ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 31)
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 31
ฝูงคนบนหลังม้าขบวนใหญ่พากันเข้ามาทางด้านชายไม้ที่เขามองอยู่ คนบนหลังม้าพากันลงจากหลังม้า คนที่จูงม้าเดินนำหน้าเข้ามาเป็นตำรวจในเครื่องแบบ มีอาวุธสะพายไหล่ ข้าง ๆ มีชายฉกรรจ์อีกกลุ่มใหญ่จูงม้าขยายแถวตามมาติด ๆ
เมื่อขบวนนั้นเข้ามาใกล้แสงไฟ ทวนก็จำได้ว่า ตำรวจที่แต่งเครื่องแบบนำหน้าเข้ามานั้น คือนายตำรวจคนเดียวกับที่เขาช่วยเอาไว้ที่บ้านหนองตากลับ ทวนล้มตัวลงนอน หันหลังให้เหมือนคนหลับ เสียงอึกทึกครึกโครมนั้นค่อย ๆ เบาลง เขาได้ยินแต่เสียงคนพูดกันพึมพำ ก่อนที่จะได้ยินเสียงใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า ผู้ใหญ่บ้านนี้อยู่ที่ไหน เขาจำได้ว่า เสียงนั้นเป็นเสียงของนายตำรวจหนุ่มคนนั้น เขาได้ยินเสียงมีคนตอบโต้กัน ทวนจับความไม่ได้ถนัด เพราะเสียงนั้นพูดกันเบา ๆ แล้วก็มีเสียงสั่งการดังสนั่น ปลดม้า เตรียมตัวพักแรม เสียงเครื่องม้าถูกปลดดังเป็นระยะ ๆ ตามมาพักใหญ่ก็ค่อย ๆ เงียบ มีแต่เสียงคนเดินไปมาที่ลานนั้น เสียงคล้ายผ้าถูกลากไปตามพื้นดิน แล้วเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเบา ๆ มาเบื้องหลังเขา มาจากบ้านผู้ใหญ่เฟี้ยมหรือ เสียงนั้นเป็นเสียงของเจ้าของเท้าที่เดินมาหยุดข้างหลัง ทวนนอนนิ่ง มีมือมาเขย่าที่ไหล่แรง ๆ เราน่ะ มาจากบ้านผู้ใหญ่เฟี้ยมหรือ ทวนพลิกหน้าขึ้นมาหา ลุกขึ้นนั่ง ก้มหน้าอยู่ ชื่ออะไร เสียงนายตำรวจหนุ่มผู้นั้นถามขึ้นอีก ทวนเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของเขาจับนิ่งอยู่กับสายตานายตำรวจหนุ่ม เอ๊ะ นายตำรวจหนุ่มอุทานเบา ๆ เคยเห็นหน้าที่ไหน ทวนก้มหน้าลงอีก ไม่พูด ถามว่าชื่ออะไร ผู้กองกระแทกเสียง เงยหน้าขึ้น ทวนเงยหน้าขึ้น ไม่ตอบคำถามนั้น ผู้กองหนุ่มจ้องหน้าทวนนิ่งอยู่ คิ้วของเขาขมวดทบทวนความจำ เราเคยพบกันที่บ้านหนองตากลับใช่ไหม ทวนหัวเราะ ใช่แล้ว ผู้กองตำรวจลั่นเสียงออกมา ลูกเสือฝ้าย ร้อยตำรวจเอกเผชิญหัวเราะชอบใจ เขาจับไหล่ทวนดึงขึ้นตรงซอกรักแร้ เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันเสียแล้ว ลุกขึ้น ตามอั๊วมา ทวนลุกขึ้นมาตามแรงดึง เขาถูกดึงตัวเข้าไปที่ใต้ถุนบ้าน แล้วถูกกดไหล่ให้นั่งบนเตียงไม้ยาวที่ผู้กองใช้เป็นที่นอน ผู้กองตำรวจนั่งอยู่ ข้าง ๆ เสือฝ้ายอยู่ที่ไหนเวลานี้ เขาเริ่มตั้งคำถามทันทีที่นั่งลง ทวนหัวเราะก่อนที่จะตอบ ผมเองก็ยังไม่รู้ อั๊วว่าเสือฝ้ายอยู่ที่บ้านกอไผ่ ลื้ออย่าโกหกอั๊ว ผู้กองก๊อรู้ดีกว่าผม ทวนหัวเราะกลั้วคำตอบ เฮ้ย อย่ามัวมาเล่นลิ้นกัน ผู้กองหนุ่มชักรำคาญ ถ้าลื้อไม่ได้เคยช่วยอั๊วไว้ อั๊วก็ต้องทำอะไรลื้อสักอย่าง เรามาพูดกันดี ๆ ดีกว่า ผู้กองคิดว่า ผมจะบอกข่าวที่เป็นภัยกับพ่อผมได้หรือครับ ทวนพูดช้า ๆ นายตำรวจหนุ่มนิ่งไปครู่ใหญ่ เขามองหน้าทวนเฉยอยู่พักใหญ่ เกาหัวเล่นอย่างหงุดหงิด
เอายังงี้ดีกว่า ทวนพูด ผมว่า เรากลับไปที่เดิมบาง ฯ กันก่อน ก่อนที่จะคิดทำอะไร
ไปเดิมบาง ฯ ผู้กองทวนคำ ไปทำไม ลื้อรู้ไหมว่าที่นั่นมีอะไรมั่ง
ผมรู้ ทวนพูดเน้นคำ
ผู้กองพยักหน้าหงึก
ไหนลองว่ามาที ที่นั่นมีอะไร
มีหน่วยเฉพาะกิจตั้งอยู่ และมีพันตำรวจเอก พิชัย พิทักษ์มนตรี เป็นผู้บังคับหน่วย
นายตำรวจหนุ่มนิ่งไปอีก เขามองหน้าทวนด้วยสายตาที่ฉงน แล้วพูดปนเสียงหัวเราะ
ลื้อเข้าใจเล่น ลื้อจะหลอกให้อั๊วออกนอกเส้นทาง เสือฝ้ายต้องอยู่ที่บ้านกอไผ่แน่ อั๊วจะไปที่นั่น และอั๊วจะเอาตัวลื้อไปด้วย อั๊วจะดูซิว่า เสือฝ้ายจะยอมหรือจะสู้เมื่ออั๊วมีลื้อเป็นตัวประกัน
ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ผู้กอง ทวนพูดขึ้นทันที เชื่อผมดีกว่า ถ้าผู้กองไปเดิมบาง ฯ กับผมก่อนที่จะไปบ้านกอไผ่ ผู้กองจะไม่ต้องเสียเวลาสู้กับเสือฝ้าย
ผู้กองปล่อยเสียงหัวเราะออกมาลั่น แล้วตะโกนเรียกผู้ใหญ่ดำเกิง เสียงฝีเท้าย่ำแกมวิ่งมาที่คนทั้งสองนั่งอยู่ ผู้ใหญ่ดำเกิงเข้ามายืนตรงหน้า
ผู้ใหญ่ ผู้กองตำรวจพูดปนเสียงหัวเราะ ผู้ใหญ่มาฟังไอ้เสือนี่มันพูดหน่อย มันจะให้เรากลับไปที่เดิมบาง ฯ แทนที่จะไปบ้านกอไผ่
ใครครับ เขาเป็นใคร ผู้ใหญ่ดำเกิงชี้มาที่ทวน
ลูกชายเสือฝ้าย
ผู้ใหญ่ดำเกิงหยุดมองหน้าทวนนิ่งอยู่
ชื่อทวนใช่ไหม เขาถาม
ทวนไม่ตอบคำถามนั้น มองหน้าผู้ใหญ่ พยายามที่จะทบทวนความจำว่าได้เคยรู้จักหรือเปล่า
ใช่ มันชื่อทวน ผู้กองหนุ่มตอบแทน
ผู้ใหญ่ดำเกิงกระชากปืนออกจากเอว
ผู้กองเผชิญตวัดมือไปปัด แล้วคว้าข้อมือผู้ใหญ่ไว้
อย่า ผู้ใหญ่
มันฆ่าพ่อผม พ่อมันฆ่าพ่อผม ผู้กอง ผู้ใหญ่ดำเกิงกัดฟันกรอด พยายามที่จะสะบัดมือออกจากมือผู้กอง ผู้กองจะเอามันไว้ทำไม
ผมอยากจะได้ข่าวอะไรเกี่ยวเสือฝ้ายจากมัน ผู้กองพูด มือยังจับข้อมือผู้ใหญ่แน่น ผู้ใหญ่อย่าใจร้อน เรื่องนั้นเมื่อไหร่ก็ได้ เราจะเอาตัวมันไปบุกบ้านกอไผ่ด้วย
ผมไม่เห็นจำเป็นอะไร ผู้ใหญ่ยังสะบัดข้อมือ เอามันไปด้วยให้เป็นกังวลเปล่า ๆ ผมรู้จักทางไปบ้านกอไผ่ เรายังจะต้องมัวหาข่าวอะไรอีก บุกเข้าไปเลย ไม่เห็นจะมีอะไร ผมอยากดูว่า เสือฝ้ายจะทำยังไง เมื่อเรามีลูกชายเป็นตัวประกัน
ผู้กองคิดว่า เสือฝ้ายจะยอมเรา เมื่อเรามีตัวประกันยังงั้นเรอะ ผู้ใหญ่ดำเกิงยังไม่ยอม
ยังไง ยังไง เราก็ยังจะทำให้เสือฝ้ายต้องคิด เมื่อรู้ว่า เรามีตัวลูกชายไว้เป็นประกัน ผู้กองยังยึดข้อมือผู้ใหญ่บ้านอยู่
ผู้ใหญ่ดำเกิงสะบัดหน้าอึดอัด พยายามที่จะแกะข้อมือออกจากการเกาะกุม
เราจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้ ผมตกลงใจที่จะไม่พักที่นี่แล้ว ผู้กองพูด ผู้ใหญ่ต้องเชื่อผม อย่าทำอะไรที่ขัดใจผม ถ้าผมปล่อยมือ ผู้ใหญ่ต้องไม่ทำอะไรวู่วามที่ผมต้องลำบากใจ ผู้กองหนุ่มค่อย ๆ ปล่อยมือผู้ใหญ่ดำเกิงออกจากมืออันแข็งแกร่งของเขา ผู้ใหญ่ดำเกิงสะบัดมือหลุดออก มองหน้าทวนด้วยสายตาเคียดแค้น สะบัดหน้าหันหลังออกเดินหายไปในทางที่วิ่งออกมา เอาละ ทีนี้ก็เหลือแต่เราสองคน นายตำรวจหนุ่มพูดกับทวน อย่าแผลงฤทธิ์อะไรออกมา อั๊วให้โอกาสลื้อแล้ว อย่าบังคับให้อั๊วต้องทำอะไรที่ตัดความรำคาญง่าย ๆ เขาหันไปตะโกนเรียกตำรวจคนหนึ่งของเขาให้มาหา เรียกเอากุญแจมือมาสับเข้าที่ข้อมือของทวน เขาดึงข้อมือทวนลุกขึ้น ม้าลื้อมีไม่ใช่เรอะ เขาพูด นั่งม้าทั้ง ๆ มือติดกุญแจนี้ก็คงจะได้ มา ไปด้วยกัน ทวนถูกดึงให้ลุกขึ้นยืน เขาถูกพาตัวไปที่ม้าของเขาที่ผูกอยู่ ผู้กองหนุ่มตะโกนสั่งการลั่น พร้อมทั้งดึงกุญแจมือที่สับติดอยู่กับข้อมือทวนนั้นไปด้วย เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นอีกในบริเวณนั้น กำลังตำรวจทั้งหลายที่ปลดเครื่องม้าออกเมื่อครู่นี้ ต่างก็พากันไปผูกเครื่องม้าใหม่ เครื่องนอนถูกม้วนเก็บ วุ่นวายกันพักใหญ่ กองไฟทุกกองถูกดับมอด เหลือแต่แสงสลัว ๆ ของเถ้าถ่านที่ยังดับไม่หมด ส่องแสง วอมแวม อยู่ ร้อยตำรวจเอกเผชิญ ทรงศักดา รับบังเหียนม้าประจำตัวจากมือตำรวจที่จูงมาส่งให้ เขาหันมองไปรอบ ๆ ผู้ใหญ่ดำเกิงอยู่ที่ไหน เขาพูดขึ้นมาลอย ๆ ผู้ใหญ่กำลังหุงหาอาหารอยู่ครับ ตำรวจผู้จูงม้าให้ตอบ เขาไม่ไปกับเราด้วยหรือ เขาบอกว่า เขาไม่ไปครับ ผู้กองสะบัดหน้าพรืด ขึ้นม้า เขาออกคำสั่งลั่น พลางส่งตัวทวนซึ่งอยู่ในเครื่องพันธนาการให้กับตำรวจนั้น เอาตัวไปขึ้นม้าของมัน แล้วให้หมู่เทียบคุมไว้ ตามมาข้าง ๆ อั๊ว เขาก้าวเหยียบโคลนม้า ตวัดข้าขึ้นไปนั่งคร่อมบนอาน หันไปดูแถวแนวเบื้องหลังซึ่งบัดนี้ทั้งหมดอยู่บนหลังม้าในลักษณะพร้อมเดินทางแล้ว ตำรวจยศสิบเอกคนหนึ่งดึงบังเหียนม้าซึ่งมีร่างของทวน ทองรุ่ง นั่งตัวตรงอยู่บนอาน บังคับม้าย่างเข้ามาข้างเคียง มือที่กุมบังเหียนอยู่นั้นดึงเอาเชือกที่ล่ามไว้กับปากม้าที่ทวนนั่งอยู่นั้นมาด้วย ตามข้าพเจ้า นายตำรวจหนุ่มออกคำสั่ง กระตุ้นม้าให้ออกเดิน แถวยาวเหยียดของกองกำลังย่างม้าตามผู้บังคับบัญชาของเขาออกจากที่
ชาวบ้านบางคนออกมาดูขบวนม้าของตำรวจที่ตามกันออกไปอย่างไม่เข้าใจ จนขบวนม้าทั้งหมดหายลับออกจากหมู่บ้าน ได้ยินแต่เสียงก้าวของม้าที่กระทบดินและเสียงของเครื่องม้ากระทบกันเป็นจังหวะ ค่อย ๆ หายไปกับความมืดสลัว ๆ ของยามเข้าใต้เข้าไป
Create Date : 10 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 2:53:02 น. |
|
3 comments
|
Counter : 626 Pageviews. |
|
|
|