<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
25 พฤศจิกายน 2555

:: รักในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก ::




:: รักในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก ::















ตั้งแต่เรียนอนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย
ผมไม่เคยเรียนกวดวิชา
ไม่เคยเรียนพิเศษเลยแม้แต่ครั้งเดียว


ผมไม่เห็นความสำคัญของการเรียนพิเศษ
ตราบใดที่ตัวเรายัง “รักในการเรียนรู้”



การศึกษาในปัจจุบัน
กำลังทำร้ายเด็กของเราด้วยคำว่า "การแข่งขัน"


เรากำลังส่งลูกหลานไปลงแข่ง
ในสนามที่เรียกว่า "สนามประลองความรู้"
แต่เป็นสนามความรู้ที่แห้งแล้ง เห็นแก่ตัว และไม่สร้างสรรค์


พ่อแม่เจออะไรมาในวัยเด็ก
มักคิดว่าสิ่งนั้นดีสำหรับลูก
ทั้งๆที่ตนเองนั้นไม่เคยชอบรูปแบบการเรียนแบบนี้
แต่เรายังเลือกสิ่งที่เรา “ไม่ชอบ” ให้ลูกอยู่ดี
เพียงเพราะว่า "คนอื่นๆ" เขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน


คำถามที่ถามกันระหว่างพ่อแม่มากที่สุดก็คือ
อยากให้ลูกเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ?

ถามตอนที่ลูกเรียนอนุบาลสอง…..

ผมงงครับ ว่าเราจะรีบแข่งขันกันไปไหน ?

เราลืมกันไปหมดแล้วหรือว่าการเรียนรู้ที่ดี
ต้องเรียนรู้ผ่านความสุข ผ่านความสนใจใฝ่รู้
ไม่ใช่เรียนรู้ผ่านการบังคับ
ผ่านความเข้มงวดและไม่รักในสิ่งที่ตนเรียนรู้



มีผู้ใหญ่คนไหนบ้างที่เรียนหนักในวัยเด็ก
แล้วจำเนื้อหาความรู้ที่ตนเรียนมาได้หมด


“ความรู้” ที่เรารู้
มีแต่ความรู้ประเภท “จำไปเพื่อสอบ”
สอบแล้วลืม นำไปใช้ต่อยอดทางความคิดไม่ได้เลย


เราสอนแต่การหาคำตอบ
แต่ไม่เน้นฝึกวิธีคิดและวิธีค้นหาคำตอบ


เป้าหมายในการเรียนรู้ของเราจึงมีแต่ “ปริมาณ”


เด็กคนไหนจำเนื้อหาวิชาได้มากกว่าคือคนเก่ง
เด็กคนไหนจำข้อสอบเก่า
และจำคำตอบได้มากกว่าถึงจะสอบได้คะแนนดี


วิธีการเรียนรู้ของเราทำให้เราได้เด็กที่ “จำเก่ง” แต่ “คิดไม่เป็น”
“ลอกเก่ง” แต่ไม่รู้วิธี “สร้างสรรค์”



เคยถามตัวเองบ้างไหมครับ
ว่าคุณรักที่จะเรียนรู้ในสิ่งใดบ้าง ?

อะไรที่เรารักและชอบมันจริงๆ





.................................




ผมผ่านระบบการเรียนรู้ในแบบที่ไม่สร้างสรรค์
ผ่านครูที่ไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู
จดจำความรู้มากมายในขณะเรียน
แล้วลืมไปจนหมดสิ้นหลังจากเรียนจบ



แต่กลับกัน....
สิ่งที่ผมรักและชอบ ผมกลับทำมันได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน
ไม่เคยเบื่อและจดจำรายละเอียดได้ทั้งหมด
เช่น ศิลปะและดนตรีที่ผมชอบ



“การเรียนรู้” และ “การใช้ชีวิต”

ควรเป็นเรื่องของ "ความสุข"
"ความหลงใหล"
"ความสนใจ”



เราจะเรียนรู้ได้ดีได้อย่างไร
ในบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้

เราจะมีความสุขกับการเรียนรู้ได้อย่างไร
หากวิธีการสอนไม่ปรับให้เข้ากับวิธีการใช้ชีวิตจริงๆ


เราจะสร้างคนเก่งขึ้นมาทำไม
หากจิตใจของเขาแข็งกระด้าง
และคิดถึงแต่เรื่องของการแข่งขัน
จนกลายเป็นคนที่เอาเปรียบคนอื่นและเห็นแก่ตัว


เราจะศึกษาไปทำไม
หากความรู้เหล่านั้นไม่ทำให้คนๆหนึ่งเติบโต
งอกงามทางความคิดและคิดช่วยเหลือคนอื่นบ้าง



ผมไม่รู้และไม่เคยคิดจริงๆ
ว่าโตขึ้นลูกของผมจะเป็นอย่างไร
จะเรียนที่ไหน จะจบสาขาอะไร


สิ่งเดียวที่ผมพอจะสอนเขาได้
คือการสอนให้เขารักในการเรียนรู้
เรียนรู้ด้วยความรัก


เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
สำหรับคำว่า “การศึกษาที่แท้จริง”.











































 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2555
64 comments
Last Update : 27 มกราคม 2556 7:38:48 น.
Counter : 2026 Pageviews.

 

สวัสดีวันมีบุญค่ะคุณก๋าและครอบครัว


วันนี้จะไปร่วมบุญกฐินบุญสำเร็จเมื่อใดยกให้คุณและครอบครัวคะ


ถูุกใจมากเลยหัวข้อเรื่อง เพราะรู้สึกขัดใจมาตลอดกับการศึกษาปัจจุบัน


ที่ขัดใจเพราะสงสารผู้ปกครองที่ต้องหาเงินมาเพื่อสนองการเรียนของลูกหลาน


ท่ีีเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ. เช่นการส่งงาน ส่งการบ้านทางเน็ต


ค่าใช้จ่ายในการเช่าคอมเพื่อทำงานส่ง การถ่ายเอกสารงานส่ง เป็นต้น


นึกสงสารพ่อแม่เด็กมากๆ


พยายามให้เด็กใกล้ชิดธรรมชาติให้มากๆ ให้เขาได้เรียนรู้กับธรรมชาติจริงๆ


และเราก็ป้อนเทคโนโลยีใหม่ให้เด็กได้รับรู้ด้วยไม่ปิดกั้นแต่เป็นไปด้วยให้รับ


พร้อมเหตุและผลที่ค่อยเป็นค่อยไป คงต้องใจเย็นทั้งสองฝ่าย. ได้เห็นเด็กกำลัง


เพิ่งจะหัดเดินแต่ในมือถือเครื่องเล่นเกมส์ตกใจมาก ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิดอะไรเลย


เราเองยังรู้สึกถึงภัยในการใช้เทคโนโลยีมากเกินกำหนดร่างกายมันฟ้องเราเอง


เช่นน้ำตาไหล มือชา นึกขอบคุณธรรมชาติเลยว่าอะไรเป็นพิษเขาจะบอกเรา


แต่เรามักจะถูกความอยากลากถูไป พูดเรืีื่องนี้มีเรื่องราวให้พูดได้ยาวๆ


เอาเป็นว่าขอบคุณท่ีีช่วยกันส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ปกครองเกิดสำนึกสังวรไว้บ้าง


ขอสุขสนุกกับธรรมชาติที่เมตตาเรามาตลอดด้วยความซื่อสัตย์ ขอบคุณคะ



 

โดย: ธูปหอม IP: 110.77.232.242 25 พฤศจิกายน 2555 6:22:27 น.  

 

สวัสดีครับคุณธูปหอม



อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ



เมื่อวานกลับมาจากงานที่โรงเรียนหมิงหมิง
ก็เหนื่อย หมดพลัง
เช้านี้ว่าจะไม่อัพบล็อก แต่คิดอีกที
เมื่อวานสัญญาไว้ว่าจะอัพบล็อก เลยตื่นตี 5.40 มาอัพบล็อกครับ 555

ผมเขียนบล็อกนี้ด้วยความชั่งใจ
ว่าควรจะอัพหรือไม่อัพลงบล็อกดี

เชื่อว่ามีผลกระทบกับความรู้สึกของผู้ปกครองหลายท่าน
ที่กำลังส่งบุตรหลานเรียนพิเศษ

ผมไม่ไ่ด้ต่อต้าน "การเรียนรู้" หรือการเรียนพิเศษ
แต่ผมกำลังรู้สึกเป็นห่วง "วิธีเรียนรู้" ของประเทศไทยและเด็กไทย


เรียนพิเศษได้ครับ ดีด้วย --- ถ้าเด็กอยากเรียน
ยิ่งได้ครูเก่งๆ สอนดีมีหลัีกการ
เด็กจะยิ่งรักในการเรียนรู้

ปัญหาคือ เด็กส่วนใหญ่อยากเล่น
แต่ไม่เหลือเวลาให้เล่น เพราะถูกจับไปเรียน
เรียนๆๆๆและเรียน

เพื่ออะไรครับ ?


เพื่อเป็นคนเก่ง เพื่อจะได้สอบเข้าโรงเรียนดีดี
ฯลฯ

โรงเรียนดีดีตอนนี้แป๊ะเจี๊ยะเป็นแสน
บางแห่งพ่อแม่ต้องบริจาคเป็นล้านครับ

เรากำลังกันเด็กส่วนหนึ่งออกจากโอกาสทางการศึกษา
เพียงเพราะเขามีพ่อแม่ที่ไม่มีเงินเท่านั้นเองหรือ


ผมไม่มีปัญหากับเรื่องการเรียนพิเศษหรือการทำกิจกรรมเสริมเลยครับ
ถ้าวันหนึ่งหมิงหมิงเดินมาบอกว่าอยากเรียน อยากทำกิจกรรม

ผมก็ให้เรียนแน่นอนครับ

เพียงแต่โดยวัยของเขา

เขาควรจะเล่นมากกว่าเรียน
เพราะในการเล่นก็คือการเรียนรู้อย่างหนึ่งของเด็ก



เมื่อวานนั่งฟังวิทยากรพูดบนเวทีเสวนา
นายแพทย์อุดม เพชรสังหารเล่านิทานเรื่องหนึ่งไว้ว่า

กาลครั้งหนึ่งมีนางยักษ์ตนหนึ่ง
ลากเด็กคนหนึ่งลงจากเตียง
และบังคับให้เด็กคนนี้
ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

จากนั้นก็มีนางยักษ์อีกตนหนึ่งรับเด็กคนนี้ไปนั่งซ้อมดนตรี
บอกแต่ให้ซ้อมๆๆและขยันมากกว่านี้
เพื่อจะได้เก่ง

พอครบเวลานางยักษ์ตนเดิมก็รับเด็กกลับไป

แล้วเด็กคนนี้ก็เกลียดดนตรีไปตลอดชีวิต


นี่คือสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกของตัวเองเลยครับ


ผมเองก็เล่นดนตรีเป็น ทำงานศิลปะได้
แต่ผมไม่เคยจับลูกมานั่งแล้วสอนเลย

ผมอยากให้เขาเดินมาหาผม
แล้วบอกว่า

"ป่ะป๊าหมิงหมิงอยากเรียน อยากทำสิ่งนี้"

นั่นคือ เขาจะเรียนรู้ เมื่อเขารักในการเรียนรู้
เมื่อเขาพร้อมที่จะเรียนรู้ในความรู้สึกจริงๆ

นั่นเป็นทางเลือกของการศึกษาที่แท้จริงในความรู้สึกของผมครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 25 พฤศจิกายน 2555 7:11:47 น.  

 

รักในการเรียน รู้
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
ขวัญ คงกลับไปตั้งใจเรียน ให้ดีกว่านี้
เห็นหมิงหมิง แล้ว วู่ๆๆๆ
เดือนหน้า จะได้เจอหมิงหมิง แล้ว

 

โดย: kwan_3023 25 พฤศจิกายน 2555 7:24:08 น.  

 

รักในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก ดีมากค่ะ

สังคมทุนนิยมมีการแข่งขันสูง แข่งขันกันตั้งแต่อนุบาล

เพื่อให้ได้เข้าโรงเรียนดีๆดังเด็กสมัยนี้ต้องเรียนกวดวิชา

เรียนกันทุกวันไม่มีวันหยุดอันนี้สำหรับเด็กที่มีโอกาศดี

พ่อแม่มีฐานะแต่เด็กยากจนด้อยโอกาศอย่าว่าแต่เรียนตามปกติก็ยังไม่มีโอกาศ

 

โดย: พรไม้หอม 25 พฤศจิกายน 2555 8:01:21 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ ค่ะ น้องก๋า
เห็นวิธีคิด วิธีเลี้ยงลูกของน้องก๋า แล้ว คิดถึงพี่ชายที่เคารพ..

เค้าเลี้ยงลูก ให้ลูกได้เรียนรู้ .. ด้วยความรัก ความเข้าใจ..

หลาน ๆ พี่ .. น่ารักทุกคน.. มีทั้ง EQ และ IQ

ถ้าพี่มีครอบครัวเอง อาจทำได้ไม่ดี เท่านี้เลย..

 

โดย: Poongie @ bloggang IP: 115.67.35.251 25 พฤศจิกายน 2555 8:15:53 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า.

น้องหมิงหมิงโตขึ้นเยอะนะค่ะ..

ขายาวขึ้นนะ เลี้ยงกระต่ายด้วยหรอ

ที่บ้านก็เคยเลี้ยง 2 ตัวสีขาวกะสีดำ

สีดำตายไปก่อนตั้งแต่เด็ก

ส่วนสีขาวเลี้ยงเป็นปีจึงตายอีก

น่าสงสารจัง..เลยไม่เลี้ยงอีกค่ะ..

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 25 พฤศจิกายน 2555 8:16:44 น.  

 

อรุณสวัสดิ์คร่าพี่ก๋า


หากเรียนด้วยใจรัก น้ำค้างว่าเด็กจะมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้มากเลยค่ะ

ตอนเปนเด็กน้ำค้างไม่รักการเรียนเอาซะเลย
แต่ก็มิเคยลอกใครหรือมีโพยเลยนะเวลาสอบอะ
ส่วนการบ้านเนี่ยลอกเพื่อนเปนประจำ ฮ่าๆ
ไปนั่งลอกในห้องเรียนก่อนส่งเลยหล่ะ
ผลสอบออกมาคะแนนน้ำค้างมักจะนำลิ่วเพื่อนตลอดเรย

 

โดย: เก็บฝันวันผ่าน 25 พฤศจิกายน 2555 8:23:30 น.  

 

สวัสดีครับ

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาไปงานกีฬาสีลูก ได้คุยกับผู้ปกครองคนหนึ่งเรื่องการเรียนพิเศษของลูก
เขาบอกว่าข้อสอบเข้าเขาไม่ได้ออกในระดับที่เรียน ขาออกในระดับที่สูงกว่านั้น ซึ่งจะมีอยู่ในการกวดวิชานอกโรงเรียน ต้องโทษไอ้คนออกข้อสอบ ซึ่งบางครั้งก็คือครูซึ่งไปเปิด ร.ร.สอนพิเศษนั้นเอง เห็นไหมว่าไม่ว่าเด็กจะรักเรียนแค่ไหนในชั่วโมงเรียน ก็ไม่สามารถทำข้อสอบเข้าที่สูงกว่าระดับชั้นได้ เป็นเพราะไอ้พวกอัปรีย์ที่หวังรายได้จากการสอนพิเศษ ที่ออกข้อสอบแบบนี้ ทำให้เด็กหลายๆคนต้องเรียนอย่างหนัก

มีลูกเพื่ออยู่คนหนึ่ง ตอนเรียนอยู่เมืองไทยเรียนไม่เก่งอยู่ท้ายแถวตลอด
พอไปอยู่เมืองนอกกลับได้ที่หนึ่ง เหตุเพราะเขาเรียนมาก่อนแล้ว เด็กเมืองไทยเรียนหนักครับ แต่หนักไปในทางจดจำครับ

 

โดย: จิรโรจน์ 25 พฤศจิกายน 2555 8:30:09 น.  

 

บังเอินเปนคนความจำเปนเิลิศอะคร่าพี่ก่า
เพื่อนๆตั้งฉายาให้ (ทั้งเพื่อนที่เรียนและที่ทำงาน)
ต่างพากันให้ฉายาว่า "หัวดีอ่านอะไรก็ออก"
เวลาสอบมิต้องอ่านหนังสืออะไรมากมายเล้ย
แค่ตั้งใจฟังเวลาอาจารย์เขาสอน ข้อสอบก็มาจากที่พูดๆทั้งนั้นอะ
และที่สำคันและเด็ดสุดคือนั่งฟังเวลาเพื่อนๆเขาติวกันก่อนสอบอะ
แค่นั้นก็จำได้แระ มิต้องไปอ่านเอาเปนเอาตายเหมือนคนอื่นๆเล้ย

 

โดย: เก็บฝันวันผ่าน 25 พฤศจิกายน 2555 8:39:18 น.  

 

สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะคุณก่า เหนื่อยเมื่อวานเกือบหมดพลังเลยเหรอค่ะ
มุมมองทางการศึกษาที่คุณก๋าเขียนก็เป็นอีกหนึ่งมุมที่ถูกต้อง
แต่ปัจจุบันการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแล้วนะค่ะ
ถูกต้องค่ะ สำหรับลูกของเราต้องให้เขาเป็นผู้เลือก
" รักที่จะเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก"

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
กะว่าก๋า Diarist

ปล.ขอบคุณมากๆค่ะ ที่ได้คุณก๋ากดปุ่มเปิดป้ายบล๊อกใหม่ให้ค่ะ
นั่งปั่นเมื่อคืนสุดฤทธิ์ ทำสนุกๆเพลินดีค่ะคุณก๋า

คืนนี้ "หงส์แดง ลิเวอร์พูล" ลงแข่งคู่แรก นะค่ะ 20.30 น.555

 

โดย: tui/Laksi 25 พฤศจิกายน 2555 8:39:35 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณก๋า

ปรัซซี่ก็ไม่เคยเรียนกวดวิชาหรือเรียนพิเศษค่ะ เห็นเพื่อน ๆ
เค้าเรียนกัน ตอนแรกก็อยากจะเรียนแต่ไม่เอาดีกว่า
สมัยก่อนปรัซซี่เป็นคนขี้เกียจ และเกลียดวิทยาศาสตร์
โดยเฉพาะเลขมาก

แปลกนะคะ คุณครูเหมือนจะบอกคำตอบคนที่เรียนพิเศษ
ว่าออกข้อสอบเป็นอะไรด้วย เวลาสอบเพื่อน ๆ เหล่านั้น
ก็จะทำได้ และได้คะแนนเป็นพิเศษ พิมพ์แล้วมีอารมณ์
จบดีกว่าค่ะ เซ็ง





 

โดย: ปรัซซี่ 25 พฤศจิกายน 2555 8:39:53 น.  

 

เราเชื่อทั้งการเรียนในห้องเรียนและเรียนรู้้ด้วยตัวเองค่ะ

ไม่คิดว่ามีแค่ด้านใดด้านหนึ่งจะเพียงพอ

เคยผ่านคนที่ไม่มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูเหมือนกัน แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้และพยายามที่จะเข้าใจว่าเค้าเป็นอย่างนั้นเพราะอะไรค่ะ (แต่กว่าจะเข้าใจก็ตอนที่ผ่านมาหลายปีมากๆ แล้วอะนะคะ)

เราว่า การคิด วิเคราะห์ และการท่องจำ มันมีความสำคัญของมันค่ะ แค่ด้านใดด้านหนึ่งก็ไม่พอเหมือนกัน

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 25 พฤศจิกายน 2555 8:47:16 น.  

 

สายสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะคุณก๋าที่รักคะ


ภาพแรกที่หลานหมิงนอนพังพาบ
พื้นมันแผล็บ ชอบ ชอบจริงๆ

ภาพต่อมาก็แสนจะน่ารัก หนุ่มน้อยของย่ากำลังโต


แฮ่ๆ บทความวันนี้ ถูกใจจริง
ตั้งแต่เรียนมา ก็เป็นแบบนี้แหละ
ไม่เคยด้านหน้าไปขอคะแนนครูอาจารย์

แถมตอนทำงาน ก็ยังไม่เคยขอหัวหน้าเลยทั้งชีวิต
มีขึ้นรา คาร้านรายหนึ่ง เหาะข้ามหัวใครๆ มาเป็นหัวหน้า
พี่นาถก็ทำงานให้องค์กร จนสุดความสามารถ แต่ไม่เคยไปจิ๊จ๊ะประจ๋อประแจ๋ ด้วยผิดวิสัย

หล่อนเอ่ยมาคำว่า "จะขอขั้นไหม"
ตอบไม่ว่า "ไม่ขอค่ะ แล้วแต่หัวหน้าจะพิจารณาค่ะ"

ผล อ.ด. อดแด๊กซ์ขั้น สิริคานชอบคนประจบ ประมาณ หัวหน้าขา สี่คูณสี่เป็นเท่าไรคะ
พี่นาถ รับคำสั่งมา งานเรียบร้อย โดยไม่ได้ไปเคาะห้องถาม หล่อนมิชอบ เฮ้อ...

แต่แหม มันเดินได้ยืด มองใครได้เต็มตาหลังแว่นจริงๆ เลยคุณก๋า

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 25 พฤศจิกายน 2555 9:30:52 น.  

 

สวัสดียามสายค่ะพี่ก๋า

ปอยก็ไม่เคยเรียนพิเศษหรือกวดวิชานะ
เน้นตั้งใจเรียนในห้องก้อพอแล้ว
และก็คิดว่าการเรียนรู้ในห้องเรียนคือทฤษฏีเท่านั้น
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตและการทำงานได้เพียงบางส่วน
นอกจากนั้นเราต้องเน้นปฏิบัติและประสบการณ์ที่พบเจอ
นั้นคือการเรียนรู้ที่ปอยต้องศึกษาในทุกๆ วันค่ะ

ซึ่งจะไม่มีวันสิ้นสุดจนกว่าเราจะหมดลม ...

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 25 พฤศจิกายน 2555 9:45:06 น.  

 

หวัดดีวันอาทิตย์คับ...
อ่านแล้วนึกถึงคุณครูเทศบาลท่านหนึ่งที่ญี่ปุ่นสอนเด็ก ป.4 คับ....ท่านพยายามสอนให้เด็กมีความสุข สนุกกับการใช้ชีวิตทุกวัน เพราะชีวิตในวันนี้..ต้องมีความสุข เรียนรู้การมีความสุข และจะต้องดูแลผู้อื่นอย่างไร?...ตาม you tube นี้นะคับ

Children Full of Life
//youtu.be/CZCdYpuN8XM

 

โดย: biocellulose 25 พฤศจิกายน 2555 9:57:14 น.  

 

เป็นบททดสอบที่สำคัญนะพี่ก๋า
ที่ทุกคนจะต้องสอบให้ผ่าน
และที่สำคัญต้องเรียนรู้ทุกจังหวะของชีวิตด้วย
ไม่อย่างนั้นชีวิตลำบากแน่ๆ

แ่ต่ละคนจะมีบททดสอบที่แตกต่างกันออกไป
ใครที่เจอบทหนัก ก็จะทำให้ชีวิตเข้มแข็งและแกร่งขึ้น
แต่หากใครสอบไม่ผ่านก็คงจะย่ำแย่อยู่เหมือนกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับปัจจับหลายๆ อย่างค่ะ

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 25 พฤศจิกายน 2555 10:58:20 น.  

 

"แบบที่พี่นาถว่าไว้เลยครับ
ไม่ขอ ถ้าเราดีจริง ต้องให้
ผมคิดแบบนี้เช่นกัน"

เราจึงตกสมัยไงคะคุณก๋า
ไม่ใช่พวก ไม่ได้ดอกค่ะ



อันที่จริง สมัยนี้ รร.กวดวิชา
เขาก็มีอะไรดีๆ สอนเด็กนักเรียนนะคะ
เพราะบังเอิญ เขาไม่ได้สอน ในห้องเรียนน่ะ

ครูดีๆ ก็มีมากมาย
แต่เผอิญเกษียณแล้ว ... เกือบหมดค่ะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 25 พฤศจิกายน 2555 10:59:38 น.  

 

แล้วเราจะทำอย่างไรดีครับ ตามกระแสไปห่างๆ (กลัวตกยุค) พร้อมกับให้ลูกได้เรียนรู้อย่างที่ควรจะเป็น(แบบไหนยังไม่รู้เลย?)

 

โดย: story_dnp 25 พฤศจิกายน 2555 11:11:24 น.  

 

พูดถึงเรื่องการเรียนรู้ของลูก พี่ก็ยังไม่มั่นใจว่าที่บ้านพากันไปถูกทางมั้ยนะคะ แต่การให้ลูกเรียนรู้ด้วยความรัก นี่ พี่เห็นด้วยเลย ... หมิงหมิง โชคดีที่มีคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ เข้าใจวิวัฒนาการของโลก

ดองบล็อกมาหลายวัน รูปหมิง ๆ เต็มบ้านพี่เลย แหะแหะ .. วันนี้พี่อุตส่าห์นั่งเขียนบล็อก พอจะกดพิมพ์ มีข้อความว่า

"พบข้อความที่ระบบป้องกันไว้
หากมีข้อสงสัยกรุณาส่งข้อความที่ต้องการ post มาให้ทีมงานตรวจสอบได้ "

คุณก๋าเคยเจอปัญหานี้มั้ย ... พอพี่กดคลิ้กลิงค์ที่เขาบอก กลายเป็นแจ้งเรื่อง เฉพาะอย่างไป พี่ละงง ๆ เลยไม่รู้จะทำยังไง คงต้องแจ้ง webmaster รึเปล่าเนาะ

 

โดย: Tristy 25 พฤศจิกายน 2555 11:20:31 น.  

 

มีลูกคนเดียวหน้อยไปนาคุณก๋า

 

โดย: tuk-tuk@korat 25 พฤศจิกายน 2555 11:20:49 น.  

 

พ่อแม่มีหลายแบบ เด็กก็มีหลายแบบ

เด็กบางคนโตมาแล้วขอบคุณพ่อแม่ที่เข้มงวดกับเค้า
เด็กบางคน ก็โกรธพ่อแม่ที่บังคับ
เด็กบางคน ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้อิสระในการตัดสินใจในการกระทำต่างๆ
เด็กบางคน โตมาแบบสุขสบายจนทำอะไรไม่เป็น แล้วโทษบุพการีที่ล่วงลับว่าไม่ยอมสอนให้ดูแลตัวเอง

เมื่อก่อนนางยักษ์ที่บ้านพี่ก็แซะเด็กจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ

เรื่องเรียนในระบบ ถ้าไม่มีทางเลือกอื่น จะอยากไม่อยากก็ต้องเรียน
แต่เรื่องกิจกรรมนอกเหนือจากนั้นค่อยว่ากัน

พี่ชอบเปียโน แต่เล่นไม่เป็นเลยอยากให้ลูกเรียน จะได้เล่นให้แม่ฟัง
แต่ใช้เวลานานมากเลยกว่าเด็กที่บ้านพี่จะยอมเรียน

พยายามไซโคลูกตั้งแต่เค้าอยุ่ป. 2-3 ลูกก็ไม่สนใจ จนแม่ถอดใจไปแระ

แต่อยู่ๆ ช่วงปิดเทอม ม.1 จะขึ้นม.2 ไม่รู้น้องไหมไปได้แรงบันดาลใจมาจากไหน มาบอกว่าอยากเรียนเปียโน

ก็หาครูมาสอนที่บ้าน เรียนพื้นฐานอยู่ประมาณ 10 ชั่วโมงได้มั้ง ตอนนี้ชีหาโน้ตเพลงมาเล่นเองได้แล้ว
ทุกวันนี้อาบน้ำไป ฟังลูกเล่นเปียโนไป เพลินดี

แต่จริงๆพีก็แอบคิดนะ ว่าถ้าพี่บังคับลูกเรียนเปียโนตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ไม่รอให้ลูกมาขอเรียนเอง
พี่คงได้เพลินนานกว่านี้ กร๊ากกกกกก

 

โดย: พจมารร้าย 25 พฤศจิกายน 2555 11:21:03 น.  

 

เยี่ยมคิดเหมือนกัน ลูกผ่านมาได้ด้วยดี
ถึงแม้เกรดจะไม่สวยหรู แต่ลูก ทำได้แค่นี้แม่ก็พอใจ
เห็นเค้าสุข สนุกตามวัย รู้ผิดชอบ ชัวดี ก็พอแล้ว
ไม่เคยบังคับ เรียนดนตรี เรียนเทคอนโด ศิลปะ
เล่นแต่เกม สอบได้ 88% พอแล้วจริงๆ
คิดแค่ว่าจะทำยังไงให้ลูก รับผิดชอบตัวเองได้ดีกว่านี้

 

โดย: แม่ปู (ฮัลโลตอบหน่อย ) 25 พฤศจิกายน 2555 11:58:00 น.  

 

หวัดดีค่ะพี่ก๋า
ที่พี่ก๋าเขียนมา มันใช่ทั้งหมด
คนเราถ้าทำอะไรด้วยใจรัก
ผลที่ได้ ย่อมต้องออกมาดี
รักเรียน ก็เรียนดี ว่ากันไป
ใจรักซะอย่าง ความมุ่งมั่น
ความตั้งอกตั้งใจ ก็ตามมา....
......................
ต่ายเองตอนเรียน ก็บอกตรงๆ ทำไปตามหน้าที่
รู้ว่า พ่อแม่ ทำงานเหนื่อยหาเงินส่งให้เรียน
ก็เรียนไปงั้น ไม่ตกเป็นพอ (ฟังดู เหมือนจะเป็นคนดี 55)
ถ้าตก ก็ต้องขอเงินไปเสียค่าซ่อมอีก โดนบ่นอีก
แล้วแถมคิดแบบแย่ๆอีกอย่างคือ
อยู่ห้องคิงส์ สอบตก ก็อายเค้าแย่ เพื่อนล้อตายเลย
จริงๆ ต่ายว่าต่ายก็เป็นคนเรียนดีคนนึงแหละ แต่ไม่รัก
เรียนอย่างว่า ไปรักการ์ตูน อ่านการ์ตูน เป็นวรรคเป็นเวร
จนตอนนี้ก็ยังอ่านอยู่ ใจมันรักอ่ะ..
นี่ถ้าใจรักในเรื่องเรียน เหมือนการ์ตูน ชีวิตคงจะรุ่งกว่านี้
ก็ได้แต่คิดว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปก็ดี
555..คิดย้อนไป ก็สมน้ำหน้าตัวเอง
ที่ไม่ตั้งใจเรียน ไม่รักเรียน
ปัจจุบัน ชีวิตก็เลยลุ่มๆดอนๆ ..

...........................
น้องสองหมิงน่ารักจัง
และ พี่ก๋า เป็นคุณพ่อที่ดี รักลูก นึกถึงความรู้สึกของลูก
สองหมิงโชคดีมากๆ
คนส่วนใหญ่ รักลูกแบบพ่อแม่รังแกฉัน
บางทีเห็นเด็กเล็กๆ แบกกระเป๋า ใบใหญ่ หนักๆ
ก็สงสาร บางทีก็คิดนะว่า
เด็กอนุบาล ไม่กี่ขวบ จะเรียนเยอะอะไรนักหนา
สมองเด็ก จะรับได้แค่ไหนกันเชียว
มันจะทำให้เด็กเครียดแต่เด็กมั้ยเนี่ย..
.......................

สุขสันต์วันหยุดค่ะพี่ก๋า

 

โดย: NENE77 25 พฤศจิกายน 2555 12:14:22 น.  

 

~ การเลี้ยงสัตว์ก็เป็นการเรียนรุ้อย่างนึง ใช่มั๊ยปราชญ์ เรียนรู้ที่จะรัก และ รับได้ทุกอย่างถ้าเค้าจะเป็นยังไงก็รัก รักในตัวตนที่แท้ของเค้า แต่กรรมของอ้อนะปราชญ์ อ้อเอามาปรับใช้กับคนไม่ได้ 555555555555 อาจเพราะว่าอ้อคิดว่าคนมีสมองใหญ่คิดได้มากกว่าสัตว์ อ้อเลยจำกัดการกระทำของคนไว้แคบๆๆๆ / เนื้อหาข้างบน อ้ออยากให้พ่อได้อ่าน แต่ก็อีกนั่นล่ะไม้แก่ดัดยาก อ้อเคยโดนหวดเลือดซิบเพราะอีกคะแนนเีดียวจะได้ a แล้วแต่อ้อทำไม่ได้ เล่าแล้วก็โกรธขึ้นมาทันที แต่นะ ปราชญ์สอนมาดี รู้ว่าโกรธ ก็โกรธ ก็เค้าหวังให้เราได้ตามที่เค้าคาด เค้าไม่ได้เค้าก็ตี แล้วมันก็ผ่านมาแ้ล้ว ช่างเหอะ ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป ~

 

โดย: ~ sิมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) 25 พฤศจิกายน 2555 12:16:37 น.  

 

เราเองกับครูบางคนก็นานค่ะกว่าจะเข้าใจ

แต่อย่างน้อยก็ได้เข้าใจแล้วในวันนี้

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 25 พฤศจิกายน 2555 13:34:52 น.  

 

สวัสดีค่า คุณก๋า

อ่านแล้วก็เห็นด้วยทุกอย่างเลยค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 25 พฤศจิกายน 2555 13:46:52 น.  

 

สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ พี่ก๋า..


น้องหมิงหมิงน่ารัก ดูสนุกกับการเรียนรู้ เพราะมีคุณพ่อที่เข้าใจ

บล๊อกนี้ โดนใจนันทน์มากมายค่ะ เห็นด้วยสุดๆ

เด็ก คือ วัตถุดิบที่แตกต่างกัน
นันทน์อยากให้เด็กแต่ละคนโตไปในทางที่ตัวถนัด

ไม้งามที่แท้จริง คือ ไม้ที่โตตามธรรมชาติ ย่อมไม่ใช่ไม้ดัด (ก็งามนะคะ แต่มันฝืนๆชอบกล)
จะต้นใหญ่ต้นเล็กล้วนจรรโลงโลกให้รื่นรมย์สวยงามทั้งนั้น
ถ้าเหมือนๆกันหมด โลกนี้คงน่าเบื่อ ไม่พัฒนา

แต่ กระบวนการศึกษาไทยกำลังผลิต ไม้ดัด/หุ่นยนต์ ค่ะ
เรากำลังผลิต 'แรงงาน' มากกว่า 'นักคิด/นักสร้างสรรค์'

เราไม่ได้สอนให้เข้าใจตัวเอง ไม่ได้ถูกแนะแนวว่าควรทำสิ่งที่เราถนัด

เรากำลังพยายามยัดเยียดชุดความรู้ที่ให้ 'จำ' ซึ่งเป็นความรู้ชุดเก่าทั้งสิ้น
(ถ้าถามว่าชุดเก่าควรเรียนมั้ย? ควรค่ะ เพราะเป็นรากฐานของสิ่งๆใหม่)
แต่ วิธีการเรียนรู้ ควรไม่ใช่การจดจำ ควรเป็นกระตุกความคิด ให้ตั้งคำถาม และวิธีหาคำตอบ
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วขนาดนี้ ต้องให้เค้าตั้งคำถามเป็นค่ะ


วันนี้พิมพ์ยาวมาก เพราะ
เจ็บมากับระบบการศึกษาไทยเหมือนกันค่ะพี่ก๋า
เจ็บกับการขีดเส้นทางตามค่านิยมสังคมค่ะ
นันทน์เรียนเก่งตามระบบ เรียนตามค่านิยม ทำงานตามกระแสค่ะ
ไม่เคยมีความสุขตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดีเลยค่ะ

กว่าจะมีคำตอบให้ชีวิตตัวเอง ก็ตอน 26-27 แล้วค่ะ เสียเวลาไปนานโข

และคนที่เคยเป็นแบบนันทน์มีอีกมากค่ะ
ทุกวันนี้เราจึงมีแต่ผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ทำงานด้วยความรัก และไม่รักที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเต็มไปหมด

ระบบการศึกษาทำร้าย 'คน' มากกว่าที่คิดนะคะ
น่าเป็นห่วงกับการศึกษาของเด็กไทยมากมายค่ะ

ปล. ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้นค่าาา
และ ขอบอกว่า นันทน์ไม่ชอบโครงการแท๊บเลต ป.1 ของรัฐบาลเลย ให้ตายสิ (มีอารมณ์ 555) นันทน์เป็นคนทำงานสายไอทีมาก่อน ไม่ได้คิดว่ามันจำเป็นสำหรับเด็กเล็กขนาดนั้น มันทำร้านและทำลายเด็กมากกว่านะคะ (ความเห็นส่วนตัวอีกแล้ว)

 

โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) 25 พฤศจิกายน 2555 14:09:10 น.  

 

พี่ก๋าขรา อยู่ป่าวอะขราา
ที่บ้านน้ำค้างไม่ใช่กุ้งนะคร่า แต่มะรู้ว่าพี่ก๋าจะไหวป่าวนะเมนูนี้อะค่า






ตับหวานรสแซ่บ ตั้งโต๊ะแล้วนะคร่า
เชิญล้อมวงอร่อยกันได้ที่บ้านน้ำค้างเลยน๊าา

 

โดย: เก็บฝันวันผ่าน 25 พฤศจิกายน 2555 14:44:15 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า พี่กิ่งเพิ่งกลับขากทอดกฐินที่วัดพระธาตุไก่เขีี่่ยค่ะ เอาบุญมาฝากด้วยค่ะ
วันนี้มาอ่านเรื่องของการเรียนรู้สมัยพี่กิ่งเป็นเด็กก็ไม่เคยเรียนพิเศษเลยค่ะ ก็ผ่านมาได้ทุกวันนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าการเรียนพิเศษเริ่มมาจากอะไรและใครเริ่มก่อนจึงติดมาเป็นกระแสรุนแรงในปัจจุบัน พี่กิ่งว่าถ้าไม่อนุญาติเปิดซะอย่างการเรียนรู้น่าจะเท่าเทียมกันหมดนะคะ

น้องหมิงหมิงน่ารักมากค่ะ สูงมากแล้ว อิอิ

มีความสุขวันหยุดนะคะ




More Flower Bouquet Comments

 

โดย: กิ่งฟ้า 25 พฤศจิกายน 2555 15:24:24 น.  

 

น่าเหนใจทั้งพ่อแม่ และเด็กเนอะคะ. เค้าคงยากจะต้านทานเพราะกระแสที่แรงและข้อสำคัญคือเล่นกับดวงใจของพ่อแม่ หนูเปนคนนึงที่ไม่เหนด้วยกับการเรียนพิเศษ.

 

โดย: ศรีอัมพันธ์ IP: 110.77.208.202 25 พฤศจิกายน 2555 15:57:24 น.  

 

หมิงๆมีความสุขมากเลย 555

หวัดดีครับพี่ก๋า เริ่มมองเห็นตัวการทำทำให้เราทุกข์บ้างแล้วครับ มันมาบางเวลา โดยเราไม่รู้ตัว สติ นี้สำคัญจริงๆครับ แต่น้อยคน จาก 1 ใน 99% มั้งครับ ที่จะมีสติทุกเวลา
พี่ก๋าอยากเป็น สาบลม หรือ พื้นดิน ครับ

 

โดย: เสือย้อมแมว 25 พฤศจิกายน 2555 16:28:11 น.  

 

แก้ไข สายลม

 

โดย: เสือย้อมแมว 25 พฤศจิกายน 2555 16:28:40 น.  

 

ปอยว่าทุกอย่างอยู่ที่เราทำความเข้าใจนะคะ
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะทุกข์หรือว่าสุข
แต่บางครั้งเข้าใจแต่ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้และมักจะทำอะไรสวนทางกัน

อ๊าคคค ง่วงนอนจังเลยคร๊าาา
เพิ่งกลับเข้ามา ตาจะปิดแระพี่ก๋า หุหุ
วันหยุด 2 วัน ไม่ได้พักผ่อนกะเขาเล้ยยย

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 25 พฤศจิกายน 2555 17:09:44 น.  

 

ในประเด็นนี้ผมเห็นด้วยกับคำพูดพี่ก๋า แต่เราไม่สามารถปฏิเสธ หรือสวนกระแสได้ครับ นี่คือจุดที่ลำบากสำหรับหลายๆ คนที่คิดแบบพี่ก๋า

นั่นสิครับ ผมก็ว่าให้เวลาน้อยไป

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 25 พฤศจิกายน 2555 17:10:41 น.  

 

สวัสดีเย็นวันอาทิตย์ค่ะพี่ก๋า

การเรียนรู้ คือการเรียนด้วยตัวเอง

แล้วก็เรียนอย่างสนุก มีความสุข ไม่ใช่การแข่งขัน

ว่าไม่เคยเรียนพิเศษก็เคยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย

เรียนๆไปเพราะแม่ต้องการให้เรียนเราก็เรียน

แต่ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะคะ ก็ทำให้ดีที่สุด ตั้งใจที่สุด

แต่ไม่แข่งขันกับใครค่ะ

อุ๊รักกการเรียนรู้ด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยให้ใครบังคับเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยแตกกรอบของพ่อกับแม่ค่ะ

เรียนรู้อย่างมีความสุข คือการเรียนรู้ด้วยตัวเองค่ะ

 

โดย: maitip@kettip 25 พฤศจิกายน 2555 17:29:35 น.  

 

หวัดดียามหัวค่ำครับน้องก๋า

เขียนได้ถูกใจมากครับวันนี้
เด็กสมัยนี้ลำบากลำบนเพราะนอกจากการแข่งขันสูงแล้ว
ยังโดนผู้ปกครองกดดันอีก
หลายๆคนออกเพี้ยนไปเลย...น่าสงสารมาก

 

โดย: Dingtech 25 พฤศจิกายน 2555 18:31:44 น.  

 

หวัดดี คุณ ก๋า ..
พี่ก็งง ๆ กับการเรียบ ของเด็ก สมัยนี้ พยายาม ปรับปรุงหลักสูตร การเรียนการสอน บ่อย มาก แต่ดู ไม่เห็นฉลาดขึ้น ..
เด็ก มันไม่ชอบคิด จริงๆ ถนัดลอก และท่องเอามา สอบ หนังสือ ก็ไม่ชอบดู ..
.ดู เขา ประเมิน แต่ละปี แย่ ลงเรื่อยๆ น่าใจหาย มันหันไป สนใจอย่างอื่น มากกว่าการ เรียน ..สิ่งยั่วยุมันเยอะ.นะสมัยนี้ ..

พี่ดูข่าว เชียงใหม่ ฝนตกหนัก หมิง ๆ ได้เก็บ ลูกเห็บ กะเขา หรือ เปล่า อิอิ.
.

 

โดย: tifun 25 พฤศจิกายน 2555 19:13:06 น.  

 

ดอกปีบ บ้านพี่ ไม่รู้ ออกหน้าไหน แน่ มีตลอดปี กวาด กันทั้งวัน ..ยังพูด เลย ว่าถ้าขายได้เงิน รวย ไปแล้ว เยอะมาก 555

 

โดย: tifun 25 พฤศจิกายน 2555 19:15:46 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณกิจ&ming ming&มาดาม&ทุกๆท่าน
เมื่อวานไปเที่ยวงานสักที่บรัชเซลส์กันมาคะ
แป๊บๆเวลาผ่านไปปีหนึ่งแล้ว ดูแต่ละคนสนใจงานศิลปะบนร่างกายไม่ใช่น้อย ผู้คนเยอะกว่าปีที่แล้ว
และช่างสักนี่ก็เยอะจริงๆ พวกพี่ไปถึงตั้งแต่ 11โมงเช้าอยู่จนถึง 5โมงเย็น ถ้าพี่ไม่เป็นคนเอ่ยปากชวนลูกกับพ่อเขาก็คงอยู่จนเขาปิดงาน555

วันนี้ยังมีงานอีกวันค่ะ แต่พี่คงไม่ไหว อาการแย่แล้ว
เดินจนปวดน่อง พี่ไม่ได้เป็นช่างภาพคะขี้เกียจสะพายกล้อง หนักต้นคอ ให้น้องซีเขาถ่ายกล้องเขาเอง แฟนพี่ก็ถ่ายวิดีโอมาให้ลูกดู

ลูกพี่เขาก็เจอช่างรู้จักอยู่หลายคนเหมือนกัน มีคนหนึ่งให้ภาพวาดมาด้วยขนาด A3 เป็นภาพที่สวยงามมากๆ เขาบอกว่าให้เพราะมิตรภาพ เห็นน้องซีชอบศิลปะอย่างเขา
เขาก็บอกว่าให้วาดภาพไปเรื่อยๆและเรียนรู้ทุกๆวัน

พี่กับพ่อเขาไม่เคยบังคับลูกทำอะไรสักอย่าง หรือเรียนในสิ่งที่ตัวเราชอบ

ถ้าเด็กชอบเขาจะเดินมาบอกด้วยตัวเอง เช่น แม่คะ น้องซีอยากไปเรียนบัลเล่ต์, ไปเรียนเทควันโด
หรือบอกพ่อเขาว่าตอนนี้ อยากเรียนสักเหมือนพ่อมั่ง
มีตอนกลับมาจากไทย เขาเห็นคนหนึ่งเล่นกีต้าร์
ไปเดินที่ห้างหนึ่ง จำไม่ได้แล้วคะ อยากเล่นกีต้าร์มั่ง555 แต่เวลามีจำกัด และมันมีเรื่องอื่นที่เขาสนใจกว่า
ร้องเพลงนี่ยังทำปกติ แม้แต่ตอนอาบนํ้า 555
'
พี่ไม่ต้องเป็นหมอดู แต่ก็พอจะเดาหรือทายได้ว่าลูกของพี่จะประกอบอาชีพอะไร? และเขาจะมีความสุข
ในสิ่งที่ตัวเองเลือกและรักในสิ่งที่ทำ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนึ่งใน10 แต่ถ้าเมื่อไหร่ลูกของพี่ได้เป็น1 ใน 100 ของโลก พี่ว่านี่เป็นสุดยอดของชีวิตแล้วล่ะ

 

โดย: ชัญญา IP: 88.159.123.32 25 พฤศจิกายน 2555 19:21:50 น.  

 

ดีจ้ะน้องก๋า

หมิงๆโตขึ้นเยอะเลยนะ

คอมป่วย ใช้การไม่ค่อยได้ แวะมาทักทายนิดหน่อยก่อนแล้วกันนะ

 

โดย: oa (rosebay ) 25 พฤศจิกายน 2555 19:22:19 น.  

 

ขอให้น้องหมิงๆ เป็นเช่นนั้นนะคะ น้องจะได้มีความสุขจริงๆ
...
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ฝันดีค่ะ พี่ก๋า

 

โดย: Nissan_n 25 พฤศจิกายน 2555 19:40:43 น.  

 


สว้สดีค่ะ คุณน้องก๋า

ระยะนี้พี่มีภาระกิจแทบทุกวัน
แวะมาซะเย็นเลย

newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 25 พฤศจิกายน 2555 20:06:55 น.  

 

เรื่องที่คุณก๋าเขียนวันนี้ ถ้าคุยกับคุณหนูหล่อละ ยาวเลยค่ะ
บางทียาวจนคนฟังต้องหาข้อแก้ตัวลากลับไปเลยก็มี

 

โดย: ปูค่ะ (nulaw.m ) 25 พฤศจิกายน 2555 20:20:20 น.  

 

สวัสดีครับน้องศรีอัมพันธ์


ถ้าเป็นเด็กโตที่เรียนอ่อน เรียนตามเพื่อนไม่ทัน
แบบนี้พี่ก๋ษเห็นด้วยนะ
ถ้าจะต้องเรียนพิเศษ

แต่ตอนนี้แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ
เราก็ส่งเด็กๆไปเรียนพิเศษเพื่อจะให้เด็กเก่งเหนือเก่ง

เก่งเพื่อไปสอบเข้าโรงเรียนดังๆ

แบบนี้พี่ก๋าบอกตามตรงว่าสงสารเด็กครับ

ทำไมเด็กประถม 1 ต้องไปเรียนไปจำข้อสอบของเด็กประถม 2

ทำไมเด็ก ม.6 ต้องไปทำข้อสอบของเด็กมหาวิทยาลัย

แบบนี้พี่ก๋าว่ามีปัญหาทั้งตัวเด็ก ผู้ปกครอง ครู คนออกข้อสอบ
ไปจนถึงเจ้ากระทรวงการศึกษาธิการเลยล่ะครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 25 พฤศจิกายน 2555 20:26:11 น.  

 

สวัสดีครับพี่ชัญญา


ผมสังเกตว่าตอนนี้คนยุโรปสักกันเยอะมากนะครับพี่
ส่วนใหญ่เป็นลายเล็กๆบริเวณข้อเท้า
หรือข้อมือ

แต่ถ้าเป็นเอเซีย ลายสักจะใหญ่มาก

บางทีสักเต็มแผ่นหลังเลย


จำได้ว่าน้องซีชอบวาดภาพมาก
ได้เห็นงานของน้องในเฟซบ้าง

ถ้าน้องรักในการวาด
ก็ต้องวาดไปเรื่อยๆ

ผมคิดว่าเวลาเรารักในอะไรสักอย่าง
เราจะไม่มีเหตุผลที่จะเบื่อเลยครับ

เราจะลงมือทำสิ่งนั้นโดยไม่ต้องมีใครบังคับ
และการลงมือทำอย่างต่อเนื่องยาวนาน
จะเป็นการพัฒนาฝีมือได้ดีที่สุดเลยล่ะครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 25 พฤศจิกายน 2555 20:31:07 น.  

 

เป็นภาพติดตาที่ผมจำได้ไม่ลืมตอนลูกผมอยู่ ป.3-ป.4 แกหิ้วกระเป๋าหนังสีดำหนักมากๆ ขนาดพ่อลองหิ้วดูยังแขนล้าเลย แถมต้องขึ้นสะพานลอยหน้าบ้านข้ามไปรอรถอีกฝั่งหนึ่งด้วยนะ เรียนอะไรกันนักหนา ตำราถึงได้หนักอึ้งขนาดนั้น ผมว่าวันๆสมองแกต้องคิดหนักไม่ใช่ย่อย

รุ่นผมจำไม่ได้ว่าตอนประถมหอบตำรากันหนักขนาดไหน แต่จำได้ว่าตอน ม.ศ 4-5 นับวันตำราที่หอบไปโรงเรียนและหอบกลับจะน้อยเล่มลงทุกวัน เพราะส่วนใหญ่เก็บไว้ในโต๊ะที่โรงเรียน 555

เลิกเรียนก็เวลาปกติ กลับถึงบ้านเตะบอล เล่นโน่นนี่กับเพื่อน ไม่ต้องไปเรียนพิเศษต่อจนถึงทุ่มสองทุ่มหรอก น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ตัวก็เหม็นสาบ

แต่เราก็โตมา ทำมาหากินเหมือนกะคนอื่นเค้า แม้นไม่รวยก็ช่างมันเหอะ ว่าไปแล้วสงสารเด็กๆยุคนี้ ที่ต้องขวนขวาย(ตามพ่อแม่) ทุกอย่าง ไม่งั้นจะไม่ทันคน ว่างั้น

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 25 พฤศจิกายน 2555 20:57:15 น.  

 

นันทน์เคยอ่านงานวิจัยค่ะ จริงๆ เด็กไม่ควรเล่นคอมฯ หรือดูทีวี จนกว่าจะอายุประมาณ 10 ขวบด้วยซ้ำ

ข้อดีของมันมีมากค่ะ การเล่นเกมส์ก็เช่นกัน เด็กจะฉลาดจนน่าแปลกใจ แต่นันทน์มองว่า ไม่ถึงวัยที่ควรจะรู้จักของเหล่านี้ค่ะ

เด็กเล็กๆควรเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัวมากกว่า เรียนรู้การเข้าสังคม รู้จักปฏิสัมพันธ์ ฝึกหัดกล้ามเนื้อมากกว่า ไม่เข้าใจพ่อแม่บางท่านสมัยนี้จริงๆเลย นันทน์ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ยังคิดว่าของพวกนี้ไม่เหมาะกับวัยเค้าด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ

ข้อเสียชัดๆ ตามที่พี่ก๋าบอกเลยค่ะ อย่าว่าแต่เด็กเลยค่ะ ผู้ใหญ่ก็เป็นค่ะ
- ปัญหาสายตา อาจเกิดปัญหาสุขภาพทางอ้อมๆด้วยค่ะ เพราะมีคลื่นแม่เหล็ก
- ปัญหาทางอารมณ์ จะใจร้อนมาก จะขี้หงุดหงิด ไม่รู้จักอดทนรอคอย
- เด็กวัยนี้ ควรจะไปพัฒนากล้ามเนื้อด้วยการเล่นมากกว่าค่ะ

 

โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) 25 พฤศจิกายน 2555 21:10:23 น.  

 

แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...น้องหมิง หมิง น่ารักครับ

 

โดย: **mp5** 25 พฤศจิกายน 2555 21:17:12 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋า

ได้ยินว่าตอนนี้ที่ต่างประเทศกำลังจะออกกฎให้เด็กไม่ต้องทำการบ้านแล้วนะคะ เพราะการบ้านไม่ได้ทำให้เด็กเรียนเก่งขึ้น แต่ทำให้เด็กไม่มีเวลาไปเล่นหรือเรียนรู้สิ่งอื่นค่ะ

ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยค่ะ อิ อิ เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กการบ้านเยอะมาก ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็คร่ำเคร่งอ่านตำรา เรียนจบมาได้ก็โล่งใจแล้วค่ะ แหะๆ

ชอบวิธีการเลี้ยงหมิงหมิงของพี่ก๋านะคะ เด็กๆ ควรจะได้เรียนรู้อย่างมีความสุขเนอะ ไม่ได้เข้ามาในบล็อกหลายวัน ดูรูปแล้วหมิงหมิงโตขึ้นเยอะเลยนะคะ

คืนนี้ฝันดีค่ะ

 

โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) 25 พฤศจิกายน 2555 21:36:33 น.  

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ..

ให้ถามตอนนี้ จำวิชาเรียนอะไรได้บ้างมั้ย..ตอบได้เลยว่าไม่ได้..เพราะสมัยเรียน..ท่องจำ เพื่อเอาไปสอบอย่างเดียวเลย..เพราะถูกสอนมาแบบนั้น..บางครั้งคิดว่า ตัวเองเนี่ย เป็นคนไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์อะไรกะเค้าเลย..ทำตามแบบเดิม ๆ ที่เค้าทำ ๆ กันมา..
จนมาอยู่เมกา..ได้เจอ ได้เห็นความต่างเยอะมาก..พยายามไม่ยึดติดกะหลักเดิม ๆ พยายามคิดอะไรใหม่ ๆ บางครั้งมันก็โอเค บางครั้งมันก็ออกมาไม่ดี..แต่ คิดว่า ยังไงก็ยังได้ลองทำ...
อย่างที่เขาบอกว่า..เปลี่ยนวิธีคิด..เปลี่ยนชีวิตค่ะ..

 

โดย: simplyusana 25 พฤศจิกายน 2555 21:46:49 น.  

 

มันเป็นความล้มเหลวในระบบการศึกษาของไทยอย่างแท้จริงค่ะคุณก๋า
การเรียนการสอนให้ท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง
แต่คิดไม่เป็น และขาดการพัฒนาด้านจิตใจควบคู่กัน
พี่ว่าเด็กน่าสงสารค่ะ ขาดชีวิตที่สนุกสนานร่าเริงวัยเด็กไปเลย ต้องเรียนอะไรต่ออะไรเยอะแยะมากมายตามความต้องการของพ่อแม่

 

โดย: เนินน้ำ 25 พฤศจิกายน 2555 22:06:41 น.  

 

ละอ่อนบ่าเดียวเฮียนอิดขนาด
ขนาดอยู่อนุบาลยังต้องเฮียนพิเศษ

 

โดย: BongKet 25 พฤศจิกายน 2555 22:24:17 น.  

 

หมิงหมิงโชคดีที่มีพ่อฉลาดค่ะ

 

โดย: Maeboon 25 พฤศจิกายน 2555 23:01:41 น.  

 

แวะมาทักทายกลางดึกค่ะพี่ก๋า

 

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 25 พฤศจิกายน 2555 23:12:28 น.  

 

ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

โดย: เศษเสี้ยว 25 พฤศจิกายน 2555 23:26:15 น.  

 

หวัดดียามดึกเจ้าอ้ายก๋า

รินก็บ่อเคยเรียนเจ้า
และรินก็คงบ่อบังคับลูกหื้อไปเรียนกวดวิชาแน่ๆ
หากเขาบ่ออยากเรียน

มีเรื่องเล่าของหลานเอง ส่งไปเรียนพิเศษ
การเรียนพิเศษเด็กชั้นป. 1 ตอนปิดเทอม คือการเรียนล่วงหน้าในบทเรียนนั้นๆ
พอเปิดเทอมมา ครูก็มาสอนบทนั้นๆ หลานคนนี้เรียนมาแล้วก็เกิดความรู้สึกว่า
ฉันรู้ล่ะ รู้กว่าใครล่ะ ครูถาม ตอบทันที อวดว่าตัวเองรู้มาก่อนแล้ว
ว่าเดียวก็จะเจอประโยคหยัง บลาๆ

น้องรินก็มาคิดว่า มันดีหรือป่าวน้อ เป็นแบบนี้

เรียนได้รู้ก่อน แต่จำเป็นต้องเรียน มาเพื่อประกาศคนอื่นกะว่าตัวเองรู้แล้วหนา


 

โดย: Rinsa Yoyolive 25 พฤศจิกายน 2555 23:26:45 น.  

 

เด็กเดี๋ยวนี้ .. อะไรตึงไปก็ไม่ดี หย่อนมากก็ไม่ได้
เรียกว่าเลี้ยงดูค่อนข้างยากเพราะว่าสังคม และก็อะไร
หลายๆ อย่างมันเปลี่ยนไปแบบเร่งและเร็วนะค่ะ

เรื่องการแข่งขัน .. เราว่าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ค่ะ
แต่ว่าเราจะแข่งกับใครล่ะ อันนี้ต้องแล้วแต่เราจะ
คอยชี้นำทางให้เด็กของเราน่ะค่ะ และส่วนตัวเอง
เราอยากสอนการพัฒนาทางอารมณ์มากขึ้น
สอนความคิดดีๆ ให้เค้ามากกว่าการจะมุ่งเน้นเรื่อง
เฉพาะวิชาการอย่างเดียว

พูดเหมือนทำได้ง่ายๆ นะค่ะ แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เน๊าะ

 

โดย: JewNid 26 พฤศจิกายน 2555 0:00:45 น.  

 

ถ้าครูบาอาจารย์สมัยนี้ไม่สอนกั๊ก

ก็คงจะดีนักแลครับ พี่ทั่น

ออกหักจากดอย อยากชกตัวเองซัก 20 ครั้งครับ 555+

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 26 พฤศจิกายน 2555 0:16:09 น.  

 

ขอยืดหยัดเจตนารมณ์ แม่เลม่อนจะสอนลูกแบบพ่อก๋าค่ะ

 

โดย: ladiesorange 26 พฤศจิกายน 2555 0:41:49 น.  

 

ตอนนี้ลูกยังไม่เข้าอนุบาลเลย แต่พ่อเลม่อนก็เตรียมจะเคี่ยวเข็ญละ

 

โดย: ladiesorange 26 พฤศจิกายน 2555 0:45:50 น.  

 

สวัสดีเจ้าปี้ก๋า จะว่าไปคนเฒ่ารุ่นเฮานี่ก่าโชคดีไปอย่างหนา ตะก่อนการแข่งขันยังบ่าได้เข้มข้นถึงขนาดทุกวันนี้ หนูก่เป็นคนหนึ่งตี้บ่าเกยเฮียนพิเศษ แล้วแหมอย่างตะก่อนก่าบ่อมีอินเตอร์เน็ตตวย จะค้นคว้าขวนขวายเซาะหาคำตอบของอะหยั๋งสักอย่างบางทีต้องอ่านหนังสือเป็นเล่ม หรือบ่าอั้นก่อต้องขุดหาหนังสือเป็นวันปู้นนนอิ 555

 

โดย: prunelle la belle femme IP: 31.32.18.106 26 พฤศจิกายน 2555 1:57:17 น.  

 

สวัสดีค่ะ น้องก๋า...
พี่จิ๊บก้อไม่เคยเรียนกวดวิชา เหมือนกัน อิอิ..
ปล. ชอบรูปประกอบจัง.เลย นายแบบหล่อๆๆๆ อิอิ

 

โดย: จิ๊บ (คุณนายเยอรมัน ) 26 พฤศจิกายน 2555 3:12:21 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋า เขียนได้ตรงใจมากค่ะ เห็นเด็กไทยเดี๋ยวนี้แล้วก็สงสารนะคะ มีแต่การแข่งขันตั้งแต่ยังเด็ก ๆ หลานอ้อ 2 คนพี่สาวก็ให้ไปเรียนพิเศษทุกวันอาทิตย์ บอกว่าไม่เรียนเดี๋ยวไม่ทันเพื่อนคนอื่น ๆเฮ้อ เลยโนคอมเม้นท์ค่ะ เด็กที่นอรเวย์ไม่มีการเรียนพิเศษค่ะ เสาร์อาทิตย์ก็พักและเล่นนนนนกันจริง ๆ ค่ะ

สุขสันต์วันจันทร์ค่ะ

 

โดย: thainurse@norway 26 พฤศจิกายน 2555 4:37:52 น.  

 

โหวตให้โดยไว
เห็นด้วยกับคุณก๋าทุกประการ

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 26 พฤศจิกายน 2555 22:11:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]