จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
13 ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย (ตอนที่ 30)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 30

รุ่งขึ้น เราก็ขึ้นแม่สาย พลสนั่น ฯ ควรจะมาถึงสบรวกตอนเย็น ๆ

จริงดังคาด ผมได้รับวิทยุจากหน่วยที่นั่นว่า พลสนั่น ฯ มาถึงที่สบรวกแล้วตอนห้าโมงเย็น เราก็รีบบึ่งไปที่สบรวกทันที ถึงสบรวกใกล้ห้าโมงเย็น

ผมเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึง พลสนั่น ฯ ให้เขาทำเป็นป่วยขนาดหนัก ด้วยไข้ป่า ผสมมาลาเรีย พูดจาไม่รู้เรื่อง สั่งหลักการไปแค่นั้น ผมแน่ใจว่าเขาจะต้องแสดงบทได้สนิท และยิ่งมีผู้กำกับการแสดงอย่างพ่อประชา ฯ ไปคุมมาด้วย อย่างนี้ไม่ต้องกลัวเรื่องจะตีบทไม่แตก

นายตำรวจคนหนึ่งของ พ.ต.ท. จิตต์ ลีลายุทธ เป็นคนหาเรือข้ามฟากได้ลำหนึ่งที่ยอมร่วมมือด้วย

คุณอย่านึกว่าการหาเรือข้ามฟากไปฝั่งโน้นจะหาได้ง่าย ๆ ไม่มีใครยอมเสี่ยงไปง่าย ๆ เขารู้จักและเชื่อมือเชื่อใจกัน เขาจึงยอมข้ามไปด้วย
นายตำรวจผู้นั้นชื่อ ร.ต.ท. ประเสริฐ นามสกุลผมจำไม่ได้ มันเห็นอยู่รำไร ๆ ในความทรงจำนี่เอง แต่นึกไม่ออก ป่านนี้มิเป็นนายพลไปแล้วเรอะ

ทีแรก ผมนึกจะเล่นตลกอะไรกับคุณนักหนังสือพิมพ์คนเก่งคนนั้น ที่ยังงุ่มง่ามอยู่ที่แม่สาย ให้ใครแอบไปกระซิบแกให้ข้ามไปพบพบสนั่น ฯ ที่สบรวก ไปทำคะแนนลบเหลี่ยมตำรวจ ถ้าแกไปก็คงไม่ได้กลับ ผมไม่อยากทำ จะเป็นบาปติดตัว ผมมีบาปติดตัวพอแล้ว

ประชา ฯ ข้ามไปพร้อมกับนายตำรวจผู้นั้น ผมกับคุณลมูล ฯ รออยู่ทางฝั่งไทย

พอตะวันโพล้เพล้ร่วมหกโมง เรือลำนั้นก็ข้ามกลับมาถึงฝั่งไทย

ประชา ฯ ประคองพล ฯสนั่น ฯ โซเซขึ้นมาจากเรือ เนื้อตัวเขามอมแมม เขาเดินโผเผเข้ามาหาผม ทำท่าซุดลงตรงหน้า ผมต้องรีบประคองดึงตัวเขาขึ้นมา เขากราบผมที่หน้าอก

คุณลมูล ฯ เข้ามาหา เริ่มซักถามว่าเป็นอะไร มายังไง ไปยังไง

พล ฯสนั่น ฯ ส่ายหน้าท่าเดียว ไม่มีคำพูด

ผมพาเขามาที่รถ จับยัดเข้าไปในรถ แล้วเราก็รีบออกมาจากที่นั่น ผมสั่งให้บึ่งไปเชียงรายทันที

ถึงเชียงราย ผมแวะเข้าโรงพยาบาล บอกนายแพทย์เวรที่นั่น ขอห้องสำหรับคนป่วยฉุกเฉิน คุณหมอที่นั่นก็ดีใจหาย รีบหาห้องให้ เพราะเป็นการร้องขอของตำรวจ หมอถามผมว่า คนไข้เป็นอะไร มาจากไหน ผมก็บอกเขาไปตามจริงว่า คนไข้เป็นตำรวจ แต่เจ็บเป็นอะไรนั่นผมไม่ทราบ เพิ่งออกมาจากป่า

ผมถามถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล หมอบอกชื่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ ผมก็โล่งอก

เขาชื่อ นายแพทย์ สมพงศ์ ศิริภักดี เป็นนักเรียนสวนกุหลาบรุ่นเดียวกับผม

หมอสมพงศ์มีบ้านพักอยู่ในโรงพยาบาล ผมก็รีบไปพบเขาทันที พูดจากันเดี๋ยวเดียวก็เข้าใจ หมอรีบมาที่ห้องคนไข้ นายแพทย์เวรกำลังตรวจคนไข้อยู่ด้วยสีหน้าฉงนสงสัย ยังไม่รู้ว่าคนไข้เป็นอะไร เพราะไม่มีอาการทางหลักวาการแพทย์ ที่จะบอกได้ว่าเป็นโรคอะไร ได้แต่ซึม ไม่พูดไม่จาอย่างเดียว

หมอสมพงศ์ ฯ เข้ามาก็เข้าไปจับชีพจรตรวจโน้นตรวจนี่อยู่เดี๋ยวเดียว ก็ว่าคนไข้ต้องการพักผ่อน ให้พักผ่อนเงียบ ๆ เป็นอะไรไม่บอก ไล่คนในห้องออกไปหมด อยู่ในห้องได้แต่ผมคนเดียว

ผมจึงมีเวลาซักซ้อมกับ พลสนั่น ฯ ให้แนบเนียนว่า จะให้การอย่างไร เฉพาะในเรื่องที่เขาเดินทางเข้ามามอบตัว ครั้งนี้ ส่วนเรื่องทางคดีที่ถูกกล่าวหานั้น ไม่จำเป็นต้องพูด เขาจะพูดกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น แต่คุณลมูล ฯ ก็ได้อะไร ๆ ไปเยอะ โดยเฉพาะเขาได้คุยกับพล ฯสนั่น ฯ ก่อนหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นจริง ๆ อย่างที่เขาพาดหัวไว้

นักหนังสือพิมพ์คนเก่งคนนั้นยังเกาะข่าวอยู่ที่แม่สาย ระหว่างที่พวกผมอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงราย รอพล ฯ สนั่น ฯ มามอบตัวกับเขา

พอหนังสือพิมพ์ ไทรายวัน ออกพาดหัวเรื่องนี้ พร้อมทั้งรูปถ่ายพล ฯ สนั่น ฯ คู่กับคุณลมูล ฯ วางตลาด ผมก็ไม่ได้ข่าวคุณหนังสือพิมพ์คนนั้นอีก จะตกงานหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

เจ้านายส่งพันศักดิ์มาทางเครื่องบินทันทีในวันรุ่งขึ้น ให้รับตัวพล ฯ สนั่น ฯ กลับกรุงเทพ ฯ ทันทีเหมือนกัน

ส่วนตัวผมนั้น ท่านสั่งพันศักดิ์มาว่า มันจะอยู่สะดวกโยธิน กินเหล้าเคล้านารีอะไรของมันก็ปล่อยมัน เอาตัวไอ้หนั่นมาให้กูก่อน

คุณลมูล ฯ เลยถือโอกาสขอติดเครื่องบินกลับพร้อมพันศักดิ์และพล ฯ สนั่น ฯ ด้วย ผมก็เห็นว่าไม่น่าที่จะขัดข้องอะไร เขาก็เลยได้ไปพร้อมพวกนั้น ได้ชื่อไปอีกทีเป็นคนควบคุมตัวพล ฯ สนั่น ฯ เข้ากรุงเทพ ฯ กับเขาด้วย ทำคะแนนนำหนังสือพิมพ์อื่นไปอีก มีรูปขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือของเขาโก้ไป

คุณลมูล ฯ กับผมกลายเป็นเพื่อนรักใคร่ชอบพอกันไปตั้งแต่บัดนั้น
จากเป็นตัวแสบที่เล่นงานผมมาแต่ต้น มาเป็นเพื่อนที่สนับสนุนผมในด้านการขีดเขียนหลายครั้งหลายหน จนทุกวันนี้

เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามลมเพลมพัด เขาเปลี่ยนเพราะเพิ่งจะได้ทราบความจริงใจของคนที่เขาคบด้วย ตลอดเวลาที่เราอยู่ใกล้กันที่ลำปางและเชียงรายจนถึงแม่สาย สบรวก เขาได้รู้ว่าผมทำงานของผมอย่างไร ผมเอาเขาไปก็เพื่อให้เขาได้พบได้เห็นความจริงใจของผม และดูว่าตำรวจเขาทำงานกันอย่างไร ให้เขาได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงของตำรวจหน่วยหนึ่ง ที่เขาไม่นึกว่าจะมาได้พบได้สัมผัส

ข้อเขียนของเขาเบาบางลงไปมากทีเดียว หลังที่จากกลับจากเหนือคราวนั้น

ใครต่อใครเป็นห่วงผมในตอนต้น ที่ผมกล้าชวนหนังสือพิมพ์ไปดูการทำงานของผม โดยเฉพาะผมเจาะจงชวนหนังสือพิมพ์ที่เล่นงานผมในตอนนั้น ไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับไหนกล้าไป มีคุณลมูล ฯ คนเดียวที่ตัดสินใจไปกับผม

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่น ๆ จึงไม่กล้าไป ก็ไม่รู้ว่าเขากลัวอะไรกัน

ผมไม่ห่วงคนต่อว่าผม ผมมีคติประจำตัวของผม

ต้องดึงศัตรูให้เป็นมิตรให้ได้ และให้เข้าชิดตัวศัตรูในเวลาต่อสู้
มิฉะนั้น เราจะไม่รู้ว่า เขามีดีอะไร และจุดอ่อนของเขาอยู่ตรงไหน




Create Date : 02 พฤษภาคม 2553
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 2:08:00 น. 1 comments
Counter : 1271 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:2:18:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.