จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 8)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 8

ผมคืนกุญแจรถให้กัญหา หล่อนรับมันไว้โดยไม่มองหน้าผม คงยังไม่หายโกรธ ผมเลยเข้าไปหาคุณพี่ในห้อง อีตาผู้การคนนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เขาเคยนั่งอยู่แล้ว ช่างมาเฝ้าเสียจริง ๆ

“ ได้ความไหม พ่อดนัย ” คุณพี่ถามขึ้นทันทีที่เห็นผม

ผมส่ายหน้า

“ ท่าจะไปเสียแล้วละครับ คุณพี่ ผมได้ความจากโรงพักท้องที่ที่เกิดเหตุฆาตกรรมว่า แม่ยุพดีแกไปหัวหิน แล้วก็ว่าจะเลยไปถึงหาดใหญ่โน่น ”

“ อั๊วสั่งให้เขาวิทยุดักไว้แล้วละ ” ผู้การว่า “ คงจะไปไหนไม่พ้น ”

“ ผมว่าพ้น ” ผมพูด

ผู้การมองหน้าผมนิ่งอยู่ชั่วครู่ แล้วว่า
“ มันจะเก่งไปหน่อย ถ้าหนีวิทยุของอั๊วได้ ”

“ ผู้การคงไม่ได้ให้ตำรวจแถวเพชรบุรี ราชบุรี หรือ นครปฐม คอยดัก ”

“ ก็แกจะเลยไปทางใต้ จะให้ทางเหนือหัวหินมันดักทำไม นั่นมันทางกลับกรุงเทพ ฯ ” ผู้การทำหน้าขึงขังเอากับผม

“ ถ้าผมเป็นแม่ยุพดี ผมก็ปล่อยข่าวว่าผมจะเลยไปทางใต้ แล้วก็หวนกลับกรุงเทพ ฯ จะทำไม ”

ผู้การทำเสียงขลุกขลักในลำคอ แล้วพูดว่า
“ ไหนลองว่ามาหน่อยถี พ่อคนฉลาด ลื้อคิดยังไงว่าเขาจะหวนเข้ากรุงเทพ ฯ ”

“ ผมว่า ถ้าเป็นผม ผมก็จะทำยังงั้น ” ผมพูด ยักไหล่ “ ลงวิทยุตำรวจถามกันให้ลั่น แล้วก็มีตำรวจไปสอบถึงบ้านที่หัวหิน แกก็คงจะไม่โง่พอที่จะเดินทางต่อไปให้เขาจับได้ ผู้หญิงสาว ๆ เดินทางไปคนเดียวไกล ๆ ขนาดนั้นคงจะยาก และผมว่าแกไม่ได้ไปคนเดียว คนที่ไม่โง่นักที่ไปด้วย ก็ควรจะให้แกย้อนกลับเข้ากรุงฯ ”

“ ลื้อว่า คนที่ไม่โง่นักนั้นคือใคร ” ผู้การยังคงสงสัย

“ ผมเที่ยวไปตามหานายเชิด ดุรงค์นพคุณ ในที่ทุกแห่งที่เขาควรจะอยู่ ก็ไม่พบเขา ”

“ นายเชิดคนนี้เป็นใคร ”

“ ผู้การไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ ”

“ ลื้อบอกมาดีกว่าเขาเป็นใคร ” ผู้การจ้องหน้าผม

“ ผู้การควรรู้จักว่าเขาเป็นใคร เพราะผู้การเป็นคนแนะนำให้คุณพี่ไปประกันแม่คนนี้ ”

คุณพี่มองหน้าผู้การนิ่ง ผู้การไม่พูด เขายังจ้องหน้าผมอยู่

“ นายเชิดคนนี้เป็นคนที่จะเสียเงินแสนบาท หากแม่ยุพดีคนนี้หนีประกัน ใช่ไหมครับ ” ผมมองหน้าผู้การ ถามเขาตรง ๆ “ เขาเป็นนายธนาคารใหญ่ ผู้การน่าจะรู้จักเขา ”

ผู้การหันไปมองคุณพี่ แล้วหันมามองผม แล้วกลับหันไปมองคุณพี่อีก พร้อมกับพูดว่า
“ ผมไม่เคยรู้จักไอ้นายเชิดที่ไอ้หนูหริ่งตัวนี้มันบอก ผมให้คุณลินจงไปประกันเพราะคุณสุวรรณ นายกสมาคมแต้จิ๋วให้ผมติดต่อคุณลินจง เขาว่า ถ้าเกิดเสียหายอะไร เขาจะยอมชดใช้เอง ”

“ ผู้การไม่รู้จัก นายเชิด คนนี้ จริง ๆ หรือครับ ” ผมถาม

“ อั๊วเคยได้ยินชื่อ อั๊วไม่เคยรู้จัก ”

“ ถ้างั้น ผู้การก็ถูกต้ม แม่ยุพดีคนนี้เป็นเมียน้อยของนายเชิดผู้นี้ ”

“ ลื้อรู้ได้ยังไง ”

“ ผมไม่ใช่เพียงแต่รู้ ผมแน่ใจเสียด้วย และผมแน่ใจว่า แม่ยุพดีคนนี้ต้องอยู่ในกรุงเทพ ฯ นี่เอง ”

“ ดูลื้อออกจะแน่ใจเกินไปว่า แม่คนนี้ต้องหวนเข้ากรุงเทพ ฯ ”

“ ถ้าผมเป็นอาชญากรที่หลบหนี ผมก็จะหลบอยู่ในกรุง ฯ นี่แหละ หากันยากกว่าบ้านนอก ”

“ แต่เขาไม่ใช่อาชญากร เขาเพียงแต่ต้องข้อหาขับรถชนคนตาย ”

“ ก็สามล้อที่เป็นพยานปากเอกในคดีขับรถชนคนตาย ถูกฆ่าตายเมื่อคืนนี้ มันจะไม่พัวพันกับแกด้วยหรือครับ ”

ผู้การหัวราะก้ากใหญ่ เขาโยนตัวไปมาเพราะเสียงหัวเราะนั้น
“ โธ่ ไอ้หนู ” เขาพูดปนเสียงหัวเราะออกมา “ ก้อถ้าคนเรามันฆ่าพยานสำคัญในคดีได้ แล้วมันจะหนีไปทำไมให้เขาสงสัย ก็อยู่เฉย ๆ คดีขาด พยานมันก็หลักฐานอ่อนไปเอง ลื้อมันจะฉลาดน้อยไปหน่อยละพวก ”

“ นั่นน่ะซี ” ผมว่า “ ผมก็คิดเหมือนหันว่า แกไม่น่าจะหนี เพราะคดีก็ขาดพยานปากสำคัญไปแล้ว ”

ผมนิ่งไว้แค่นั้น

ผู้การฟังผมจะพูดต่ออยู่นาน เมื่อเห็นผมนิ่ง เขาก็พูดว่า
“ แล้วยังไง ”

“ ทีนี้ ผมมาคิดแบบผู้ฉลาดน้อยว่า แกเดินทางไปหัวหินตั้งแต่วานนี้ ก่อนเรื่องฆาตกรรมคนสามล้อจะเกิดขึ้น แล้วจู่ ๆ แกก็ออกจากหัวหิน บอกว่าจะไปลงใต้ในวันพรุ่งนี้ คนที่จะไปตากอากาศคงจะไม่เปลี่ยนใจเอาง่าย ๆ เดินทางไปคนเดียวยังงั้น ถ้าใครคนใดคนหนึ่งรู้ความตื้นลึกหนาบางของคดีฆาตกรรม พยานปากสำคัญคนนี่ เห็นท่าไม่ชอบมาพากล บอกให้แกออกจากหัวหินเสียก่อน ก่อนที่ตำรวจจะมาเอาตัวไปสอบสวน แกก็อาจจะต้องไป และลงแกต้องทำตามอย่างนั้น คนคนนั้นก็ต้องเป็นคนสำคัญสำหรับแก แกอาจจะไม่รู้เรื่องคดีฆาตกรรมรายใหญ่ก็ได้ แต่จำต้องปฏิบัติตามคำสั่งของใครคนนั้น อย่างนี้มันจะเป็นไปได้ไหมครับ ผู้การ ”

ผู้การนิ่ง หัวคิ้วของเขาขมวดเข้หากัน ไม่พูด

ผมจึงพูดต่อ
“ และใครคนนั้นก็พอจะเดา ๆ ออกว่า ตำรวจคงจะไม่คิดดักคนที่คืนเข้ากรุงเทพ ฯ เพราะมัวแต่คาดเอาว่า แม่ยุพดีคงจะต้องเตลิดต่อไปมากกว่า เขาก็จะให้แม่คนนั้นหวนเข้ากรุง ฯ เสีย สวนทางกับคำสั่งทางวิทยุ ผู้การว่ามันจะเป็นไปได้ไหมครับ ”

คุณพี่มองหน้าผม ยิ้มพยักหน้าน้อย ๆ อย่างรับฟังและเห็นด้วย

ผู้การก็มองหน้าผมเหมือนกัน แค่ด้วยคนละความรู้สึก เขาพูดช้า ๆ อย่างคนทีไม่ยอมแพ้ความคิดว่า

“ ถ้ายังงั้น แม่คนนี้ก็น่าจะต้องรู้เห็นอะไรกับเรื่องฆาตกรรมสามล้อคนนั้น ลิ้อว่าแกจะรู้เห็นกับเขาด้วยเหตุผลอะไร”

“ ผมยังไม่ได้ว่าแกจะรู้เห็นกับเขาด้วย ”

“ อ้าว ! ถ้ายังงั้น ไอ้ใครคนนั้นที่ลื้อว่า มันจะต้องให้แม่คนนี้หนีทำไม ? ” ผู้การเลิกคิ้ว ทำตาโต

“ ก้อเรื่องหนีคดีขับรถชนคนตายนั่นยังไง ” ผมพูดแล้วนิ่ง ไม่พูดต่อ

ผู้การรอคำพูดของผมอยู่สักครู่ เมื่อเห็นผมนิ่ง แกจึงพูดขึ้นว่า
“ อุวะ ! แล้วจะดันมาหนีอีตอนที่มีเรื่องฆาตกรรมให้ตำรวจเขาสงสัยว่า มีส่วนพัวพันกับเขาด้วยทำไม แล้วไอ้คนตายก็เป็นพยานปากสำคัญในคดีรถชนที่แกเป็นผู้ต้องหาเสียด้วย อั๊วว่า คนที่เป็นเจ้าความคิดนี้ ออกจะฉลาดน้อยไปสักหน่อย ”

ผมหัวเราะ เกาศีรษะเล่น แล้วหันไปพูดกับคุณพี่ว่า

“ คุณพี่มีธุระอะไรจะใช้ผมอีกไหมครับ ผมรายงานเรื่องได้เพียงเท่านี้ ผมจะได้ไปบ้านนายห้างสากลพานิช เรื่องลูกสาวเขาจะกลับจากนอก ที่คุณพี่จะให้ผมไปเมื่อเช้านี้ ”

ผมขยับจะลุกขึ้นออกมาจากห้อง

“ เฮ้ย ! เดี๋ยวก่อน ” ผู้การส่งเสียงเรียก “ ลื้อยังพูดกับอั๊วไม่จบ ”

“ จบแล้วล่ะครับ สำหรับผมกับผู้การ ” ผมหยุด หันไปพูดกับเขา “ ผมไม่ใช่ตำรวจ ซักถามอะไรซอกแซกนัก ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง ผู้การคิดเอาเองบ้างซิครับ ราษฎรเขาจ้างไว้ให้คิด ”

“ บ๊ะ ไอ้นี่ พูดกันดี ๆ นาน ๆ ไม่ค่อยจะได้ ” เขาคำรามออกมา

ผมออกมานอกห้อง

กัณหาเหลือบมองแว่บหนึ่ง เมื่อเห็นเป็นผม หล่อนหลบตาลงไปยังหนังสือที่หล่อนนั่งอ่านอยู่

“ ผมจะไปที่บ้านนายห้างสากลพานิช ” ผมหยุดพูดกับหล่อนที่หน้าโต๊ะ “ ไปถามเรื่องที่เขาจะจัดเลี้ยงลูกสาวที่กลับจากนอก ”

หล่อนเลื่อนกุญแจรถที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัวมาให้ผมโดยมาพูดและไม่มอง คงก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่อย่างนั้น

“ แต่ยังไม่ไป ” ผมพูดต่อ พลางหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ โต๊ะนั้น “ ต้องรอฟังคุณพี่ก่อน ผมยังไม่รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน ”

หล่อนหยิบเอากุญแจคืนไปไว้ข้างตัวอย่างเดิม โดยไม่พูดอีก สายตายังคงไม่ละจากหนังสือ

ผมหัวเราะเบา ๆ
“ โกรธอะไรนักหนาเชียว กะไอ้เรื่องเติมน้ำมันเท่านั้น ผมทำผิดหรือยังไง ”

หล่อนไม่ตอบ ทำท่าเหมือนไม่มีผมอยู่ในโลก

“ ผมใช้รถคุณ ใช้น้ำมันรถของคุณ เพราะความปรานีของคุณ ผมมีเงิน ผมก็ควรจะต้องเติมน้ำมันที่ใช้ไปคืนให้คุณ ถ้าผมไม่ทำเช่นนั้น ผมก็ออกจะเอาเปรียบคุณมากไป ทำไมต้องโกรธผมด้วยเรื่องแค่นี้ ”

ผู้หญิงคนนี้ทำท่าไม่แยแสเก่ง อีกอย่าง หล่อนทำเหมือนไม่ได้ยินคำที่ผมพูด

“ เราต้องทำงานอยู่ด้วยกัน ” ผมว่าของผมต่อไปอีก “ ยังไงก็ต้องเห็นกันอยู่อีกนาน คุณไม่พูดกับผม แล้วผมจะพูดกับใคร มิต้องพูดกับจิ้งจกที่มันเกาะอยู่บนเพดานหรือ ”

หล่อนยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปาก ตากระพริบถี่ ๆ สอง-สามครั้ง แต่ไม่พูด

“ ไม่พูดด้วยก็แล้วไป ” ผมว่า พลางนั่งกอดอกเฉย




Create Date : 30 พฤษภาคม 2553
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 4:11:11 น. 2 comments
Counter : 664 Pageviews.

 
..กำลังสนุกเลย..รออ่านต่ออยู่นะ..

ขอบคุณมากๆ..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:36:53 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อคนะครับ




โดย: นายแมมมอส วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:20:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.