จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 28)

ทางเสิอผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 28

ทวน ทองรุ่ง ใช้เวลาเดินอยู่ในตลาดในอำเภอโดยมี โทน เด็กหนุ่มบ้านหนองตากลับ เดินเคียงข้างตลอดเวลา เขาเอาสิ่งของทองหยองที่ติดตัวมาออกแลกเป็นเงินกับร้านค้าบางแห่งที่ดูจะคุ้นเคยกัน และชาวบ้านที่พอมีอันจะกินบางบ้าน ทวนได้เงินมากโขอยู่ เขาใช้เงินจำนวนนั้นหาซื้อพวกอาหารและเสบียงต่าง ๆ รวมทั้งเสื้อผ้า พันธุ์ผักผมไม้ สิ่งของเครื่องใช้จำเป็นได้มากมาย และหาซื้อเกวียนได้สองเล่ม เพื่อใช้บรรทุกข้างของที่หาซื้อมาได้นั้นจนเต็มสองเล่มเกวียนนั้น เขาหาเช่าควายที่จะใช้ลากจูงเกวียนได้สองคู่โดยไม่ยากเย็นอะไร ด้วยความคุ้นเคยกับเจ้าของสัตว์ที่รู้จักทวนดีอยู่เก่าก่อน

ทวนขี่ม้านำขบวนเกวียนบรรทุกของที่มีพวกเจ้าของควายนั่งคุมบังคับเกวียนมาด้วยนั้น มุ่งหน้ากลับเข้าสู่บ้านหนองตากลับ เด็กหนุ่มโทนอาสานั่งคุมกองเกวียนอยู่บนเกียนที่นำขบวน

เสียเวลาเดินทางไม่ถึงสองชั่วโมง ขบวนเกวียนก็เข้าสู่หมู่บ้านหนองตากลับ ชาวบ้านออกมาดูขบวนเกวียนของทวนโดยไม่เข้าใจ สายตาที่เลื่อนลอยของชาวบ้านมองขบวนที่ผ่านไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ กัน สงสัยและมีแววความหวังในสายตาบางคู่

ทวนหยุดขบวนลงที่ลานหน้าบ้านที่เขาได้เคยพักพิง เขาวาดขาลงจากหลังม้า สั่งปลดควายที่เทียมเกวียนออก คนบังคับสัตว์เทียมเกวียนจัดการตามสั่ง เอาไม้เสายันแอกไว้ จูงควายออกไปคอยอยู่ ทวนเดินเข้าไปหา เขาล้วงลงไปในย่าม ควักเอาเงินออกมาจำนวนหนึ่งส่งให้คนคุมควายทั้งคู่นั้น แล้วบอกให้นำสัตว์กลับบ้านไปได้ คนทั้งสองรับเงินขึ้นหลังพาหนะที่นำมา จูงตัวที่ไม่ได้ขี่ตามหลังออกไปจากหมู่บ้าน

ทวนโดดขึ้นไปยืนบนเกวียนตัวหนึ่ง เขาป้องปากตะโกน

“ พี่น้อง พ่อแม่ทั้งหลาย ขอให้พากันเข้ามาหาข้า มารับแจกข้าวของตามมีตามเกิด ”

สิ้นเสียงตะโกนของทวน ชาวบ้านที่ยืนดูอยู่อย่างไม่มีความหวังก็กรูกันเข้ามาล้อมรอบด้วยความดีใจ บางคนที่ได้ยินเสียงตะโกนซ้ำ ๆ ของทวน ขณะทอดอาลัยอยู่บนบ้าน ต่างก็ค่อย ๆ ทยอยกันลงมายังลานนั้น รอบ ๆ ทวนค่อยมีชาวบ้านมารุมล้อมหนาแน่นขึ้น

พลอย เด็กสาวยืนคลำกำไลที่ข้อมืออยู่ที่ระเบียงชานเรือน มองดูทวนเฉยอยู่ แม้ว่าโทนเด็กหนุ่มผู้เป็นน้องจะฉุดดึงมือให้ลงจากเรือนอย่างไรก็ไม่ยอมลง คงยืนมองดูอยู่บนเรือนอย่างนั้น

ทวนลงมือจัดแจกข้าวของให้ชาวบ้านด้วยตนเอง ทั้งข้าวปลาอาหาร และพันธุ์ผักปลาโดยทั่วหน้ากัน สีหน้าของชาวบ้านทั้งนั้นเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา ใบหน้าที่เคยหม่นหมองก็มีแววความหวังขึ้น ทุกตัวคนต่างมีความรู้สึกเหมือนตายไปแล้วกลับมีชีวิตชีวาขึ้นใหม่ ความเงียบวังเวงแต่เดิมนั้นกลับมีชีวิตชีวาขึ้น เสียงอึงคะนึงมีอยู่ทั่วไป เด็กเล็กที่มีอยู่ต่างออกมาวิ่งเล่น หอบสิ่งของที่ได้รับแจกออกอวดกันด้วยความร่าเริง

ครู่ใหญ่ ๆ ของที่บรรทุกมาก็หมดเกลี้ยงทั้งสองเล่มเกวียน ชาวบ้านต่างแยกย้ายกันกลับไปครัวเรือนของตน บ้านหนองตากลับกลับมีชีวิตชีวาขึ้น ผิดแปลกไปจากสภาพเดิมเมื่อทวนย่างเข้ามาใหม่ ๆ

ทวนสะพายย่ามเดินขึ้นเรือน เขาตรงเข้าไปหาพลอยที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองดูทวนที่ย่างขึ้นมาด้วยสายตาชื่นชม

“ ไปนั่งคุยกันข้างในเถอะ พลอย ” ทวนเอ่ยขึ้นกับหล่อน

พลอยถอยออกมาจากที่ยืนอยู่ เดินตามทวนเข้าไปในบ้าน ทวนปลดย่ามออกจากไหล่ ส่งให้พลอยทั้งย่าม

“ ทั้งหมดในนั้นเป็นของเอ็ง ” เขาพูด มองนัยน์ตาพลอย “ ข้าเหลือเอาไว้ให้เอ็ง เอ็งจะทำยังไงกับของพวกนั้นก็ได้ ตามใจเอ็ง ”

พลอยรับย่ามนั้นออกมาเปิดปากย่ามออก กับมองเข้าไปข้างใน

“ พี่ทวน ” พลอยอุทานออกมา “ อะไรต่ออะไรมันเยอะแยะไปหมดในนี้ ทำไมจะมาเป็นของข้าคนเดียว พวกข้างล่างยังมีอีกหลายคนนะ ”

“ ข้างล่าง ข้าแจกให้ไปทั่วหน้ากันแล้ว ” ทวนพูดยิ้ม ๆ “ ของในย่ามนั้น ข้าจัดเอาไว้สำหรับเอ็ง ข้าจัดหาซื้อมาสำหรับเอ็งโดยเฉพาะ เอ็งรับไว้เถอะ ข้าจะได้ดีใจ ”

พลอยพนมมือไหว้

“ ขอบใจจ้ะ พี่ทวน พี่ไม่น่าที่จะต้องวุ่นวายยังงี้เลย ฉันไม่รู้จะตอบแทนอะไรพี่ได้แล้ว ”

“ บุญคุณของเอ็งที่มีต่อข้ามันมากมายกว่าสิ่งของเหล่านี้นัก พลอย ” ทวนพูดออกมาจากใจ “ เอ็งช่วยชีวิตข้าไว้ทั้งชีวิตเมื่อคราข้าอับจน ข้าไม่มีวันลืม ”

“ เมื่อไหร่พี่ทวนจะเลิกพูดถึงเรื่องนั้นเสียที ” พลอยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ ถึงไม่ใช่พี่ทวน ฉันก็คงต้องทำอย่างนั้นเหมือนกัน ใครจะไปทนดูคนทรมานอยู่ยังงั้นได้ ”

“ เออ น้ำใจเอ็งประเสริฐนัก พลอย แล้วมันบังเอิญเป็นข้า ข้านับถือน้ำใจเอ็ง ของที่ข้าตั้งใจเอามาฝากเอ็งนี้มันไม่พอที่จะลบล้างคุณความดีของเอ็งได้หรอก รับไว้เถอะ นั่นคือน้ำใจของข้า ”

พลอยยกมือไหว้ขอบใจอีกครั้ง พูดไมออกด้วยความตื่นตัน

ทวนเอนร่างลงนอนกับพื้น

“ ข้าจะหลับสักพัก ” เขาพูด “ ขอข้าวเย็นสักมื้อ พรุ่งนี้ข้าจะต้องออกเดินทางแต่เช้า ”

“ ไหนพี่ว่าจะพักอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหนอีก ” พลอยท้วง

“ ให้ข้าเสร็จงานเสียก่อน ข้าจะกลับมาอยู่ที่นี่แน่ มาอาศัยบ้านเอ็ง อาศัยข้าวเอ็ง จะไม่ไปไหน ฝากชีวิตไว้ที่นี่แหละ ” เขาถอนหายใจอีก “ ข้ายังมีงานอีกเรื่องเดียวที่จะต้องทำให้เสร็จ ”

พลอยถอนหายใจมองดูทวนที่หลับตาเฉยอยู่นิ่งนาน ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้น หิ้วย่ามใบนั้นเดินเปิดประตูห้องเข้าไป

ทวน ทองรุ่ง ตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นหอมของควันไฟที่โชยมาบาง ๆ อากาศกำลังสลัว แสงตะวันอ่อน ๆ สาดเข้ามาในพื้นบ้าน เขาค่อย ๆ ชันกายลุกขึ้น ที่ข้าง ๆ ตัวเขามีเสื่อผืนใหญ่ปูอยู่ บนเสื่อนั้นมีอาหารสองสามจานส่งกลิ่นหอมที่โชยเข้าจมูกเขาเมื่อกี้นี้ ที่ริมฝาซึ่งเป็นที่ทำครัว พลอยนั่งอยู่หน้าเตา กำลังเฝ้าดูหม้อแกงที่ส่งควันกรุ่นฝาหม้ออยู่ หันมามองทวนเมื่อได้ยินเสียงขยับตัว

“ ตื่นแล้วหรือ พี่ทวน ” หล่อนพูดเสียงอ่อนหวาน “ หลับไปตั้งหลายชั่วโมง คงจะเพลียมากซีจ๊ะ ”

ทวนหัวเราะ

“ ได้หลับเสียตื่นใหญ่ ๆ ยังงี้ค่อยมีแรง นี่ข้ามาทำความลำบากให้เอ็งแท้ ๆ พลอย เอ็งต้องจัดสำรับกับข้าวให้ข้ายุ่งเปล่า ๆ ”

“ พักให้สบายเถอะ พี่ทวน ” พลอยพูด สายตายังอยู่ที่หม้อแกงบนเตา “ ฉันไม่ลำบากอะไรหรอก พี่ซี ทำอะไรต่ออะไรไว้ให้ฉันมากมายนัก ต้องลำบากไปหาซื้อข้าวของมาถึงอำเภอ กินข้าวกินปลาเสียเถอะพี่ เห็นพวกชาวบ้านโน้นเขาจัดงานอะไรต้อนรับพี่ตอนค่ำ ๆ แน่ะ เขาขึ้นมาบอกฉันตอนที่พี่หลับ "

ทวนชะโงกหน้าไปมองทางหน้าลานบ้าน เขาเห็นมีเพิงกิ่งไม้จัดไว้สวยที่กลางลาน รอบ ๆ เสาต้นที่ทวนเคยถูกทรมานร่างกายอยู่นั้น มีกอง
ดอกไม้สุมล้อมรอบอยู่ และมีเสื่อหลายผืนปูติดต่อกันอยู่กลางลานนั่น ชาวบ้านสี่ห้าคนกำลังเดินจัดที่ทางกันอยู่

ทวนหันหน้ากลับมาทางพลอย เขาพึมพำเบา ๆ

“ ไม่น่าจะยุ่งกันถึงขนาดนี้เลย ”

“ เขาคิดจะจัดงานต้อนรับพี่ทวนด้วย เขาคิดว่าพี่จะไม่ไปไหนอีก ” พลอยพูดขณะยุ่งกับหม้อแกง “ ถ้าเขารู้ว่า พี่ทวนจะออกเดินทางอีกพรุ่งนี้ พวกเขาคงจะเสียใจ ”

“ ข้าจะพูดกับเขาเอง ” ทวนยิ้ม “ ข้าจะต้องไปทำงานเพียงไม่กี่วัน กลับมาคราวนี้ข้าจะไม่ไปไหน ”

พลอยยกหม้อแกงลงจากเตา ตักใส่ชามใบหนึ่ง ยกมาวางที่สำรับที่จัดไว้แล้วนั้น

“ กินข้าวเสียซีพี่ ” หล่อนพูด “ เสร็จแล้วจะได้ลงไปพบพวกนั้น ”

“ เอ็งต้องกินกับข้าด้วย แล้วไอ้โทนมันไปไหน ให้มันมากินเสียพร้อม ๆ กัน ”

“ โทนมันไปวิ่งเล่น มันคงจะกินกับพวกนั้นแล้ว ” พลอยพูดพลางคดข้าวใส่จานวางไว้ตรงหน้าทวน

“ ถ้างั้น เอ็งกินกับข้าสองคนก็ได้ ”

“ ฉันจะดูแล เผื่ออะไรมันขาด ” พลอยพูด พลางรินน้ำใส่ขันข้าง ๆ ตัว

“ เอ็งไม่กิน ข้าก็ไม่กิน ” ทวนพูด เลื่อนจานข้าวออกไป

พลอยเงยหน้าขึ้นมองทวนแวบหนึ่ง ก้มหน้ามองพื้นบ้าน เท้าแขนเฉยอยู่

“ คดข้าวของเอ็งซี จะได้ลงมือพร้อมกัน ” ทวนพูดเสียงเนิบ ๆ

“ แหม ” พลอยเอ่ยออกมาเสียงลากยาว พลางหันไปยกจานข้าวอีกใบหนึ่งมาคดข้าวใส่ช้า ๆ ได้สองสามช้อน แล้วเงยหน้าขึ้นมองทวน

“ เออ เอ็งกินเหมือนจิ้งจก ” ทวนหัวเราะชอบใจ “ แค่นั้นมันจะอิ่มจะออกอะไร ”

“ ฉันก็กินแค่นี้แหละทุกมื้อ ไม่ได้รูปร่างใหญ่โตเหมือนพี่นี่ ” พลอยตวัดสายตา “ กิน ๆ เข้าเถอะ พวกนั้นเขารออยู่ เดี๋ยวเขาก็แห่กันขึ้นมาบนนี้หรอก ”

ทวนลงมือเปิบข้าวอย่างเอร็ดอร่อย

“ พลอย ฝีมือทำกับข้าวของเอ็งอร่อยจริง ๆ ถูกปากข้า ” เขาพูดทั้ง ๆ ข้าวเต็มปาก “ ข้าคงอ้วนเป็นหมูตอนที่มาอยู่ที่นี่เสียแน่แล้ว ”

“ หายไปนานคราวนี้ เอาน้ำผึ้งทาปากมาด้วยหรือ พี่ทวน ” พลอยพูดยิ้ม ๆ “ ธุระที่รีบไปทำพรุ่งนี้คงจะพกน้ำผึ้งกลับมาอีกนะ ”

ทวนหัวเราะ ไม่พูดอะไร ก้มหน้าก้มตาเปิบข้าวอย่างเอร็ดอร่อยต่อไป

เย็นวันนั้น เมื่อเสร็จจากอาหารเย็นแล้ว พวกชาวบ้านได้จัดการทำพิธีตอนรับทวนที่ลานหน้าบ้านนั้นอย่างครึกครื้น แม้ว่าจะมีชาวบ้านเหลืออยู่ไม่กี่คน คนแก่ที่อาวุโสที่สุดของหมู่บ้าน ทำพิธีผูกข้อมือให้และอวยชัยให้พรทวน ในหมู่ชาวบ้านที่มาล้อมวงกันทั้งหมด รวมทั้งลูกเด็กเล็กแดงทุกบ้าน ต่างผลัดกันกล่าวคำขอบใจและผูกข้อมือตามหลังผู้อาวุโสที่เริ่มพิธีนั้น ข้อมือของทวนเต็มไปด้วยด้ายสายสิญจน์ทั้งซ้ายขวา

ชาวบ้านทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นกว่าที่เคยเป็น ทุกบ้านมีกินมีใช้ และมีพืชพันธุ์ที่ต่างก็ตั้งใจไว้ว่าจะเริ่มการเพาะปลูก และทำมาหากิน นำความเจริญมาสู่หมู่บ้านดังเช่นเดิม ทุกคนสดุดีที่ทวนได้มาทำให้หมูบ้านได้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกเหมือนเดิม และยินดีที่จะต้อนรับทวนเป็นลูกบ้านเหมือนลูกบ้านแท้ ๆ

โทน เด็กหนุ่มที่หลงใหลในตัวทวนนั้น นั่งเคียงข้างทวนอยู่ไม่ยอมห่าง ส่วนพลอยผู้พี่ไม่ได้ลงมาร่วมงานด้วย เข้าห้องปิดประตูเงียบ นั่งน้ำตาไหลด้วยความยินดีในห้องนั้น

เมื่อทวนบอกกล่าวถึงการที่จะต้องออกเดินทางไปทำธุระในวันรุ่งขึ้น พวกชาวบ้านต่างก็พากันขอร้อง แต่เมื่อทวนให้คำสัญญาว่าจะรีบกลับมาโดยเร็วเมื่อเสร็จธุระ และมาปักหลักอยู่ที่นี่แน่นอน ทุกคนจึงยอมสงบ

การเลี้ยงรับขวัญในคืนนั้นเป็นไปด้วยความรื่นเริงจนล่วงเข้าดึก ทวนขอตัวขึ้นนอนเพราะจะต้องเดินทางในวันรุ่งขึ้น เขาใช้พื้นชานบ้านเป็นที่นอน โทนเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ยอมห่าง ขอนอนข้าง ๆ ทวนด้วย ถึงแม้จะถูกพลอยออกมาชวนให้นอนด้วยกันในห้องก็ไม่ยอม จะขอนอนใกล้ทวนให้ได้ พลอยผู้พี่จึงต้องจัดการเรื่องที่นอนหมอนมุ้งให้ทั้งสองคนได้หลับนอนที่ชานเรือนนั้น

ทวนตื่นแต่เช้า พอเขาขยับตัว เด็กหนุ่มที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็ตื่นขึ้นมาด้วย มองดูทวนลุกขึ้นชำระร่างกายใบหน้า ตัวเองออกจากมุ้งมาเตรียมตัวล้างหน้าล้างตาเหมือนกัน พลอยเปิดประตูห้องออกมาเหมือนกับจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหวนอกห้องของคนทั้งสองนั้น เมื่อเห็นทั้งสองเตรียมตัวทำความสะอาดร่างกาย ก็ช่วยเก็บที่นอนหมอนมุ้งให้เรียนร้อย เข้าไปหน้าเตา เมื่อเก็บอะไรเรียนร้อยแล้ว จัดการเตรียมอาหารเช้า

“ นั่นเอ็งจะทำอะไรน่ะ ” ทวนหันไปถาม

“ หาอาหารเช้าให้พี่ยังไงล่ะ ” พลอยพูดโดยไม่หันหน้ามามอง ยุ่งอยู่กับเครื่องครัว

“ ข้าจะไปหาเอาตามทางก็ได้ ” ทวนเช็ดหนเช็ดตาพูด “ เอ็งไม่น่าจะต้องลำบาก ”

“ ก็ไม่เห็นลำบากอะไร ” พลอยพูด มือไม้ยุ่งอยู่กับเรื่องอาหาร

ครู่เดียว เมื่อทวนจัดการกับร่างกายเรียบร้อย อาหารจากฝีมือของพลอยก็เสร็จมาวางอยู่ที่ชานเรือนนั้น เป็นข้าวต้มร้อน ๆ ชามใหญ่ชามเดียว

“ ของฉันล่ะ พี่พลอย ” โทนร้องออกมา

“ เอ็งจะรีบกินไปไหน ” พลอยหันไปดุ

“ ฉันจะไปกับพี่ทวน ” โทนนั่งมองดูพี่สาว

“ ใครให้เอ็งไป ” พลอยทำตาเขียวเข้าใส่น้องชาย

“ ฉันจะไป พี่ทวนสัญญากับฉันไว้ว่า จะกลับมารับฉันตั้งแต่วันนั้น ” โทนเถียง

ทวนหัวเราะ เอื้อมมือไปตบไหล่โทนเบา ๆ

“ เอาไว้ข้ากลับมาก่อน ข้าจะมาอยู่กับเอ็งที่นี่ ไม่ไปไหนอีกแล้ว ”

“ มาเอา ” เด็กหนุ่มสั่นหน้า “ พี่ทวนอย่าผิดสัญญา ไปไหนฉันจะไปด้วย ”

ทวนตบไหล่เด็กหนุ่มอีก

“ ข้าไปคราวนี้งานหนัก ถ้าเอาเอ็งไปด้วย ข้าก็ทำงานไม่ได้ ข้าไม่ได้ผิดสัญญา ถ้าข้าไปแล้วจะไม่กลับมาอีก ข้าก็จะเอาเอ็งไปด้วยตามสัญญา แต่นี่ข้าไปแล้วจะรีบกลับมาเมื่อเสร็จงาน เอ็งคอยข้าอยู่ที่นี่ อีกไม่กี่วัน ข้าก็จะกลับมา ”

“ ฉันโตแล้วนะพี่ทวน ” เด็กหนุ่มพูดท่าทางจริงจัง “ ฉันช่วยพี่ทวนได้ในงานทุกอย่าง เอาฉันไปด้วยซี เวลากลับจะได้กลับด้วยกัน ”

ทวนจับหน้าเด็กหนุ่มหันมามองตรงนัยน์ตา

“ โทน ” เขาเรียกชื่อเน้นคำ “ เชื่อข้าเถอะ ถ้าข้าเอาเอ็งไปด้วย ข้าจะต้องเป็นห่วงเอ็ง ไม่เป็นอันทำงาน งานครั้งนี้ของข้าหนักนัก ตัวข้าเองก็จะต้องพยายามเอาตัวให้รอดกลับมา ถ้าเอ็งไปเป็นห่วงผูกคอข้าอีกคน ทั้งเอ็งกับข้าอาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้ ”

เมื่อทวนหันไปมองพลอยก็พบสายตาของหล่อนจ้องจับอยู่ที่เขา พลอยขยับจะพูดอะไรออกมา แต่ชะงักไว้ ไม่พูด

โทนจ้องจับตาทวนไม่ยอมกะพริบ ทวนตบไหล่เด็กหนุ่มเบา ๆ อีก

“ ข้าเล่าให้เอ็งฟังไม่ได้ว่าข้าจะไปทำอะไร บอกได้แต่ว่ามันหนัก เอ็งอยู่เป็นเพื่อนพี่เขาที่นี่เถอะ แล้วช่วยกันเอาใจช่วยให้ข้าทำงานสำเร็จ ดีกว่าที่เอ็งจะไปกับข้า ข้าจะได้ไม่ต้องมีห่วง ”

“ พี่ทวนผิดสัญญา ” โทนพูดออกมา สะบัดไหล่ลุกขึ้นเดินลงส้นไปจากเรือน

ทวนถอนหายใจลึก หันไปมองพลอยแวบหนึ่งก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มในชามตรงหน้าช้า ๆ เขาตักอาหารเข้าปากได้ไม่กี่คำ ก็เลื่อนชามออกไป ลุกขึ้นยืนหันไปทางพลอย

“ ข้าไปละพลอย ไม่กี่วันข้าจะกลับมา บอกโทนมันด้วยว่า ข้าจะกลับมาจริง ๆ ”

เขาก้าวลงบันไดเรือนไป ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงม้าย่างออกไปจากที่นั่น เสียงฝีเท้าม้ายังดังย่ำดินไปช้า ๆ ลับหายไปทางชายหมู่บ้าน

พลอยถอนหายใจลึกก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นไปเก็บชามข้าวต้มที่เหลืออยู่กว่าครึ่งนั้น




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2552
2 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2552 2:23:25 น.
Counter : 709 Pageviews.

 

ขอบคุณที่มาเม็นรูปให้นะครับ

ตอนนี้พวกเรามีรูปอัพเดตแล้วลองมาชมดูนะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pimsan&group=7

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: pimsan 6 ธันวาคม 2552 3:57:06 น.  

 

สวัสดีเพื่อนๆบล็อกแกนตอนนี้ปฐพีหอมอยูในชว่งของการฝึกงานเลยไม่คอยมีเวลาอับบล็อก...ก็พยายามหาเวลาเช่าอินเตอเนตในตลาดแถวอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง...นำรูปมาฝากครับ...ลำปางหนาวมากครับ...หนาวแล้วขอให้เพื่อนๆบล็อกแกนทุกท่านรักษาสูขภาพดว้ยนะครับ........

 

โดย: ปฐพีหอม 7 ธันวาคม 2552 19:52:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.