|
ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 25)
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 25
ความมืดเข้ามาปกคลุมพื้นที่จนมืดสนิท เมื่อม้าของทวนย่างเข้าสู่หมู่บ้านชาวอำเภอเดิมบางนางบวช ทวนลงจากหลังม้า จูงม้าเดินไปเงียบ ๆ เสียงฝีเท้าม้าที่เหยียบย่างลงบนพื้นดินแข็งดังเบา ๆ เขาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง ผูกม้าไว้กับเสาหลักต้นหนึ่งที่หน้าบ้าน เดินขึ้นบันไดบ้านหลังนั้นไปเงียบๆ
เขายกมือขึ้นเคาะที่บานประตูห้องห้องหนึ่งเบา ๆ ประตูห้องนั้นค่อย ๆ แง้มออก ใบหน้าของชายคนหนึ่งพ้นบานประตูออกมา
เฮ้ย ไอ้เทพ เสียงชายคนนั้นเรียกด้วยเสียงอุทาน มายังไงกันวะเงียบ ๆ
ให้ข้าเข้าไปในห้องก่อน ทวนพูด ดันร่างชายคนนั้นเข้าไป ดีงบานประตูปิดตามหลัง
ชายคนนั้นยังยืนจ้องทวนนิ่ง รอคำพูดจากเขา
ทำไมมันถึงเงียบนักวะ ทวนจับไหล่ชายคนนั้น ผู้คนมันไปไหนกันหมด
เขาไปประชุมกันที่บ้านนายอำเภอ ชายคนนั้นตอบ แล้วเอ็งหายไปไหนตั้งหลายเดือน ผู้การเขาตามหาเอ็งหลายวันแล้ว
ผู้การอยู่ที่ไหนตอนนี้ ทวนถาม
คงอยู่ที่บ้านนายอำเภอมั๊ง เดี๋ยวข้าก็จะไปเหมือนกัน กำลังจะอาบน้ำ
เอ็งไปบอกผู้การด้วยว่า ข้าขอพบด่วน ทวนตบไหล่คนนั้น
เออ ให้ข้าอาบน้ำเดี๋ยว เอ็งเข้ามาพักเสียก่อน เขาพูดแล้วหันเดินเปิดประตูห้องหนึ่งเข้าไป เสียงน้ำราดดังซู่ได้ยินออกมาจากห้องนั้น เสียงน้ำเงียบไปสักครู่ ชายคนนั้นก็เปิดประตูออกมา ร่างกายเปียกด้วยน้ำ เขาเดินไปดึงผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่กับราวข้างฝาห้อง เช็ดตัวพลางพูด
เอ็งหายไปไหนมาเป็นเดือน ๆ ผู้กองแกก็ถามหาเอ็งเหมือนกัน เขาจะแทงจำหน่ายเอ็งหนีราชการอยู่แล้ว ดีแต่ผู้การแกยับยั้งไว้
ทวนหัวเราะหึ ๆ
เอ็งรีบไปบอกผู้การเหอะว่าข้าคอยพบอยู่ แล้วไม่ต้องบอกให้ใครรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่
ไอ้เทพ ดูเอ็งมันออกจะลึกลับมากวันนี้ ชายคนนั้นพูดไปหัวเราะไป หายไปเป็นเดือน กลับมากลายเป็นคนลึกลับไปเสียแล้ว เอ็งพูดกับผู้การให้ดี ๆ เถอะ
คนพูดแต่งตัวเสร็จอยู่ในชุดสีกากีครึ่งท่อน เสื้อยืดคอกลมสีขาว คว้าปืนพกมาเสียบที่เอว เดินผ่านทวน ตบที่ไหล่ทวนเบา ๆ ก่อนที่จะเปิดประตูออกไป งับประตูตามหลัง
ทวนเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องพักใหญ่ ประตูก็แง้มออก เขาหันขวับมาทางประตู ชายร่างใหญ่ในเครื่องแต่งกายครึ่งท่อนด้วยกางเกงสีกากี เสื้อยืดสีขาวคอกลม มีปืนพกอยู่ในซองห้อยอยู่ที่เอวข้างขวา ก้าวเข้ามาในห้อง
ทวนก้มศีรษะโค้งทำความเคารพ
กระผม ร้อยตำรวจเอก เทพ พงษ์พิมาน ขอรายงานตัวครับผม
ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาหา ยกมือทั้งสองขึ้นจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของทวนเขย่า
ไปเสียตั้งหลายเดือน เป็นยังไงบ้าง อยากรู้ผล
กระผมกำลังจะรายงานให้ทราบอยู่ครับผม
นั่งลง นั่งลง บุรุษร่างใหญ่เสียงกังวานผู้นั้นจับไหล่ทวนให้นั่งลงบนม้านั่งในห้อง ว่าไป อั๊วก็อยากรู้เหมือนกัน ได้ความอะไรมาบ้าง
ทวนทรุดตัวลงนั่งตามแรงกดที่ไหล่ ชายคนนั้นนั่งลงข้าง ๆ หันหน้ารอฟัง
กระผมออกไปจากหน่วยก็รีบเดินทางไปบางปลาม้าทันที เพราะที่นั่นกระผมได้ข่าวมาตั้งแต่ตอนออกไปแล้วว่า เสือฝ้ายจะเข้าปล้นในวันรุ่งขึ้นที่กระผมไปถึง กระผมไปถึงพอดีกับเหตุการณ์ พักได้คืนเดียว เสือฝ้ายก็คุมคนเข้าปล้นชาวบ้านที่บางปลาม้า กระผมไปถึงช้าไปเพียงไม่กี่นาที เมื่อไปถึง เสือฝ้ายกำลังเข้าปล้นอยู่ที่นั่น กระผมเข้าไปไม่ถึง เสือฝ้ายกระทำครั้งนั้นประมาทมาก คงจะถือว่ามีกำลังมาก จึงกระทำการโดยไม่ระวังหลัง หน่วยกำลังของเราส่วนหนึ่งยกมาจากบางปลาม้า คงจะได้ยินเสียงอึกทึกจากการปล้นครั้งนั้น เพราะที่ตั้งของหน่วยอยู่ห่างเพียงกิโลเมตรกว่า กำลังหน่วยนั้นเข้าล้อมบ้านที่เสือฝ้ายเข้าทำการ กระผมเข้าไปหาผู้บังคับหน่วย ไม่ทราบชื่อว่าเป็นใคร เพื่อที่จะร่วมกระทำการปราบปรามด้วย แต่ผู้บังคับหน่วยผู้นั้นไม่เชื่อว่ากระผมเป็นตำรวจ สั่งจับกระผมคุมตัวไว้
ทวนหยุดพักระบายลมหายใจ
เอ้อ แล้วยังไง เขาทำอะไรลื้อมั่ง ผู้การซัก
เขาให้ตำรวจที่คุมตัวกระผมไว้นั้นลากตัวกระผมทั้ง ๆ ติดกุญแจมือตามเข้าไปด้วยในขณะที่เขาบุกเข้าไป แล้วผลักกระผมออกไปข้างหน้าเมื่อถึงแนวที่มีการต่อสู้กัน เขายิงใส่กระผมทางเบื้องหลัง ดีแต่ว่ากระผมรู้ทัน ทิ้งตัวลงพื้นเสียก่อน แล้วกลิ้งตัวหลบกระสุนไปได้ กระผมวิ่งหลบหลีกไปทั้ง ๆ ที่ติดกุญแจมือ เข้าไปในหมู่บ้านนั้นแล้วร้องตะโกนเรียกเสือฝ้าย ในหมู่บ้านกำลังวุ่นวายด้วยผู้คนทั้งฝ่ายเสือและฝ่ายชาวบ้านที่ถูกปล้นโดยไม่รู้ตัว ผมตะโกนบอกเสือฝ้ายให้รู้ตัวว่าถูกตำรวจล้อม พวกเสือฝ้ายจึงรู้ตัว หันมาสู้กับกำลังตำรวจที่ล้อมอยู่ กำลังของเสือฝ้ายมากกว่า ฝ่ายตำรวจจึงต้องล่าถอย ไป ทิ้งศพตำรวจไว้สามสี่คน อาวุธฝ่ายตำรวจก็สู้ฝ่ายเสือฝ้ายไม่ได้ ทางเสือฝ้ายมีปืนยิงเร็วหลายกระบอก พอเหตุการณ์สงบลง โดยฝ่ายเสือปล้นและสู้ตำรวจได้สำเร็จ เสือฝ้ายก็เรียกตัวกระผมเข้าพบ ถามว่ากระผมมาจากไหน
ทวนหยุดพักอีกครู่
ผมบอกว่า ผมมาจากบ้านเดิมบาง ฯ ตั้งใจจะมาหาเสือฝ้าย มาร่วมพวกด้วย เพราะผมถูกตำรวจรังแก จับพี่น้องผมไปหาว่าเป็นพวกเสือฝ้าย เอาไปยิงทิ้งก็มี ตัวผมเองก็เกือบถูกยิงทิ้งเมื่อกี้นี้ ผมวิ่งหลบหลีกเข้ามาได้ ผมขอเข้าร่วมเป็นพวกด้วย
เสือฝ้ายเชื่อเอาง่าย ๆ ยังงั้นหรือ ผู้การหัวเราะเบา ๆ
ไม่หรอกครับผม เสือฝ้ายถามว่า ผมชื่ออะไร ผมก็บอกไปว่า ทวน ทองรุ่ง ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว ตัวคนเดียว ขอเข้าพึ่งเสือฝ้ายเป็นพ่อ และขอฝากชีวิตไว้ด้วย เสือฝ้ายให้ผมอยู่กับสมุนคนหนึ่งชื่อยิ่ง ให้คอยดูแลผมและผมเชื่อว่าเสือฝ้ายคงจะให้คอยจับตาดูผมด้วย ผมได้อยู่ในขบวนเสือในคืนนั้น เสือฝ้ายยกพวกออกจากหมู่บ้านนั้นในวันรุ่งขึ้น ผมติดตามไปด้วย ได้ร่วมในการปล้นสะดมอีกหลายหมู่บ้าน ผมได้ความรู้มาอีกอย่างหนึ่งว่า เสือฝ้ายจะเข้าปล้นแต่หมู่บ้านที่ร่ำรวยด้วยการรีดนาทาเร้นคนจน แล้วเอาข้าวของเงินทองที่ปล้นมาได้นั้นออกแจกจ่ายชาวบ้านที่ยากจน เหตุนี้เอง ที่ทำให้เสือฝ้ายเป็นที่นับถือของชาวบ้านส่วนใหญ่ และตกเป็นพวกของเสือฝ้ายด้วยความเต็มใจ เป็นหูเป็นตาให้เสือฝ้าย ส่งข่าวถึงการเคลื่อนไหวของตำรวจ เสือฝ้ายมีอาวุธดี ๆ ทันสมัย เพราะได้ร่วมในขบวนการเสรีไทยเมื่อครั้งสงคราม อาวุธพวกนั้นยังคงตกอยู่ในมือของพวกเสือฝ้ายมากมายเมื่อสงครามเลิก "
แล้วเสือฝ้ายยอมรับลื้อเป็นลูกหรือเปล่า ผู้การซักด้วยความสนใจ
เสือฝ้ายถูกลูกน้องคนหนึ่งหักหลังในการเข้าปล้นที่บ้านกระทิง อำเภออู่ทอง สมุนคนนั้นจ้องจะยิงเสือฝ้ายข้างหลังตอนกำลังคุมคนเข้าปล้นที่นั่น ผมตามไปข้างหลังเห็นเข้า ผมก็ยิงไอ้คนนั้นตาย เพราะนโยบายของเราไม่ต้องการฆ่าใช่ไหมครับผม เราต้องการเสือฝ้ายเป็น ๆ นั่นเป็นจุดประสงค์ของกรม และผู้การก็ได้สั่งการว่าอย่างนั้น เมื่อเรียกผมไปรับทราบนโยบาย
เออ ใช่ ผู้การพยักหน้า
ตั้งแต่นั้น เสือฝ้ายก็ประกาศยกกระผมเป็นลูกแท้ ๆ ให้พรรคพวกรับรู้ว่า ผมเป็นลูกคนเดียวที่จะสืบอำนาจต่อ และให้สมุนทั้งหลายนับถือกระผมเป็นนายคนที่สอง ผมได้สนิทกับเสือฝ้ายขนาดไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ห่าง และเสือฝ้ายก็รักผมเหมือนลูกในไส้จริง ๆ จนกระผมชักละอายใจที่จะต้องทำลายเสือฝ้ายผู้รักผมเหมือนลูกแท้ ๆ
ผู้การกระแอมขึ้นถี่ ๆ
แต่คำสั่งก็ย่อมเป็นคำสั่ง ทวนพูด มองตาผู้การ นโยบายของทางการผมก็ต้องเคารพ ผมจะต้องดำเนินการตามคำสั่งต่อไปจนกว่าจะบรรลุตามความมุ่งหมาย ผมหาโอกาสที่จะจับตัวเสือฝ้ายเป็น ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่โอกาสยังไม่อำนวยให้ ผมได้ติดตามเสือฝ้ายไปในการเข้าปล้นอีกหลายตำบล และค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจยิ่ง ๆ ขึ้น ผมมารู้แน่ชัดว่า เสือฝ้ายรักผมยิ่งกว่าสิ่งใดจริง ๆ เอาเมื่อตอนที่ผมไปถูกกำนันบ้านหนองตากลับจับได้ เมื่อตอนที่เสือฝ้ายให้ผมคุมคนเข้าปล้นบ้านเศรษฐีสงครามคนหนึ่งที่ตำบลใกล้บ้านหนองงตากลับ ผมถูกกำนันที่นั่นหักหลัง ทำเป็นร่วมมือกับผมตามคำสั่งเสือฝ้าย แล้วมันไปบอกตำรวจเข้าตลบหลังพวกผมขณะทำงาน ผมต้องพาพวกหนีจากการถูกล้อม จนพวกถูกยิงตายไปหมด เหลือแต่ผม กำนันมันจับผมไปมัดไว้ที่บ้านหนองตากลับ
ทวนหยุดระบายลมหายใจ เมื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ก่อนที่จะพูดต่อ
มันกะจะเอาผมไปยิงทิ้ง ถ้ากระสุนมือผมไม่หมด มันกับผมคงจะได้สู้กันอีกนาน เพราะคนของมันก็ถูกยิงตายหมดเหมือนกัน เหลือแต่มันกับผมตัวต่อตัว มันมีปืนที่มีกระสุน แต่ผมไม่มี
ทำไมกำนันจึงไม่ยิงเราเสียตอนที่สู้กันแล้วเราหมดท่านั่น ผู้การซักขัดขึ้นมา
ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมคิดว่ากระสุนของมันก็คงจะหมดเหมือนกัน ผมถูกมันตีด้วยพานท้ายปืนสลบไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ถูกมัดอยู่กลางแดดกลางลานบ้าน กำนันมันมัดผมในท่าทรมานติดกับเสาต้นนั้น
ทวนหยุดพูด ขบกรามเมื่อเล่าถึงตอนนี้ เขาสงบสติอารมณ์ลงได้ พูดต่อ
ผมถูกมัดตากแดดอยู่อย่างนั้นจนพับไปอีก มารู้สึกตัวเมื่อมีตำรวจหมู่หนึ่งเข้ามาที่หมู่บ้าน นายตำรวจชั้นร้อยตำรวจเอกที่คุมกำลังมา สั่งให้กำนันแก้มัดผม เอาตัวขึ้นไปใส่กุญแจมือติดลูกกรงบ้าน ไอ้กำนันมันพยายามที่จะยิงผมอีก นายตำรวจคนนั้นมาถึงพอดี ช่วยผมไว้ได้อีก แล้วดึงเอาตัวกำนันไปไล่ติดตามเสือฝ้ายต่อไป ที่บ้านหนองตากลับเพิ่งจะถูกปล้นไปใหม่ ๆ ชาวบ้านถูกฆ่าตายไปหลายคน พวกโจรขนเอาทรัพย์สินข้าวของของชาวบ้านไปมากมาย แทบหมดตัวไปทุกบ้าน โจรที่ปล้นพวกนั้นอ้างชื่อเสือฝ้ายตอนเข้าปล้น แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นสมุนโจรเก่าของเสือฝ้ายที่ทรยศกับเสือฝ้ายคนหนึ่ง เข้าปล้นแล้วตะโกนชื่อเสือฝ้ายขณะทำการ ผมรู้เพราะผมทราบว่าขณะนั้นเสือฝ้ายไม่ได้อยู่แถวนั้น เมื่อใช้ผมเข้าปล้นที่ใกล้ ๆ นั้น เสือฝ้ายก็จากไปขึ้นบ้านกอไผ่ เสือฝ้ายได้ข่าวเรื่องที่ผมเสียทีครั้งนั้นระหว่างทางก็ย้อนกลับมาอีก กลางทางคงจะสวนทางกับร้อยตำรวจเอกและกำนันที่พากันติดตามไป จึงเกิดการต่อสู้กัน ฝ่ายตำรวจเสียทีเสือฝ้ายโดนจับกลับมาที่บ้านหนองตากลับ เสือฝ้ายมาพบผมถูกจองจำอยู่ที่นั่น ช่วยเอาผมออกมา แล้วยิงกำนันทิ้งต่อหน้าผมบนบ้านนั้นเมื่อรู้ว่ากำนันทำยังไงกับผม "
ผู้การพยักหน้ารับฟังด้วยความตั้งใจ ถามขึ้น
แล้วทำไมเสือฝ้ายจึงปล่อยตัวนายตำรวจไป
ผมขอเสือฝ้ายไว้เองครับผม ทวนตอบ ให้เหตุผลว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ผู้กองคนนั้นได้ช่วยผมไว้จากมือกำนัน แต่ผู้กองคนนั้นแกยังอาฆาตเสือฝ้ายอยู่ ตอนที่จะปล่อยออกไป แกย้ำคำกับเสือฝ้ายว่าแกจะติดตามเสือฝ้ายให้ได้ ผมเกือบจะทัดทานไว้ไม่อยู่
ผู้การหัวเราะหึ ๆ
อีตาเผชิญคนนี้แกเป็นคนยังงั้นเอง ไม่ยอมใครง่าย ๆ แล้วเขารู้จักลื้อมั้ยว่าเป็นใคร
ไม่รู้ครับผม เขารุ่นเด็กกว่าผม ไม่ได้พบกันในโรงเรียน แล้วผมก็ไม่ได้ทำงานในเมือง ชีวิตราชการของผมอยู่แต่ในป่า ท่านก็ทราบอยู่แล้ว
ลื้อมันเหมาะกับงานอย่างนั้นเสียด้วย ผู้การพูดหัวเราะเบา ๆ คนอย่างลื้อหายากในกรมตำรวจ และงานของลื้อต่อไปก็ไม่เหมาะที่จะให้คนอื่นทำ เพราะลื้อจะต้องเอาตัวเสือฝ้ายมาให้ได้เป็น ๆ ตามความมุ่งหมายของผู้ใหญ่ คนอื่นจะทำงานนี้ยาก
ขอบคุณครับ ผู้การ ทวนเน้นเสียง
ผู้การเอื้อมมือมาตบไหล่เบา ๆ
เสียงลื้อมันแดกดันอั๊วนี่หว่า ทนอีกหน่อย งานนี้สำเร็จ ลื้อก็จะได้พักผ่อนระยะยาว ว่าแต่ตอนนี้ลื้อหลบเสือฝ้ายออกมาได้ยังไง หายออกมาย่างนี้จะไม่มีใครสงสัยหรือ
คงจะไม่มีหรอกครับ เพราะผมมีเหตุผลที่จะเดินทางออกมา
เอาละ เรื่องของลื้อ อั๊วไม่ซักเหตุผล ผู้การยื่นมือออกมาข้างหน้า ขอให้ลื้อโขคดี และอั๊วหวังว่าลื้อคงจะทำงานชิ้นนี้สำเร็จ ต้องการอะไรก็เบิกเอากับหน่วยพลา ฯ เขา
ทวนยื่นมือพร้อมกับโค้งศีรษะเมื่อมือข้างนั้นถูกบีบเขย่าแรง ๆ
อ้อ อั๊วลืมไปอีกอย่าง ผู้การพูด พยายามหลีกเลี่ยงผู้กองเผชิญเขาหน่อย อย่าให้มีการประจันหน้ากัน แล้วก็คอยดูแลช่วยเหลือเขาด้วยเท่าที่จะทำได้
ผมได้ปฏิบัติแล้วครับเรื่องนี้ ทวนน้อมศีรษะพูด แต่เรื่องที่เขานำกำลังติดตามไปถึงบ้านกอไผ่ครั้งนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องนอกเหนือเกินความสามารถของผมที่จะป้องกันและช่วยเหลือก็อาจจะเป็นได้ แต่ผมก็จะพยายาม
ผู้การพยักหน้าน้อย ๆ อย่างเข้าใจ
แล้วนี่ลื้อจะออกจากที่นี่เมื่อไร
พรุ่งนี้เช้าครับ คืนนี้ ผมจะขอพักที่นี่สักคืนหนึ่งก่อน
เออ ตามสบาย พรุ่งนี้เช้าตอนออกไปไม่ต้องรายงานอั๊วก็ได้ ข้าวของที่จะเบิกไปก็พูดกับฝ่ายพลา ฯ เขาก็แล้วกัน อั๊วจะสั่งการไว้ให้
ขอบคุณครับ แต่ผมไม่มีอะไรที่จะต้องเบิกอีกแล้ว ครับผม
เอาละ ไม่มีอะไรอีก อั๊วจะไปประชุมพวกนั้นมัน ผู้การพูดกลั้วหัวเราะ แล้วอย่าไปหลงเอาเสือฝ้ายเป็นพ่อจริง ๆ ก็แล้วกัน ผู้การเปิดประตูห้องออกไป
ครู่ใหญ่ ประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออกอีก ชายหนุ่มที่ทวนพบในห้องเมื่อมาถึงเป็นคนเปิดเข้ามา เขาเดินไปที่ตู้ข้างฝา เปิดตู้ออก หันมาทางทวน
เฮ้ย มาช่วยกันขนที่นอนออกมาซีวะ ผู้การท่านสั่งอั๊วไว้ให้เป็นคนดูแลลื้อ คืนนี้นอนด้วยกันในห้องนี้แหละวะ ว่าแต่ตอนกินข้าวจะลงไปกินกันที่ห้องอาหารมั้ยล่ะ
ทวนเดินเข้าไปช่วยขนที่นอนหมอนมุ้งออกมาจากตู้ข้างฝานั้น
ข้าเห็นจะไม่ลงไปละ เอ็งให้ไอ้เณรคนไหนมันหามาให้ข้าด้วยก็แล้วกัน ข้าจะอยู่ในห้องนี้แหละ เดี๋ยวจะอาบน้ำอาบท่าเสียหน่อย นอนพักสักครู่ พรุ่งนี้เช้าข้าก็จะไปต่อแล้ว
หายไปหลายเดือน กลับมาเอ็งก็มาทำตัวเป็นนายข้าทีเดียว ไอ้เทพ นายตำรวจหนุ่มบ่น นี่ถ้าผู้การไม่สั่งให้ข้าดูแลเอ็ง ข้าก็ไม่ยอมเป็นขี้ข้าเอ็งหรอก
ทวนตบไหล่เพื่อน
ไอ้ท้ง อีกหน่อยข้าจะขอให้ผู้กองส่งเอ็งไปทำงานกับข้าอีกคน ทีนี้เอ็งก็จะรู้สึก
กูชื่อยอดเยี่ยม ท้งน่ะชื่อพ่อกู นายตำรวจหนุ่มหันมาตวาด ชื่อพ่อมึงกูดันไม่รู้เสียด้วย มึงไม่เผลอบอกกูมั่งก็แล้วไป
ไอ้ท้งเยี่ยมยอด วันนี้มึงต้องอยู่กินข้าวเย็นกับกูในห้องนี้ เป็นเพื่อนกู เอ็งคงไม่ปล่อยให้กูกินข้าวคนเดียวหรอกนะ ไอ้เพื่อนยาก
เข้าใจประจบ หายไปนาน กลับมาประจบคนเก่งขึ้นเหมือนหมา กินข้าวกับมึงสองคนมันจะออกรสยังไง
งั้นเดี๋ยวกูให้ผู้การสั่ง
ไอ้เวร ผู้ถูกบังคับพูดออกมาคำเดียว
Create Date : 02 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 1:58:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 740 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|