จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
30 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
สู่ลาว... ตอนที่ 2

สู่ลาว ... ราชอาณาจักรที่ไม่มีความแน่นอน ตอนที่ 2


เย็นวันนั้น มีการเลี้ยงต้อนรับกันนิดหน่อย พวกคนไทยที่คุ้นเคยกับพ่อประชาก็มาต้อนรับผม พันโท สุเทพ พงษ์เพชร มาก่อนเพื่อน ผมได้รู้จักเขาในวันนั้น สืบสาวราวเรื่องกันไปก็ปรากฏว่าเป็นคนไทย มีถิ่นฐานบ้านช่องอยู่แถว ๆ ตลาดน้อย บางรักนี่เอง ข้ามมาตั้งรกรากในลาว ได้เมียลาวตระกูลสูง เลยกลายเป็นคนลาวไปจริง ๆ สมัครเข้าเป็นทหารทางฝ่ายนายพลอ้วน ซึ่งนิยมคนไทยอยู่แล้ว เพราะท่านนายพลเคยอยู่เมืองไทยนานพอดู สมัยที่หนีฝรั่งเศสตอนเรียกร้องอิสรภาพ เมื่อลาวได้รับอิสรภาพแล้วก็กลับลาวอย่างผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในขบวนการกู้อิสรภาพ เป็นนักสู้ที่แท้จริงและคุมกำลังที่เป็นกลางมาโดยตลอด ไม่เข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสองเส้านั้น จึงเป็นที่นับถือของชาวลาวส่วนใหญ่

พันโท สุเทพ พงษ์เพชร จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับกองพันหนึ่งของนายพลอ้วน เป็นกองพันที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากไทย เพราะความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ตอนนั้นทางไทยให้การสนับสนุนกองกำลังของนายพลภูมีฝ่ายเดียว ตอนนี้ไม่ทราบว่าถูกจับไปสัมมนาด้วยหรือเปล่า เข้าใจว่าคงจะโดน เพราะเป็นคนที่ไม่หนีใคร หนีไม่เป็น ผมอยากได้ข่าวเขาเหมือนกัน

พันโท สุเพ เรียกผมว่า “พี่พุฒ” สนิทปากในทันทีที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกัน ผมได้เพื่อนกินเหล้าทุกเย็นตั้งแต่วันนั้น เขาเป็นคนกินเหล้าสนุกสนาน ไม่เมาชนิดรวนคน ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่มีอำนาจคนหนึ่งในลาว

นอกจากพันโท สุเทพ แล้ว ยังมีนายตำรวจลาวอีกกลุ่มใหญ่ ที่ได้ไปรับการอบรมมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่สามพราน พวกนายตำรวจจากสามพรานนี้มาเยี่ยมเยียนผมหลังจากวันที่เขาได้รับข่าวการมาถึงของผม หลาย ๆ คนให้ความสนิทสนมและเคารพผมในฐานะที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ผมอยู่ในลาวด้วยความอบอุ่นขากการต้อนรับของเพื่อน ๆเหล่านี้

ที่นั่น ผมมีเวลาเขียนเรื่องต่าง ๆ ส่งเข้าเมืองไทย หาเงินไปตามเรื่อง คุณมานิต ศรีสาคร ยังคงต้อนรับข้อเขียนของผมอยู่ เรื่องของพันเอก ชาติ นิยมไทย แห่งประเทศไทย ถือกำเนิดขึ้นที่เวียงจันนั่นเอง ส่วน นักสืบพราน นั้นเริ่มมาตั้งแต่ตอนปลาย ๆ เวลาที่อยู่ที่เจนีวา แล้วก็เลยมาต่อเอาที่นี่เหมือนกัน ผมได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่อยู่เวียงจันเป็นเวลาเขียนหนังสือออกสู่ตลาด คุณลมูล อติพยัคฆ์ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เปิดหน้ากระดาษของหนังสือในความควบคุมของเขาให้กับผม

เวลาว่าง ๆ ผมนั่งทอดกล้วยแขกขายก็ยังมี ทอดขายมันหน้าร้านสีมาลานั่นแหละครับ คนผ่านไปมาหยุดอุดหนุนกันไม่ขาดสาย ทอดขายนาน ๆ ไป คนที่รู้จักกันที่ทำงานอยู่กับอเมริกัน ที่มาตั้งหน่วยงานช่วยเหลืออยู่ที่นั่น รู้เข้าก็มาช่วยกันซื้ออีก ทีนี้ข่าวก็กระจายออกไปจนถึงเมืองไทย พันตำรวจเอกตกยากต้องนั่งทอดกล้วยแขกขาย นักหนังสือพิมพ์ข้ามฟากไปจากหนองคายเพื่อไปถ่ายรูปทำข่าว ผมก็เลยต้องเลิกก่อนที่จะเป็นข่าว

ถ้ามีรูปถ่ายกำลังทอดกล้วยแขกลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ มันก็ออกจะน่าเอ็นดูไปหน่อย

ผมรวบรวมสตางค์ที่ยังพอมีเหลืออยู่ซื้อรถได้คันหนึ่ง เป็นรถเฟียต ๑๓๐๐ ซึ่งเดี๋ยวนี้เขาไม่สร้างแล้ว เป็นรถเล็กที่กำลังพอดี ราคาเพียงพันกว่าเหรียญอเมริกัน ถูกอย่างนี้หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ก็ได้รถคันนั้นไปไหนมาไหนค่อยสะดวกขึ้น ที่นั่นน้ำมันถูก อะไร ๆ ก็ถูกไปหมด เพราะรัฐบาลลาวเก็บภาษีต่ำมาก เพียงเจ็ดเปอร์เซ็นต์

คนไทยทางฝั่งหนองคายข้ามฟากไปซื้อเหล้าซื้อของกันเป็นว่าเล่น บางรายตั้งบริษัททัศนาจรลาวขึ้น ขนนักท่องเที่ยวไทยไปลาว ให้ไปฟรี ๆ ด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ขากลับข้ามเข้าฝั่งไทย จะต้องซื้อวิสกี้ตราขาวติดมือมาคนละ 2 ขวด แถมยังออกค่าซื้อวิสกี้ให้ด้วย สมัยนั้นเงินกีบกำลังตกต่ำ ร้อยกีบเท่ากับ 4 บาทเท่านั้น วิสกี้ตราขาวขวดหนึ่งก็ตกเพียง 60 บาท ข้ามมาฝั่งไทยขวดละ 120 บาท กำไรเท่าตัว รถคันหนึ่งบรรทุกคนโดยสารได้ 60 คน คิดเอาเองก็แล้วกันว่า เที่ยวหนึ่ง ๆ มีกำไรเท่าไร นอกจากเหล้าแล้วยังมีสินค้าอื่น ๆ ติดมือมาขายได้อีก สินค้าจากจีนราคาถูก ๆ ซึ่งผ่านมาจากฮ่องกงมีให้เลือกเยอะแยะ

การข้ามฝากไปลาวก็ง่ายมาก เพียงแต่มีใบผ่านแดนออกให้ทางเมืองไทย โดยหน่วยตรวจคนเข้าเมืองของไทยก็ใช้ได้แล้ว ลาวกับไทยเสมือนบ้านพี่บ้านน้องกันจริง ๆ สมัยนั้น คนลาวคนไทยที่อยู่ตามชายแดนของแต่ละฟาก ต่างก็ข้ามไปข้ามมากันสะดวก บางครั้งในยามหน้าแล้ง ไม่ต้องใช้เรือ เดินข้ามเอาเฉย ๆ ก็ยังได้

ผมมักจะใช้เวลาว่างขับรถคู่ใจคันนั้นชวนพรรคพวกไปนั่งเล่นที่ท่าเดื่อ ซึ่งเป็นท่าริมแม่น้ำโขงทางฝั่งลาว ไปนั่งกินเหล้าที่ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงที่ท่าเดื่อนั้น แล้วก็มองดูฝั่งไทยซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 4-500 เมตรนั้น แก้เหงา




Create Date : 30 มิถุนายน 2554
Last Update : 30 มิถุนายน 2554 4:25:20 น. 3 comments
Counter : 1420 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:21:31:23 น.  

 

ขอบคุณด้วยค่ะ
อยากอ่านต่อมั่ง



โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 3 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:42:02 น.  

 
เข้ามาอ่านต่อ และจะติดตามต่อไปครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:8:50:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.