฝังอยู่จางหรือหมดลงไป เพราะคนที่เครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ จะทำให้กล้ามเนื้อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายขึ้น ดังนั้น เวลาที่เราหงุดหงิด แทนที่จะจมอยู่กับอารมณ์นั้น เราอาจเปลี่ยนอารมณ์บูดของเราให้กลายเป็นอารมณ์ดีด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์หงุดหงิดหมดไปแล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย เรียกว่า เป็นประโยชน์ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจควบคู่กันไปเลยทีเดียว
4. กอด
การได้กอดหรือได้รับการกอด จากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันที และช่วยลดความเครียดลงได้ในเวลาเดียวกัน เพราะการกอด สามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใย และเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น



5. พูดกับตัวเอง
เวลาที่เราโกรธหรืออารมณ์เสีย เรามักอยากจะระบายสิ่งที่มันอัดอั้นออกมา เป็นคำด่าบ้าง ตะโกนเสียงดังบ้าง ระบายลงกับทรัพย์สินสิ่งของทำให้มันแตกหักเสียหายบ้าง แต่หากเราใช้วิธีพูดกับตัวเอง อาจช่วยให้เราสงบลงได้มากกว่า เช่น ไม่เป็นไรน่า ช่างมันเหอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ใจเย็นๆ คำพูดที่เป็นเชิงบวกเหล่านี้ จะทำให้เรารู้สึกสงบลงได้ภายในไม่กี่นาที เพราะคำพูดเหล่านี้เหมือนเป็นการสร้างกำลังใจ ความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง ขณะพูดให้ผ่อนลมหายใจเบาๆ ช้าๆ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
6. คิดบวก
หยุดความคิดในทางลบ แล้วเปลี่ยนเป็นความคิดในแง่บวก คือ คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขและสบายใจ เช่น คิดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ที่ชอบ คิดถึงอาหารที่อร่อยๆ คิดถึงของที่อยากซื้อ การที่เรามีความคิดที่ไม่สบายใจอยู่ภายใน ทำให้เราสมองไม่แจ่มใส ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ ดังนั้น ให้เราลองใช้วิธีเปลี่ยนความคิดดู คิดทางบวก มีความสุขสดชื่น จะทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นและผ่อนคลายมากขึ้น
7. ดูหนังฟังเพลง
เลือกดูหนังที่ไม่ทำให้เครียด เช่น หนังรักโรแมนติก หนังตลก การ์ตูน หรือเลือกฟังเพลงที่มีจังหวะสบายๆ เบาๆ นอนฟังอย่างสบายใจ หรือไม่ก็จังหวะสนุกสนานที่เต้นตามได้ นอกจากจะช่วยให้เราลืมความขุ่นข้องหมองใจไปได้ ยังช่วยให้จิตใจเราเบิกบาน แจ่มใส และรู้สึกสงบลงด้วย
8. นับจำนวน
เวลาที่เราเริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เช่น อยู่ดีๆ ก็ถูกตำหนิหรือถูกว่ากล่าวในสิ่งที่เราไม่ได้ทำผิด หรือมีใครทำอะไรให้เราไม่พอใจ แล้วเรารู้สึกโกรธเขามากจนเราอยากตะโกนออกมาดังๆ ด้วยความโมโหเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ให้เราลองเปลี่ยนมาใช้วิธีนี้ คือ หายใจเข้าลึกๆ และนับ 1-20 อย่างช้าๆ ขณะนับจำนวนอยู่นั้น ต้องทำสมองให้ว่างเปล่า ให้สมองคิดถึงแต่ตัวเลขที่เรากำลังนับอยู่โดยไม่ต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่มากระตุ้นอารมณ์บูดของเรา แล้วเราจะแปลกใจกับผลที่ได้รับ เพราะวิธีนี้ช่วยให้เรานิ่งและสงบลงได้จริงๆ
9. เขียนระบาย
หากเรารู้สึกอัดอั้นหรืออึดอัด ให้ใช้วิธีเขียนระบายลงในสมุดบันทึกจะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะการเขียนข้อความทำให้เรามีเวลาสงบ และทำให้เกิดสมาธิ อีกทั้งการเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ลงไปในสมุด เหมือนกับการปล่อยของเสียออกมา ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยทำให้เราได้ลดความเครียดลงได้
ไม่ว่าเราจะมีความสุข หรือมีความทุกข์ มีเรื่องสมหวัง หรือผิดหวัง มีเรื่องทำให้อารมณ์ดี หรืออารมณ์เสีย ขอให้คิดเสียว่า มันเป็นเสี้ยวเวลาหนึ่งของชีวิตเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ การใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีคุณค่าและเกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ นั่นแหละคือชีวิตที่แท้จริงที่เราควรต้องใส่ใจ ขอให้เรานับความสุขเล็กๆ ที่เรามีตลอดทั้งปี ขอบคุณผู้ที่มีพระคุณต่อเรา คอยช่วยเหลือเรา มอบรอยยิ้มให้เรา ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ขออวยพรให้ทุกครอบครัวมีความสุขตลอดทั้งปี 2556 นี้.



สวัสดีค่ะ
จาก พรไม้หอม
หากท่านใดประสงค์จะโหวตให้บล็อกนี้ ขอความกรุณาโหวตในสาขาสุขภาพ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 18 มกราคม 2556 |
Last Update : 18 มกราคม 2556 10:54:29 น. |
|
28 comments
|
Counter : 3035 Pageviews. |
 |
|
|
*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*