ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 28)
ทางเสิอผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 28
ทวน ทองรุ่ง ใช้เวลาเดินอยู่ในตลาดในอำเภอโดยมี โทน เด็กหนุ่มบ้านหนองตากลับ เดินเคียงข้างตลอดเวลา เขาเอาสิ่งของทองหยองที่ติดตัวมาออกแลกเป็นเงินกับร้านค้าบางแห่งที่ดูจะคุ้นเคยกัน และชาวบ้านที่พอมีอันจะกินบางบ้าน ทวนได้เงินมากโขอยู่ เขาใช้เงินจำนวนนั้นหาซื้อพวกอาหารและเสบียงต่าง ๆ รวมทั้งเสื้อผ้า พันธุ์ผักผมไม้ สิ่งของเครื่องใช้จำเป็นได้มากมาย และหาซื้อเกวียนได้สองเล่ม เพื่อใช้บรรทุกข้างของที่หาซื้อมาได้นั้นจนเต็มสองเล่มเกวียนนั้น เขาหาเช่าควายที่จะใช้ลากจูงเกวียนได้สองคู่โดยไม่ยากเย็นอะไร ด้วยความคุ้นเคยกับเจ้าของสัตว์ที่รู้จักทวนดีอยู่เก่าก่อน ทวนขี่ม้านำขบวนเกวียนบรรทุกของที่มีพวกเจ้าของควายนั่งคุมบังคับเกวียนมาด้วยนั้น มุ่งหน้ากลับเข้าสู่บ้านหนองตากลับ เด็กหนุ่มโทนอาสานั่งคุมกองเกวียนอยู่บนเกียนที่นำขบวน เสียเวลาเดินทางไม่ถึงสองชั่วโมง ขบวนเกวียนก็เข้าสู่หมู่บ้านหนองตากลับ ชาวบ้านออกมาดูขบวนเกวียนของทวนโดยไม่เข้าใจ สายตาที่เลื่อนลอยของชาวบ้านมองขบวนที่ผ่านไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ กัน สงสัยและมีแววความหวังในสายตาบางคู่ ทวนหยุดขบวนลงที่ลานหน้าบ้านที่เขาได้เคยพักพิง เขาวาดขาลงจากหลังม้า สั่งปลดควายที่เทียมเกวียนออก คนบังคับสัตว์เทียมเกวียนจัดการตามสั่ง เอาไม้เสายันแอกไว้ จูงควายออกไปคอยอยู่ ทวนเดินเข้าไปหา เขาล้วงลงไปในย่าม ควักเอาเงินออกมาจำนวนหนึ่งส่งให้คนคุมควายทั้งคู่นั้น แล้วบอกให้นำสัตว์กลับบ้านไปได้ คนทั้งสองรับเงินขึ้นหลังพาหนะที่นำมา จูงตัวที่ไม่ได้ขี่ตามหลังออกไปจากหมู่บ้าน ทวนโดดขึ้นไปยืนบนเกวียนตัวหนึ่ง เขาป้องปากตะโกน พี่น้อง พ่อแม่ทั้งหลาย ขอให้พากันเข้ามาหาข้า มารับแจกข้าวของตามมีตามเกิด สิ้นเสียงตะโกนของทวน ชาวบ้านที่ยืนดูอยู่อย่างไม่มีความหวังก็กรูกันเข้ามาล้อมรอบด้วยความดีใจ บางคนที่ได้ยินเสียงตะโกนซ้ำ ๆ ของทวน ขณะทอดอาลัยอยู่บนบ้าน ต่างก็ค่อย ๆ ทยอยกันลงมายังลานนั้น รอบ ๆ ทวนค่อยมีชาวบ้านมารุมล้อมหนาแน่นขึ้น พลอย เด็กสาวยืนคลำกำไลที่ข้อมืออยู่ที่ระเบียงชานเรือน มองดูทวนเฉยอยู่ แม้ว่าโทนเด็กหนุ่มผู้เป็นน้องจะฉุดดึงมือให้ลงจากเรือนอย่างไรก็ไม่ยอมลง คงยืนมองดูอยู่บนเรือนอย่างนั้น ทวนลงมือจัดแจกข้าวของให้ชาวบ้านด้วยตนเอง ทั้งข้าวปลาอาหาร และพันธุ์ผักปลาโดยทั่วหน้ากัน สีหน้าของชาวบ้านทั้งนั้นเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา ใบหน้าที่เคยหม่นหมองก็มีแววความหวังขึ้น ทุกตัวคนต่างมีความรู้สึกเหมือนตายไปแล้วกลับมีชีวิตชีวาขึ้นใหม่ ความเงียบวังเวงแต่เดิมนั้นกลับมีชีวิตชีวาขึ้น เสียงอึงคะนึงมีอยู่ทั่วไป เด็กเล็กที่มีอยู่ต่างออกมาวิ่งเล่น หอบสิ่งของที่ได้รับแจกออกอวดกันด้วยความร่าเริง ครู่ใหญ่ ๆ ของที่บรรทุกมาก็หมดเกลี้ยงทั้งสองเล่มเกวียน ชาวบ้านต่างแยกย้ายกันกลับไปครัวเรือนของตน บ้านหนองตากลับกลับมีชีวิตชีวาขึ้น ผิดแปลกไปจากสภาพเดิมเมื่อทวนย่างเข้ามาใหม่ ๆ ทวนสะพายย่ามเดินขึ้นเรือน เขาตรงเข้าไปหาพลอยที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองดูทวนที่ย่างขึ้นมาด้วยสายตาชื่นชม ไปนั่งคุยกันข้างในเถอะ พลอย ทวนเอ่ยขึ้นกับหล่อน พลอยถอยออกมาจากที่ยืนอยู่ เดินตามทวนเข้าไปในบ้าน ทวนปลดย่ามออกจากไหล่ ส่งให้พลอยทั้งย่าม ทั้งหมดในนั้นเป็นของเอ็ง เขาพูด มองนัยน์ตาพลอย ข้าเหลือเอาไว้ให้เอ็ง เอ็งจะทำยังไงกับของพวกนั้นก็ได้ ตามใจเอ็ง พลอยรับย่ามนั้นออกมาเปิดปากย่ามออก กับมองเข้าไปข้างใน พี่ทวน พลอยอุทานออกมา อะไรต่ออะไรมันเยอะแยะไปหมดในนี้ ทำไมจะมาเป็นของข้าคนเดียว พวกข้างล่างยังมีอีกหลายคนนะ ข้างล่าง ข้าแจกให้ไปทั่วหน้ากันแล้ว ทวนพูดยิ้ม ๆ ของในย่ามนั้น ข้าจัดเอาไว้สำหรับเอ็ง ข้าจัดหาซื้อมาสำหรับเอ็งโดยเฉพาะ เอ็งรับไว้เถอะ ข้าจะได้ดีใจ พลอยพนมมือไหว้ ขอบใจจ้ะ พี่ทวน พี่ไม่น่าที่จะต้องวุ่นวายยังงี้เลย ฉันไม่รู้จะตอบแทนอะไรพี่ได้แล้ว บุญคุณของเอ็งที่มีต่อข้ามันมากมายกว่าสิ่งของเหล่านี้นัก พลอย ทวนพูดออกมาจากใจ เอ็งช่วยชีวิตข้าไว้ทั้งชีวิตเมื่อคราข้าอับจน ข้าไม่มีวันลืม เมื่อไหร่พี่ทวนจะเลิกพูดถึงเรื่องนั้นเสียที พลอยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ ถึงไม่ใช่พี่ทวน ฉันก็คงต้องทำอย่างนั้นเหมือนกัน ใครจะไปทนดูคนทรมานอยู่ยังงั้นได้ เออ น้ำใจเอ็งประเสริฐนัก พลอย แล้วมันบังเอิญเป็นข้า ข้านับถือน้ำใจเอ็ง ของที่ข้าตั้งใจเอามาฝากเอ็งนี้มันไม่พอที่จะลบล้างคุณความดีของเอ็งได้หรอก รับไว้เถอะ นั่นคือน้ำใจของข้า พลอยยกมือไหว้ขอบใจอีกครั้ง พูดไมออกด้วยความตื่นตัน ทวนเอนร่างลงนอนกับพื้น
ข้าจะหลับสักพัก เขาพูด ขอข้าวเย็นสักมื้อ พรุ่งนี้ข้าจะต้องออกเดินทางแต่เช้า
ไหนพี่ว่าจะพักอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหนอีก พลอยท้วง
ให้ข้าเสร็จงานเสียก่อน ข้าจะกลับมาอยู่ที่นี่แน่ มาอาศัยบ้านเอ็ง อาศัยข้าวเอ็ง จะไม่ไปไหน ฝากชีวิตไว้ที่นี่แหละ เขาถอนหายใจอีก ข้ายังมีงานอีกเรื่องเดียวที่จะต้องทำให้เสร็จ พลอยถอนหายใจมองดูทวนที่หลับตาเฉยอยู่นิ่งนาน ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้น หิ้วย่ามใบนั้นเดินเปิดประตูห้องเข้าไป ทวน ทองรุ่ง ตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นหอมของควันไฟที่โชยมาบาง ๆ อากาศกำลังสลัว แสงตะวันอ่อน ๆ สาดเข้ามาในพื้นบ้าน เขาค่อย ๆ ชันกายลุกขึ้น ที่ข้าง ๆ ตัวเขามีเสื่อผืนใหญ่ปูอยู่ บนเสื่อนั้นมีอาหารสองสามจานส่งกลิ่นหอมที่โชยเข้าจมูกเขาเมื่อกี้นี้ ที่ริมฝาซึ่งเป็นที่ทำครัว พลอยนั่งอยู่หน้าเตา กำลังเฝ้าดูหม้อแกงที่ส่งควันกรุ่นฝาหม้ออยู่ หันมามองทวนเมื่อได้ยินเสียงขยับตัว ตื่นแล้วหรือ พี่ทวน หล่อนพูดเสียงอ่อนหวาน หลับไปตั้งหลายชั่วโมง คงจะเพลียมากซีจ๊ะ ทวนหัวเราะ ได้หลับเสียตื่นใหญ่ ๆ ยังงี้ค่อยมีแรง นี่ข้ามาทำความลำบากให้เอ็งแท้ ๆ พลอย เอ็งต้องจัดสำรับกับข้าวให้ข้ายุ่งเปล่า ๆ พักให้สบายเถอะ พี่ทวน พลอยพูด สายตายังอยู่ที่หม้อแกงบนเตา ฉันไม่ลำบากอะไรหรอก พี่ซี ทำอะไรต่ออะไรไว้ให้ฉันมากมายนัก ต้องลำบากไปหาซื้อข้าวของมาถึงอำเภอ กินข้าวกินปลาเสียเถอะพี่ เห็นพวกชาวบ้านโน้นเขาจัดงานอะไรต้อนรับพี่ตอนค่ำ ๆ แน่ะ เขาขึ้นมาบอกฉันตอนที่พี่หลับ " ทวนชะโงกหน้าไปมองทางหน้าลานบ้าน เขาเห็นมีเพิงกิ่งไม้จัดไว้สวยที่กลางลาน รอบ ๆ เสาต้นที่ทวนเคยถูกทรมานร่างกายอยู่นั้น มีกอง ดอกไม้สุมล้อมรอบอยู่ และมีเสื่อหลายผืนปูติดต่อกันอยู่กลางลานนั่น ชาวบ้านสี่ห้าคนกำลังเดินจัดที่ทางกันอยู่ ทวนหันหน้ากลับมาทางพลอย เขาพึมพำเบา ๆ
ไม่น่าจะยุ่งกันถึงขนาดนี้เลย
เขาคิดจะจัดงานต้อนรับพี่ทวนด้วย เขาคิดว่าพี่จะไม่ไปไหนอีก พลอยพูดขณะยุ่งกับหม้อแกง ถ้าเขารู้ว่า พี่ทวนจะออกเดินทางอีกพรุ่งนี้ พวกเขาคงจะเสียใจ
ข้าจะพูดกับเขาเอง ทวนยิ้ม ข้าจะต้องไปทำงานเพียงไม่กี่วัน กลับมาคราวนี้ข้าจะไม่ไปไหน
พลอยยกหม้อแกงลงจากเตา ตักใส่ชามใบหนึ่ง ยกมาวางที่สำรับที่จัดไว้แล้วนั้น
กินข้าวเสียซีพี่ หล่อนพูด เสร็จแล้วจะได้ลงไปพบพวกนั้น
เอ็งต้องกินกับข้าด้วย แล้วไอ้โทนมันไปไหน ให้มันมากินเสียพร้อม ๆ กัน
โทนมันไปวิ่งเล่น มันคงจะกินกับพวกนั้นแล้ว พลอยพูดพลางคดข้าวใส่จานวางไว้ตรงหน้าทวน
ถ้างั้น เอ็งกินกับข้าสองคนก็ได้
ฉันจะดูแล เผื่ออะไรมันขาด พลอยพูด พลางรินน้ำใส่ขันข้าง ๆ ตัว
เอ็งไม่กิน ข้าก็ไม่กิน ทวนพูด เลื่อนจานข้าวออกไป
พลอยเงยหน้าขึ้นมองทวนแวบหนึ่ง ก้มหน้ามองพื้นบ้าน เท้าแขนเฉยอยู่
คดข้าวของเอ็งซี จะได้ลงมือพร้อมกัน ทวนพูดเสียงเนิบ ๆ
แหม พลอยเอ่ยออกมาเสียงลากยาว พลางหันไปยกจานข้าวอีกใบหนึ่งมาคดข้าวใส่ช้า ๆ ได้สองสามช้อน แล้วเงยหน้าขึ้นมองทวน
เออ เอ็งกินเหมือนจิ้งจก ทวนหัวเราะชอบใจ แค่นั้นมันจะอิ่มจะออกอะไร
ฉันก็กินแค่นี้แหละทุกมื้อ ไม่ได้รูปร่างใหญ่โตเหมือนพี่นี่ พลอยตวัดสายตา กิน ๆ เข้าเถอะ พวกนั้นเขารออยู่ เดี๋ยวเขาก็แห่กันขึ้นมาบนนี้หรอก
ทวนลงมือเปิบข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
พลอย ฝีมือทำกับข้าวของเอ็งอร่อยจริง ๆ ถูกปากข้า เขาพูดทั้ง ๆ ข้าวเต็มปาก ข้าคงอ้วนเป็นหมูตอนที่มาอยู่ที่นี่เสียแน่แล้ว
หายไปนานคราวนี้ เอาน้ำผึ้งทาปากมาด้วยหรือ พี่ทวน พลอยพูดยิ้ม ๆ ธุระที่รีบไปทำพรุ่งนี้คงจะพกน้ำผึ้งกลับมาอีกนะ
ทวนหัวเราะ ไม่พูดอะไร ก้มหน้าก้มตาเปิบข้าวอย่างเอร็ดอร่อยต่อไป
เย็นวันนั้น เมื่อเสร็จจากอาหารเย็นแล้ว พวกชาวบ้านได้จัดการทำพิธีตอนรับทวนที่ลานหน้าบ้านนั้นอย่างครึกครื้น แม้ว่าจะมีชาวบ้านเหลืออยู่ไม่กี่คน คนแก่ที่อาวุโสที่สุดของหมู่บ้าน ทำพิธีผูกข้อมือให้และอวยชัยให้พรทวน ในหมู่ชาวบ้านที่มาล้อมวงกันทั้งหมด รวมทั้งลูกเด็กเล็กแดงทุกบ้าน ต่างผลัดกันกล่าวคำขอบใจและผูกข้อมือตามหลังผู้อาวุโสที่เริ่มพิธีนั้น ข้อมือของทวนเต็มไปด้วยด้ายสายสิญจน์ทั้งซ้ายขวา
ชาวบ้านทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นกว่าที่เคยเป็น ทุกบ้านมีกินมีใช้ และมีพืชพันธุ์ที่ต่างก็ตั้งใจไว้ว่าจะเริ่มการเพาะปลูก และทำมาหากิน นำความเจริญมาสู่หมู่บ้านดังเช่นเดิม ทุกคนสดุดีที่ทวนได้มาทำให้หมูบ้านได้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกเหมือนเดิม และยินดีที่จะต้อนรับทวนเป็นลูกบ้านเหมือนลูกบ้านแท้ ๆ
โทน เด็กหนุ่มที่หลงใหลในตัวทวนนั้น นั่งเคียงข้างทวนอยู่ไม่ยอมห่าง ส่วนพลอยผู้พี่ไม่ได้ลงมาร่วมงานด้วย เข้าห้องปิดประตูเงียบ นั่งน้ำตาไหลด้วยความยินดีในห้องนั้น
เมื่อทวนบอกกล่าวถึงการที่จะต้องออกเดินทางไปทำธุระในวันรุ่งขึ้น พวกชาวบ้านต่างก็พากันขอร้อง แต่เมื่อทวนให้คำสัญญาว่าจะรีบกลับมาโดยเร็วเมื่อเสร็จธุระ และมาปักหลักอยู่ที่นี่แน่นอน ทุกคนจึงยอมสงบ
การเลี้ยงรับขวัญในคืนนั้นเป็นไปด้วยความรื่นเริงจนล่วงเข้าดึก ทวนขอตัวขึ้นนอนเพราะจะต้องเดินทางในวันรุ่งขึ้น เขาใช้พื้นชานบ้านเป็นที่นอน โทนเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ยอมห่าง ขอนอนข้าง ๆ ทวนด้วย ถึงแม้จะถูกพลอยออกมาชวนให้นอนด้วยกันในห้องก็ไม่ยอม จะขอนอนใกล้ทวนให้ได้ พลอยผู้พี่จึงต้องจัดการเรื่องที่นอนหมอนมุ้งให้ทั้งสองคนได้หลับนอนที่ชานเรือนนั้น
ทวนตื่นแต่เช้า พอเขาขยับตัว เด็กหนุ่มที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็ตื่นขึ้นมาด้วย มองดูทวนลุกขึ้นชำระร่างกายใบหน้า ตัวเองออกจากมุ้งมาเตรียมตัวล้างหน้าล้างตาเหมือนกัน พลอยเปิดประตูห้องออกมาเหมือนกับจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหวนอกห้องของคนทั้งสองนั้น เมื่อเห็นทั้งสองเตรียมตัวทำความสะอาดร่างกาย ก็ช่วยเก็บที่นอนหมอนมุ้งให้เรียนร้อย เข้าไปหน้าเตา เมื่อเก็บอะไรเรียนร้อยแล้ว จัดการเตรียมอาหารเช้า
นั่นเอ็งจะทำอะไรน่ะ ทวนหันไปถาม
หาอาหารเช้าให้พี่ยังไงล่ะ พลอยพูดโดยไม่หันหน้ามามอง ยุ่งอยู่กับเครื่องครัว
ข้าจะไปหาเอาตามทางก็ได้ ทวนเช็ดหนเช็ดตาพูด เอ็งไม่น่าจะต้องลำบาก
ก็ไม่เห็นลำบากอะไร พลอยพูด มือไม้ยุ่งอยู่กับเรื่องอาหาร
ครู่เดียว เมื่อทวนจัดการกับร่างกายเรียบร้อย อาหารจากฝีมือของพลอยก็เสร็จมาวางอยู่ที่ชานเรือนนั้น เป็นข้าวต้มร้อน ๆ ชามใหญ่ชามเดียว
ของฉันล่ะ พี่พลอย โทนร้องออกมา
เอ็งจะรีบกินไปไหน พลอยหันไปดุ
ฉันจะไปกับพี่ทวน โทนนั่งมองดูพี่สาว
ใครให้เอ็งไป พลอยทำตาเขียวเข้าใส่น้องชาย
ฉันจะไป พี่ทวนสัญญากับฉันไว้ว่า จะกลับมารับฉันตั้งแต่วันนั้น โทนเถียง
ทวนหัวเราะ เอื้อมมือไปตบไหล่โทนเบา ๆ
เอาไว้ข้ากลับมาก่อน ข้าจะมาอยู่กับเอ็งที่นี่ ไม่ไปไหนอีกแล้ว
มาเอา เด็กหนุ่มสั่นหน้า พี่ทวนอย่าผิดสัญญา ไปไหนฉันจะไปด้วย
ทวนตบไหล่เด็กหนุ่มอีก
ข้าไปคราวนี้งานหนัก ถ้าเอาเอ็งไปด้วย ข้าก็ทำงานไม่ได้ ข้าไม่ได้ผิดสัญญา ถ้าข้าไปแล้วจะไม่กลับมาอีก ข้าก็จะเอาเอ็งไปด้วยตามสัญญา แต่นี่ข้าไปแล้วจะรีบกลับมาเมื่อเสร็จงาน เอ็งคอยข้าอยู่ที่นี่ อีกไม่กี่วัน ข้าก็จะกลับมา
ฉันโตแล้วนะพี่ทวน เด็กหนุ่มพูดท่าทางจริงจัง ฉันช่วยพี่ทวนได้ในงานทุกอย่าง เอาฉันไปด้วยซี เวลากลับจะได้กลับด้วยกัน
ทวนจับหน้าเด็กหนุ่มหันมามองตรงนัยน์ตา
โทน เขาเรียกชื่อเน้นคำ เชื่อข้าเถอะ ถ้าข้าเอาเอ็งไปด้วย ข้าจะต้องเป็นห่วงเอ็ง ไม่เป็นอันทำงาน งานครั้งนี้ของข้าหนักนัก ตัวข้าเองก็จะต้องพยายามเอาตัวให้รอดกลับมา ถ้าเอ็งไปเป็นห่วงผูกคอข้าอีกคน ทั้งเอ็งกับข้าอาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้
เมื่อทวนหันไปมองพลอยก็พบสายตาของหล่อนจ้องจับอยู่ที่เขา พลอยขยับจะพูดอะไรออกมา แต่ชะงักไว้ ไม่พูด
โทนจ้องจับตาทวนไม่ยอมกะพริบ ทวนตบไหล่เด็กหนุ่มเบา ๆ อีก
ข้าเล่าให้เอ็งฟังไม่ได้ว่าข้าจะไปทำอะไร บอกได้แต่ว่ามันหนัก เอ็งอยู่เป็นเพื่อนพี่เขาที่นี่เถอะ แล้วช่วยกันเอาใจช่วยให้ข้าทำงานสำเร็จ ดีกว่าที่เอ็งจะไปกับข้า ข้าจะได้ไม่ต้องมีห่วง
พี่ทวนผิดสัญญา โทนพูดออกมา สะบัดไหล่ลุกขึ้นเดินลงส้นไปจากเรือน
ทวนถอนหายใจลึก หันไปมองพลอยแวบหนึ่งก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มในชามตรงหน้าช้า ๆ เขาตักอาหารเข้าปากได้ไม่กี่คำ ก็เลื่อนชามออกไป ลุกขึ้นยืนหันไปทางพลอย
ข้าไปละพลอย ไม่กี่วันข้าจะกลับมา บอกโทนมันด้วยว่า ข้าจะกลับมาจริง ๆ
เขาก้าวลงบันไดเรือนไป ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงม้าย่างออกไปจากที่นั่น เสียงฝีเท้าม้ายังดังย่ำดินไปช้า ๆ ลับหายไปทางชายหมู่บ้าน
พลอยถอนหายใจลึกก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นไปเก็บชามข้าวต้มที่เหลืออยู่กว่าครึ่งนั้น
Create Date : 06 ธันวาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2552 2:23:25 น. |
Counter : 709 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้พวกเรามีรูปอัพเดตแล้วลองมาชมดูนะ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pimsan&group=7
ขอบคุณค่ะ