จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 2 ตอนที่ 4)
สถานที่ที่แม่ต๊อยแนะนำมานั้นเป็นบาร์ชั้นดีในย่านพัฒน์พงศ์ เมื่อเราเดินเข้าไปนั้น มันมืดเสียยิ่งกว่าเข้าถ้ำมืดจริง ๆ นอกจากไฟฟ้าสีแดงอ่อน ๆ ไม่กี่ดวงแล้ว ในนั้นก็ไม่มีแสงสว่างอะไรอีก แม้แต่บนเวทีซึ่งดนตรีสามชิ้นกำลังสวิงสุดเหวี่ยงอยู่นั้นก็มีแต่ไฟสีแดงส่องอยู่สลัว ๆ แต่ผู้คนในนั้นแน่นเปรียะ
ผมต้องยืนนิ่งอยู่กับที่พักใหญ่เพื่อให้สายตาชินกับความมืดภายในนั้น ก่อนที่จะก้าวต่อไปป่ายเปะปะเอาหัวใครเข้า
แม่ต๊อยเดินผ่านโต๊ะต่าง ๆ ไปพร้อมกับทักทายกับผู้คนตามโต๊ะบางตัวที่รู้จักไปด้วย บางคนที่โต๊ะต่าง ๆ นั้นมองดูผมอย่างอยากจะรู้ว่าหมอนี่มันเป็นใคร
บ๋อยที่นั่นซึ่งรู้จักแม่ต๊อยดีพาเราไปยังโต๊ะตัวหนึ่งสุดฝาห้อง มีที่นั่งอยู่สองที่พอดี
มืดอย่างนี้จะดูลายมือกันได้ยังไง ผมปรารภออกมาก่อนที่จะนั่ง
ขอไฟฉายจากบ๋อยมาส่องก็ได้นี่คะ แม่ต๊อยออกความเห็น
บ๋อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถามเรื่องเครื่องดื่มของเรา ผมสั่งไปว่า
วิสกี้โซดาหนึ่ง ทอมคอลลินส์อีกหนึ่งสำหรับคุณผู้หญิง
แม่ต๊อยมองหน้าผมแวบหนึ่งแล้วก็หัวเราะเบา ๆ ไม่รู้ว่าขันอะไร
ผมกำลังคิดว่าบรรยากาศทึม ๆ อย่างนี้ ดนตรีควรจะเล่นเพลงซึม ๆ ให้คนเดินกอดกันมากกว่าที่จะเล่นเพลงให้คนกระโดดชักดิ้นชักงออย่างที่เป็นอยู่นี้ ก็พอดีเขาเปลี่ยนเป็นจังหวะช้า ๆ ซึม ๆ ในทันใดนั้น คงจะเห็นว่าบรรดาลิงทั้งหลายคงจะเหนื่อยแล้ว
ดูลายมือต่อหรือยังล่ะคะ แม่ต๊อยเตือน
เต้นรำก่อน ผมว่าพลางลุกขึ้น ผมชอบเพลงซึม ๆ
หล่อนลุกขึ้นอย่างว่าง่าย หรือจะเอาใจหมอก็ไม่รู้
ผมพาหล่อนออกไปเบียดกับนักเลงเต้นรำกลางฟลอร์ ไอ้จังหวะนี้ผมชอบ เพราะมันไม่ต้องการลีลาอะไรมากนัก กอดกันแน่น ๆ หน่อย แล้วก็เดินไปเดินมาให้มันเข้าจังหวะเพลงก็ใช้ได้
เนื้อแม่ต๊อยแน่นยังกับอะไรดี และหล่อนเต้นรำได้สนิทสนมอย่างไม่ตระหนี่ตัว ผมตระคองหล่อนเพียงกระชับ ๆ ไม่แน่น ร่างของเรายังแนบกันสนิทตั้งแต่ส่วนอกจนถึงหน้าขา เหนือกว่าอกแนบไม่ได้ เพราะอกของหล่อนมันดันอยู่แต่ก็ไม่กีดขวางในการที่ผมจะอิงแก้มของผมเข้ากับแก้มของหล่อน
คู่เต้นรำหลายคู่แอบกัดกันในความมืดด้วยมนต์ของเสียงเพลง
ผมแอบดมที่ริมใบหูแม่ต๊อยเบา ๆ
หล่อนร้องอื๊ยออกมาเบา ๆ ครั้งหนึ่ง แต่ไม่ถอยหนี กลับเอียงแก้มเข้ามาชิดหนักขึ้น เบี่ยงส่วนที่เป็นใบหูห่างออกไป ผมเลยหันมาดมแก้ม หอมจัง ผมว่า
หล่อนตีที่แขนผมเผียะหนึ่งแต่ไม่พูด เป็นแต่ดึงใบหน้าออกจากที่แนบกัน แล้วมองตาผมแวบหนึ่งก่อนที่จะเมินไปทางอื่น
กลับไปนั่งดื่มทอมคอลลินส์เสียหน่อยแล้วค่อยออกมาเต้นใหม่ ดีไหม ผมกระซิบเบา ๆ
ไม่เอา หล่อนพูดทันที แล้วดึงผมไว้เมื่อผมทำท่าจะกลับไปนั่ง คงจะกลัวไอ้ทอมคอลลินส์เอาจริง ๆ
ผมดึงหล่อนเข้ามาแนบอีก คราวนี้แน่นกว่าเก่าอีกนิดหน่อย และจมูกผมไม่อยู่นิ่ง มันชอนไชไปตามแก้มของหล่อน ผมรู้สึกว่าใบหน้าของหล่อนทำทีจะบ่ายเบี่ยง แต่ว่ามันก็ถูไถไปกับปลายจมูกของผมอยู่อย่างนั้น มันยิ่งยั่วยวนใหญ่
ผมค่อย ๆ เลื่อนจมูกมาใกล้ ๆ โหนกแก้ม จนจมูกชนจมูก แล้วผมก็กดริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากของหล่อนในทันที
มือของหล่อนเลื่อนแผล็บขึ้นมาเหนี่ยวที่ต้นคอผมขณะที่ผมบดปากลงไป แล้วลิ้นของหล่อนก็ชอนไชเข้าพัวพันกับลิ้นของผม ก่อนที่ผมจะดันลิ้นของผมเข้าไปเสียด้วยซ้ำ ผมลืมจังหวะเพลงจนสิ้นตอนนั้น ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงง่ายยังงั้น หรือว่ามันเป็นอำนาจของเสียงเพลงและความมืด
สักครู่ใหญ่ หล่อนก็ถอนริมฝีปากออกจากปากผม ดันตัวผมออกห่างแล้วพูดลืมตาโพลง
ต๊าย ! ไม่เอาแล้ว กลับไปนั่งกันเถอะ
ผมเดินตามหล่อนออกมาจากฟลอร์ พอนั่งลงเรียบร้อย หล่อนก็แบมือออกมาตรงหน้า พูดว่า
ดูลายมือให้ต๊อยต่อดีกว่า เมื่อกี้เป็นรางวัลให้หมอก็แล้วกัน
ผมนั่งนิ่งมองดูหล่อน แล้วยกถ้วยวิสกี้ซึ่งบ๋อยเอามาให้ตั้งแต่เรายังอยู่กลางฟลอร์ขึ่นดื่ม สายตามองผ่านถ้วยไปยังหล่อน
หล่อนก้มลงดูดเครื่องดื่มของหล่อนจากหลอดดูดอึกใหญ่ ครั้นแล้วก็ผลักมันออกห่าง พลางร้อง อุ๊ย ออกมา เบา ๆ เหมือนกับจะเพิ่งนึกขี้นมาได้ว่าไอ้นั่นมันคือ ทอมคอลลินส์
ไอ้ทอมคอลลินส์มันทำพิษเอาหรือยังไง เมื่อกี้นี้น่ะ ผมเย้า
ดูลายมือต่อซีคะ หล่อนแบมือออกมาตรงหน้า บ๋อยจ๋า ขอยืมไฟฉายหน่อย หล่อนหันไปพูดกับบ๋อยซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ
ไม่ต้องหรอก บ๋อย ผมพูดเมื่อบ๋อยคนนั้นขยับส่งไฟฉายเล็ก ๆ ที่เขาถืออยู่ในมือมาให้ หมอยังไม่มีอารมณ์จะดู ประโยคสุดท้ายผมพูดกับหล่อนเมื่อบ๋อยถอยไปแล้ว
เล่นตัวจัง หมอคนนี้ หล่อนเพ้อ เห็นว่าคนเขานับถือละก้อ
ผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ทำท่าคล้ายคิดอะไรอยู่ แล้วพูดว่า
ผมเห็นอะไร ๆ ที่ไม่ใคร่ดีบนฝ่ามือคุณ ยังไม่อยากบอก
ไม่ดีมากไหมคะ หล่อนชักจะเสียงสั่น ๆ
มาก ผมพูด พยักหน้าช้า ๆ ทำท่าวางภูมิ
บอกต๊อยหน่อยซี บอกเถอะ ไหว้ละค่ะ หล่อนยกมือไหว้จริง ๆ เดี๋ยวคืนนี้ต๊อยก็นอนไม่หลับ ถ้าคุณพูดค้าง ๆ ไว้อย่างนี้
ก็ต่างคนต่างนอนไม่หลับถึงจะถูก เมื่อกี้นี้คุณก็ทำอะไรค้าง ๆ ไว้กับผมเหมือนกัน ผมกลับบ้านก็ต้องนอนไม่หลับ
ต๊อยไม่ได้ทำอะไรค้างไว้นี่ ก็มันมีอยู่แค่นั้น
นั่นมันเพียงเริ่มต้น จุดจบของมันไม่ได้อยู่แค่นั้น คุณก็น่าจะรู้
มันจะไม่ถึงจุดจบเร็วไปหรือคะ สำหรับคนที่เพิ่งจะรู้จักกันวันแรก
ความรัก สายน้ำ ย่อมไม่คำนึงถึงกาลเวลา ผมชมตัวเองเงียบ ๆ ว่าพูดคำคมได้เหมาะเข้าเรื่องเข้าราวดี
พูดเอาแต่ได้ ผู้ชายก็เท่านั้น รายไหนรายนั้น
ก็แล้วคุณร้อยเอกของคุณนั่นเล่า เขาผิดกับคนอื่นหรือยังไง
นั่น ต๊อยรักเขา หล่อนพูดเอียงคอ
หลังจากเขา ผมขอจองไว้เป็นอันดับแรก ได้ไหม
ก๊อต้องคอยนานหน่อย เพราะเขารักต๊อย ต๊อยก็รักเขา ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราไปได้
น่านิยมชมเชย ผมพูด ผมก็หมายถึงตอนนั้นแหละ ตอนที่เขาตายไปแล้วน่ะ
เขาแข็งแรงยังกับช้างสาร ไม่มีวันตายง่าย ๆ หรอก คุณท่าจะต้องรอนาน
เอาเถอะน่ะ นานเป็นนาน ผมรอได้ คนเราลงรักจริงซะอย่าง ให้คอยนานเท่าใดก็ได้ ว่าแต่คุณจะรับปากได้ไหมล่ะว่า ถ้าเขาตายไปต้องเป็นผม
ต๊าย หล่อนยานคาง จะเป็นไร คุณคงแก่ตายเสียก่อนไม่ว่า
อุบ เอาเป็นตกลง ถ้าเขาตายไปต้องเป็นผม
ดุลายมือให้ได้หรือยังล่ะทีนี้ หล่อนวกเข้าหาเรื่องเก่า
ไปดูที่อื่นละก้อได้ ที่นี่ดูไม่ได้ มันไม่มีอารมณ์ เดี๋ยวเลอะ ไม่แม่น ผมว่าพลางกระดกอึกสุดท้ายของวิสกี้ลงลำคอ
ต้องไปที่โรงแรมละซี ใช่ไหมล่ะ
ผมไม่หยาบคายถึงอย่างนั้น และไม่กล้าดูถูกคุณถึงขนาดนั้นหรอก คุณรังเกียจบ้านผม แต่ผมไม่รังเกียจที่จะไปที่บ้านคุณ ที่นั่นผมคงจะทำอะไรคุณไม่ได้หรอก ... ถ้าคุณไม่ยินยอม
ต๊อยไม่เคยรับแขกที่บ้าน
เป็นยังไง บ้านไม่สวยหรือยังไง แล้วก็คุณร้อยเอกของคุณ เขาไม่เคยไปงั้นรึ
นั่นเขาเป็นคนพิเศษ มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เคยไป
ผมก็เข้าขั้นสำรองพิเศษแล้ว ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน คุณรับผมเข้าไว้อันดับรองจากเขาแล้ว อย่าลืม
ก็เขายังไม่ตาย
คุณรู้ได้ยังไง อาทิตย์กว่า ๆ ที่คุณบอกว่าไม่ได้พบเขาเลย เขาอาจจะเป็นอะไรไปแล้วก็ได้ ผมก็ยังไม่ได้อ่านลายมือคุณละเอียดเท่าไร
ก็อ่านเสียซีคะ ตอนนี้
บอกแล้วไง ที่นี่ผมไม่มีอารมณ์ที่จะดู
แหม ... หล่อนครางออกมาเสียงยาว เล่นตัวจัง หมอคนนี้ ผมไม่พูด ยกแก้วเหล้าของผมขึ้นดื่ม
ไปก็ไป เอ้า หล่อนพูดออกมา บ้านต๊อยรกรุงรังนะ แล้วก็ไม่มีที่ให้นอน
ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปนอน ให้ไปดูลายมือก็จะไปดูให้ ผมว่าพร้อมกับลุกขึ้นยืนเมื่อหล่อนขยับตัวลุกขึ้น แล้วไอ้ที่เหลืออยู่นั่นล่ะ ผมพยักหน้าไปที่ถ้วยทอมคอลลินส์ของหล่อนที่ยังเหลืออยู่กว่าครึ่ง
ไม่เอาแล้ว หล่อนสั่นหน้าถี่ ๆ อย่างสะบัด ๆ ช่างมันเถอะ
ผมหัวเราะ มองดูหล่อนแวบหนึ่ง เมื่อนัยน์ตาประสานกันหล่อนก็หลบสายตา แล้วออกเดินนำหน้าออกไปจากที่นั่น
Create Date : 29 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 1:54:24 น. |
|
3 comments
|
Counter : 949 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีวันภาษาไทยแห่งชาติค่ะ ^^