จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 25)

ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 25

ความมืดเข้ามาปกคลุมพื้นที่จนมืดสนิท เมื่อม้าของทวนย่างเข้าสู่หมู่บ้านชาวอำเภอเดิมบางนางบวช ทวนลงจากหลังม้า จูงม้าเดินไปเงียบ ๆ เสียงฝีเท้าม้าที่เหยียบย่างลงบนพื้นดินแข็งดังเบา ๆ เขาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง ผูกม้าไว้กับเสาหลักต้นหนึ่งที่หน้าบ้าน เดินขึ้นบันไดบ้านหลังนั้นไปเงียบๆ

เขายกมือขึ้นเคาะที่บานประตูห้องห้องหนึ่งเบา ๆ ประตูห้องนั้นค่อย ๆ แง้มออก ใบหน้าของชายคนหนึ่งพ้นบานประตูออกมา

“ เฮ้ย ไอ้เทพ ” เสียงชายคนนั้นเรียกด้วยเสียงอุทาน “ มายังไงกันวะเงียบ ๆ “

“ ให้ข้าเข้าไปในห้องก่อน ” ทวนพูด ดันร่างชายคนนั้นเข้าไป ดีงบานประตูปิดตามหลัง

ชายคนนั้นยังยืนจ้องทวนนิ่ง รอคำพูดจากเขา

“ ทำไมมันถึงเงียบนักวะ ” ทวนจับไหล่ชายคนนั้น “ ผู้คนมันไปไหนกันหมด ”

“ เขาไปประชุมกันที่บ้านนายอำเภอ ” ชายคนนั้นตอบ “ แล้วเอ็งหายไปไหนตั้งหลายเดือน ผู้การเขาตามหาเอ็งหลายวันแล้ว ”

“ ผู้การอยู่ที่ไหนตอนนี้ ” ทวนถาม

“ คงอยู่ที่บ้านนายอำเภอมั๊ง เดี๋ยวข้าก็จะไปเหมือนกัน กำลังจะอาบน้ำ ”

“ เอ็งไปบอกผู้การด้วยว่า ข้าขอพบด่วน ” ทวนตบไหล่คนนั้น

“ เออ ให้ข้าอาบน้ำเดี๋ยว เอ็งเข้ามาพักเสียก่อน ” เขาพูดแล้วหันเดินเปิดประตูห้องหนึ่งเข้าไป เสียงน้ำราดดังซู่ได้ยินออกมาจากห้องนั้น
เสียงน้ำเงียบไปสักครู่ ชายคนนั้นก็เปิดประตูออกมา ร่างกายเปียกด้วยน้ำ เขาเดินไปดึงผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่กับราวข้างฝาห้อง เช็ดตัวพลางพูด

“ เอ็งหายไปไหนมาเป็นเดือน ๆ ผู้กองแกก็ถามหาเอ็งเหมือนกัน เขาจะแทงจำหน่ายเอ็งหนีราชการอยู่แล้ว ดีแต่ผู้การแกยับยั้งไว้ ”

ทวนหัวเราะหึ ๆ

“ เอ็งรีบไปบอกผู้การเหอะว่าข้าคอยพบอยู่ แล้วไม่ต้องบอกให้ใครรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่ ”

“ ไอ้เทพ ดูเอ็งมันออกจะลึกลับมากวันนี้ ” ชายคนนั้นพูดไปหัวเราะไป
“ หายไปเป็นเดือน กลับมากลายเป็นคนลึกลับไปเสียแล้ว เอ็งพูดกับผู้การให้ดี ๆ เถอะ ”

คนพูดแต่งตัวเสร็จอยู่ในชุดสีกากีครึ่งท่อน เสื้อยืดคอกลมสีขาว คว้าปืนพกมาเสียบที่เอว เดินผ่านทวน ตบที่ไหล่ทวนเบา ๆ ก่อนที่จะเปิดประตูออกไป งับประตูตามหลัง

ทวนเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องพักใหญ่ ประตูก็แง้มออก เขาหันขวับมาทางประตู ชายร่างใหญ่ในเครื่องแต่งกายครึ่งท่อนด้วยกางเกงสีกากี เสื้อยืดสีขาวคอกลม มีปืนพกอยู่ในซองห้อยอยู่ที่เอวข้างขวา ก้าวเข้ามาในห้อง

ทวนก้มศีรษะโค้งทำความเคารพ

“ กระผม ร้อยตำรวจเอก เทพ พงษ์พิมาน ขอรายงานตัวครับผม ”

ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาหา ยกมือทั้งสองขึ้นจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของทวนเขย่า

“ ไปเสียตั้งหลายเดือน เป็นยังไงบ้าง อยากรู้ผล ”

“ กระผมกำลังจะรายงานให้ทราบอยู่ครับผม ”

“ นั่งลง นั่งลง ” บุรุษร่างใหญ่เสียงกังวานผู้นั้นจับไหล่ทวนให้นั่งลงบนม้านั่งในห้อง “ ว่าไป อั๊วก็อยากรู้เหมือนกัน ได้ความอะไรมาบ้าง ”

ทวนทรุดตัวลงนั่งตามแรงกดที่ไหล่ ชายคนนั้นนั่งลงข้าง ๆ หันหน้ารอฟัง

“ กระผมออกไปจากหน่วยก็รีบเดินทางไปบางปลาม้าทันที เพราะที่นั่นกระผมได้ข่าวมาตั้งแต่ตอนออกไปแล้วว่า เสือฝ้ายจะเข้าปล้นในวันรุ่งขึ้นที่กระผมไปถึง กระผมไปถึงพอดีกับเหตุการณ์ พักได้คืนเดียว เสือฝ้ายก็คุมคนเข้าปล้นชาวบ้านที่บางปลาม้า กระผมไปถึงช้าไปเพียงไม่กี่นาที เมื่อไปถึง เสือฝ้ายกำลังเข้าปล้นอยู่ที่นั่น กระผมเข้าไปไม่ถึง เสือฝ้ายกระทำครั้งนั้นประมาทมาก คงจะถือว่ามีกำลังมาก จึงกระทำการโดยไม่ระวังหลัง หน่วยกำลังของเราส่วนหนึ่งยกมาจากบางปลาม้า คงจะได้ยินเสียงอึกทึกจากการปล้นครั้งนั้น เพราะที่ตั้งของหน่วยอยู่ห่างเพียงกิโลเมตรกว่า กำลังหน่วยนั้นเข้าล้อมบ้านที่เสือฝ้ายเข้าทำการ กระผมเข้าไปหาผู้บังคับหน่วย ไม่ทราบชื่อว่าเป็นใคร เพื่อที่จะร่วมกระทำการปราบปรามด้วย แต่ผู้บังคับหน่วยผู้นั้นไม่เชื่อว่ากระผมเป็นตำรวจ สั่งจับกระผมคุมตัวไว้ ”

ทวนหยุดพักระบายลมหายใจ

“ เอ้อ แล้วยังไง เขาทำอะไรลื้อมั่ง ” ผู้การซัก

“ เขาให้ตำรวจที่คุมตัวกระผมไว้นั้นลากตัวกระผมทั้ง ๆ ติดกุญแจมือตามเข้าไปด้วยในขณะที่เขาบุกเข้าไป แล้วผลักกระผมออกไปข้างหน้าเมื่อถึงแนวที่มีการต่อสู้กัน เขายิงใส่กระผมทางเบื้องหลัง ดีแต่ว่ากระผมรู้ทัน ทิ้งตัวลงพื้นเสียก่อน แล้วกลิ้งตัวหลบกระสุนไปได้ กระผมวิ่งหลบหลีกไปทั้ง ๆ ที่ติดกุญแจมือ เข้าไปในหมู่บ้านนั้นแล้วร้องตะโกนเรียกเสือฝ้าย ในหมู่บ้านกำลังวุ่นวายด้วยผู้คนทั้งฝ่ายเสือและฝ่ายชาวบ้านที่ถูกปล้นโดยไม่รู้ตัว ผมตะโกนบอกเสือฝ้ายให้รู้ตัวว่าถูกตำรวจล้อม พวกเสือฝ้ายจึงรู้ตัว หันมาสู้กับกำลังตำรวจที่ล้อมอยู่ กำลังของเสือฝ้ายมากกว่า ฝ่ายตำรวจจึงต้องล่าถอย ไป ทิ้งศพตำรวจไว้สามสี่คน อาวุธฝ่ายตำรวจก็สู้ฝ่ายเสือฝ้ายไม่ได้ ทางเสือฝ้ายมีปืนยิงเร็วหลายกระบอก พอเหตุการณ์สงบลง โดยฝ่ายเสือปล้นและสู้ตำรวจได้สำเร็จ เสือฝ้ายก็เรียกตัวกระผมเข้าพบ ถามว่ากระผมมาจากไหน ”

ทวนหยุดพักอีกครู่

“ ผมบอกว่า ผมมาจากบ้านเดิมบาง ฯ ตั้งใจจะมาหาเสือฝ้าย มาร่วมพวกด้วย เพราะผมถูกตำรวจรังแก จับพี่น้องผมไปหาว่าเป็นพวกเสือฝ้าย เอาไปยิงทิ้งก็มี ตัวผมเองก็เกือบถูกยิงทิ้งเมื่อกี้นี้ ผมวิ่งหลบหลีกเข้ามาได้ ผมขอเข้าร่วมเป็นพวกด้วย ”

“ เสือฝ้ายเชื่อเอาง่าย ๆ ยังงั้นหรือ ” ผู้การหัวเราะเบา ๆ

“ ไม่หรอกครับผม เสือฝ้ายถามว่า ผมชื่ออะไร ผมก็บอกไปว่า ทวน ทองรุ่ง ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว ตัวคนเดียว ขอเข้าพึ่งเสือฝ้ายเป็นพ่อ และขอฝากชีวิตไว้ด้วย เสือฝ้ายให้ผมอยู่กับสมุนคนหนึ่งชื่อยิ่ง ให้คอยดูแลผมและผมเชื่อว่าเสือฝ้ายคงจะให้คอยจับตาดูผมด้วย ผมได้อยู่ในขบวนเสือในคืนนั้น เสือฝ้ายยกพวกออกจากหมู่บ้านนั้นในวันรุ่งขึ้น ผมติดตามไปด้วย ได้ร่วมในการปล้นสะดมอีกหลายหมู่บ้าน ผมได้ความรู้มาอีกอย่างหนึ่งว่า เสือฝ้ายจะเข้าปล้นแต่หมู่บ้านที่ร่ำรวยด้วยการรีดนาทาเร้นคนจน แล้วเอาข้าวของเงินทองที่ปล้นมาได้นั้นออกแจกจ่ายชาวบ้านที่ยากจน เหตุนี้เอง ที่ทำให้เสือฝ้ายเป็นที่นับถือของชาวบ้านส่วนใหญ่ และตกเป็นพวกของเสือฝ้ายด้วยความเต็มใจ เป็นหูเป็นตาให้เสือฝ้าย ส่งข่าวถึงการเคลื่อนไหวของตำรวจ เสือฝ้ายมีอาวุธดี ๆ ทันสมัย เพราะได้ร่วมในขบวนการเสรีไทยเมื่อครั้งสงคราม อาวุธพวกนั้นยังคงตกอยู่ในมือของพวกเสือฝ้ายมากมายเมื่อสงครามเลิก "

“ แล้วเสือฝ้ายยอมรับลื้อเป็นลูกหรือเปล่า ” ผู้การซักด้วยความสนใจ

“ เสือฝ้ายถูกลูกน้องคนหนึ่งหักหลังในการเข้าปล้นที่บ้านกระทิง อำเภออู่ทอง สมุนคนนั้นจ้องจะยิงเสือฝ้ายข้างหลังตอนกำลังคุมคนเข้าปล้นที่นั่น ผมตามไปข้างหลังเห็นเข้า ผมก็ยิงไอ้คนนั้นตาย เพราะนโยบายของเราไม่ต้องการฆ่าใช่ไหมครับผม เราต้องการเสือฝ้ายเป็น ๆ นั่นเป็นจุดประสงค์ของกรม และผู้การก็ได้สั่งการว่าอย่างนั้น เมื่อเรียกผมไปรับทราบนโยบาย ”

“ เออ ใช่ ” ผู้การพยักหน้า

“ ตั้งแต่นั้น เสือฝ้ายก็ประกาศยกกระผมเป็นลูกแท้ ๆ ให้พรรคพวกรับรู้ว่า ผมเป็นลูกคนเดียวที่จะสืบอำนาจต่อ และให้สมุนทั้งหลายนับถือกระผมเป็นนายคนที่สอง ผมได้สนิทกับเสือฝ้ายขนาดไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ห่าง และเสือฝ้ายก็รักผมเหมือนลูกในไส้จริง ๆ จนกระผมชักละอายใจที่จะต้องทำลายเสือฝ้ายผู้รักผมเหมือนลูกแท้ ๆ ”

ผู้การกระแอมขึ้นถี่ ๆ

“ แต่คำสั่งก็ย่อมเป็นคำสั่ง ” ทวนพูด มองตาผู้การ “ นโยบายของทางการผมก็ต้องเคารพ ผมจะต้องดำเนินการตามคำสั่งต่อไปจนกว่าจะบรรลุตามความมุ่งหมาย ผมหาโอกาสที่จะจับตัวเสือฝ้ายเป็น ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่โอกาสยังไม่อำนวยให้ ผมได้ติดตามเสือฝ้ายไปในการเข้าปล้นอีกหลายตำบล และค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจยิ่ง ๆ ขึ้น ผมมารู้แน่ชัดว่า เสือฝ้ายรักผมยิ่งกว่าสิ่งใดจริง ๆ เอาเมื่อตอนที่ผมไปถูกกำนันบ้านหนองตากลับจับได้ เมื่อตอนที่เสือฝ้ายให้ผมคุมคนเข้าปล้นบ้านเศรษฐีสงครามคนหนึ่งที่ตำบลใกล้บ้านหนองงตากลับ ผมถูกกำนันที่นั่นหักหลัง ทำเป็นร่วมมือกับผมตามคำสั่งเสือฝ้าย แล้วมันไปบอกตำรวจเข้าตลบหลังพวกผมขณะทำงาน ผมต้องพาพวกหนีจากการถูกล้อม จนพวกถูกยิงตายไปหมด เหลือแต่ผม กำนันมันจับผมไปมัดไว้ที่บ้านหนองตากลับ ”

ทวนหยุดระบายลมหายใจ เมื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ก่อนที่จะพูดต่อ

“ มันกะจะเอาผมไปยิงทิ้ง ถ้ากระสุนมือผมไม่หมด มันกับผมคงจะได้สู้กันอีกนาน เพราะคนของมันก็ถูกยิงตายหมดเหมือนกัน เหลือแต่มันกับผมตัวต่อตัว มันมีปืนที่มีกระสุน แต่ผมไม่มี ”

“ ทำไมกำนันจึงไม่ยิงเราเสียตอนที่สู้กันแล้วเราหมดท่านั่น ” ผู้การซักขัดขึ้นมา

“ ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมคิดว่ากระสุนของมันก็คงจะหมดเหมือนกัน ผมถูกมันตีด้วยพานท้ายปืนสลบไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ถูกมัดอยู่กลางแดดกลางลานบ้าน กำนันมันมัดผมในท่าทรมานติดกับเสาต้นนั้น ”

ทวนหยุดพูด ขบกรามเมื่อเล่าถึงตอนนี้ เขาสงบสติอารมณ์ลงได้ พูดต่อ

“ ผมถูกมัดตากแดดอยู่อย่างนั้นจนพับไปอีก มารู้สึกตัวเมื่อมีตำรวจหมู่หนึ่งเข้ามาที่หมู่บ้าน นายตำรวจชั้นร้อยตำรวจเอกที่คุมกำลังมา สั่งให้กำนันแก้มัดผม เอาตัวขึ้นไปใส่กุญแจมือติดลูกกรงบ้าน ไอ้กำนันมันพยายามที่จะยิงผมอีก นายตำรวจคนนั้นมาถึงพอดี ช่วยผมไว้ได้อีก แล้วดึงเอาตัวกำนันไปไล่ติดตามเสือฝ้ายต่อไป ที่บ้านหนองตากลับเพิ่งจะถูกปล้นไปใหม่ ๆ ชาวบ้านถูกฆ่าตายไปหลายคน พวกโจรขนเอาทรัพย์สินข้าวของของชาวบ้านไปมากมาย แทบหมดตัวไปทุกบ้าน โจรที่ปล้นพวกนั้นอ้างชื่อเสือฝ้ายตอนเข้าปล้น แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นสมุนโจรเก่าของเสือฝ้ายที่ทรยศกับเสือฝ้ายคนหนึ่ง เข้าปล้นแล้วตะโกนชื่อเสือฝ้ายขณะทำการ ผมรู้เพราะผมทราบว่าขณะนั้นเสือฝ้ายไม่ได้อยู่แถวนั้น เมื่อใช้ผมเข้าปล้นที่ใกล้ ๆ นั้น เสือฝ้ายก็จากไปขึ้นบ้านกอไผ่ เสือฝ้ายได้ข่าวเรื่องที่ผมเสียทีครั้งนั้นระหว่างทางก็ย้อนกลับมาอีก กลางทางคงจะสวนทางกับร้อยตำรวจเอกและกำนันที่พากันติดตามไป จึงเกิดการต่อสู้กัน ฝ่ายตำรวจเสียทีเสือฝ้ายโดนจับกลับมาที่บ้านหนองตากลับ เสือฝ้ายมาพบผมถูกจองจำอยู่ที่นั่น ช่วยเอาผมออกมา แล้วยิงกำนันทิ้งต่อหน้าผมบนบ้านนั้นเมื่อรู้ว่ากำนันทำยังไงกับผม "

ผู้การพยักหน้ารับฟังด้วยความตั้งใจ ถามขึ้น

“ แล้วทำไมเสือฝ้ายจึงปล่อยตัวนายตำรวจไป ”

“ ผมขอเสือฝ้ายไว้เองครับผม ” ทวนตอบ “ ให้เหตุผลว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ผู้กองคนนั้นได้ช่วยผมไว้จากมือกำนัน แต่ผู้กองคนนั้นแกยังอาฆาตเสือฝ้ายอยู่ ตอนที่จะปล่อยออกไป แกย้ำคำกับเสือฝ้ายว่าแกจะติดตามเสือฝ้ายให้ได้ ผมเกือบจะทัดทานไว้ไม่อยู่ ”

ผู้การหัวเราะหึ ๆ

“ อีตาเผชิญคนนี้แกเป็นคนยังงั้นเอง ไม่ยอมใครง่าย ๆ แล้วเขารู้จักลื้อมั้ยว่าเป็นใคร ”

“ ไม่รู้ครับผม เขารุ่นเด็กกว่าผม ไม่ได้พบกันในโรงเรียน แล้วผมก็ไม่ได้ทำงานในเมือง ชีวิตราชการของผมอยู่แต่ในป่า ท่านก็ทราบอยู่แล้ว ”

“ ลื้อมันเหมาะกับงานอย่างนั้นเสียด้วย ” ผู้การพูดหัวเราะเบา ๆ “ คนอย่างลื้อหายากในกรมตำรวจ และงานของลื้อต่อไปก็ไม่เหมาะที่จะให้คนอื่นทำ เพราะลื้อจะต้องเอาตัวเสือฝ้ายมาให้ได้เป็น ๆ ตามความมุ่งหมายของผู้ใหญ่ คนอื่นจะทำงานนี้ยาก ”

“ ขอบคุณครับ ผู้การ ” ทวนเน้นเสียง

ผู้การเอื้อมมือมาตบไหล่เบา ๆ

“ เสียงลื้อมันแดกดันอั๊วนี่หว่า ทนอีกหน่อย งานนี้สำเร็จ ลื้อก็จะได้พักผ่อนระยะยาว ว่าแต่ตอนนี้ลื้อหลบเสือฝ้ายออกมาได้ยังไง หายออกมาย่างนี้จะไม่มีใครสงสัยหรือ ”

“ คงจะไม่มีหรอกครับ เพราะผมมีเหตุผลที่จะเดินทางออกมา ”

“ เอาละ เรื่องของลื้อ อั๊วไม่ซักเหตุผล ” ผู้การยื่นมือออกมาข้างหน้า “ ขอให้ลื้อโขคดี และอั๊วหวังว่าลื้อคงจะทำงานชิ้นนี้สำเร็จ ต้องการอะไรก็เบิกเอากับหน่วยพลา ฯ เขา ”

ทวนยื่นมือพร้อมกับโค้งศีรษะเมื่อมือข้างนั้นถูกบีบเขย่าแรง ๆ

“ อ้อ อั๊วลืมไปอีกอย่าง ” ผู้การพูด “ พยายามหลีกเลี่ยงผู้กองเผชิญเขาหน่อย อย่าให้มีการประจันหน้ากัน แล้วก็คอยดูแลช่วยเหลือเขาด้วยเท่าที่จะทำได้ ”

“ ผมได้ปฏิบัติแล้วครับเรื่องนี้ ” ทวนน้อมศีรษะพูด “ แต่เรื่องที่เขานำกำลังติดตามไปถึงบ้านกอไผ่ครั้งนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องนอกเหนือเกินความสามารถของผมที่จะป้องกันและช่วยเหลือก็อาจจะเป็นได้ แต่ผมก็จะพยายาม ”

ผู้การพยักหน้าน้อย ๆ อย่างเข้าใจ

“ แล้วนี่ลื้อจะออกจากที่นี่เมื่อไร ”

“ พรุ่งนี้เช้าครับ คืนนี้ ผมจะขอพักที่นี่สักคืนหนึ่งก่อน ”

“ เออ ตามสบาย พรุ่งนี้เช้าตอนออกไปไม่ต้องรายงานอั๊วก็ได้ ข้าวของที่จะเบิกไปก็พูดกับฝ่ายพลา ฯ เขาก็แล้วกัน อั๊วจะสั่งการไว้ให้ ”

“ ขอบคุณครับ แต่ผมไม่มีอะไรที่จะต้องเบิกอีกแล้ว ครับผม ”

“ เอาละ ไม่มีอะไรอีก อั๊วจะไปประชุมพวกนั้นมัน ” ผู้การพูดกลั้วหัวเราะ “ แล้วอย่าไปหลงเอาเสือฝ้ายเป็นพ่อจริง ๆ ก็แล้วกัน ”
ผู้การเปิดประตูห้องออกไป

ครู่ใหญ่ ประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออกอีก ชายหนุ่มที่ทวนพบในห้องเมื่อมาถึงเป็นคนเปิดเข้ามา เขาเดินไปที่ตู้ข้างฝา เปิดตู้ออก หันมาทางทวน

“ เฮ้ย มาช่วยกันขนที่นอนออกมาซีวะ ผู้การท่านสั่งอั๊วไว้ให้เป็นคนดูแลลื้อ คืนนี้นอนด้วยกันในห้องนี้แหละวะ ว่าแต่ตอนกินข้าวจะลงไปกินกันที่ห้องอาหารมั้ยล่ะ ”

ทวนเดินเข้าไปช่วยขนที่นอนหมอนมุ้งออกมาจากตู้ข้างฝานั้น

“ ข้าเห็นจะไม่ลงไปละ เอ็งให้ไอ้เณรคนไหนมันหามาให้ข้าด้วยก็แล้วกัน ข้าจะอยู่ในห้องนี้แหละ เดี๋ยวจะอาบน้ำอาบท่าเสียหน่อย นอนพักสักครู่ พรุ่งนี้เช้าข้าก็จะไปต่อแล้ว ”

“ หายไปหลายเดือน กลับมาเอ็งก็มาทำตัวเป็นนายข้าทีเดียว ไอ้เทพ ” นายตำรวจหนุ่มบ่น “ นี่ถ้าผู้การไม่สั่งให้ข้าดูแลเอ็ง ข้าก็ไม่ยอมเป็นขี้ข้าเอ็งหรอก ”

ทวนตบไหล่เพื่อน

“ ไอ้ท้ง อีกหน่อยข้าจะขอให้ผู้กองส่งเอ็งไปทำงานกับข้าอีกคน ทีนี้เอ็งก็จะรู้สึก ”

“ กูชื่อยอดเยี่ยม ท้งน่ะชื่อพ่อกู ” นายตำรวจหนุ่มหันมาตวาด “ ชื่อพ่อมึงกูดันไม่รู้เสียด้วย มึงไม่เผลอบอกกูมั่งก็แล้วไป ”

“ ไอ้ท้งเยี่ยมยอด วันนี้มึงต้องอยู่กินข้าวเย็นกับกูในห้องนี้ เป็นเพื่อนกู เอ็งคงไม่ปล่อยให้กูกินข้าวคนเดียวหรอกนะ ไอ้เพื่อนยาก ”

“ เข้าใจประจบ หายไปนาน กลับมาประจบคนเก่งขึ้นเหมือนหมา กินข้าวกับมึงสองคนมันจะออกรสยังไง ”

“ งั้นเดี๋ยวกูให้ผู้การสั่ง ”

“ ไอ้เวร ” ผู้ถูกบังคับพูดออกมาคำเดียว




Create Date : 02 ธันวาคม 2552
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 1:58:11 น. 0 comments
Counter : 740 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.