ฉลาดกินเม็ดบัว ป้องกันมะเร็งตับ
บล็อกที่ 40
เครดิตรูปภาพ คุณ yotzmanus จากเว็บ taklong.com ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

ฉลาดกินเม็ดบัว ป้องกันมะเร็งตับ
จากคอลัมน์ ประสบการณ์สุขภาพ นิตยสารชีวจิต ปีที่ 14 ฉบับที่ 326 วันที่ 1 พฤษภาคม 2555
อาจารญ์สาธิส อินทรกำแหง กูรู ต้นตำรับชีวจิต คัดสรรให้เม็ดบัว เป็นหนึ่งในธัญพืช 9 ชนิดที่นำมาต้มเป็นน้ำอาร์ซี เพราะในเม็ดบัวอัดแน่นด้วยสารอาหาร
ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.ปริญดา เพ็ญโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าว่า สารอาหารเด่นๆ คือ โปรตีน มีสูงถึง 23 เปอร์เซนต์ (ต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม ) จึงเป็นแหล่งโปรตีนเช่นเดียวกับการกินถั่วเหลือง
สาเหตุที่ธัญพืชพื้นบ้านชนิดนี้สร้างความฮือฮาให้ชาวโลกคือ มีการวิจัยพบว่า เม็ดบัวมีสารแอนติออกซิแดนต์ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ชะลอการเสื่อมของอวัยวะและผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ
อาจารย์ ดร. ปริญดา อธิบายต่อว่า เม็ดบัวมีประโยชน์ทางยาสูงมาก แพทย์แผนไทยเชื่อว่า ช่วยบำรุงกำลัง แก้โรคข้อต่างๆ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ส่วนแพทย์แผนจีนบอกว่า ช่วยบำรุงไต ม้าม หัวใจ และตับ ซึ่งตรงกับงานวิจัยในต่างประเทศที่ระบุว่า สารแอนติออกซิแดนต์จะช่วยปกป้องและบำรุงตับ โดยเฉพาะตับที่ต้องขับสารแอฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งตับ ออกจากร่างกาย การกินเม็ดบัวจึงสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้
เครดิตรูปภาพ คุณ yotzmanus จากเว็บ taklong.com ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

เม็ดบัวไทย-จีน ความเหมือนที่แตกต่าง
เม็ดบัวส่วนใหญ่ที่เราเห็นทั่วไปเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งจะมีเมล็ดขนาดใหญ่ ผ่านการกะเทาะเปลือก ดึงดีบัว (ต้นอ่อนที่ฝังอยู่กลางเมล็ดมีสีเขียวเข้ม) ออก และอบแห้งแล้ว
ส่วนเม็ดบัวไทยนั้น ไม่ค่อยพบวางจำหน่ายในท้องตลาด เนื่องจากมีขนาดเล็ก จึงไม่นิยม แต่จากผลการวิจัยของอาจารย์ ดร. ปริญดา ที่ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ในเม็ดบัวไทยและเม็ดบัวจีน พบว่า เม็ดบัวไทยมีปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าเม็ดบัวจีน 5-6 เท่า
อาจารย ดร. ปริญดา จึงแนะนำว่า ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารแอนติออกซิแดนต์ ในปริมาณที่สูงควรเลือกกินเม็ดบัวไทยดีกว่าโดยเฉพาะชนิดสด

วิธีกินคือ ลอกเปลือกออกจากเมล็ดโดยไม่ดึงเยื่อหุ้มเมล็ดและดีบัวออก เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านมะเร็ง ซึ่งอยู่บริเวณเยื่อหุ้มเมล็ดและดีบัวในปริมาณสูง
ส่วนชนิดอบแห้งนั้น เรานำมาทำอาหารคาวหวานได้หลากหลาย ที่คุ้นเคยกันดี ก็คือ น้ำอาร์ซี, เม็ดบัวต้มน้ำตาลทรายแดง, เม็ดบัวผสมในเต้าฮวยหรือเต้าทึง, ข้าวอบใบบัว, ขนมไหว้พระจันทร์ เป็นต้น

เคล็ดลับการเลือกซื้อเม็ดบัวให้ได้ของสดใหม่คุณภาพดี
ชนิดอบแห้ง
1. ควรเลือกเมล็ดที่มีสีเหลืองนวล ถ้ามีสีเหลืองเข้มแสดงว่าเป็นเม็ดบัวเก่าที่เก็บไว้นานแล้ว เมล็ดไม่แตกหัก และไม่มีฝุ่นละอองปนเปื้อน
2. ขั้วเมล็ด ไม่ดำคล้ำ (หากดำคล้ำแสดงว่าเป็นเมล็ดที่เก็บไว้นานแล้ว)
3. ไม่มีกลิ่นสาบหรือเหม็นหืน
ชนิดฝักสด
เลือกฝักที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ สีเขียวอ่อน จะได้เม็ดบัวที่มีเนื้อกรอบหวานกำลังดี
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าเจอฝักบัวในตลาดหรือที่ชาวบ้านนำมาขายตามฟุตบาทอย่าลืมซื้อติดมือมาทานเพื่อสุขภาพ และเพื่อป้องกันมะเร็งตับด้วย
ขอเชิญอ่านบทความเพิ่มเติม เม็ดบัว สุดยอดธัญพืชป้องกันมะเร็ง เรียบเรียงโดย จำรัส เซ็นนิล
เครดิตรูปภาพ คุณ yotzmanus จากเว็บ taklong.com ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

เครดิตรูปภาพ คุณ yotzmanus จากเว็บ taklong.com ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

เครดิตรูปภาพ คุณ yotzmanus จากเว็บ taklong.com ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

หากท่านใดประสงค์จะโหวตให้บล็อกนี้ ขอความกรุณาโหวตในสาขาสุขภาพ ขอบคุณค่ะ
จาก พรไม้หอม
Create Date : 17 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 22 สิงหาคม 2555 20:15:27 น. |
|
51 comments
|
Counter : 6214 Pageviews. |
 |
|
|
มีเพื่อนที่รักนำมาฝาก
ภาพสวย ข้อมูลดี พรุ่งนี้จะมาโหวตค่ะ