<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
16 พฤศจิกายน 2554

:: แนวทางการสอนของโรงเรียนต้นกล้า ::


:: แนวทางการสอนของโรงเรียนต้นกล้า ::















เมื่อถูกถามบ่อยว่า “โรงเรียนทางเลือก” เป็นอย่างไร
ผมขอถือโอกาสนี้อธิบายจากเอกสารประกอบการบรรยาย
ของโรงเรียนเลยนะครับ



แต่ก่อนจะพูดถึงแนวทางการสอนของโรงเรียนต้นกล้า เชียงใหม่
ผมว่าเรามาทำความรู้จักกับนิยามความหมาย
ของ “โรงเรียนกระแสหลัก” กันก่อนดีไหม ?


โรงเรียนกระแสหลัก เป็นแบบไหน ?
ก็เป็นแบบที่พวกเราเคยเรียนกันมาในสมัยเด็กนั่นล่ะครับ


เด็กถูกคัดเลือกเข้าเรียน
พร้อมกับครูเป็นผู้จัดการเรียนการสอน
เลือกเฟ้นและหาวิธี “เติมความรู้” เข้าสู่สมองของเด็ก
ด้วยวิธีการต่างๆ
โดยแยกวิชาออกเป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ ศิลปะ ฯลฯ

จากนั้นก็สอนไปตามลำดับขั้นตอน
สุดท้ายก็ประเมินและวัดคุณภาพเด็กจาก “การสอบ”


ความรู้ส่วนใหญ่เกิดจากการท่องจำ
จำเพื่อไปสอบวัดผล.....


ผมก็เรียนมาในระบบนี้
เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย
แล้วเมื่อผมถามตัวเองว่าเราชอบการเรียนการสอนแบบนี้ไหม ?
คำตอบคือ “ไม่ชอบเลย”

ยิ่งถ้าไปเจออาจารย์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีจิตวิทยาในการสอน
วิชานั้นจะยิ่งน่าเบื่อหน่ายมาก
อาจารย์ถือเอกสารเข้ามาแล้วอ่าน
อ่านแล้วก็จดบนกระดานให้เราลอกตาม
สิ้นปีมาบอกก่อนสอบว่าข้อสอบจะออกอะไร
เสร็จแล้วเรากลับบ้านไปอ่านๆๆๆแล้วจดจำคำตอบ
เพื่อจะมากากบาทถูกผิดเสี่ยงดวง 1 ใน 4 ของคำตอบ....




เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม


ฯลฯ



เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการการเรียนรู้....















เราเรียนไปทำไม ?


เราเคยถามตัวเองบ้างหรือเปล่า ?

“การศึกษา” ซึ่งน่าจะเป็นกระบวนการที่ทำให้เราได้เรียนรู้
และพัฒนาตนเอง
กลับเป็นทางเลือกหนึ่งซึ่งสร้างความน่าเบื่อหน่ายจำเจ
ความรู้ที่ตายซากเหล่านั้นถูกลืมไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราเติบโต

ความรู้มากมายที่เราเรียน จำ แต่ไม่สามารถนำไปต่อยอด
หรือเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตได้เลย....













ที่สุดแล้วผมต้องการอะไรจาก “การศึกษา”


ผมต้องการให้ “การศึกษา” เป็นกระบวนการหนึ่งใน “การเรียนรู้”
และมันต้องเป็น “การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์”
ต้องเป็นการเรียนรู้ท่ามกลาง “ความสุข” และ “ความสนุกสนาน”

ความรู้ที่ได้รับต้องเชื่อมโยงกับวิธีคิด วิธีมองโลก
และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นได้





ผมเชื่อมั่นว่า “ทุกวิชาและทุกๆศาสตร์” บนโลกนี้
มี “กระบวนการ” ในการเรียนรู้ มีประโยชน์
และสามารถทำให้เราพัฒนาวิธีคิดได้

การเรียนรู้และการศึกษาต้องทำให้เด็ก
ได้ใช้ “ปัญญา” ที่มีอยู่แล้วในตัวเด็กอย่างเต็มที่และสร้างสรรค์


ไม่ว่าเราจะเรียนวิชาใดใดในโลกนี้
มันจะมีขั้นตอนที่เหมือนๆกัน
คือต้องรู้จักพื้นฐานความรู้ จากนั้นก็เรียน จำ ศึกษา ค้นคว้า
ทดลอง และปฏิบัติซ้ำๆจนเกิดความชำนาญ
และที่สุดแล้ว...
เราต้องสามารถนำความรู้นี้ไปต่อยอดและพัฒนาตนเองได้


เหมือนเวลาเราเรียนโจทย์เลข
เมื่อเราเป็นเด็กต้องเริ่มจากการนับ หนึ่ง สอง สาม
พอจำได้หมายรู้ก็เริ่มเรียนรู้การบวก ลบ คูณ หาร
จากนั้นประยุกต์ไปแก้โจทย์สมการที่ซับซ้อนและยากมากขึ้นเรื่อยๆ...

ชีวิตจริงของคนเราก็เช่นเดียวกัน
ต้องเริ่มต้นจากพื้นฐานจิตใจ แล้วจึงค่อยๆเติบโต
เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาที่ยากขึ้นเรื่อยๆในชีวิต

การเรียนรู้ในระบบการศึกษา
จึงเป็นการจำลองวิธีแก้ปัญหาในชีวิตของเรา

โจทย์ของชีวิตที่จะยากขึ้นขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเราเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
มีวิธีคิดที่ถูกต้อง
ชีวิตเราจะเหมือนกับโจทย์เลขที่ต่อให้โจทย์นั้นยากแค่ไหน
ขอเพียงเราใช้ “วิธีทำ” และ “ขั้นตอนการแก้ปัญหา” ที่ถูกต้อง

“คำตอบ” ที่ได้รับย่อมจะถูกต้องเสมอ












หลายคนชอบทำข้อสอบแบบปรนัย
เพราะมันเดาได้ เสี่ยงดวงได้
ข้อสอบแบบกากบาท ก. ข. ค. ง. และ ถูกทุกข้อ
ถึงเราไม่รู้คำตอบก็ยังสามารถเดาได้
แต่ “ข้อสอบชีวิต” เรามีโอกาสพลาดผิด
และเดามั่วอย่างนั้นได้สักกี่ครั้งกี่หน






หมิงหมิงเรียนที่โรงเรียนต้นกล้าจนจบไปหนึ่งภาคการศึกษา
พ่อแม่บางคนอาจจะงงเพราะที่นี่ไม่มีการสอบวัดผลปลายภาค
มีเพียงการเชิญผู้ปกครองมานั่งพูดคุยสองครั้ง
เพื่อดูพัฒนาการของเด็กไปพร้อมๆกัน
ดูว่าเด็กเติบโตทางร่างกาย อารมณ์และความคิดอย่างไร


ที่นี่จึงไม่มีเด็กที่เรียนได้ที่หนึ่ง หรือเรียนได้ที่โหล่
ไม่มีเด็กโง่หรือเด็กฉลาด….












“รักในการเรียนรู้” และ “เรียนรู้อย่างมีความสุข”



คุณเคยมองดูแววตาลูกบ้างไหมครับ ?
เคยถามลูกบ้างไหมว่าไปเรียนแล้วมีความสุข
เรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างเชื่อมโยง
เรียนว่ายน้ำแต่ได้ความรู้เรื่องเลข
เรียนศิลปะแต่ได้ความรู้เรื่องการแบ่งปัน
ฯลฯ




สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง คือ “ทัศนคติ” ของพ่อแม่ที่มีต่อโรงเรียน
ผมคิดว่าความไว้ใจและความเชื่อมั่นเป็นส่วนสำคัญ
โรงเรียนคิดแบบนี้ พ่อแม่ก็ควรมีแนวคิดที่คล้อยตามเช่นกัน
ไม่เช่นนั้นโอกาสเข้าใจผิด
และคิดผิดไปจากความคาดหวังจะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก



ไม่ใช่เรื่องผิดเลยนะครับ
ถ้าพ่อแม่คนหนึ่งจะคาดหวังว่าลูกต้องเก่ง ต้องเป็นอัจฉริยะ
หรือการคาดหวังว่าลูกจะต้องเข้าเรียนต่อในโรงเรียนดังที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ

ผมคิดว่านี่เป็นความปรารถนาดีอย่างหนึ่งที่พ่อแม่จะมอบให้กับลูก


แต่อย่าลืมถามตัวเองบ่อยๆนะครับ
ว่าสมัยที่คุณเรียนนั้น...คุณเรียนมายังไง ?
คุณมีความสุขกับการเรียนรู้ (ทุกระดับชั้น) บ้างไหม ?

ถ้าคำตอบ คือ “ไม่”

แล้วคุณเอาความทุกข์แบบนี้ไปยัดใส่ชีวิตลูกทำไม ?
















 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2554
90 comments
Last Update : 1 มกราคม 2555 7:54:08 น.
Counter : 12787 Pageviews.

 

เจิมเจ้า..
ดีใจ๋ขนาด นานๆ ได้เจิม..
emoemo

 

โดย: Mein Schatz 16 พฤศจิกายน 2554 5:23:04 น.  

 

อรุณสวัสดิ์เจ้า อ้ายก๋า น้องหมิงหมิง มาดาม..
ถ้าเวียงพิงค์ได้อยู่เจียงใหม่ คงจะได้เข้าเฮียนโฮงเฮียน ต้นกล้า เหมือนกั๋บอ้ายหมิงหมิงเจ้า..
...
emoemo

 

โดย: Mein Schatz 16 พฤศจิกายน 2554 5:28:53 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาวันนี้นะคะ
ถูกใจ Future board กับคำถามที่ว่า
...เรียนไปทำไม..
และ
อันสุดท้าย เมล็ดพันธ์แห่งการจินตนาการ
และความสุขงอกงามแห่งการเรียนรู้
สองสิ่งนี้สำคัญมากค่ะ
เห็นและสังเกตได้จากลูกคนเล็ก
โรงเรียนที่นี่มีกิจกรรมแต่อาจเน้นน้อยกว่าทางโน้น
แต่คนเล็กได้มารวมกับการอ่านหนังสือ
การคิดจินตนาการเยอะจัดเลยค่ะ^_^

ขอบคุณนะคะ

 

โดย: A IP: 101.109.145.1 16 พฤศจิกายน 2554 6:00:55 น.  

 

อ้ายก๋าว่าน้องเวียงพิงค์เหมือนคุณนาย
เลยนึกมาได้ว่า..
มีป้าท่านหนึ่งในเฟส.. เคยแต่งกลอนหื้อเวียงพิงค์ เกี่ยวกับคุณนาย คุณนาย..
...
คูณน้าย คุณนายไปตลาด
ซื้อผักกาด ซื้อหมู แล้วซื้อไข่
จะสำแดง ฝีมือ การครัวไง
ไหนคนไหน..อยากชิม..เชิญเข้ามา

คุณน้าย คุณนายไปตลาด
ถือกระจาดใบน้อย..น่ารักหนา
มีดอกไม้ มีหัวใจ เต็มอัตรา
เอาความรักมาด้วยน้า..มาฝากกัน
..
FB ของป้าท่านนี้ จะมีห้องสำหรับเวียงพิงค์ โดยเฉพาะเจ้า
จะแต่งกลอน น่าฮัก น่าฮัก สอดคล้องกับฮูปเวียงพิงค์หื้อเสมอ..
//www.facebook.com/photo.php?fbid=214420658625601&set=a.108481985886136.9742.107604805973854&type=3&theater

 

โดย: Mein Schatz 16 พฤศจิกายน 2554 6:10:58 น.  

 




หวัดดีค่ะคุณก๋า มาดาม หมิงหมิง ด้วยนะคะลูก
รูปหมิงหมิง หน้าตา ดูมีความสุข เห็นแล้วชื่นใจค่ะ
อันนี้แหละ เป็น รร ในฝันเลยนะ
เสียดายว่า สมัยก่อน ไม่มี รร แบบนี้เลยอ่ะนะ
เป็นสูตรตามนั้นเลยค่ะ เรียน จำ สอบ ลืม อ่ะ เฮ๊อ
น่าดีใจแทนเด็กสมัยนี้ค่ะ หวังให้เค้าเติบโตมา
เป็นคนดีมีรากฐานจิตใจที่ถูกปลูกฝังมาจนเป็นนิสัย
ในด้านที่ดี มีเมตตา มีคุณธรรม เนี่ย โอเคค่ะ
เพราะถ้าจิตสำนึกเป็นแบบนี้กันทุก ๆ คนแล้ว
ในภาครวม เยาวชนในวันนี้ของเรา ต่อไปจะ
โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศกันเลยอ่ะนะมินว่า
ปล.มีความสุขกันนะคะ พ่อ แม่ ลูก

 

โดย: มินทิวา 16 พฤศจิกายน 2554 6:11:06 น.  

 

“ทัศนคติ” ชอบคำนี้จังเลยค่ะ

ทัศนะคติที่เรามีต่อสิ่งต่างๆ
ล้วนมีผลต่อจิตใจของเราเสมอเนอะ

"ต้นกล้า" แค่ชื่อก็กินใจไปกว่าครึ่งแล้วหละ่ค่ะ


อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะพี่ก๋า

 

โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน 16 พฤศจิกายน 2554 6:18:22 น.  

 


คิดว่าต่อไปจะมีโรงเรียนแบบนี้เยอะมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้พ่อแม่ได้มากขึ้น และที่สำคัญค่าเทอมอาจจะถูกลง...

สิ่งที่จะมีมากขึ้นแน่นอนในยุคสมัยที่เจริญขึ้น "การแข่งขันทุกรูปแบบ" ถ้าเด็กๆ มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอ เค้าจะอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปยังไง

เรายังนั่งคุยกันอยู่ว่า จากน้ำท่วมครั้งนี้ เห็นขยะเยอะมาก ทุกคนก่นด่าทางการไม่มีใครมาเก็บ แต่ก็มีหลายชุมชนที่สามัคคี รวมตัวกัน ช่วยกันดูแลปกป้องบ้านเรา (ที่ไม่ใช่บ้านเธอ บ้านฉัน แต่เป็นบ้านเรา) ทั้งความสะอาด อาหารการกิน เห็นอาสาสมัีครวัยทีนก็เยอะ ดูแล้วชื่นใจ คิดเหมือนกันว่าต่อไปภายภาคหน้าเราจะมีมนุษย์พันธุ์ใหม่แบบนี้มากขึ้น มันก็ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นเยอะนะ


สวัสดีวันสีเขียวจ้ะคุณก๋า




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 16 พฤศจิกายน 2554 6:26:59 น.  

 

สวัสดีครับพี่ A



ผมว่า รร.ทางเลือก
ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่คุ้นครับ 555

แล้วก็ไม่ค่อยมั่นใจในเรื่องการเรียนต่อ สอบแข่งขันต่อในระดับที่สูงขึ้นไป

เหมือนกับกลัวว่าถ้าลูกฉันจบการศึกษาไป
โดยไม่รู้จักการสอบแข่งขัน
ถึงเวลาจริงๆจะไปปรับตัวกับระบบการสอบแข่งขันได้หรือเปล่า

ผมไม่ไ่ด้คิดถึงเรื่องนั้นเลยครับ 555

ผมมองโรงเรียนทางเลือก
เหมือนเป็นวิธีการในการเดินทางแบบหนึ่ง

ถ้าเป้าหมายเราชัดเจนว่าเราอยากให้ลูกเรา
ได้เรียนรู้อะไรจากการศึกษา


เขาจะเดิน วิ่ง ขี่มอเตอร์ไซด์
ขับรถ พายเรือ หรือนั่งเครื่องบิน

ถ้าทิศทางมันถูก
ยังไงก็ไปถึงเป้าหมายได้เหมือนกันแน่นอน

แต่สิ่งสำคัญที่สุด
คือ "ความสุขขณะเดินทาง" ครับ










 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2554 6:47:23 น.  

 

โรงเรียนสมัยนี้ เค้ามีหลักการสอนที่ดีนะคะพี่ก๋า

 

โดย: kwan_3023 16 พฤศจิกายน 2554 6:50:35 น.  

 

สวัสดีค่า คุณก๋า
เห้ฯด้วยกับเม้นท์ข้างบนนะค่า
ที่ตอบคุณ เอ นะค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 16 พฤศจิกายน 2554 6:53:22 น.  

 



ไม่รู้ว่ารุ่นหมิงหมิง จะยังมี ..
กินข้าวกับแม่ใช้ผ้าปูโต๊ะสีอะไร
อยู่รึเปล่านะคะ

ผ่านจาก “โรงเรียนทางเลือก” ในวัยเด็ก
ในวัยประถม มัธยม มหาวิทยาลัย
ยังต้องเจอ “โรงเรียนกระแสหลัก” อยู่ดีใช่ไหมคะ
หรือพี่ก๋ามีแนวทางที่แตกต่างอยู่ในใจอยู่แล้ว

ช่วงนี้เด็ก “โรงเรียนกระแสหลัก” แถวนี้บ่นสุดๆเลยค่ะ
เห็นว่าระบบการสอบ เปลี่ยนแปลงอีกแล้ว
เด็กแถวนี้เลยประกาศเสียงดังฟังชัด จะไปพายัพ
พอประกาศไปแ้ล้ว ก็เริ่มลดแรงกดดันตัวเอง
จากที่เครียดทุกวัน บ่นทุกวัน
ว่าตัวเองจะไม่สามารถไปมหาลัยที่อยากไปได้
เพราะเกรดไม่มีทางถึง
เด็กที่เก่งที่สุด เกรดยังไม่ค่อยเอื้อ
บางที ..
ระบบต่างๆที่พัฒนาไปเรื่อย
กับการเรียน - การสอน ที่ไม่พัฒนาตาม
วิธีคิดของคุณครูรุ่นเก่า .. ไม่ไปตามสิ่งใหม่ที่เข้ามา
มันก็ส่งผลอะไรมากมาย และส่งผลมาถึงเด็กด้วย
ดี.ฟังเรื่องอะไรแบบนี้ทุ๊กกกวันจากน้อง
แถมทุ๊กกกกเสาร์-อาทิตย์
เวลาเดอะแกงค์น้องมากองอยู่ในดง
เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กเรียน
มีเด็กอยู่คนนึง ซื้อหนังสือต่างๆเกี่ยวกับการสอบจริงจังเลย
ก็ถามว่าซื้อทำไมนักหนา
เรียนก็เก่งกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
น้องเค้าก็บอกว่า .. พอซื้อแล้วมันมั่นใจขึ้น
เช่นเดียวกับการเรียนพิเศษที่ .. ขอให้ได้ลงเรียนไว้ มันจะสบายใจขึ้น
กลายเป็นเด็กวิตกจริตไปตามๆกัน
น้องดี.ตอนแรกนี่ก็หนักเลย
แต่พอประกาศว่าจะเข้าพายัพ
ความรู้สึกก็คือ ยังไงตัวเองก็มีที่เรียนแน่
เกรดตัวเองถึงแน่
มันก็เลยผ่อนคลายลง
แต่ก็ยังจะสอบอื่นๆไปตามขั้นตอน
เพียงแต่ในใจเอาล่ะ .. ยังไงก็มีที่เรียน

การศึกษาวันนี้ มันทำให้เด็กเครียดไปหรือเปล่า????
นี่ดี.ดูจากเด็กกลุ่มเล็กๆ
แล้วจากกลุ่มใหญ่ๆทั้งประเทศ ... จะเป็นยังไง

ทุกวันนี้ดี.ว่าเ้ด็กๆ
จ่ายค่าเรียนพิเศษเดือนละ 2-5000 นะคะ
อย่างน้องดี. ค่าเรียน+ค่าหนังสือ ต่อคน
เกือบๆ 4000 ต่อเดือน
แต่ถ้าเทียบกับเพื่อน ก็แบบว่านี่ยังน้อย
บา่งคนปิดเทอมต้องไปเรียนพิเศษที่กทมมั่งที่หาดใหญ่มั่ง
ค่าใช้จ่ายไม่รู้เท่าไหร่เลย
รวมๆแล้วเม็ดเงินลงอยู่ในแวดวงการศึกษานี่มหาศาลเลยนะคะ

แต่ที่แน่ๆ แต่ละปี ตกงานกันตรึม เฮ่อเลย





 

โดย: d__d (มัชชาร ) 16 พฤศจิกายน 2554 7:00:09 น.  

 

แต่ “ข้อสอบชีวิต” เรามีโอกาสพลาดผิด
และเดามั่วอย่างนั้นได้สักกี่ครั้งกี่หน
-----------------------------------------------------
บทบาทชีวิตบางครั้งก็พูดลำบากค่ะ
เหมือนทุกอย่างได้ถูกกำหนดมาแล้ว
แต่บางครั้งเหมือนกับเราต้องวัดดวง
บางทีก็ปล่อยให้มันเดินทางของวันเอง
ชีวิตคือบททดสอบจริงๆ นะค่ะ
สรุปใช้ชีวิตบนความระมัดระวังและรอบคอบดีที่สุดค่ะ

สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ก๋า ...

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 16 พฤศจิกายน 2554 7:15:04 น.  

 

ต้นกล้าต้นเล็ก ๆ
รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย
อีกไม่นานเราจะเห็นต้นไม้ใหญ่
ที่จะให้ความผาสุขกับผู้พบเห็น

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 16 พฤศจิกายน 2554 7:26:19 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ...

วันนี้หมิงหมิงใส่หมวกหล่อมาก

 

โดย: Calla Lily 16 พฤศจิกายน 2554 7:36:38 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องก๋า..

 

โดย: poongie 16 พฤศจิกายน 2554 7:46:18 น.  

 

“รักในการเรียนรู้” และ “เรียนรู้อย่างมีความสุข”

นี่แหล่ะ หัวใจหลักที่จะทำให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีความสุขได้ค่ะ

 

โดย: kapeak 16 พฤศจิกายน 2554 7:56:05 น.  

 




Orkut Myspace Good Morning Scraps Graphics and Comments






อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณก๋าและหลานหมิงหมิง แวะเข้ามาทักทายด้วยความคิดถึงและห่วงใย มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ

 

โดย: KeRiDa 16 พฤศจิกายน 2554 7:57:31 น.  

 


รร.วัดเส้าหลิน .. น่าสนใจนะคะ
เดี๋ยวรอดูว่าหมิงหมิงเลือกไหม

รร.สอนพิเศษนี่มันแพงได้ใจนะคะ
ถ้าวันไหนดี.ออกไปวิ่งตอนเช้ากัน
จะเจอนักเรียนกลุ่มหนึ่ง
ประมาณเป็นรร.เตรียมเข้าเตรียมทหารอะไรพวกนี้
จะออกมาวิ่ง มาฝึกเหมือนทหารจริงๆ
ได้ยินว่าค่าเรียนนี่ราวๆหกหมื่น
เด็กผู้ชายดูแข็งขันกันดี
เจอน้องผู้หญิงบางคนดูบอบบาง ท่าทางท้อๆไงไม่รู้ค่ะ
คงเหนื่อย แล้วตื่นเช้ามาก
จากที่อยู่บ้านสบายๆ ต้องมาฝึกกันตั้งแต่เช้า
ดูแล้วไม่น่าจะสามารถเรียนผ่านกันได้ทุกคน
แต่ที่แน่ๆ ผู้ปกครองต้องขวนขวายกันหนักเลย


.
.
.




เรียนเถอะลูก พ่อสู้ไหว
หรือว่าเรียนให้เก่งในห้อง
แล้วก็เอาวิชาความรู้ที่เรามีไปสอบก็พอแล้ว
หรือ หรือ หรือ ?????

.
.
.

หลายๆหรือนี่ ....ผู้ปกครองเหนื่อยเลยนะคะ




 

โดย: d__d (มัชชาร ) 16 พฤศจิกายน 2554 8:06:49 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า มาดาม แล หมิง หมิง

หมิง ๆ มาแนวอินดี้ทุกวันเลยนะครับ
ดูเป็นหนุ่มสบาย ๆ อารมณ์ดีครับผม
แบบนี้สาว ๆ ๆชอบ หุ หุ

อืม..แวะมาชมโรงเรียนทางเลือกค่ะ
จริง ๆ แต่ละสถานศึกษาก็มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันไปนะค่ะ
ยังไงก็อยู่ที่ผู้ปกครองค่ะ ว่าจะเลือกอะไรให้ลูก
และพร้อม หรือ สามารถ เลือกอะไรให้ลูกได้
ถ้าบางอย่าง อยากเลือก อยากได้
แต่ไม่มีให้เลือก หรือ ไม่พร้อม
ก็อาจจะต้องสอนเอง ทำกิจกรรมเองค่ะ

(แต่ก็ชอบโรงเรียนต้นกล้าค่ะ ดูอบอุ่น สร้างสรรค์จินตนาการดีค่ะ) หมิง หมิง happy เลยน่ะ

สุดท้าย ก้อยก็คิดว่า เริ่มต้นดี ๆ ที่ครอบครัวเสมอ ๆ ค่ะ


emo

 

โดย: Gunpung 16 พฤศจิกายน 2554 8:29:48 น.  

 

"เรียนไปทำไม
ได้ความรู้ ?
สอบแข่งขัน?
ทำงานที่ได้ดีเงินเดือนเยอะ?
เป็นเจ้าคนนายคน ?"

โดนใจมาก ๆ ครับ

 

โดย: อัสติสะ 16 พฤศจิกายน 2554 8:32:40 น.  

 

อ่านที่คุณก๋าเขียนวันนี้ พี่ชักเบาใจลงกับการเรียนที่บ้านของลูกนะ
แบบว่าไปกันเรื่อย ๆ เหมือนกัน

แต่ดูเหมือนเธอรู้เยอะเลยนะคุณก๋า คำศัพท์แปลก ๆ ที่พี่ไม่คิดว่าเขาจะรู้
เพราะพี่ก็ไม่รู้ อิอิ แต่เขาทราบความหมายค่ะ มีการอธิบายคำจำกัดความ
ให้แม่ฟังด้วย พี่ถามว่ารู้คำนี้ได้ยังไง เขาบอกเคยอ่านเจอในหนังสือ ทุก
วันนี้ กลายเป็นแต่ละวันพี่ต้องถามคำบางคำจากลูก ^^" ... ที่พูดมา
ก็เพราะอยากโยงถึงแนวการสอนของโรงเรียนต้นกล้าที่คุณก๋าว่ามา การ
เรียนกับเด็กเนาะ อย่าให้เครียดมากเลย ... ตอนนี้เขายังเด็กนัก ให้มี
รอยยิ้มสนุกสนานกลับจากโรงเรียนดีกว่า ... พี่เชื่อนะว่าในแต่ละวันโรงเรียนของหมิงหมิงป้อนความรู้ให้หมิงหมิงมากมาย ความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องประกาศเป็นคะแนน :))

 

โดย: Tristy 16 พฤศจิกายน 2554 9:08:47 น.  

 

ยินดีค่ะ แต่แถวบ้านเรียก **เจ๊......** กับ ป้า แล้วค่ะ


ไม่ไปเคาะประตู ก็มา ทักทายค่ะ พบเจอ หมิง หมิง ทุกวันนึกเปรียบเที่ยบ หลานย่า ตัวน้อย ชั้น อ.2 นั่งปั่นการบ้านทุกเย็น เทอมสองของ อ.1 บอกว่า เขียนหนังสือเอง ไม่ได้ เหอ เหอ ปู้โธ เด็กเพิ่ง4-5 ขวบ จะให้เทพไปไหน โรงเรียนนี้ ประมาณ เลิศทางวิชาการค่ะ

ของนายต้นตอนระดับ อนุบาล- มัธยม แม้ไม่ถึงขั้น โรงเรียนต้นกล้า แต่ก็เป็นโรงเรียน เล็ก ๆ อบอุ่น รู้็้จักทั่วถึง เน้นจริยธรรม ตั้งแต่ระดับ ประถม5 มีเข้าค่ายธรรมะ ที่โรงเรียน 4 วัน ปีการศึกษาละหนึ่งครั้ง มาเน้นวิชาการระดับ ม1-ม3
แต่....น่า่เสียดาย เปลี่ยนผู้บริหาร ไปตามกระแสแล้วค่ะ

*****ฝากให้คุณก๋า เขียนเกี่ยวกับการเสนอแนะ แนวทางของ ผู้ปกครอง ที่ อยากให้ลูกศึกษาที่ โรงเรียนทางเลือก แต่ปัจจัยไม่เอื้อด้วยค่ะ เพราะโรงเรียนต้นกล้า มีน้อย(เท่าที่ทราบ)****



มีความสุขกับการทำงาน ตลอดวันค่ะ

Photobucket

 

โดย: ตาลเหลือง 16 พฤศจิกายน 2554 9:26:16 น.  

 

เดี๋ยวนี้ ... ไม่เหมือนอดีต ...
สิ่งต่างๆ ถูกปรับให้เข้ากับสังคม
และก็แนวทางไป ...

เราเชื่อว่าวิธีการสอน โดยให้เด็กได้คิดเอง
มันย่อมดีในระยะยาวแน่นอนเลยค่ะ

พูดถึงเรื่องนี้แล้วทำให้วกกลับไปถึงคำพูดที่เรา
ได้ยินจากหนังอีกแล้ว เหมือนเดิมที่ต้องพูดเพราะว่า
เข้ากับบล็อกในเนื้อหานี้นักที่ว่า

"พ่อแม่ไม่สามารถปกป้องลูกได้ตลอดเวลา
แต่ว่าพ่อแม่สามารถสอนให้เค้าป้องกันตัวเอง
ดูแลตัวเอง"

ซึ่งก็คงหมายถึง การมอบวิธีการคิด และกล้าจะคิด
ไม่จำกัดความคิดของเค้าแต่ว่าเราเป็นกรอบให้กับเค้า
ห่างๆ ไม่ให้อะไรเกินเลยมากไป เรียกว่าเด็ก
สมัยนี้คิดได้เป็นและเก่งขึ้นนะค่ะ แต่ว่าบางครั้งก็ยัง
ต้องการการชี้แนะตรงนี้ล่ะเป็นงานของพ่อแม่เลยล่ะค่ะ

 

โดย: JewNid 16 พฤศจิกายน 2554 9:31:47 น.  

 

หมิงหมิงวันนี้น่ารักมากค่ะ...


 

โดย: Mameepee 16 พฤศจิกายน 2554 9:38:37 น.  

 

โดนใจสุดๆ ค่ะพี่ก๋า
ระบบการเรียนการสอนต้องย้อนทบทวนเรื่องการน่าเบื่อหน่ายด้วย
การเทศน์ยังมีแนวคิดที่เน้นความสนุกเข้าแทรกเพื่อลดความน่าเบื่อและง่วงนอน
การเรียนการสอนยังคิดไ่ม่ถึงจุดนี้บ้างหรือไงน๊า

แวะมาเก็บลิงค์ไปแชร์ค่ะ

 

โดย: ณ ปลายฉัตร 16 พฤศจิกายน 2554 9:53:14 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า
ตอนนี้หมิง หมิง เค้ายังเล็กอ่ะค่ะ แค่เค้ามีความสุขกับการไปโรงเรียนก็พอแล้วค่ะ ส่วนเค้าชอบอะไระนั้น ต้องค่อยสังเกตุ
กันไปเรื่อยๆค่ะ สังเกตุจาการเล่นของเค้านี่แหละค่ะ แล้วค่อย
ส่งเสริมเค้า อย่างหมิง หมิง ดูเค้าจะมีความสุขกับการเล่นสี
วาดภาพ นะคะ ทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ ดาชอบภาพวาดของ
หมิงๆค่ะดูแล้วมันมีความหมายในตัวเองค่ะ

ขอยกตัวอย่างของสองหนุมค่ะ อย่างสองหนุ่ม นี่ตอนเล็กๆก็ดู
ไม่ออกหรอกค่ะ แต่สังเกตุจากการดูทีวีของเค้า พอมีพลงออก
มานี่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่จะหยุดนิ่งทันที แล้วมีร้องเพลงตาม
ด้วย ทั้งๆที่ พูดยังไม่ชัด ไม่รู้จักตัวหนังสือ เป็นแบบนี้อยู่หลายปีเลยล่ะค่ะ
ก็เลยลองเอาไปเรียนดนตรีดู ปรากฏว่าชอบมาก
ได้ร้องได้เต้น สนุกสนาน แถมเพื่อนเยอะอีก จนวันนี้ดนตรี
กลายเป็นส่วนหนึ่งของเค้าไปแล้วค่ะ เคยบอกว่าถ้าเบื่อหรือไม่
อยากเรียน ไม่อยากซ้อม(เพราะต้องซ้อมทุกวัน) ก็เลิกเรียน
ได้นะ แต่เค้าบอกว่าไม่เลิกค่ะ เค้าบอกเค้ามีความสุขที่ได้เล่น
ดนตรี

 

โดย: phunsud 16 พฤศจิกายน 2554 10:00:51 น.  

 

สวัสดีคะคุณก๋า เห็นพื้นฐานการเรียนของโรงเรียนต้นกล้าแล้วชื่นชอบมากเลยค่ะเดี๋ยวนี้มีแต่ระบบการเรียนรู้อย่างที่คุณก๋าบอกจริงๆยิ่งไปกว่านั้นระบบลูกเจ้าหลานเธอก็เยอะมาก

โรงเรียนดีดีก็สอบแข่งขันกันเข้าและต้องแพ้ระบบลูกท่านหลานเธอแม้แต่การทำงาน ลูกท่านหลานเธออาจจะไม่เก่งแต่มีเงินก็เก่งได้

ขนาดแพทย์บางคนยังวินิจฉัยโรคผิด และนักวิชาการวิเคราะห์ผิดๆ ประสาอะไรชาติบ้านเมืองจะไม่แย่ค่ะคุณก๋าในเมื่อคนที่ไม่เก่งเข้าครองเมืองเสียแล้วเพราะเงินมีอำนาจ

ฉะนั้นทุกอย่างจึงต้องมีอันเป็นไปตามเวลาจริงๆ อิอิ คุณก๋าคงงงวันนี้กิ่งพูดอะไร555 ก็ตามนั้นแหละค่ะ แหะ แหะ




More Morning Break Comments


 

โดย: กิ่งฟ้า 16 พฤศจิกายน 2554 10:04:14 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

 

โดย: kobnon 16 พฤศจิกายน 2554 10:25:24 น.  

 

สวัสดีเจ้า PR

คนบ่มีลูกก็เลย สบม

วันนี้เลยมา สบม อยู่เจียงใหม่

 

โดย: tuk-tuk@korat 16 พฤศจิกายน 2554 10:25:54 น.  

 

แต่อย่าลืมถามตัวเองบ่อยๆนะครับ
ว่าสมัยที่คุณเรียนนั้น...คุณเรียนมายังไง ?
คุณมีความสุขกับการเรียนรู้ (ทุกระดับชั้น) บ้างไหม ?

ถ้าคำตอบ คือ “ไม่”

แล้วคุณเอาความทุกข์แบบนี้ไปยัดใส่ชีวิตลูกทำไม ?
ู^
^
คำตอบคือ เพราะไม่มี"โรงเรียนทางเลือก" ให้เลือก

ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือเฉยๆ ลูกต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน

 

โดย: พจมารร้าย 16 พฤศจิกายน 2554 10:30:32 น.  

 

คุณก๋า ชื่อนายต้น ของพี่นะ พี่ตั้งความหมายไว้ตั้งแต่ตั้งชื่อไว้ว่า ."ต้นกล้า." หมายถึงพี่จะบ่มเพาะ ต้นกล้าต้นนี้ ให้กลายเป็นไม้ใหญ่ ที่แผ่ร่มเงา ให้ความร่มเย็น ค่ะ

ตอนนี้ ครึ่งทาง (หรือเปล่า...) สำหรับพี่ ต้นกล้าต้นนี้ ผลพอใจสำหรับพี่ 70 % แล้วค่ะ ต้องดูต่อไป ปรับแต่ง ประคับประคอง
จุดมุ่งหมายของพี่ เป็นคนดีของสังคม ที่เหลือเป็นเส้นทางที่เขาเลือกเอง ในตอนนี้ก็คือได้ ศึกษาต่อคณะ ที่นายต้นวาดหวังไว้
***************************************

ชื่นใจ แทน มาดาม และน้องหมิง หมิง ที่คุณก๋า เหนื่อยได้เพื่อลูก เป็นกำลังใจ ให้ค่ะ ***************************

 

โดย: ตาลเหลือง 16 พฤศจิกายน 2554 10:32:14 น.  

 

รักที่จะเรียนรู้
รู้ที่จะรักเรียน

ทักทายยามสายก่อนไปหน้าดำทำงานค่ะพี่ก๋า

 

โดย: fonrin 16 พฤศจิกายน 2554 10:39:03 น.  

 


สวัสดียามสายๆ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

------------------------------------------------------
แวะมาทักทาย อากาสช่วงนี้แปลกเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ระวังเรื่องไม่สบายไว้ด้วยนะคะ ระลึกถึงอยู่เสมอค่ะคุณก๋า

 

โดย: เกศสุริยง 16 พฤศจิกายน 2554 10:46:53 น.  

 




More Take Care Comments


สวัสดียามสายครับคุณก๋า
เรื่องราวต่อเนื่องจากเมื่อวาน
เป้นเรื่องน่าสนใจมากสำหรับผู้ปกครอง
ที่ต้องการทิศทางที่ถูกต้อง...ผมว่างั้น

 

โดย: panwat 16 พฤศจิกายน 2554 11:02:12 น.  

 

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา
ธรรมทั้งหลาย มีใจนำหน้า

มีความสุขกับใจที่น้อมนำแต่ความดี ตลอดไป...นะคะ



สวัสดีค่ะ คุณก๋า...

วันนี้ ชำแหละระบบการเรียนการสอนได้ถูกใจพี่เสียจริง
ถ้าพี่เป็นนายกรัฐมนตรี จะให้คุณก๋าไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ

แต่ตอนนี้ เป็นรัฐมนตรีว่าการบล๊อกกะว่าก๋าไปก่อนละกัน..



 

โดย: พรหมญาณี 16 พฤศจิกายน 2554 11:04:47 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องกิจ

ดีใจตั้งแต่เมื่อวานที่เห็นคนเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเรื่องการศึกษามากมาย แสดงว่ายังมีคนสนใจและมองเห็นความสำคัญของการศึกษา และ blog ของกะว่าก๋าก็เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นอย่างดี

มี joke อันนึงว่า ถ้าจะส่งใครไปกู้ระเบิดที่ภาคใต้ ครูเหมาะสุดเพราะกู้ ( หนี้ ) เก่งมาก

นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหานึงในการจะพัฒนาครู



 

โดย: พี่หมู IP: 125.27.7.173 16 พฤศจิกายน 2554 11:13:55 น.  

 

พี่ก๋าสวัสดีตอนใกล้เที่ยงค่ะ

ตอนกลางวันที่บ้านบึง ชลบุรี แดดแรงมากค่ะพ่ก๋า

วันนี้เน็ตช้ได้เฉยเลยค่ะ ไม่รู้ทำไมใช้ได้นะคะ

ลองคลิกเข้ามา เข้าได้เฉยเลย

แสดงว่าโชคเข้าข้างคนดีใช่ไหมคะพี่ก๋า 5555

แต่ว่าเครื่งคงจับจองเป็นเจ้าของนานไม่ได้หรอกค่ะ ต้องเปลี่ยนๆ กันใช้งานค่ะ

ขนมาทั้งหมดคงไม่ได้ คงที่จะเดินยังไม่พอ
ถ้าจับจองพื้นที่วางคอมพิวเตอร์ คงไม่มีที่ให้หายใจแน่นอนค่ะพี่ก๋า

ว่าแต่วันนี้พี่ก๋าทำไรคะ

รักษาสุขภาพค่ะ

 

โดย: maitip@kettip 16 พฤศจิกายน 2554 11:14:25 น.  

 

สมัยประถม
แม่ให้เรียนโรงเรียนวัด ใกล้บ้าน ใกล้แม่
แต่แม่แค่สอนว่าให้เอาตัวรอดให้ได้ ไม่ต้องเรียนเก่ง เริด
ทำให้มีความสุขตามวิถีชีวิตอีกแบบค่ะ
อิๆๆๆ...

 

โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ 16 พฤศจิกายน 2554 11:15:52 น.  

 

พี่ก๋าจะหยุดอายุไว้ที่ 27 เจงๆ เหรอค่ะ
ไม่ขยับขึ้นมาอีกสัก 3 ปีอ่าน๊า
อย่างนี้เอาเปรียบน้องๆ คร๊า
ชมรมปอยรออยู่นะค่ะ ... เด่วเต็มจะมาเสียดายทีหลังไม่ได้นะค่ะ

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 16 พฤศจิกายน 2554 11:41:15 น.  

 

ยังไม่ได้ล็อกอิน จะเม้นท์ได้ป่าวนะ สุดยอกแห่งการเรียนรู้จริง นี่แหละที่ต้องการ

 

โดย: ไผ่สวนตาล IP: 115.87.114.227 16 พฤศจิกายน 2554 11:45:47 น.  

 

ก็คงเหมือนที่พี่ก๋าว่าค่ะ
ผู้ปกครองมักจะมองแต่ความต้องการของตัวเองมากกว่าความสุขของลูก
ยัดเยียดให้ตลอดเวลา
สรรหา ยอมทุกอย่าง เพื่อที่จะให้ลูกมีลูกได้เรียนอย่างลูกคนอื่น
บางครั้งมันกลายเป็นว่าแทนที่เราจะเติมเต็มให้ลูก
กลับกลายเป็นลูกมาเติมเต็มความต้องการของเรา โดยไม่ยอมรับความเป็นจริง

 

โดย: มัยดีนาห์ 16 พฤศจิกายน 2554 12:00:43 น.  

 

มื้อเที่ยงนี้ทานอะไรกันดีคะพี่ก๋า...วันนี้ไผ่จัดเต็มมื้อสาย ๆ มาก กระเพราะ 1 ผัดซีอิ้ว 1 กาแฟวาวีอีกแก้ว เพราะกะทำงานแบบยิงยาว เดี๋ยวเติมอีกทีตอนใกล้จะเย็น


จริง ๆ เรื่องโรงเรียนทางเลือกนี่ บ้านไผ่ก็ถกกันมาหลายรอบเหมือนกันตอนหลาน ๆ จะเข้าเรียน ยื้อให้เรียนโรงเรียนทางเลือกอยู่ได้แค่ตอนอนุบาลเองค่ะ พอจะเข้าประถมก็ขี้เกียจพูดแล้ว เพราะพ่อแม่เขาต้องการให้ลูกไหลไปกับกระแสการแข่งขันตามที่สังคมส่วนใหญ่ต้องการเด็กสำเร็จรูป (ไผ่ว่าน่าสงสารเด็กมากๆๆๆๆ เห็นแล้วเครียดแทน) มีหลายโรงเรียนที่คิดว่าน่าสนใจนะคะ อย่างโรงเรียนวิถีพุทธก็เป็นตัวเลือกที่ไผ่ว่าดีมาก ๆ เลย หรือว่าโรงเรียนสัตยาสัยของดร.อาจอง ชุมสาย เสียดายนะคะ ไม่ได้อยู่เชียงใหม่และที่เสียดายกว่าคือ...ไม่มีลูกเป็นของตัวเองให้ส่งเรียน

ยังไงก็ขอให้น้องหมิง ๆ มีความสุขกับการเรียน เล่น รู้ ให้สมวัยนะคะ

 

โดย: คมไผ่ 16 พฤศจิกายน 2554 12:05:52 น.  

 

อ่า ถูกใจเลยค่ะ ทัศนะแบบนี้
...

...
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า

มีความสุขมากมากค่ะ

 

โดย: Nissan_n 16 พฤศจิกายน 2554 12:16:05 น.  

 

สวัสดียามเที่ยงครับพี่ก๋า

เรียนอะไรมาตอนนี้ผมก็ลืมหมดแล้วครับ

สิ่งที่ได้จากระบบการศึกษาที่ผ่านมามากที่สุดสงสัยจะเป็นเพื่อนนะครับ 555



 

โดย: กลิ่นดอย 16 พฤศจิกายน 2554 12:35:30 น.  

 

สวัสดี ยามแดดจร้า ค่ะ คุณกะว่าก๋า


โฮงเฮียน ต้นกล้า คงไม่ต้อนรับ ดาว แล้ว กะ

น้องหมิงหมิง ขรา เรียน ให้ สนุก ลุก ให้ ถนัด เลยนะคะ

 

โดย: dawreung51 16 พฤศจิกายน 2554 12:56:26 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า มาดาม และน้องหมิงหมิง เนื้อหาที่คุณก๋าเขียนในวันนี้ มีประโยชน์มากเลยค่ะ

 

โดย: หญิงแก่น 16 พฤศจิกายน 2554 12:56:33 น.  

 

สวัสดีครับพี่หมู


ผมมีเพื่อนเป็นครูเยอะเชียวครับ
เพราะผมและเพื่อนๆจบครุศาสตร์

ผมเคยถามเพื่อนว่าทำไมครูเป็นหนี้เยอะจัง
เพื่อนบอกว่า "ก็เขาให้กู้"
ผมถามต่อว่า "ไม่กู้ก็ได้ไม่ใช่เหรอ ?"
เพื่อนบอกว่า "ไม่กู้ก็โง่"

เพราะดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนาน
แถมยัะงต้องไขว้กันค้ำประกัน
หนี้สินครูเลยอิรุงตุงนัง
แก้ไขไม่จบสิ้น
สุดท้ายประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหนี้จองครู
กลับเป็นนโยบายหาเสียงของนักการเมืองไป

แทนที่จะเอาเวลามาแก้ไขหลักสูตรและการกำหนดทิศทางการปฏิรูปการศึกษา
ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า....


หลายๆรัฐบาลที่ผ่านมา
เห็นรายชื่อรัฐมนตรีศึกษา
ผมก็ปวดตับอ่อนแล้วครับพี่
เห็นแล้วผิดหวังจริงๆ....





 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2554 13:05:33 น.  

 

ปี้ท่าจะมีคำถามเหมือนคนอื่น
โรงเรียนต้นกล้ามีถึงจั้นอะหยัง
แล้วไปสอบต่อเข้าโรงเรียนอื่นใด้ก่อ
อิอิ โรงเรียนในฝันเลย ไม่มีสอบ

 

โดย: BongKet 16 พฤศจิกายน 2554 13:06:14 น.  

 

ยินดี กับน้องหมิง ๆ ด้วยนะคะที่มีคุณพ่อมอบชีวิตการเดินทางที่มีความสุขให้
ยุคสมัยเราไม่มีโรงเรียนทางเลือก
แต่มันก็ผ่านไปแล้ว
หวังว่าโรงเรียนทางเลือกจะมีมากขึ้น ๆ ให้ครบทุกจังหวัด
อย่างน้อยเราก็จะมีโรงเรียนที่จะพาลูกหลานของเราเดินทางอย่างมีความสุข
เราก็จะได้เป็นพ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่อุ่นใจ
เห็นด้วยค่ะ "ความสุขและการเรียนรู้เป็นเรื่องเดียวกัน"
"ความสุขขณะเดินทาง" สำคัญที่สุด

 

โดย: อาเมิ่ง IP: 118.175.19.66 16 พฤศจิกายน 2554 13:27:54 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณก๋า...
พี่กำลังหาโรงเรียนที่เมืองไทยให้ภูผาอยู่เหมือนกันค่ะ

ปล. หมิงๆ หล่อวันหล่อคืนนะค่ะ

 

โดย: พี่ฟ้า... (kuvasu ) 16 พฤศจิกายน 2554 13:36:04 น.  

 

คำคมถูกใจมากเลยค่ะ อย่างนี้ส รร.ในฝัน
ที่ประเทศพัฒนาแล้ว ตารางเรียนของเด็กมีไม่กี่ ชม.ต่อวัน นอกนั้นให้เล่นๆๆๆๆๆๆ น่าอิจฉา



ชวนไปดูสิ่งอัศจรรย์คืนลอยกระทงของเด็กแว้นคนหนึ่งกันค่ะ

 

โดย: Love At First Click 16 พฤศจิกายน 2554 13:39:03 น.  

 


สวัสดีอีกครั้งค่ะ

เป็นความจริง ครูดูเหมือนจะถูกหลอก แต่ก็เต็มใจให้หลอก
สถาบันการเงิน หรือแม้แต่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ต่างก็ออกแบบการกู้ยืมเงินประเภทต่างๆมาให้ครูใช้บริการ ก็ไม่เข้าใจว่า จะกู้ไปทำอะไรนักหนา บางคนเงินเดือนถูกหักเพราะต้องชำระหนี้ เหลือไม่ถึงหนึ่งในสี่ เมื่อไม่พอใช้ก็กู้ใหม่ วนเวียนอยู่เช่นนี้ เกษียณแล้วก็ยังใช้หนี้ไม่หมด แล้วเขาเหล่านี้จะมีสมองที่จะมาจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพให้กับเด็กได้อย่างไร

ถ้าถามว่าทำไมหน่วยงานภาครัฐไม่พยายามทำให้ครูมีวินัยในการใช้จ่าย แทนที่จะออกแบบการกู้สารพัดมาให้กู้ แหมก็คนเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ ถ้าวินัยในตนเองยังทำไม่ได้ ลูกพิมพ์ก็คงจะแย่ รึน้องกิจคิดว่ายังไง

 

โดย: พี่หมู IP: 125.27.7.173 16 พฤศจิกายน 2554 13:56:40 น.  

 

ความจริงผมเฉยๆ กับระบบการศึกษาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนขอให้มันมีคุณภาพก็ถือเป็นอันใช้ได้ ไม่ค่อยเลือกอะไรเท่าไหร่นัก แต่คำว่าคุณภาพมันเป็นอย่างไร ต้องพูดกันยาว

ของไทยแค่จำนวนนักเรียนในห้องก็แย่แล้วครับ ผมมักจะพูดแต่เรื่องนี้ซ้ำซาก แต่นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนมองข้าม สำหรับโรงเรียนกระแสหลัก

ขอพูดแต่ระดับมัธยมนะครับ จำนวนนักเรียนที่เหมาะสมต่อหนึ่งห้อง ไม่ควรเกิน 30 คน ไม่อยางนั้นเวลาทำกิจกรรมในห้องเรียนจะทำได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนระบบไหนก็ตาม อีกทั้งยิ่งจำนวนนักเรียนที่มากก็ยิ่งเป็นภาระแก่ครูที่สอน

สิ่งหนึ่งที่เราๆ ท่านๆ น่าจะเคยเจอมาคือ การให้นักเรียนตรวจการบ้านเอง โดยครูเป็นผู้เฉลยให้ นั่นเป็นการกระทำที่ผิดพลาดอย่างมาก สมมติว่านักเรียนทำผิดข้อสิบกันหมด ก็อาจจะไม่ถามก็ได้แก้แค่ผิดได้ฟังเฉลยก็จบ แต่ถ้าครูตรวจเอง ครูจะพบว่านักเรียนไม่เข้าใจ และสามารถนำมาอธิบายเพิ่มเติม หรือพัฒนาการสอนของตนเองได้ นี่ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

อีกปัญหาหลักที่สำคัญของไทย ห้องเรียนไม่พอ ต้องเดินเรียน มันเป็นปัญหาอย่างมาก เสียเวลาเดิน เสียเวลาหาโต๊ะเก้าอี้กรณีที่โต๊ะเก้าอี้ไม่พอ ไม่รวมกรณีครูที่สอนในห้องที่เรารอปล่อยช้า หรือนักเรียนต้องใช้ลิฟท์ในการย้ายห้อง มีแต่เสียๆๆ ทั้งเวลา พลังงาน และสุขภาพจิต

กิจกรรมที่ไม่ได้ความ การจัดตั้งชมรมทำได้ยากกิจกรรมหลายๆ อย่างถูกมองว่าไร้สาระ แต่ผมกลับมองว่ากิจกรรมสิ่งสำคัญที่สุดคือ กระบวนการทำกิจกรรม ซึ่งผู้เข้าร่วมต้องมีความรู้สึกอยากเข้าร่วม และสนุกไปกับมัน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ไม่ผิดกฏหมาย และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และมีประโยชน์บ้าง ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมได้แล้ว




พอดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นมีบล็อกซ้อนในบล็อกของพี่ก๋า แต่พูดได้เลยว่าตราบใดที่เรายังมีคำว่า โรงเรียนดัง หรือมหาวิทยาลัยเกรด A เงินเดือนเกรด A การศึกษาไทยก็ยากที่จะพัฒนา เพราะเราเรียนแค่เอากระดาษ

ทิ้งท้ายคำพูดของอาจารย์ที่สอนภาษาจีนคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยยูนนาน อาจารย์เฉิน ซิน สอนวิชาวัฒนธรรม กล่าวไว้ว่า "การสอบไม่ได้มีไว้เพื่อคะแนน แต่มีไว้เพื่อวัดความก้าวหน้าว่าตนเองก้าวหน้ามากขึ้นแค่ไหน" คำพูดนี้แกพูดตอนกำลังคุมสอบ ฝรั่งคนหนึ่งที่คิดจะทุจริต เหมือนจะสำนึกได้ หยิบหนังสือมาวางไว้บนโต๊ะเลย แล้วทำสอบต่อ ซึ่งคะแนนของเขาที่ออกมาก็ออกไม่ไม่เลวนัก พอดีกว่านะ

***ไม่งั้นเกิน 2000 ตัวอักษรแน่ แค่นี้ก็เกือบ 1600 ตัวอักษรแล้ว***

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 พฤศจิกายน 2554 14:01:03 น.  

 

ว่าจะเขียนเรื่องการศึกษาไทย แต่ไม่มีอารมณ์เขียนต่อ ไม่รู้ทำไม หลายๆ เรื่องอยากเขียนแต่อารมณ์ในช่วงนั้นมันไม่ให้ก็เขียนไม่ออก หรือพาลไม่อยากเขียนเหมือนกัน ว่าจะเขียนเกือบปีได้แล้วมั้ง

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 พฤศจิกายน 2554 14:02:34 น.  

 

หวัดดีครับอาเมิ่ง


โรงเรียนทางเลือกที่ดีที่สุด
พี่ก๋าก็ยังเชื่อว่าเป็นพ่อแม่นะครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
พ่อแม่ต้องสอนและให้แนวทางที่ถูกต้องด้วยนะครับ 555



 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2554 14:17:49 น.  

 

พี่หมู


เพื่อนผมบอกว่า
ก็เขาให้กู้
ถ้าไม่กู้ก็โง่...

เฮ้อ....


ถ้าคนมีวินัยทางการเงิน
ผมว่าต่้อให้กู้ไม่มีดอกเบี้ย
เขาก็ไม่กู้ครับ
ส่วนรัฐบาลน่ะชอบแน่
สำหรับนโยบายการกู้
เพราะมันเหมือนเป็นการตกขาวคะแนนเสียงครับ

ชาวบ้านก็ชอบ
กู้เงินง่ายๆ เอามาใช้จ่าย
แล้วค่อยไปผ่อน

วิธีคิดแบบนี้ก่อหนี้สร้างสิน
พอใช้ไมไ่ด้
ก้เตรียมเอามาต่อรองกับ สส.
ว่าถ้าคุณลดหนี้ให้ฉัน
ฉันจะเลือกคุณ

เป็นวงจรอุบาทว์นะครับพี่




 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2554 14:29:50 น.  

 



สวัสดีค่ะ

"ต้นกล้า"โรงเรียนทางเลือกแบบนี้เป็นโรงเรียนในฝันของเด็กๆ ไม่ต้องถูกกดดัน เรื่องการเรียน การสอบ การแข่งขันกันเป็นดาวเด่นของห้อง แต่คงเป็นโรงเรียนที่มีเด็กไทยไม่กี่เปอร์เซ็นต์มีโอกาสได้เรียน เพราะมันแพง เกินกว่ากำลังของพ่อแม่บางคน

และ...หาก.

“การเรียนรู้ในระบบการศึกษา
จึงเป็นการจำลองวิธีแก้ปัญหาในชีวิตของเรา”


แล้วการเรียนในแบบที่คุณก๋าและฉันเคยเรียนมา ไม่ใช่แบบทดสอบเพื่อให้เด็กสร้างความอยากเอาชนะเพื่อแข่งขันกับตัวเองไปถึงจุดหมายของความสำเร็จทางการศึกษา หรอกหรือ?(ภาคภูมิใจเน้อ ในวันที่รับปริญญา)

มันไม่ใช่การเรียนเพื่อที่จะก้าว ไปสู่การใช้ชีวิตประจำวันในสังคมปัจจุบันหรอกหรือ?

เพราะ....


ในชีวิตจริง ไม่ได้งดงามเหมือนความฝันวัยเด็ก เราพบการแข่งขันทุกช่วงจังหวะของชีวิต การทำงานก็ล้วนต้องฉกฉวยไขว่คว้า หาโอกาส เพื่อความเจริญก้าวหน้าของหน้าที่การงาน

การเรียนที่ไม่เน้น ให้เด็กต้องแข่งขันกัน ขอเพียงให้มีความสุข ในการเรียน

จะทำให้เด็กมีเกราะ ป้องกันตัวเองกับความผิดหวัง เมื่อรู้สึกว่า "แพ้กับบททดสอบของชีวิต" ในยามที่เติบโต ไปใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันที่มีแต่การแข่งขันได้จริงหรือ?


แหะๆ คุยๆกันเนอะ

 

โดย: คล้ายดาว 16 พฤศจิกายน 2554 14:32:41 น.  

 

ทำไมสมัยเราไม่มีโรงเรียนแบบนี้หนอ

 

โดย: ดอกไม้หน้าฝน 16 พฤศจิกายน 2554 14:54:48 น.  

 

ถ้าพ่อแม่ทุกท่านในประเทศไทยใส่ใจสนใจ ลูก เช่น หลาย ๆ ท่านในห้องนี้ ตาลเหลืองว่า เยาวชนไทยรุ่นนี้จะเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่เพียบพร้อม ด้วยวุฒิภาวะ มีศักยภาพดีพอที่จะพัฒนาประเทศ

****************************************

คุณก๋า เขียนต่อค่ะ กระตุ้นผู้หลัก ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ให้หันกลับมาดูที่รากฐานการเรียนรู้ของเด็กค่ะ

ฝากราตรีสวัสดิ์ มาดาม หมิง หมิง และคุณก๋า ตรงนี้ค่ะ
ต้องกลับบ้านไป แล้ว

 

โดย: ตาลเหลือง 16 พฤศจิกายน 2554 15:41:13 น.  

 

หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า

โรงเรียนต้นกล้า ดำเนินแนวการสอนที่ทำหื้อ ผู้ปกครองหลายคน ไว้วางใจ
อยากฝากลูกหลานไว้กับที่นี่

ด้วยแนวคิดที่ชัดเจน

แต่คำที่บอกว่า

เคยสังเกตุแววตาเด็กก่อที่มาจากโรงเรียน จะรู้สึกอย่างไร

น้องรินตอบได้เลยว่า


ฐานที่จะทำหื้อเด็ก ก้าวไปได้ในทุก ๆ ที่ คือฐานจากครอบครัว

ถ้าครอบครัว อบอุ่น เข้มแข็ง และเข้าใจพอ

เด็ก ก็พร้อมที่จะเผชิญ ด้วยใจที่เข้มแข็งเจ้า


 

โดย: Rinsa Yoyolive 16 พฤศจิกายน 2554 15:51:20 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋าอันเรียนมาได้
555
ปัจจุบันเลยเพี้ยนๆ

 

โดย: evil_aun 16 พฤศจิกายน 2554 16:47:23 น.  

 

**เราจะคุยกันโดยไม่ยุ่งเรื่องการเมืองนะครับ**

ผมเขียนได้เฉพาะในส่วนที่เป็นรูปแบบการสอนของแผนกนักศึกษาต่างชาติที่เรียนภาษาจีนได้เท่านั้น ในส่วนอื่นข้อมูลน้อย ส่วนมากฟังมาจากนักศึกษาจีนบ้าง อาจารย์บ้าง แต่ตอนนี้ผมกลับสนใจระบบการศึกษาของญี่ปุ่น

เรื่องการศึกษาผมชอบพูดในส่วนของระดับมัธยมเป็นหลัก ขอทำความเข้าใจในจุดหนึ่งก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน นักเรียนยิ่งชั้นโตมากขึ้นจำนวนย่อมเพิ่มมากขึ้น (จำนวนคน/1 ห้อง) ดังนั้นที่กำหนดไว้ว่าชั้นมัธยมห้องละ 30 คน หมายถึงชั้นที่ต่ำกว่าคนต้องน้อยกว่า ตรงนี้ต้องเข้าใจให้ตรงกัน


พูดได้เลยว่าถ้าทำตามที่ผมคิด มันช่วยได้มาก แต่ปัญหาคือ งบประมาณไม่พอแน่ๆ แค่ปัจจุบันห้องเรียนก็ไม่พอต้องเดินเรียนอยู่แล้ว ถ้าจะให้ห้องหนึ่งมีแค่ 30 คน ปัญหาใหญ่แน่ เพราะต้องเพิ่มห้องเรียนให้มากขึ้น จำนวนครูก็เช่นกัน

พูดตามตรงว่านโยบายเรียนฟรีตั้งแต่สมัยอดีตนายกทักษิณ ผมไม่เห็นด้วยเลย เพราะมันไม่ฟรีจริง โรงเรียนมีข้ออ้างเก็บเงินจากนักเรียน เช่น ค่าคอมพิวเตอร์ ค่าอาหารกลางวัน (บังคับกิน ไม่ให้ซื้อเอง) ค่าอุปกรณ์การเรียน (บังคับซื้อ) ค่าบ้าค่าบอ สรุปพอๆ กับเสียเงินไม่ต่างกันเลย มายุคต่อมายุคอดีตนายกอภิสิทธิ์ ซึ่งผมว่าเขาน่าจะเห็นถึงจุดอ่อนตรงนี้ แต่ก็ยังสนับสนุนต่อ ซึ่งก็ไม่ฟรีจริง แถมยังแพงกว่าแบบไม่เรียนฟรีอีกด้วย หนักกว่าเดิมอีก ... ... เพื่ออะไร!?

ที่ผมคิดมันก็เป็นแค่จินตนาการ ยิ่งเรื่องห้องละ 30 คน ยิ่งทำได้ยาก ไม่อย่างนั้นค่าเรียนจะแพงมาก เราสามารถมีห้องเรียนในแต่ละชั้นปี ห้อง A-Z ได้ (26 ห้องเรียนต่อชั้นปี) แต่ไม่สามารถที่จะมีนักเรียนห้องละ 65 คนได้นะครับ นี่คือข้อสำคัญ

ประการถัดมาการที่ครูไม่มีความสนิทสนมกับเด็กนักเรียนเลย มันยากที่คุยรู้เรื่อง ที่ผมไปเรียนภาษาที่จีน ครูสามารถคุยได้ทุกเรื่อง บางครั้งเรื่องเช่น คอมพิวเตอร์ ครูมาขอความรู้เราก็มี ไม่เว้นแม้แต่เรื่องหนังละคร การ์ตูน เกม ขึ้นอยู่กับอายุของครูด้วย แต่โดยรวมคุยได้หมดทุกเรื่อง มันแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนม คุยภาษาเดียวกันทำอะไรก็ง่ายขึ้นเยอะ

"อย่ามัวแต่เล่นเกม ไปอ่านหนังสือซะ" กับ
"อย่ามัวแต่เก็บเลเวลในเกม ไปเปิดบอทแล้วรีบไปอ่านหนังสือซะ"

เนื้อความไม่ต่างกัน คือ "ให้ไปอ่านหนังสือได้แล้ว" แต่ความรู้สึกของผู้ฟังต่างกันมาก ไม่ทราบว่าพี่ก๋าฟังรู้เรื่องหรือไม่ เป็นการพูดเรื่องเกมน่ะ


ผมเคยได้ยินคำพูดคำหนึ่งว่า "พ่อแม่ไม่สั่งสอน" ออกมาจากปากของคนที่เรียกตัวเองว่าครูอาจารย์ ไม่ทราบว่าใช้คำพูดนี้ออกมาได้อย่างไร พ่อแม่นักเรียนจะสอนลูกหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ พ่อแม่ผมไม่เคยสอนให้ไปด่าพ่อแม่ใคร ผมพูดได้แค่นี้ครับท่านอาจารย์

ยังมีอีกมากถ้าจะพูด เอาแค่พอหอมปากหอมคอก่อนละกัน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 พฤศจิกายน 2554 16:47:53 น.  

 

เรื่องตัวเลขผมค่อนข้างปล่อยครับ เพราะไม่ใช่คนที่มีมาตรฐานสูง (25 ก็แล้วกันนะต่อราคาหน่อย 555+) ตัวเลข 30 ผมเอามาจากนักเรียนในโรงเรียนของญี่ปุ่น (จากที่เพื่อนเล่าให้ฟัง) 30 คนครูจำเด็กได้ไม่ลำบากครับ ยิ่งถ้าเหลือแค่ 20 ยิ่งสบายครูในการจดจำเด็ก ความสนิทสนมน่าจะมากขึ้นด้วย ที่สำคัญในการตรวจการบ้านให้สบายครูมากยิ่งขึ้น แต่ของไทยไม่ใช่ 50 คนสิครับ มัน 60 ขึ้น

เรียนพิเศษอันนั้นยังไม่เท่าไหร่ กั๊กวิชานี่สิแย่สอนแบบแค่ครึ่งเดียว แล้วไปสอนอีกครึ่งตอนเรียนพิเศษ

มีอีกเรื่องครูที่เก่งไม่ใช่ครูที่สอนเด็กเก่งแล้วเด็กเก่งสอบได้คะแนนดี ครูที่เก่งคือ ครูที่สามารถสอนเด็กที่ไม่เก่งจนมีความรู้ขึ้นมาได้ต่างหาก นั่นคือครูที่เก่ง แต่ครูเมืองไทยส่วนมากชอบเด็กเก่ง เพราะมันสอนง่าย มันแสดงให้เห็นว่าครูไทยมีปัญหาเรื่องการสอนการถ่ายทอดวิชาได้หรือไม่ ประเด็นนี้น่าคิดเหมือนกัน


ผมดูโทรทัศน์นานแล้ว เป็นรายการของต่างประเทศ ครูถามคำถามเปิดขึ้นมา มีเด็กคนหนึ่งตอบ ปรากฏว่าโดนเด็กคนหนึ่งล้อ และเพื่อนในห้องหัวเราะกันหมด ครูคนนั้นกลับชมเด็กที่ตอบ ทั้งที่เด็กคนนั้นคำตอบน่าจะถูกไปประมาณ 40% เท่านั้น โดยที่ยังไม่สนใจเด็กที่ล้อก่อน แล้วจากนั้นค่อยถามเด็กที่ล้อว่าแล้วเธอล่ะคิดอย่างไร แล้วถามทุกๆ คน เราเห็นอะไรจากเรื่องนี้?

พวกฝรั่งมีแนวอันหนึ่งที่เขาก็ยังปฏิบัติไม่ได้ แต่เหมือนเขาอยากทำคือคือ "แนวคิดการชมเด็กในส่วนดี และไม่ให้ความสนใจในสิ่งที่เลว" พวกเขามีความเชื่อว่าสอนคนกับสอนสุนัขไม่ต่่างกัน ใช้วิธีส่งเสริมในสิ่งดีให้มากๆ ผมเห็นด้วยบางส่วนในเรื่องการชมแต่ขณะเดียวกันก็ยังชอบการติ แต่ปัญหาสำคัญของไทยมักเป็นการติเพื่อทำลาย ไม่ใช่ติเพื่อก่อ

พี่ก๋าพูดถูกจริงๆ

"ถ้าเด็กไม่รักครู
ยากมากนะครับ
ที่จะทำให้เด็กรักเรียน"

โดยเฉพาะกิจกรรม สมัยเรียนผมเลือกกิจกรรมโดยดูจากอาจารย์ก่อนเลย อาจารย์สนิทมันคุยกันง่าย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 พฤศจิกายน 2554 18:34:58 น.  

 

โหวันนี้บล๊อกคุณก๋า เนื้อหายาว แล้วเม้นท์ก้อยาวๆกัน
อ่านบ่ไหวเลยค่ะ

เลยไม่ขอพูดอะไรดีกว่านะคะ 555+

สวัสดียามเย็นค่ะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 16 พฤศจิกายน 2554 18:36:30 น.  

 

โรงเรียนอะไรอ่ะคุณก๋า

 

โดย: uter 16 พฤศจิกายน 2554 18:38:31 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำคะก๋า
รักในการเรียนรู้ เมื่อรักแล้วจึงทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่เราเรียนรู้มีความเข้าใจมากขึ้น

เอามาดัดแปลงเป็นรักในหน้าที่การงานก็ได้เลยนะนั้น

 

โดย: aenew 16 พฤศจิกายน 2554 18:39:54 น.  

 

เรียน จำ สอบ ลืม .. งงอยู่เหมือนกัน จบมาแล้วฉันได้อะไรอ่ะ
แต่ที่แน่ๆ ได้กระดาษหนึ่งแผ่นใส่กรอบประดับฝาบ้านค่ะ กับรูปถ่ายที่พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ภูมิใจ สามารถเอาไปคุยกับเพื่อนบ้านได้ค่ะ ^^

 

โดย: BeachBum IP: 122.104.122.180 16 พฤศจิกายน 2554 18:51:20 น.  

 


เห็นด้วยพันเปอร์เซ็นต์ค่ะ

 

โดย: พี่หมู IP: 101.109.133.179 16 พฤศจิกายน 2554 18:52:00 น.  

 

คุณก๋าพูดถูกใจมาก

เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม

(เขียนแบบนี้นึกถึงงานของ จ่าง แซ่ตั้งเลยค่ะ)
น้องหมิงหมิงเป็นเด็กที่โชคดีมากเลย โชคดีที่มีคุณพ่อที่เข้าใจและไปเอาความทุกข์เรื่องการเรียนไปใส่ลูก
อ่านแล้วโดนใจมาก ขอโหวดให้ค่ะ เยี่ยม

 

โดย: MamaBun 16 พฤศจิกายน 2554 20:50:29 น.  

 

สวัสดีเจ้าคุณก๋า
วันนี้ลูกก้าบะนัก ลั้นลาออนไลน์ได้เจ้า

ตะก่อนต่อนเฮียนมหาลัย
ปี้จำได้ว่า ปี้ชอบข้อสองอัตนัยมากกว่าปรนัย
เพราะ โจทย์บางข้อ บะเคลียร์
แต่จำได้คร่าว ๆ สามารถตอบแบบกว้าง
หรือเข้าใจผ่องบาส่วน ร่ายได้เป็นหน้า ๆ 555
มันต้องเข้าแก็ปผ่อง 55 ได้คะแนน ก่ยังดี
กว่าบะได้ หรือผิดแล้วผิดเลยเหมือนปรนัย 555

บะเด่วโรงเรียนมีหื้อเลือกนักเลยนะเจ้า
จำได้บะหมดว่า มีโฮงเฮียนอะหยังผ่อง

อาทิตย์ที่แล้ว
น้องเต็นท์เรียนเรื่องขาดทุนกำไร
แล้ววันลอยกระทง มีงานกาดมั่วที่โรงเรียน

น้องเต็นท์มาสะกิดๆ บอกว่า แม่คับ ๆ
เต่นเต็นท์อยากไปผุ้ขาย เต็นท์อยากมีกำไร
ก็งง โทรถามครูว่า ที่ห้องมีบูธให้เด็กขายด้วยเหรอ
ครูบอกว่า เรียนเรื่องนี้ แล้วแต่เด็ก ๆ ใครขายก่อได้
มีที่นั่งขายหื้อ หรืออยากแอ่วซื้อคัวก่อได้
เพราะบะมีเฮียน หื้อนำกระทงไปแปงตวย

แต่น้องเต็นท์ยืนยันกับปี้ว่า อยากขายติ่มซำ 555
ปี้บอกว่าบะได้หรอก เพราะมันต้องนึ่ง ใช้เตาแก๊ส
รอเต็นท์เป๋นคนใหญ่ก่อน จะหื้อเอาไปขาย

เดือนร้อนแม่มัน เซาะหาคัวหื้อลูกไปขาย
กึ๊ดได้มะแลงก่อนวันลอยกระทง ตั้งใจจะไปซื้อ
ขนมปีบมาแบ่งใส่ถุงน่าฮัก ๆ หื้อไปขาย
ฝนดันตกนัก เลยได้ก้าเซียงไฮ้ มา 3 แแพค
มาแบ่งใส่ถุง ทำการ์ด ติดราคาหื้อ
ถุงละ 2 บาท แต่ต้นทุนล่อไปเหีย 3 บาท 555

แต่บะบอกเนื้อเจ้าว่า ต้นทุนเต้าใด
ดีใจตี้น้องเต็นท์คิดได้แบบนี้ ต๋อนแรกจะคิด
บอกต้นทุน บอกราคาขาย แล้วกำไร

อ้ายเต้ยห้ามไว้บอกว่า เอ็นดูเปื้อน ๆ เต็นท์
เพราะปี้ซื้อตี้เซเว่น ต้นทุนสูง ขายต่อมันแปง
บะได้ซื้อร้านขายส่ง กัวละอ่อนซื้อคัวแปง
และเต่นเต็นท์จะขายบะได้ จะถอดใจ
เลยจุ๊บอกว่า ขายสองบาทก็ได้กำไรละ

หื้อสะตังค์ทอนไปแห๋ม 20 บาท
หื้อตังค์ซื้อขนมไปแห๋ม 30 บาท (หื้อวันละ 30 ไปโรเรียน)
กำชับบอกว่า ตังค์ทอนนี่ของแม่
ขายของเสร็จต้องเอามาคืนแม่นะ

ปรากฎว่า ปิ๊กเข้าบ้าน ถามว่าขายหมดก่อ
บอกว่าขายหมด สะตังค์ก็หมดเจ้า
ตึงสะตังค์ขายคัว สะตังค์ทอน สะตังค์ค่าขนม
จ๊กถุงหน้อย เหลือหื้อแม่มันสองบาท

เกี๊ยดดเจ้า อดจ่มบะได้ ลืมตั๋ว
เทศนาไปชุดหนึ่ง โทษฐานตี้มีเต้าใดก่ใจ๊หมด
ทั้ง ๆ ที่ย้ำแล้วตังค์ทอนของแม่หนา

มีแก้ตัวนิดบอกว่า ตอนพ่อเต้ยไปรับ
เต่นเต้นท์เลี้ยงขนมพ่อโตเกียวเต้ยด้วย

เลยบะฮู้ว่าจะดีใจ๋ หรือเสียใจ ตี้ลูกฮู้จักหิหาสะตังค์
แต่ได้มาก่ใจ๊หมด 55555

 

โดย: JinnyTent 16 พฤศจิกายน 2554 20:59:17 น.  

 

ถ้ามีลูกอยากให้ลูกไปเรียนเหมือนกันนะค่ะ

 

โดย: บางส้มเปรี้ยว 16 พฤศจิกายน 2554 21:01:02 น.  

 

ไม่ว่าเราจะเรียนวิชาใดใดในโลกนี้
มันจะมีขั้นตอนที่เหมือนๆกัน
คือต้องรู้จักพื้นฐานความรู้ จากนั้นก็เรียน จำ ศึกษา ค้นคว้า
ทดลอง และปฏิบัติซ้ำๆจนเกิดความชำนาญ
และที่สุดแล้ว...
เราต้องสามารถนำความรู้นี้ไปต่อยอดและพัฒนาตนเองได้

^
^

ขอบคุณคุณก๋าเจ้า...

บล็อกนี้โดนใจ๋ปี้ขนาดเจ้า...

หันละอ่อนสมัยนี้เฮียนหนังสือแล้วอิ่นดู๊-อิ่นดูเจ้า
บ่าฮู้ป่อแม่จะฝั้งใส่ปุ๋ยเร่งโตให้ลูก ๆ ทำไมนักหนา...

หลานสาวปี้อยู่ป. 5 จันทร์ถึงศุกร์เลิกโรงเรียนสี่โมงครึ่ง เสาร์-อาทิตย์เรียนพิเศษทั้งสองวัน

พอถามแม่เขาว่าทำไมต้องให้ลูกเรียนอะไรมากมายขนาดนั้น ไม่กลัวเขาเหนื่อยเหรอ...
เขาบอกว่าเด็กอยากเรียนเอง...เพราะถ้าไม่เรียนก็ไม่ทันเพื่อน...
ป.5 เนี่ยนะ การแข่งขันมันสูงขนาดนั้นเชียว

เดี๋ยวส่งบล็อกนี้ไปให้แม่เขาอ่าน...

หมิงหมิงโจ้กดีแต๊ ๆ ตี้มีโรงเรียนต้นกล้าอยู่ใกล้ ๆ แถมมีอี่ป้อตี้ฮู้จักเลือกสรรสิ่งดี ๆ หื้อลูก...

 

โดย: แม่ไก่ 16 พฤศจิกายน 2554 21:03:00 น.  

 

ได้แต่อ่านเม้นท์ของเพื่อนๆแทนครับวันนี้ เม้นท์อะไรไม่ออกแล้ว เหนื่อยทั้งวัน เสียงประทัดไม่ได้ยินที่ไหนจุดกันเลยนะ เงี่ยบมาก คงโดนน็อคกันเป็นแถวๆแน่ 777

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 16 พฤศจิกายน 2554 21:46:13 น.  

 

สวัสดีตอนดึกค่ะิศิษย์พี่

ศิษย์น้องพึ่งตื่นจากการสลบไสล (ตั้งแต่ตอน 6 โมงเย็น เพราะเหนื่อยมาก)

นี่พึ่งอาบน้ำเสร็จและคงนั่งทำอะไร ๆ ต่อ

ปล.อยากให้มีโรงเรียนแบบนี้เยอะ ๆ จังค่ะศิษย์พี่
จะได้ส่งลูกส่งหลานไปเรียน หุๆๆ(ศิษย์น้องเปิดสาขาได้มั๊ยค่ะศิษย์พี่ หุๆๆ)

 

โดย: minporee 16 พฤศจิกายน 2554 21:57:07 น.  

 

กะว่าก๋า Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
--------------------------------
แวะมาทักทายค่ะคุณก๋า สบายดีนะคะ

 

โดย: เรือนเรไร 16 พฤศจิกายน 2554 22:04:30 น.  

 

สวัสดีเจ้าปี้ก๋าเคน เรียน จำ สอบ ลืม นี่อันสุดท้ายต้องเน้นแบบนี้ ลืม

เพิ่งรู้นะว่าสมัยนี้เขานิยามคำใหม่แฮะ “โรงเรียนกระแสหลัก” คนที่มีอาชีพครูในประเทศนี้นี่หนักมากเลยหน๋าปี้ก๋า คืออย่างบ้านเฮาเนี่ย คำว่าสัมมาคารวะกับการถือเด็ก-ผู้ใหญ่อะไรนี้มันค้ำไว้อยู่บ้าง ช่วยไม่ให้ข้ามหัวครูและให้ชื่อฟัง แต่มันก็มีด้านเสียของมันอยู่... ที่นี่นะ เด็กอายุช่วงก่อนมอปลายหรือมอปลายเนี่ยแร้งส์ 555 ทะเลาะกับครูเป็นว่าเล่น เรียนกันเนี่ยถกกันไม่มีหัวหงอกหัวดำหรือเธออาบน้ำร้อนมาก่อนฉัน คนที่จะเป็นครูนี่ต้องหนักแน่นมากทั้งนอกและในจริง ๆ

 

โดย: prunelle la belle femme 16 พฤศจิกายน 2554 22:12:43 น.  

 

น่าจะเป็นเรื่องปกตินะพี่ก๋า
พอแต่งงานมีลูกแล้วจะยุ่งมากเพราะต้องทำหลายหน้าที่
เห็นเพื่อนดอยแต่ละคนขนาดยังไม่แต่งงาน
แค่มันมีแฟนเฉยๆ ก็หายเงียบกริบไปหมดเลย 555
ติดต่ออีกทีตอนกำลังจะแต่งงาน
ถ้ามีครอบครัวนี่สงสัยต้องรองานใหญ่ๆ ถึงจะได้เจอเพื่อนสักครั้งนะครับ

 

โดย: กลิ่นดอย 16 พฤศจิกายน 2554 22:15:52 น.  

 

สวัสดีตอนดึกค่ะคุณก๋า โรงเรียนทางเลือกก็เป็นอีกทางหนึ่งสำหรับพ่อ แม่ที่ถูกจริตกับแนวทางการสอนของโรงเรียนแบบนี้ แต่สิ่งสำคัญคือค่าเล่าเรียนที่อาจทำให้ผู้ปกครองหลายๆ คนสู้ไม่ไหวค่ะ

แต่พี่ก็เห็นด้วยที่จะให้คนเรียนมีความสุข และสนุกกับการเรียนค่ะ

นึกถึงสมัยเด็กๆ จนจบมัธยมปลาย มีหลายวิชาที่เรียนแบบหนักมากทั้งท่อง ทั้งฝึกปฎิบัติ แต่สุดท้ายไม่เคยใช้ความรู้พวกนี้ในการทำงานหรือีวิตประจำวันเลยค่ะ

 

โดย: Maew-Tua-Lek 16 พฤศจิกายน 2554 22:25:35 น.  

 


เป็นแนวทางการศึกษาที่แหล่มมากเลยล่ะน้องก๋า

 

โดย: อุ้มสี 16 พฤศจิกายน 2554 22:35:52 น.  

 

สวัสดีครับพี่ BeachBum



ผมมีวีรกรรมเยอะนะครับ
ตอนจบปริญญาตรีผมเกือบเอาปริญญาบัตรไปเผาหน้าพักครูด้วยครับ 5555

ผมจบมหาวิทยาลัยแบบมีปัญหา
ผมไม่ลงรอยกับอาจารย์ในคณะครับ

ผมคิดว่าพวกเขาไม่สอน ไมไ่ด้ทำหน้าที่อาจารย์ที่ดี
เมื่อไม่ศรัทธาในตัวพวกเขา
ผมเลยไม่อยากเรียน...

ที่สุดผมจบมาแบบไม่ประทับใจอะไรเลย

ไม่อยากไปรับปริญญา

ถ้าแม่กับพ่อไม่ขอร้อง
ผมก็ไม่ไปรับแน่นอนครับ

เรื่องนี้ผมเคยเล่าไว้ในบล้อกเก่าๆแล้วล่ะครับ





 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2554 22:49:23 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณก๋า ในยามดึกๆ ครับ
ช่วงแห่งการเรียนรู้ของหมิงหมิง เป็นสิ่งที่ต้องเติมเต็มและสนุกสนานกับการเรียนรู้ไปด้วยนะครับ

 

โดย: ถปรร 16 พฤศจิกายน 2554 23:16:15 น.  

 

ฝันดีคะพี่

 

โดย: blog pu 16 พฤศจิกายน 2554 23:26:28 น.  

 

ขอบคุณมากครับ ที่แนะนำบทความแห่งการเรียนรู้
เพราะมันมีคุณค่าสำหรับทุกคน


โดย: ratone วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:38:33 น.

 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2554 23:44:31 น.  

 

หลับฝันดีค่ะพี่กำ



~กาพย์ฉบัง๑๖~

ฟ้าหม่นหมอกลอยสายไอ...............เงียบเหงาส่ายไหว
เห็นรอยไอรำบายเบา

ปรากฏพจน์ร่ายพราวเพลา.............หยาดน้ำซึมเนา
เห็นอักษรรางรางมา

ท่ามหยดน้ำเหมือนภูผา...................ให้ค้นและหา
ใครบางคนคอยแอบมอง

ในเมฆที่ดูเลื่อนล่อง.........................ช่างคล้ายใครจอง
ที่พร้อมชายชำเลืองแวว

เมฆลอยผ่านพลิ้วแพรว...................ยาวเรียงระแนว
เห็นเป็นใครโบกมือลา

หนาวเหน็บเริ่มเลื่อนทาบทา..............เหมือนอยู่ริมท่า
ก่อนจะลับสายเย็นเย็น

 

โดย: ญามี่ 16 พฤศจิกายน 2554 23:45:03 น.  

 

โดยส่วนตัวแล้วผมก็ชอบโรงเรียนทางเลือกแบบนี้เช่นกันครับ

หวังไว้ว่าสักวันจะได้เป็นครูที่โรงเรียนแบบนี้ครับ อิอิ


ปล.พี่ก๋าครับ ผมฝากขอบคุณพี่ชัญญาด้วยนะครับที่เข้ามาชมภาพ
ผมหาบล็อกพี่เค้าไม่เจอครับ ^^

 

โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) 17 พฤศจิกายน 2554 0:15:20 น.  

 

โรงเรียนแนวเดิม
เรียน จำ สอบ ลืม
โรงเรียนต้นกล้า
เรียน จำ ลืม

ราตรีสวัสดิ์ครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง

 

โดย: เศษเสี้ยว 17 พฤศจิกายน 2554 0:56:15 น.  

 

เฮอ...
ถ้าเทียบกับตัวตูนเอง
เด็กชายแสงสว่างโชคดีจังค่ะ

emoemoemo

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 18 พฤศจิกายน 2554 21:06:27 น.  

 

เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
เรียน จำ สอบ ลืม เรียน จำ สอบ ลืม
ฯลฯ
เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการการเรียนรู้.....

*ชอบท่อนนี้ที่สุด !! มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ทัศนคติเดียวกันเลย

 

โดย: DEAR IP: 171.100.103.203 29 พฤษภาคม 2555 9:25:07 น.  

 

เรื่องเรียน
เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเชียวคะ
..

 

โดย: แม่อาเดียว IP: 27.55.13.179 10 กันยายน 2555 17:12:24 น.  

 

สวัสดีค่ะ อยากถามว่า ถ้าลูกจบร.รต้นกล้าเชียงใหม่ ไปต่อที่อื่นจะสอบเข้าได้ไหมค่ะ

 

โดย: ครีม IP: 223.206.46.110 10 ตุลาคม 2555 0:25:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]