ประโยชน์และโทษ สรรพคุณสมุนไพรจีน ... บล็อกที่ 145
ประโยชน์และโทษ สรรพคุณสมุนไพรจีน โดย....กลุ่มวิชาการขนส่ง สขจ.กาญจนบุรี

สมุนไพรจีนนั้นมีมาช้านานมากแล้วในเมืองไทย วันนี้จึงขอนำความรู้ในเรื่องประโยชน์ของสมุนไพรจีนและสรรพคุณสมุนไพรจีนรวมถึงโทษของสมุนไพรจีนหากว่าบริโภคมากเกินไป ใครที่ชอบรับประทานสมุนไพรจีนจึงต้องควรศึกษาถึง สรรพคุณสมุนไพรจีน กันสักหน่อยเพื่อให้ได้ประโยชน์ของ สรรพคุณสมุนไพรจีน กันอย่างครบถ้วนและบำรุงร่างกายได้อย่างสูงสุด แต่ในเรื่องของโทษในสมุนไพรจีนนั้นก็จะมีข้อควรระวังกันสักเล็กน้อย ฉะนั้นแล้วเราก็มาดู ประโยชน์ของสมุนไพรจีน สรรพคุณสมุนไพรจีน
เห็ดหลินจือ
ในปี 2003 การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Ethnopharmacology ยืนยันว่าเห็ดหลินจือโดดเด่นในสรรพคุณของสารต้านอนุมูลอิสระ ผู้ป่วยเอดส์และมะเร็งบางรายจึงใช้เห็ดหลินจือในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเร่งการผลิตเม็ดเลือดขาว บรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้ชาย และอาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตหรือแพร่กระจายของเนื้องอกในร่างกาย อย่างไรก็ดีเห็ดหลินจือก็มีผลข้างเคียงที่ต้องระวัง เช่น อาจทำให้คลื่นเหียน คัน และหากกินมากเกินไปอาจกระตุ้นอาการบ้านหมุนก็ได้
เก๋ากี้
เก๋ากี้ มีชื่ออินเตอร์ว่า "โกจิเบอร์รี่" (แต่คนไทยอาจจะคุ้นเคยกับชื่อภาษาจีนมากกว่า) เห็นเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่ก็เต็มไปด้วยสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ใยอาหาร แคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม วิตามินบี 2 โพรวิตามินเอ และยังมีกรดไขมันโอเมก้า-3 อีกด้วย แม้โดยรวมจะไม่มีการพิสูจน์ทางคลินิกแต่ก็เชื่อกันว่าเก๋ากี้มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศ
เกาลัดจีน
เกาลัดจีนต่างจากถั่วหรือเมล็ดพืชอื่น ๆ ตรงที่มีไขมันน้อยมาก และเป็นถั่วชนิดเดียวที่มีวิตามินซีเทียบเท่ากับมะนาว แน่นอนว่ามันเป็นพืชจึงไม่มีคอเลสเตอรอล เกาลัดจีนมีสารอาหารคล้ายข้าวกล้อง จึงมีคำกล่าวว่ามันคือ "ธัญพืชที่เกิดบนต้นไม้" ด้วยความที่มันมีกรดโฟลิก วิตามินซี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จึงเป็นหนึ่งในอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายได้ดีที่สุด นอกจากนี้ชาวจีนโบราณยังเชื่อว่าเกาลัดจะช่วยให้ลมหายใจหวานสดชื่นอีกด้วย
เก๊กฮวย
ชาเก๊กฮวยถูกใช้เป็นยาพื้นบ้านมานานในฐานะยาลดไข้ โดยมีสารอาหารทั้งวิตามินเอ วิตามินบี1 กรดอะมิโน ฟลาวานอยด์ เชื่อกันว่าช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดคอเลสเตอรอล "เลว" และบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก นอกจากนี้การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Ethnopharmacology ก็ยังเปิดเผยว่า มีสรรพคุณช่วยปกป้องระบบประสาทจากความแก่ชราหรืออาการบาดเจ็บต่างๆ ดังนั้น หนุ่มสาวก็ดื่มได้ประโยชน์ดีเช่นกัน
Tip : เปลี่ยนจากชาฝรั่งมาดื่มชาเก๊กฮวยกันบ้าง โดยนำดอกเก๊กฮวยแห้งแช่ในน้ำร้อนประมาณ 5 นาที ก็จะได้ชาเก๊กฮวยสีเหลืองที่หอมกลิ่นดอกไม้
แปะก๊วย แปะก๊วย เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสุภาพสตรีที่กำลังเข้าสู่วัยทอง เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อไฟโตเอสโตรเจนซึ่งอาจช่วยทำหน้าที่แทนฮอร์โมนที่ไม่สมดุลได้ นักวิจัยจึงเชื่อว่ามันมีสรรพคุณบรรเทาอาการของวัยของหลายอย่าง ได้แก่ โรคกระดูกพรุน โรคนอนไม่หลับ อัลไซเมอร์ และโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม การกินแปะก๊วยก็อาจให้ผลข้างเคียง อย่างเช่น ท้องร่วง ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้อาเจียน เลือดไหลหรือผิวช้ำผิดปกติ หากมีอาการดังกล่าวก็ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
เห็ดหอม เห็ดหอม อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินซี โปรตีน และใยอาหาร เห็ดหอมอยู่ในตำรับยาจีนมานานกว่า 6 พ้นปี โดยเชื่อว่าสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ เพราะมีสารชนิดหนึ่งชื่อว่า Letinan คอยต่อสู้กับเชื้อไวรัสต่าง ๆ มันอัดแน่นไปด้วย L-Ergothioneine สารต้านอนุมูลอิสระ และดีต่อหัวใจ เนื่องจากมันช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากในเห็ดหอมมีสาร Purines หากกินมากเกินไปแล้วอาจทำให้มีการสะสมกรดยูริกจนเสี่ยงต่อโรคเกาต์และนิ่วในไตอย่างมาก คนที่มีปัญหาไตหรือเกาต์จึงไม่ควรกินเห็ดหอม
เมล็ดบัว เมล็ดบัว เป็นแหล่งโปรตีน แมกนีเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส รวมถึงเอนไซม์ชนิดหนึ่ง ชื่อว่า L-lsoaspartyl Methyltransferase ซึ่งช่วยซ่อมแซมโปรตีนที่ถูกทำลาย นักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อกันว่าเมล็ดบัวเป็นอาหารที่ช่วยชะลอความแก่ชราได้ในตำรับจีนเชื่อว่า รสหวานโดยธรรมชาติของเมล็ดบัวจะช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงและช่วยกล่อมเกลาจิตใจทำให้นอนหลับสบาย ส่วนแกนของเมล็ดนั้นมีรสขมและมีฤทธิ์เย็นจึงดีต่อหัวใจโดยการช่วยขยายหลอดเลือดและลดความดันโลหิต อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยมีสรรพคุณรักษาอาการท้องร่วงคนที่ท้องผูกจึงควรหลีกเลี่ยงเมล็ดบัวโดยเด็ดขาด
โสม
โสม หากพูดกันถึงสมุนไพรจีนคงขาดโสมไปไม่ได้ โสมแดงของจีนนั้นถูกใช้ในทางการแพทย์มาหลายศตวรรษและในปัจจุบันก็ยังมีการใช้อย่างแพร่หลาย ในสมัยโบราณเชื่อว่าโสมเป็นยาอายุวัฒนะส่งเสริมปัญญาและความแข็งแรง แม้ว่ายังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม แต่การศึกษาจาก University of Maryland ก็ชี้ว่าโสมสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้จริง ช่วยลดคอเลสเตอรอลเลว และช่วยให้กระปรี้กระเปร่า อย่างไรก็ดีโสมไม่เหมาะกับคนที่เป็นความดันโลหิตสูง คนที่เป็นเบาหวาน สตรีมีครรภ์ และหญิงสาวที่กำลังให้นมบุตร
รากชะเอม
รากชะเอม นอกจากใช้ในตำรับจีนแล้วยังสาวต้นตอไปได้ถึงสมัยโรมันซึ่งมีการต้มรากชะเอมเพื่อบรรเทาอาการไอ หอบ เจ็บคอ โรคปอดอื่น ๆ และเชื่อว่ามันจะช่วยชะล้างภายในลำไส้ได้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้หญิงวัยทองเนื่องจากมีไฟโตเอสโตรเจนด้วย อย่างไรก็ตามการกินรากชะเอมมาก ๆ ก็อาจทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไม่ควรกินพร้อมกับยาขับปัสสาวะ เช่นเดียวกับที่คนเป็นโรคเบาหวานกับโรคตับควรจะหลีกเลี่ยงรากชะเอมเหมือนกัน
เฉาก๊วย เฉาก๊วย ด้วยเหตุที่มันดำ แวววาว และเด้งดึ๋ง เป็นที่สุด คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยนึกถึงเฉาก๊วยในแง่ของสมุนไพรหรืออาหารเพื่อสุขภาพ เฉาก๊วยมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Black Jelly หรือ Grass Jelly ซึ่งตัวมันเองเป็นอาหารที่มีธาตุหยินหรือเป็นอาหารเย็นนั่นเอง ทำให้เหมาะจะกินในหน้าร้อนและบรรเทาอาการปวดท้อง คลื่นเหียน อาหารไม่ย่อย นอกจากนี้ยังมีใยอาหารชนิดละลายในน้ำ ซึ่งอาจจับเอาน้ำตาลและไขมันออกมาได้ มันจึงช่วยป้องกันเบาหวานและโรคหัวใจได้อีกทางหนึ่ง
ขอขอบคุณ ภาพจาก...อินเตอร์เน็ต ข้อมูลจาก...บ้านจอมยุทธดอทคอม //www.baanjomyut.com/library_2/extension-4/herb/18.html
สวัสดีค่ะ
จาก พรไม้หอม
หากท่านใดประสงค์จะโหวตให้บล็อกนี้ ขอความกรุณาโหวตในสาขาสุขภาพ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 06 เมษายน 2557 |
Last Update : 6 เมษายน 2557 14:49:49 น. |
|
36 comments
|
Counter : 4853 Pageviews. |
 |
|
หากใช้ผิดวิธี หรือปริมาณมากเกินไปก็อาจเป็นโทษได้
ส่งกำลังใจกับสาระดีดีค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดรสา Blog about TV ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
เรือนเรไร About Weblog ดู Blog
jamaica Home & Garden Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น