:: รักในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก ::
:: รักในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก ::
ตั้งแต่เรียนอนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย ผมไม่เคยเรียนกวดวิชา ไม่เคยเรียนพิเศษเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ผมไม่เห็นความสำคัญของการเรียนพิเศษ ตราบใดที่ตัวเรายัง “รักในการเรียนรู้”
การศึกษาในปัจจุบัน กำลังทำร้ายเด็กของเราด้วยคำว่า "การแข่งขัน"
เรากำลังส่งลูกหลานไปลงแข่ง ในสนามที่เรียกว่า "สนามประลองความรู้" แต่เป็นสนามความรู้ที่แห้งแล้ง เห็นแก่ตัว และไม่สร้างสรรค์
พ่อแม่เจออะไรมาในวัยเด็ก มักคิดว่าสิ่งนั้นดีสำหรับลูก ทั้งๆที่ตนเองนั้นไม่เคยชอบรูปแบบการเรียนแบบนี้ แต่เรายังเลือกสิ่งที่เรา “ไม่ชอบ” ให้ลูกอยู่ดี เพียงเพราะว่า "คนอื่นๆ" เขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน
คำถามที่ถามกันระหว่างพ่อแม่มากที่สุดก็คือ อยากให้ลูกเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ?
ถามตอนที่ลูกเรียนอนุบาลสอง…..
ผมงงครับ ว่าเราจะรีบแข่งขันกันไปไหน ?
เราลืมกันไปหมดแล้วหรือว่าการเรียนรู้ที่ดี ต้องเรียนรู้ผ่านความสุข ผ่านความสนใจใฝ่รู้ ไม่ใช่เรียนรู้ผ่านการบังคับ ผ่านความเข้มงวดและไม่รักในสิ่งที่ตนเรียนรู้
มีผู้ใหญ่คนไหนบ้างที่เรียนหนักในวัยเด็ก แล้วจำเนื้อหาความรู้ที่ตนเรียนมาได้หมด
“ความรู้” ที่เรารู้ มีแต่ความรู้ประเภท “จำไปเพื่อสอบ” สอบแล้วลืม นำไปใช้ต่อยอดทางความคิดไม่ได้เลย
เราสอนแต่การหาคำตอบ แต่ไม่เน้นฝึกวิธีคิดและวิธีค้นหาคำตอบ
เป้าหมายในการเรียนรู้ของเราจึงมีแต่ “ปริมาณ”
เด็กคนไหนจำเนื้อหาวิชาได้มากกว่าคือคนเก่ง เด็กคนไหนจำข้อสอบเก่า และจำคำตอบได้มากกว่าถึงจะสอบได้คะแนนดี
วิธีการเรียนรู้ของเราทำให้เราได้เด็กที่ “จำเก่ง” แต่ “คิดไม่เป็น” “ลอกเก่ง” แต่ไม่รู้วิธี “สร้างสรรค์”
เคยถามตัวเองบ้างไหมครับ ว่าคุณรักที่จะเรียนรู้ในสิ่งใดบ้าง ?
อะไรที่เรารักและชอบมันจริงๆ
.................................
ผมผ่านระบบการเรียนรู้ในแบบที่ไม่สร้างสรรค์ ผ่านครูที่ไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู จดจำความรู้มากมายในขณะเรียน แล้วลืมไปจนหมดสิ้นหลังจากเรียนจบ
แต่กลับกัน.... สิ่งที่ผมรักและชอบ ผมกลับทำมันได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่เคยเบื่อและจดจำรายละเอียดได้ทั้งหมด เช่น ศิลปะและดนตรีที่ผมชอบ
“การเรียนรู้” และ “การใช้ชีวิต”
ควรเป็นเรื่องของ "ความสุข" "ความหลงใหล" "ความสนใจ”
เราจะเรียนรู้ได้ดีได้อย่างไร ในบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้
เราจะมีความสุขกับการเรียนรู้ได้อย่างไร หากวิธีการสอนไม่ปรับให้เข้ากับวิธีการใช้ชีวิตจริงๆ
เราจะสร้างคนเก่งขึ้นมาทำไม หากจิตใจของเขาแข็งกระด้าง และคิดถึงแต่เรื่องของการแข่งขัน จนกลายเป็นคนที่เอาเปรียบคนอื่นและเห็นแก่ตัว
เราจะศึกษาไปทำไม หากความรู้เหล่านั้นไม่ทำให้คนๆหนึ่งเติบโต งอกงามทางความคิดและคิดช่วยเหลือคนอื่นบ้าง
ผมไม่รู้และไม่เคยคิดจริงๆ ว่าโตขึ้นลูกของผมจะเป็นอย่างไร จะเรียนที่ไหน จะจบสาขาอะไร
สิ่งเดียวที่ผมพอจะสอนเขาได้ คือการสอนให้เขารักในการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยความรัก
เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับคำว่า “การศึกษาที่แท้จริง”.
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2555 |
|
64 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2556 7:38:48 น. |
Counter : 2026 Pageviews. |
|
|
วันนี้จะไปร่วมบุญกฐินบุญสำเร็จเมื่อใดยกให้คุณและครอบครัวคะ
ถูุกใจมากเลยหัวข้อเรื่อง เพราะรู้สึกขัดใจมาตลอดกับการศึกษาปัจจุบัน
ที่ขัดใจเพราะสงสารผู้ปกครองที่ต้องหาเงินมาเพื่อสนองการเรียนของลูกหลาน
ท่ีีเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ. เช่นการส่งงาน ส่งการบ้านทางเน็ต
ค่าใช้จ่ายในการเช่าคอมเพื่อทำงานส่ง การถ่ายเอกสารงานส่ง เป็นต้น
นึกสงสารพ่อแม่เด็กมากๆ
พยายามให้เด็กใกล้ชิดธรรมชาติให้มากๆ ให้เขาได้เรียนรู้กับธรรมชาติจริงๆ
และเราก็ป้อนเทคโนโลยีใหม่ให้เด็กได้รับรู้ด้วยไม่ปิดกั้นแต่เป็นไปด้วยให้รับ
พร้อมเหตุและผลที่ค่อยเป็นค่อยไป คงต้องใจเย็นทั้งสองฝ่าย. ได้เห็นเด็กกำลัง
เพิ่งจะหัดเดินแต่ในมือถือเครื่องเล่นเกมส์ตกใจมาก ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิดอะไรเลย
เราเองยังรู้สึกถึงภัยในการใช้เทคโนโลยีมากเกินกำหนดร่างกายมันฟ้องเราเอง
เช่นน้ำตาไหล มือชา นึกขอบคุณธรรมชาติเลยว่าอะไรเป็นพิษเขาจะบอกเรา
แต่เรามักจะถูกความอยากลากถูไป พูดเรืีื่องนี้มีเรื่องราวให้พูดได้ยาวๆ
เอาเป็นว่าขอบคุณท่ีีช่วยกันส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ปกครองเกิดสำนึกสังวรไว้บ้าง
ขอสุขสนุกกับธรรมชาติที่เมตตาเรามาตลอดด้วยความซื่อสัตย์ ขอบคุณคะ