จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 2 ตอนที่ 4)

สถานที่ที่แม่ต๊อยแนะนำมานั้นเป็นบาร์ชั้นดีในย่านพัฒน์พงศ์ เมื่อเราเดินเข้าไปนั้น มันมืดเสียยิ่งกว่าเข้าถ้ำมืดจริง ๆ นอกจากไฟฟ้าสีแดงอ่อน ๆ ไม่กี่ดวงแล้ว ในนั้นก็ไม่มีแสงสว่างอะไรอีก แม้แต่บนเวทีซึ่งดนตรีสามชิ้นกำลังสวิงสุดเหวี่ยงอยู่นั้นก็มีแต่ไฟสีแดงส่องอยู่สลัว ๆ
แต่ผู้คนในนั้นแน่นเปรียะ

ผมต้องยืนนิ่งอยู่กับที่พักใหญ่เพื่อให้สายตาชินกับความมืดภายในนั้น ก่อนที่จะก้าวต่อไปป่ายเปะปะเอาหัวใครเข้า

แม่ต๊อยเดินผ่านโต๊ะต่าง ๆ ไปพร้อมกับทักทายกับผู้คนตามโต๊ะบางตัวที่รู้จักไปด้วย บางคนที่โต๊ะต่าง ๆ นั้นมองดูผมอย่างอยากจะรู้ว่าหมอนี่มันเป็นใคร

บ๋อยที่นั่นซึ่งรู้จักแม่ต๊อยดีพาเราไปยังโต๊ะตัวหนึ่งสุดฝาห้อง มีที่นั่งอยู่สองที่พอดี

“ มืดอย่างนี้จะดูลายมือกันได้ยังไง ” ผมปรารภออกมาก่อนที่จะนั่ง

“ ขอไฟฉายจากบ๋อยมาส่องก็ได้นี่คะ ” แม่ต๊อยออกความเห็น

บ๋อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถามเรื่องเครื่องดื่มของเรา ผมสั่งไปว่า

“ วิสกี้โซดาหนึ่ง ทอมคอลลินส์อีกหนึ่งสำหรับคุณผู้หญิง ”

แม่ต๊อยมองหน้าผมแวบหนึ่งแล้วก็หัวเราะเบา ๆ ไม่รู้ว่าขันอะไร

ผมกำลังคิดว่าบรรยากาศทึม ๆ อย่างนี้ ดนตรีควรจะเล่นเพลงซึม ๆ ให้คนเดินกอดกันมากกว่าที่จะเล่นเพลงให้คนกระโดดชักดิ้นชักงออย่างที่เป็นอยู่นี้ ก็พอดีเขาเปลี่ยนเป็นจังหวะช้า ๆ ซึม ๆ ในทันใดนั้น คงจะเห็นว่าบรรดาลิงทั้งหลายคงจะเหนื่อยแล้ว

“ ดูลายมือต่อหรือยังล่ะคะ ” แม่ต๊อยเตือน

“ เต้นรำก่อน ” ผมว่าพลางลุกขึ้น “ ผมชอบเพลงซึม ๆ ”

หล่อนลุกขึ้นอย่างว่าง่าย หรือจะเอาใจหมอก็ไม่รู้

ผมพาหล่อนออกไปเบียดกับนักเลงเต้นรำกลางฟลอร์ ไอ้จังหวะนี้ผมชอบ เพราะมันไม่ต้องการลีลาอะไรมากนัก กอดกันแน่น ๆ หน่อย แล้วก็เดินไปเดินมาให้มันเข้าจังหวะเพลงก็ใช้ได้

เนื้อแม่ต๊อยแน่นยังกับอะไรดี และหล่อนเต้นรำได้สนิทสนมอย่างไม่ตระหนี่ตัว ผมตระคองหล่อนเพียงกระชับ ๆ ไม่แน่น ร่างของเรายังแนบกันสนิทตั้งแต่ส่วนอกจนถึงหน้าขา เหนือกว่าอกแนบไม่ได้ เพราะอกของหล่อนมันดันอยู่แต่ก็ไม่กีดขวางในการที่ผมจะอิงแก้มของผมเข้ากับแก้มของหล่อน

คู่เต้นรำหลายคู่แอบกัดกันในความมืดด้วยมนต์ของเสียงเพลง

ผมแอบดมที่ริมใบหูแม่ต๊อยเบา ๆ

หล่อนร้องอื๊ยออกมาเบา ๆ ครั้งหนึ่ง แต่ไม่ถอยหนี กลับเอียงแก้มเข้ามาชิดหนักขึ้น เบี่ยงส่วนที่เป็นใบหูห่างออกไป ผมเลยหันมาดมแก้ม
“ หอมจัง ” ผมว่า

หล่อนตีที่แขนผมเผียะหนึ่งแต่ไม่พูด เป็นแต่ดึงใบหน้าออกจากที่แนบกัน แล้วมองตาผมแวบหนึ่งก่อนที่จะเมินไปทางอื่น

“ กลับไปนั่งดื่มทอมคอลลินส์เสียหน่อยแล้วค่อยออกมาเต้นใหม่ ดีไหม ” ผมกระซิบเบา ๆ

“ ไม่เอา ” หล่อนพูดทันที แล้วดึงผมไว้เมื่อผมทำท่าจะกลับไปนั่ง
คงจะกลัวไอ้ทอมคอลลินส์เอาจริง ๆ

ผมดึงหล่อนเข้ามาแนบอีก คราวนี้แน่นกว่าเก่าอีกนิดหน่อย และจมูกผมไม่อยู่นิ่ง มันชอนไชไปตามแก้มของหล่อน ผมรู้สึกว่าใบหน้าของหล่อนทำทีจะบ่ายเบี่ยง แต่ว่ามันก็ถูไถไปกับปลายจมูกของผมอยู่อย่างนั้น มันยิ่งยั่วยวนใหญ่

ผมค่อย ๆ เลื่อนจมูกมาใกล้ ๆ โหนกแก้ม จนจมูกชนจมูก แล้วผมก็กดริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากของหล่อนในทันที

มือของหล่อนเลื่อนแผล็บขึ้นมาเหนี่ยวที่ต้นคอผมขณะที่ผมบดปากลงไป แล้วลิ้นของหล่อนก็ชอนไชเข้าพัวพันกับลิ้นของผม ก่อนที่ผมจะดันลิ้นของผมเข้าไปเสียด้วยซ้ำ ผมลืมจังหวะเพลงจนสิ้นตอนนั้น
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงง่ายยังงั้น หรือว่ามันเป็นอำนาจของเสียงเพลงและความมืด

สักครู่ใหญ่ หล่อนก็ถอนริมฝีปากออกจากปากผม ดันตัวผมออกห่างแล้วพูดลืมตาโพลง

“ ต๊าย ! ไม่เอาแล้ว กลับไปนั่งกันเถอะ ”

ผมเดินตามหล่อนออกมาจากฟลอร์ พอนั่งลงเรียบร้อย หล่อนก็แบมือออกมาตรงหน้า พูดว่า

“ ดูลายมือให้ต๊อยต่อดีกว่า เมื่อกี้เป็นรางวัลให้หมอก็แล้วกัน ”

ผมนั่งนิ่งมองดูหล่อน แล้วยกถ้วยวิสกี้ซึ่งบ๋อยเอามาให้ตั้งแต่เรายังอยู่กลางฟลอร์ขึ่นดื่ม สายตามองผ่านถ้วยไปยังหล่อน

หล่อนก้มลงดูดเครื่องดื่มของหล่อนจากหลอดดูดอึกใหญ่ ครั้นแล้วก็ผลักมันออกห่าง พลางร้อง “ อุ๊ย ” ออกมา เบา ๆ เหมือนกับจะเพิ่งนึกขี้นมาได้ว่าไอ้นั่นมันคือ ทอมคอลลินส์

“ ไอ้ทอมคอลลินส์มันทำพิษเอาหรือยังไง เมื่อกี้นี้น่ะ ” ผมเย้า

“ ดูลายมือต่อซีคะ ” หล่อนแบมือออกมาตรงหน้า “ บ๋อยจ๋า ขอยืมไฟฉายหน่อย ” หล่อนหันไปพูดกับบ๋อยซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ

“ ไม่ต้องหรอก บ๋อย ” ผมพูดเมื่อบ๋อยคนนั้นขยับส่งไฟฉายเล็ก ๆ ที่เขาถืออยู่ในมือมาให้ “ หมอยังไม่มีอารมณ์จะดู” ประโยคสุดท้ายผมพูดกับหล่อนเมื่อบ๋อยถอยไปแล้ว

“ เล่นตัวจัง หมอคนนี้ ” หล่อนเพ้อ “ เห็นว่าคนเขานับถือละก้อ ”

ผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ทำท่าคล้ายคิดอะไรอยู่ แล้วพูดว่า

“ ผมเห็นอะไร ๆ ที่ไม่ใคร่ดีบนฝ่ามือคุณ ยังไม่อยากบอก ”

“ ไม่ดีมากไหมคะ ” หล่อนชักจะเสียงสั่น ๆ

“ มาก ” ผมพูด พยักหน้าช้า ๆ ทำท่าวางภูมิ

“ บอกต๊อยหน่อยซี ” บอกเถอะ ไหว้ละค่ะ ” หล่อนยกมือไหว้จริง ๆ “ เดี๋ยวคืนนี้ต๊อยก็นอนไม่หลับ ถ้าคุณพูดค้าง ๆ ไว้อย่างนี้ ”

“ ก็ต่างคนต่างนอนไม่หลับถึงจะถูก เมื่อกี้นี้คุณก็ทำอะไรค้าง ๆ ไว้กับผมเหมือนกัน ผมกลับบ้านก็ต้องนอนไม่หลับ”

“ ต๊อยไม่ได้ทำอะไรค้างไว้นี่ ก็มันมีอยู่แค่นั้น ”

“ นั่นมันเพียงเริ่มต้น จุดจบของมันไม่ได้อยู่แค่นั้น คุณก็น่าจะรู้ ”

“ มันจะไม่ถึงจุดจบเร็วไปหรือคะ สำหรับคนที่เพิ่งจะรู้จักกันวันแรก ”

“ ความรัก สายน้ำ ย่อมไม่คำนึงถึงกาลเวลา ” ผมชมตัวเองเงียบ ๆ ว่าพูดคำคมได้เหมาะเข้าเรื่องเข้าราวดี

“ พูดเอาแต่ได้ ผู้ชายก็เท่านั้น รายไหนรายนั้น ”

“ ก็แล้วคุณร้อยเอกของคุณนั่นเล่า เขาผิดกับคนอื่นหรือยังไง ”

“ นั่น ต๊อยรักเขา ” หล่อนพูดเอียงคอ

“ หลังจากเขา ผมขอจองไว้เป็นอันดับแรก ได้ไหม ”

“ ก๊อต้องคอยนานหน่อย เพราะเขารักต๊อย ต๊อยก็รักเขา ความตายเท่านั้นที่จะพรากเราไปได้ ”

“ น่านิยมชมเชย ” ผมพูด “ ผมก็หมายถึงตอนนั้นแหละ ตอนที่เขาตายไปแล้วน่ะ ”

“ เขาแข็งแรงยังกับช้างสาร ไม่มีวันตายง่าย ๆ หรอก คุณท่าจะต้องรอนาน ”

“ เอาเถอะน่ะ นานเป็นนาน ผมรอได้ คนเราลงรักจริงซะอย่าง ให้คอยนานเท่าใดก็ได้ ว่าแต่คุณจะรับปากได้ไหมล่ะว่า ถ้าเขาตายไปต้องเป็นผม ”

“ ต๊าย ” หล่อนยานคาง “ จะเป็นไร คุณคงแก่ตายเสียก่อนไม่ว่า ”

“ อุบ เอาเป็นตกลง ถ้าเขาตายไปต้องเป็นผม ”

“ ดุลายมือให้ได้หรือยังล่ะทีนี้ ” หล่อนวกเข้าหาเรื่องเก่า

“ ไปดูที่อื่นละก้อได้ ที่นี่ดูไม่ได้ มันไม่มีอารมณ์ เดี๋ยวเลอะ ไม่แม่น ” ผมว่าพลางกระดกอึกสุดท้ายของวิสกี้ลงลำคอ

“ ต้องไปที่โรงแรมละซี ใช่ไหมล่ะ ”

“ ผมไม่หยาบคายถึงอย่างนั้น และไม่กล้าดูถูกคุณถึงขนาดนั้นหรอก คุณรังเกียจบ้านผม แต่ผมไม่รังเกียจที่จะไปที่บ้านคุณ ที่นั่นผมคงจะทำอะไรคุณไม่ได้หรอก ... ถ้าคุณไม่ยินยอม ”

“ ต๊อยไม่เคยรับแขกที่บ้าน ”

“ เป็นยังไง บ้านไม่สวยหรือยังไง แล้วก็คุณร้อยเอกของคุณ เขาไม่เคยไปงั้นรึ ”

“ นั่นเขาเป็นคนพิเศษ มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เคยไป ”

“ ผมก็เข้าขั้นสำรองพิเศษแล้ว ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน คุณรับผมเข้าไว้อันดับรองจากเขาแล้ว อย่าลืม ”

“ ก็เขายังไม่ตาย ”

“ คุณรู้ได้ยังไง อาทิตย์กว่า ๆ ที่คุณบอกว่าไม่ได้พบเขาเลย เขาอาจจะเป็นอะไรไปแล้วก็ได้ ผมก็ยังไม่ได้อ่านลายมือคุณละเอียดเท่าไร ”

“ ก็อ่านเสียซีคะ ตอนนี้ ”

“ บอกแล้วไง ที่นี่ผมไม่มีอารมณ์ที่จะดู ”

“ แหม ... ” หล่อนครางออกมาเสียงยาว “ เล่นตัวจัง หมอคนนี้ ”
ผมไม่พูด ยกแก้วเหล้าของผมขึ้นดื่ม

“ ไปก็ไป เอ้า ” หล่อนพูดออกมา “ บ้านต๊อยรกรุงรังนะ แล้วก็ไม่มีที่ให้นอน ”

“ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปนอน ให้ไปดูลายมือก็จะไปดูให้ ” ผมว่าพร้อมกับลุกขึ้นยืนเมื่อหล่อนขยับตัวลุกขึ้น “ แล้วไอ้ที่เหลืออยู่นั่นล่ะ ” ผมพยักหน้าไปที่ถ้วยทอมคอลลินส์ของหล่อนที่ยังเหลืออยู่กว่าครึ่ง

“ ไม่เอาแล้ว ” หล่อนสั่นหน้าถี่ ๆ อย่างสะบัด ๆ “ ช่างมันเถอะ ”

ผมหัวเราะ มองดูหล่อนแวบหนึ่ง เมื่อนัยน์ตาประสานกันหล่อนก็หลบสายตา แล้วออกเดินนำหน้าออกไปจากที่นั่น




Create Date : 29 กรกฎาคม 2552
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 1:54:24 น. 3 comments
Counter : 949 Pageviews.

 


สวัสดีวันภาษาไทยแห่งชาติค่ะ ^^


โดย: yaynongya วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:6:56:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
วันนี้ วันภาษาไทยแห่งชาติ
ต้องตั้งใจพิมภาษาไทย ให้ถูกต้องหน่อยแล้วค่ะ


โดย: Ann (ann_shinchang ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:41:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ
คุณ Yaynongya
คุณ Ann

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่าเราต้องรักภาษาไทยกันให้มาก ๆ ถึงมากที่สุดค่ะ





โดย: ธารน้อย วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:30:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.