ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 33)
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 33
ทวน ทองรุ่ง เร่งฝีเท้าม้าควบตะบึงฝ่าความมืดมุ่งไปข้างหน้า ม้าพาเขาเข้ามาถึงชายเขตหมู่บ้านชั่วเวลาลัดนิ้วมือ แสงไฟวอมแวมอยู่ตามบ้านต่าง ๆ ที่เรียงรายอยู่ตามทางที่เขาฝ่าเข้าไป ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาเรียงรายมีอาวุธอยู่ในมือ ที่กำลังวิ่งถืออาวุธไปยังลานบ้านก็มีเป็นกลุ่ม
เสือฝ้ายยืนเด่นอยู่กลางลาน ในมือมีพาลาเบลั่มกระบอกยาวถืออยู่ในท่าเตรียมพร้อม ม้าตัวหนึ่งผูกอยู่กับเสากลางลาน ชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ เสือ ทวนผูกม้าเข้ากับเสาอีกต้นข้าง ๆ
เฮ้ย ไอ้ทวนนี่หว่า เสียงเสือฝ้ายตะโกนออกมา
พ่อ ทวนตะโกนเรียก พลางวิ่งเข้าไปหา ตำรวจยกกำลังมาหาเรา ตามหลังฉันมานี่
พ่อรู้แล้ว ไอ้มามันมาส่งข่าวเมื่อกี้นี้ เสือยืนจังก้าพูด
พลพรรคกรูกันออกมาจากบ้านหลาย ๆ หลังนั้นทั่วทุกทิศ พักเดียวก็มารวมกลุ่มกันที่กลางลาน อาวุธครบมือ จำนวนเพิ่มขึ้นหนาแน่นเต็มลาน รอฟังคำสั่งเสือ
ข้าต้องการยี่สิบคน ทวนประกาศก้อง ตามข้ามา
เอ็งจะไปไหน เสือฉุดแขนทวนขณะที่กำลังจะหันออกวิ่ง
ฉันจะไปยันมันไว้ก่อนที่ชายบ้าน ทวนขยับปืนในมือพูด พ่อคอยเตรียมกำลังไว้หนุนฉันเมื่อเราพร้อมก็จะได้ออกไล่มัน เราจะตั้งรับอยู่ในบ้านไม่ได้
เสือปล่อยมือ
ทวนโบกมือเรียกพรรคพวกที่ผละจากกลุ่มมาหาเขา นำกลุ่มออกวิ่งไปชายบ้าน วิ่งลัดเลาะผ่านบ้านต่าง ๆ ซึ่งบัดนี้มีชายฉกรรจ์อีกจำนวนมากกำลังโจนลงมาสมทบพร้อมอาวุธในมือ เขานำหน้าวิ่งมาถึงชายบ้าน วิ่งผ่านหมู่ไม้ออกไปกลางทุ่ง ขยายแถวออกไปตามแนวคันนาห่างจากชายไม้ออกไป โบกมือให้พลพรรคล้มตัวลงใช้คันนาเป็นที่กำบัง ก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงมุมคันนาพาดปืนบนคันนาคอยจังหวะ
เสียงฝีเท้าม้าควบกระทบดินดังมาแต่ไกล เสียงนั้นใกล้เข้ามาทุกที
เตรียมยิง ทวนร้องสั่ง ฟังเสียงปืนจากข้าก่อน
เสียงฝีเท้าม้าดังอึกทึกใกล้เข้ามาตรงหน้า แล้วเงาตะคุ่มของแถวม้าที่มีเงาคนอยู่บนหลังก็ปรากฏให้เห็นในระยะไกล เงาตะคุ่มนั้นใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ปืนในมือทวนลั่นกระสุนออกไป เสียงปืนอีกหลายกระบอกก็ดังสนั่นตามมา ประกายไฟแลบเป็นแถวจากกระบอกปืนที่เรียงรายอยู่ตามคันนานั้น
ขบวนม้าชะงัก ยกขาหน้าผกโผน เมื่อผู้อยู่บนหลังดึงม้าชะงักด้วยความไม่รู้ตัว ขาม้าตะกุยอากาศ ร่างของคนบนหลังม้าทิ้งตัวลงบนพื้นดิน ฝูงม้าที่ขาดคนบังคับต่างเผ่นโผนไปทั่วทิศทาง บางตัวเผ่นกระโจนวิ่งมาข้างหน้า โดนกระสุนล้มฮวบลงดิ้น บางตัวที่เผ่นกลับหลังก็ปะทะเอาตัวที่กำลังเผ่นมาข้างหน้า คนที่อยู่บนหลังม้าล้มลงบนพื้นดินเกะกะ ก่อนที่จะตั้งตัววิ่งเข้าหาที่กำบังชุลมุน
เสียงปืนดังถี่ยิบไปทั่วท้องทุ่ง แสงไฟแลบจากปากกระบอกปืนวอม แวมตามเสียงจากปากลำกล้อง ตำรวจสองสามคนโดนกระสุนล้มลงนอนครวญครางอยู่บนพื้นดิน หมู่ม้าก็ยังเพ่นพ่านหาที่ไปไม่ได้ เกะกะทางยิงของฝ่ายตำรวจอยู่
ร้อยตำรวจเอกเผชิญตะโกนก้องออกมาอย่างหัวเสีย
บุกไปข้างหน้า
เขาขยับตัวจะเผ่นขึ้นยืน มือที่แข็งแกร่งมือหนึ่งกระชากเขากลับฟุบกับคันนา ในขณะที่กระสุนหลายนัดแหวกอากาศข้ามหัวเขาไป เขาหันไปมองเจ้าของมือนั้น ในเงาตะคุ่ม ๆ เขาพอจะจำได้ว่าเป็นหมู่เทียบของเขา
ผู้กอง สั่งหยุดยิงก่อน รอฟังเสียงข้างมัน
หยุดทำไม ผู้กองหนุ่มคำรามออกมา หมอบอยู่ยังงี้เมื่อไหร่จะรู้เรื่อง ยิงนำหน้าเข้าไป
ที่หมายอยู่ตรงไหน เสียงผู้หมู่ของเขาชักจะดุ ๆ ยิงไม่เห็นที่หมาย กระสุนหมดลงไปจะทำยังไง ไอ้ฝ่ายโน้นมันบ้านเขา เขาไม่มีขาดกระสุนนะ ผู้กอง
ผู้กองขบฟันคิดนิ่ง สะบัดหัว ร้องตะโกน
เฮ้ย หยุดยิง
เสียงปืนในแนวตำรวจนิ่งทันที
เสียงปืนทางด้านหมู่บ้านยังดังเป็นพัก ๆ ครู่เดียวก็เงียบสงบเหมือนกัน ทั่วท้องทุ่งที่เสียงปืนดังสนั่นอยู่เมื่อครู่นี้ บัดนี้เงียบสนิท
ค่อย ๆ คืบคลานเข้าไป ผู้กองครับ หมู่เทียบกระซิบเบา ๆ กับผู้กองของเขา เลาะแนวคันนาเข้าไป มืดยังงี้ มันมองไม่เห็นหรอก
เขาหันไปโบกมือกับคนในแถวข้างหลัง ค่อย ๆ คืบคลานช้า ๆ ไปตามแนวคันนาที่ทอดยาวออกไปข้างหน้า ร้อยตำรวจเอกเผชิญใช้ข้อศอกยันพื้นดิน คืบขยับอกไถพื้นคันนาตามผู้หมู่ที่คืบคลานอย่างชำนาญไปข้างหน้า ตำรวจคนหนึ่งชะโงกตัวข้ามคันนาตรงหน้าขึ้นไป
เสียงกระสุนนัดหนึ่งแหวกอากาศมาดังสนั่น ร่างของตำรวจคนนั้นฟุบคว่ำอยู่บนคันนานั่นเอง
นายตำรวจหนุ่มคำรามออกมาอย่างฉุนเฉียว เขาเผ่นลุกขึ้นยืนเต็มตัว ในมือถือปืนประทับแน่นกับไหล่ขวา วิ่งลั่นกระสุนไปยังเงาตะคุ่มของหัวคนที่ตัดกับคันนาข้างหน้า
ผู้กอง หมู่เทียบร้องออกมาคำเดียวก็เห็นผู้กองของเขาล้มฟุบอยู่ตรงนั้น ดิ้นเร่า ๆ สะบัดขา
ทวน ทองรุ่ง เป็นผู้ลั่นกระสุนนัดนั้นก่อนที่พรรคพวกคนอื่นของเขาจะลั่นกระสุนใส่เป้าอันชัดเจนนั้น จากแนวที่เขาหมอบอยู่ไม่ไกลจากขบวนแถวของตำรวจเท่าใดนั้นนัก เขาเห็นภาพนั้นชัด เขาเล็งไปที่ส่วนล่างของเป้านั้น ลั่นไกด้วยความแม่นยำ กระสุนนัดนั้นวิ่งตัดเข้าที่โคนขาของนายตำรวจหนุ่ม ล้มลงพ้นทางกระสุน
หมู่เทียบคืบคลานเข้ามาหาร่างของผู้บังคับบัญชาของเขาที่กำลังสะบัดขาเร่า ๆ อยู่นั้นอย่างรวดเร็ว
เป็นยังไงครับ ผู้กอง เขาจับขาข้างที่สะบัดเร่า ๆ นั้นถาม
ไม่เป็นไร ผู้กองหนุ่มหยุดสะบัดขา กัดฟันสู้ความเจ็บปวด เขาชันร่างพยายามที่จะคืบตัวต่อไป แต่ความเจ็บปวดที่ขานั้นร้าวขึ้นมาอีก จนเขาต้องทรุดตัวลงครางหมอบนิ่ง
หมู่เทียบพยายามที่จะเพ่งมองหาจุดที่นำความเจ็บปวดมาให้ผู้บังคับบัญชาของเขา แต่ความมืดสนิทนั้นไม่ช่วยอะไรเขาได้ เขาพยายามที่จะลากร่างของผู้กองของเขากลับเข้าที่กำบังแนวคันนา แต่กำลังของเขาสู้น้ำหนักของร่างนายตำรวจหนุ่มไม่ได้ เขาหันไปออกคำสั่ง บุกไปข้างหน้า สิ้นคำสั่ง เขาทะยานตัวขึ้น พร้อมอาวุธในมือจังก้า กระหน่ำยิงไปยังที่หมายแนวคันนา พลพรรคตำรวจเบื้องหลังดาหน้ากันตามติด ๆ มา ขยายแถวเต็มท้องทุ่ง เสียงปืนแสงไฟที่ปากลำกล้องดังสนั่นไปทั่วท้องทุ่ง ทวน ทองรุ่ง สั่งขบวนโจนลั่นกระสุนไม่นับ เขาแน่ใจว่า ผู้กองหนุ่มคนนั้นจะลุกขึ้นมาบุกร่วมในขบวนนั้นไม่อีกแล้ว แถวแนวตำรวจบุกใกล้เข้ามาทุกที ทั้ง ๆ ที่บางคนถูกกระสุนล้มลง แถวแนวนั้นก็คืบหน้าเข้ามารวดเร็ว ทวน ทองรุ่ง พะวักพะวงอยู่ ปืนในมือของเขาลั่นกระสุนถี่ยิบ แม้ว่าจะอยู่ในที่ที่ได้เปรียบ แต่แถวแนวกำลังฝ่ายตำรวจนั้นดาหน้ากันเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย ทำความพะวักพะวงให้เขามากขึ้น แต่ในขณะนั้นเอง เสียงปืนดังถี่ยิบขึ้นมาทางเบื้องหลังแนวที่เขาหมอบอยู่ มันผ่านหัวเขาไปเป็นแนวกว้าง สู้มัน ไอ้ลูกข้า เสียงนั้น ทวนจำได้ว่าเป็นของเสือฝ้าย พ่อมาแล้ว เสียงปืนที่ดังถี่ยิบนั้นสนั่นกว่าทางฝ่ายตำรวจ ร่างของฝ่ายผู้รักษากฎหมายร่วงลงไปเป็นใบไม้ร่วง แนวแถวชักรวนเร กระจัดกระจาย ว้าวุ่น เพราะกำลังฝ่ายโจรนั้นหนาแน่นกว่ามาก หมู่เทียบถูกกระสุนฝ่ายโจรเข้าที่สำคัญ เขาล้มลงตรงจุดนั้น ร่างของเขาคร่อมทับร่างของนายตำรวจหนุ่มอยู่ แม้จะได้รับบาดเจ็บขั้นสาหัสจวนจะสิ้นแรง ร่างของเขาก็ยังคร่อมร่างของผู้บังคับบัญชาของเขาไว้ ปกป้องไม่ให้ได้รับอันตรายหนักไปกว่านี้อีก แล้วเขาก็สิ้นสติฟุบหน้านิ่ง ทับอยู่บนร่างของร้อยตำรวจเอกเผชิญ ไอ้เสือบุก เสียงสั่งการของเสือฝ้ายดังลั่นทุ่ง แถวแนวกำลังฝ่ายเสือขยายเป็นปีกกา โอบล้อมเข้าหาแนวตำรวจ ซึ่งบัดนี้กำลังกระจัดกระจายไม่เป็นขบวน หลายคนล้มกลิ้งด้วยฤทธิ์กระสุนปืนฝ่ายเสือ แนวหลังฝ่ายตำรวจที่หนุนขึ้นมาเริ่มเรรวน ในที่สุดก็ต้องขึ้นหลังม้าประจำตัวควบกลับหลัง แตกหนีไป เหลือแต่แนวหน้าที่เผชิญหน้าฝ่ายเสือที่ต้องสังเวยชีวิตอยู่กลางทุ่งหมดทั้งแนว ล้มเป็นศพอยู่ตรงนั้น เสียงปืนสงบลง ทั่วท้องทุ่งเงียบสนิทท่ามกลางความมืด
Create Date : 12 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 2:08:19 น. |
|
5 comments
|
Counter : 738 Pageviews. |
|
|
|
จะจัดเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด (น่าน และ ภูเรือ) 7-8 วันค่ะ
กลับจากเที่ยวแล้ว (20 ธ.ค.) จะ up blog ให้อ่านกันต่อนะคะ
จะเที่ยวเผื่อทุกท่านค่ะ