|
จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 5 ตอนที่ 2)
ผมสรวลเสเฮอากับไอ้พวกนั้นอยู่จนร่วมสามทุ่ม กับแกล้มเข้าไปล้นกระเพาะจนไม่ต้องนึกถึงอาการเย็นอีก ลืมไอ้ทองไปเสียสนิท มานึกถึงมันได้เอาตอนที่ผมจะกลับ ลุกขึ้นเหลียวหลังจะให้บ๋อยจัดข้าวไปให้ไอ้ทองที่รถ ก็หันไปเห็นไอ้ทองนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งปากทางเข้า มันกำลังโจ้ข้าวอยู่คนเดียวอย่างเอร็ดอร่อย ผมเดินเข้าไปหามัน
อย่ามาเตะกันที่นี่นะ หมวด มันชิงพูดออกมาเสียก่อน ปล่อยให้หิวอยู่ได้คนเดียว ต้องขึ้นมาหากินเอง ผมหิวตายไปจะว่ายังไง
มึงขิ้นมาได้ยังไง ผมยืนถามมันใกล้ ๆ เขาห้ามคนรถขึ้นมาบนนี้
ผมไม่ใช่คนรถ มันตอบไปกินไปด้วย ผมสิบตำรวจโททองครับ
มึงต้องไปกะล่อนกับยามบนนี้ เขาถึงปล่อยให้มึงขึ้นมาสั่งอาหารกินบนนี้ได้ มึงบอกเขาว่ามึงเป็นอะไร
ก็บอกเขาว่าผมมากับหมวด มันตอบ สายตาระแวงระไวดูอวัยวะเบื้องล่างของผม
กูจะกลับ มึงจะแดกอยู่อย่างนี้ก็ตามใจมึง
เร่งคนกินข้าวบาปนะหมวด มันพูด ข้าวยังเต็มปาก ให้อิ่มเสียหน่อยค่อยไปก็ได้ เร่งร้อนอะไรนักนะ ยังไม่ทันดึกดี เสี่ยตั้งเขาออกไปแล้วเมื่อกี้นี้
ผมเดินลงมาข้างล่าง ไม่ได้หันไปมองไอ้ทอง ยามหน้าประตูทางขึ้นเดินมาพอดี ผมเข้าไปถาม ชี้มือมาที่ไอ้ทองซึ่งรีบทิ้งชามโดดตามลงมา
ไอ้คนนั้น ให้มันขึ้นไปกินข้าวข้างบนได้ยังไง
เขาบอกผมว่าเขาเป็นเพื่อนกับนายครับ ยามตะเบ๊ะตอบ
ผมหันกลับไปทางไอ้ทอง มันเผ่นขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ผมปรี่เข้าไปหามัน มันเบี่ยงหลบเอามือทั้งสองข้างยื่นออกมากัน
อย่านะหมวด เตะที่นี่อายเขามั่ง เดี๋ยวไปถึงที่จะยื่นก้นให้เตะ ผมต้องยืนนิ่งมองดูมัน จะเตะมันตรงนั้นก็ไม่ถนัด รถจี๊ปข้างมันสูง ผมอ้อมไปขึ้นนั่งที่คนขับ ติดเครื่องถอยรถออกมาจากที่นั่น ตรงไปซิลเวอร์ สตาร์
ผมลงจากรถที่ตรงหน้าซิลเวอร์ สตาร์ ไอ้ทองก็โดดตามลงมาด้วย ผมปล่อยให้มันเดินตามเข้าไปข้างใน ที่นั่งตรงมุมเก่าของผมไม่มีใครเข้าไปนั่ง ทั้ง ๆ ที่คนค่อนข้างจะแน่น ใครคนหนึ่ง อาจจะเป็นแม่ต๊อยก็ได้ ที่จองที่ตรงนั้นไว้ไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง ผมเข้าไปนั่ง ไอ้ทองตามหลังมาติด ๆ ผมส่ายตาควานหาแม่ต๊อยในความสลัวของบรรยากาศในนั้น ไม่ต้องรอนาน หล่อนเดินเข้ามาหาเอง ไม่รู้ว่ามาจากมุมไหน นั่งแหมะลงข้าง ๆ ผมแล้วพูดว่า
วันนี้ พี่มีเพื่อนมาด้วยหรือคะ
หมามันตามเข้ามาเอง ไม่รู้มาจากไหน ผมตอบหล่อน
แม่ต๊อยหัวเราะชอบใจ หันไปมองไอ้ทองซึ่งนั่งห่างออกไปทางริมโค้งของเบาะที่นั่ง บ๋อยคนรู้จักกันยกถาดทั้งขวดเหล้าและโซดา น้ำแข็งพร้อมมาวางจัดที่จัดทางให้ แล้วลงมือผสมเหล้าตามเคย ผมบอกเขาไปว่า
เอาน้ำข้าวมาให้ที่นึงด้วย
บ๋อยกำลังจะผสมเหล้าแก้วที่สองชะงักมือ มองดูผม
เอาอะไรที่นึงนะครับ
น้ำข้าวใส่ชามมาที่นึง ผมย้ำ
น้ำข้าว บ๋อยทวนคำ แล้วเกาหัว เอามาทำไมครับ มีไม่มีก็ไม่รู้
เอามาให้หมามัน นั่งอยู่นั่น ผมชี้ไปที่ไอ้ทอง
แม่ต๊อยหัวเราะชอบใจ
โธ่ หมวด ไอ้ทองคราง จะให้นั่งหง่าวอยู่คนเดียวอีกแล้ว ไม่สงสารไอ้ทองหรือไง
พี่ก้อ แมต๊อยตีแขนผมเบา ๆ แกล้งเขาทำไมน่ะ
นั่นนะซี แกล้งผมทำไมน่ะ ไอ้ทองเอามั่ง
ดูมันเอาก็แล้วกัน ไอ้นี่มันทะลึ่งขนาดไหน
เสียงวงดนตรีทำเพลงเรียกนักร้อง ตามสถานที่อย่างนี้ เขามีเพลงเตือนนักร้องประจำตัวแต่ละคน เมื่อถึงคิวที่คนไหนจะต้องขึ้นไปร้อง จะไปเที่ยวเรียกกันนั้นไม่ไหว ไม่รู้ว่าแม่ไปหมกอยู่กับแขกโต๊ะไหน ก็ต้องใช้เสียงเพลงเรียกเอาแต่ละคน เขารู้สัญญาณกัน แม่ต๊อยตบที่ตักผมเบา ๆ
ต๊อยต้องขึ้นไปร้องเพลงก่อนนะพี่ เดี๋ยวจะลงมาคุยด้วย
หล่อนขยับตัวหลีกไอ้ทองออกไป ผมมองดูว่ามันจะทะลึ่ง ถือโอกาสกินกำไรแม่ต๊อยด้วยการลูบที่ตรงไหนหรือเปล่า มันไม่ทำ มันนั่งสงบเสงี่ยมดี วางมือกุมไว้ที่ตักเรียบร้อย ขยับตัวให้แม่ต๊อยผ่านออกไปอย่างสุภาพ
บ๋อยคนเก่าเข้ามาที่โต๊ะ ในมือถือชามข้าวมาด้วยใบหนึ่ง เขาประคองชามข้าวใบนั้นมาวางไว้บนโต๊ะ ในชามนั้นมีน้ำข้าวข้น ๆ อยู่เกือบเต็มชาม วางเรียบร้อยแล้วเขาก็กลับออกไปยืนอยู่ห่าง ๆ มองดูไอ้ทองอยู่เงียบ ๆ ผมกลั้นหัวเราะ ไม่ให้ต้องปล่อยออกมาก๊ากใหญ่ แล้วพูดกับมัน
แดกเข้าไปก่อนให้หมด แล้วกูจะให้มึงกินเหล้ากะกู
ไอ้ทองคว้าชามข้าวนั้นมายกขึ้นจ่อปาก แล้วดื่มเอาดื่มเอา วางชามลงเป็นพัก ๆ แล้วมันก็กินจนหมดชามเกลี้ยง วางชามลงบนโต๊ะแล้วมองดูผม
หมดแล้ว ทีนี้เอาเหล้าได้หรือยังล่ะ
ผมต้องยอมมัน คุณดูเอาเองก็แล้วกันว่ามันร้ายแค่ไหน
ผมปล่อยให้มันนั่งอยู่ที่เก่าของมัน รินเหล้าเอาตามใจชอบ เสียทีมันเสียแล้ว ไม่นึกว่ามันจะยอมกินน้ำข้าวได้ง่าย ๆ ยังงั้น
แม่ต๊อยกำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่บนเวที ผู้คนตบมือกราวเมื่อเพลงจบลงแต่ละเพลง บ๋อยคนหนึ่งเดินเข้าไปหน้าเวที ส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้แม่ต๊อยแล้วเดินกลับไป เพลงจบลงอีกเพลง เสียงตบมือกราวอีก แม่ต๊อยขึ้นเพลงใหม่
จับปูดำ ขยำปูนา จับปูม้า คว้าปูทะเล...
ไอ้เพลงนี้ขึ้นอีกแล้ว หนีไม่พ้น ผมต้องลุกขึ้นไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ขอโทรศัพท์ ๑๒๓ ลงไป ก็อย่างเคย พอมีเสียงกริ๊งเดียวทางปลายสายก็ยกหูทันที และเสียงเก่าของเขา พันเอกเยี่ยมคนนั้นก็ดังเข้ามา
พรุ่งนี้แปดโมงเช้าพบผมหน่อย แล้วไม่ต้องไปยุ่งกับเสี่ยตั้งคืนนี้
แล้วก็มีเสียงวางหูดังกริ๊ก ไม่ทันได้ให้พูดอะไร
ผมวางหูแล้วหมุน ๑๒๓ ใหม่ อยากลองของดูอีกซักที
มันเงียบ ไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยินในกระบอกหูฟังเลย เหมือนไอ้หมายเลขนี้มันตายด้าน อีตาพันเอกเยี่ยมคนนี้ นอกจากจะขี้เล่นแล้วยังชักจะเดาใจผมออกทุกที เขารู้ได้อย่างไรว่าผมจะอยู่ที่ไหน เวลาไหน แล้วแม่ต๊อยคนนี้ก็ช่างเลือกร้อง ทีตอนผมแอบส่งใบขอเพลงนี้ไปวานนั้น ทำไมหล่อนไม่ยอมร้อง
ช่างขี้เล่นดีนัก เอาไว้ตาผมมั่ง ผมมันชอบลองของ คอยดู
ผมเรียกบ๋อยที่ผมเห็นเดินถือกระดาษขอเพลงไปส่งให้แม่ต๊อยเข้ามาหา แล้วถามเขาถึงคนที่เขียนกระดาษขอเพลง ให้เขาเอาไปส่งแม่ต๊อยนั้นว่านั่งอยู่ตรงไหน
ออกไปแล้วครับ บ๋อยคนนั้นตอบผม เขามานั่งอยู่ประเดี๋ยวเดียวก็เขียนกระดาษส่งให้ผมขอเพลงนั่น พอเพลงขึ้นเขาก็ชำระเงิน ไม่รอตังค์ทอน แล้วก็เดินออกไป
พันเอกเยี่ยมคนนี้ไม่เบาทีเดียวแหละ ลูกเล่นพราว
ผมกลับมานั่งที่โต๊ะ พอดีแม่ต๊อยจบเพลง หล่อนเดินทักทายแฟน ๆ ตามโต๊ะครู่ใหญ่ก็ตรงเข้ามาหาผม พอนั่งแปะหล่อนก็เริ่มเรื่อง
เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรหรือพี่ ต๊อยงงไปหมด ตำรวจเขาเข้าปลุกต๊อย แล้วถามอะไรไม่รู้ ต๊อยไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง
เขาถามว่าอะไรมั่งล่ะ ผมถามกลับ
เขาถามว่า นายตำรวจชื่อยอดทวน เป็นอะไรกับต๊อย ชื่อเต็ม ๆ ของพี่ ชื่อยอดทวน หรือจ๊ะ
ผมพยักหน้า
ต๊อยก็บอกเขาไปว่า ต๊อยรู้จักแต่คนชื่อยอด หล่อนคุยต่อ และรู้แต่ว่าเป็นตำรวจ ไม่ได้เป็นอะไรกับต๊อย เขาซักอีกว่า ไม่เป็นอะไรกัน แล้วทำไมต๊อยถึงยอมให้นอนกับต๊อย
แล้วต๊อยตอบเขาไปว่ายังไง ผมซัก เพราะถึงตอนนี้แม่ต๊อยหยุดเสียเฉย ๆ
ต๊อยก็บอกไปว่า พี่กลับบ้านไม่ได้ เมามาก เลยต้องปล่อยให้นอนอยู่ในห้องรับแขก
แล้วยังไง
เขาถามอีกว่า เมื่อคืนนี้ยินเสียงอะไรผิดปกติบ้างไหม ต๊อยก็บอกว่าไม่ได้ยินอะไร ต่างคนต่างหลับ ต๊อยอยู่ในห้องมิดชิดจะให้ไปได้ยินเสียงอะไร แล้วเขาก็เข้าไปตรวจถึงในห้องนอน ประเดี๋ยวเดียวเขาก็กลับออกไป ดีที่ต๊อยเก็บเงินเข้าตู้เสียก่อน ถ้าเขาเห็นเข้าคงจะยุ่ง
ผมไม่พูดอะไร กำลังคิด ปรายตามองไอ้ทอง มันยังนั่งนิ่ง ไม่รู้ไม่ชี้เหมือนมันอยู่คนเดียวไม่ได้เอาใจใส่ใคร มันยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มของมันเงียบ ๆ แต่ผมรู้ว่าหูมันฟัง
เมื่อคืนนี้เสียงอะไรตึงตังน่ะ พี่ ก่อนที่พี่จะไปนอนในห้อง แม่ต๊อยถามต่อ
ผมยิ้ม ปรายตามองดูหล่อน นิ่งอยู่
แล้วก็มีคนถูกฆ่าตายสองคนที่หน้าบ้าน ตอนต๊อยออกมาจากบ้านยังเห็นตำรวจเขาจับกลุ่มกันอยู่ แม่ต๊อยพูดต่อ ทำไมมันถึงมีเรื่องตอนที่พี่ไปอยู่ที่บ้านต๊อยทุกที
ผมยังไม่ทันตอบ เสียงไอ้ทองกระแอมดังขึ้นมาดัง ๆ ผมมองดูมัน มันพยักพเยิดไปทางบาร์ ผมมองไปทางนั้น เสี่ยตั้งกำลังเดินเข้ามา เขายืนพิงเคาน์เตอร์บาร์อยู่ครู่หนึ่ง กวาดสายตาไปรอบ ๆ สายตาของเขากวาดผ่านมาที่ผมนั่งอยู่ ผมเมินไปทางอื่นแต่หางตาผมชำเลืองไปที่เขา ในความมืดสลัว ๆ อย่างนั้น เขาจะเห็นผมหรือเปล่า ผมเดาไม่ออก ที่ที่เขายืนอยู่มีแสงไฟที่บาร์สาดอยู่สว่างกว่ามุมของผม
แม่ต๊อยหยุดพูด มองดูผม จับสายตาผมได้ก็หันไปมองตาม แล้วหล่อนก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ ผมเห็นหล่อนเดินผ่านไปทางบาร์ ผ่านหน้าเสี่ยตั้งไปเข้าห้องน้ำผู้หญิงซึ่งอยู่ติด ๆ กับห้องน้ำผู้ชาย แล้วเสี่ยตั้งก็ขยับตัวออกจากบาร์ หันกลับเดินไปเปิดประตูออกไป
ผมนั่งอยู่กับถ้วยวิสกี้อีกพักใหญ่ แม่ต๊อยก็กลับมาหาพอหย่อนก้นลงนั่ง หล่อนก็ขับแขนผมพูดว่า
คืนนี้ ต๊อยไปนอนกับเพื่อนมันนะ พี่ พี่ไม่ต้องไปอยู่เป็นเพื่อนต๊อยหรอก
ทำไมล่ะ ผมแกล้งถามไปยังงั้น
เกิดมีคนตายขึ้นมาอีกสองคน ต๊อยจะอยู่ได้ยังไง ศพเดียวก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว แล้วก้อ ... หล่อนปล่อยให้คำพูดขาดอยู่แค่นั้น นัยน์ตาจ้องจับผมนิ่ง
แล้วก็อะไรล่ะต๊อย ผมถาม
แม่ต๊อยทำท่าอึดอัดใจก่อนที่จะพูดเบา ๆ ออกมาว่า
แล้วก็ ... เดี๋ยวเกิดมีการตายขึ้นมาอีกล่ะ ถ้าพี่อยู่กับต๊อย
ผมหัวเราะ แม่ต๊อยเอื้อมมือทั้งสองข้างมาเกาะแขนผมบีบเบา ๆ
พี่อย่าโกรธต๊อยนะ ให้ต๊อยหายกลัวซักสอง สามวันก่อนนะพี่ ให้มันลืม ๆ เสียหน่อย ต๊อยกราบขอโทษพี่ด้วย
หล่อนก้มลงกราบที่ต้นแขนผมจริง ๆ ถ้าไม่ใช่ยอดทวน หัวใจคงจะละลายเป็นขี้ผึ้ง
ไม่เป็นไร ผมตบที่มือหล่อนเบา ๆ งั้นพี่ไม่ต้องรอต๊อย จะได้เลยไปที่อื่น
ค่ะ ตามใจพี่ โชคดีนะพี่ หล่อนบีบแขนผมเบา ๆ ปลอบใจ
ผมวางเงินไว้บนโต๊ะพอที่จะเป็นค่าเหล้า และอะไรต่ออะไรบนโต๊ะ และพอเป็นค่ารางวัลบ๋อย แล้วลุกขึ้น ไอ้ทองรีบลุกขึ้นเดินนำหน้าผมไปที่ประตู มันไปยืนรอผมที่หน้าประตูด้านใน พอผมเดินไปถึงตัวมัน มันก็กระซิบเบา ๆ
ระวังตัวหน่อยนะหมวด เดี๋ยวผมจะออกไปก่อน
มันเปิดประตูออกไป เหลียวซ้ายแลขวา แล้วพยักหน้าให้ผมก้าวตามมันออกไปได้
ถนนข้างนอกเงียบกริบ นาน ๆ จะมีรถผ่านไปมาสักคันหนึ่ง นาฬิกาที่ข้อมือผมบอกเวลาไกลสองยามเข้าไปแล้ว ผมก้าวขึ้นรถโดยไม่ลืมที่จะเลิกเบาะที่นั่งออกดูเสียก่อน ไอ้จี๊ปของผมนี่มันไม่มีอะไรจะคุ้มภัยได้ ผมสำรวจใต้ท้องรถก่อน
แล้วก็ตรวจตราที่เบาะ ไว้ใจอะไรได้เสียที่ไหน ไอ้ทองน่ะมันไม่คิดอะไร ออกมาก็ขึ้นนั่งบนที่นั่งข้าง ๆ ผมก่อนเสียด้วยซ้ำ
ผมขับรถเอื่อย ๆ มุ่งหน้าไปทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งใจจะขับไปเรื่อย ๆ ไปผ่านสนามม้าแล้วออกไปทางถนนเพชรยุรี ไปออกเพชรบุรีตัดใหม่ แถวนั้นมีที่ที่จะกินเหล้าและเต้นรำฟังเสียงเพลงอยู่หลายแห่ง ผู้หญิงที่จะคุยด้วยก็หลายประเภท คืนนี้แม่ต๊อยออกจะมีอะไรแปลก ๆ เกิดเปลี่ยนใจเอาเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่นัดหมายกับผมไว้มั่นคง และคาดคั้นให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนอยู่เมื่อคืนนี้เอง ผมคิดของผมอยู่เงียบ ๆ ว่าการมาปรากฏตัวของเสี่ยตั้งที่ซิลเวอร์ สตาร์คืนนี้ แล้วรีบกลับออกไป น่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนใจของแม่ต๊อยก็ได้ เอาไว้ดูกันทีหลัง
รถของผมมาถึงสะพานผ่านฟ้า ผมมองกระจกหลัง ไอ้รถเก๋งคันเล็กคนนี้ตามผมมาตั้งแต่เริ่มออกจากซิลเออร์ สตาร์ไม่เท่าไร ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นจากจุดไหน ไม่ทันได้สังเกตทีแรก มารู้สึกเอาตอนที่จะถึงผ่านฟ้านี่เอง แล้วมันก็เปิดไฟหรี่มาตลอด
Create Date : 09 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 3:12:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 593 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|