จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
4 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 15)

ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 15

“ ไอ้เสือเอาวา ” เสียงนั้นตะโกนก้องเข้ามารอบ ๆ ทิศทางเข้าหมู่บ้าน แล้วก็มีเสียงปืนดังสนั่นผสมกึกก้อง ฝูงคนนับสิบบุกเข้ามาที่ชายหมู่บ้าน แต่ละคนเป็นชายฉกรรจ์ถือปืนยาวยิงนำหน้าเข้ามา แต่เป็นเสียงปืนยิงขึ้นฟ้า

เสียงหนึ่งแผดตะโกนฝ่าเสียงปืนขึ้นมา

“ เสือฝ้ายอยู่นี่เหรอโว้ย ข้า ... มเหศวรมาหา ขอพบหน่อย ”

วงล้อมที่กำลังส่งเสียงโห่ยินดีอยู่นั้นแตกฮือ เสือฝ้ายยืนจังก้าหันไปทางเสียงบุกที่ดังมาจากชายป่า ปืนในมือกระชับ สมุนเสือเข้ามาล้อมรอบตัวหัวหน้า ทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมรบ

“ ข้าได้ยินเสียงมันว่า มเหศวรมาใช่มั้ย ” เสือฝ้ายร้องถาม

“ ใช่ พ่อ ” ทวนฉุดมือพ่อ “ เข้าไปตั้งหลักสู้กับมันที่ข้างในดีกว่า เฮ้ย อย่าตื่น ” เขาร้องสั่งสมุน “ ตามข้ามา ”

ทวนดึงมือเสือผู้พ่อ ออกวิ่งฝ่าฝูงชาวบ้านที่แตกตื่นหนีไปทางหลังหมู่บ้าน สมุนทั้งหมดวิ่งกรูตามไป เสียงปืนจากฝ่ายเข้าบุกดังถี่ ๆ ตามหลังมา

ทวนจูงมือเสือฝ้ายวิ่งแหวกไป เขาถีบโต๊ะตั่งที่ขวางหน้าให้ล้มเป็นเครื่องกีดขวางไปตามทางที่วิ่งไปนั้น ทิ้งระยะจากฝ่ายบุกห่างออกไปจนถึงใต้ถุนบ้านหลังหนึ่ง ล้มโต๊ะตัวใหญ่ลงแล้วโดดข้ามไปหมอบเป็นที่กำบัง สมุนที่เหลือต่างแยกย้ายกันเข้าที่กำบังเท่าที่จะหาได้ นอนพังพาบแอบลั่นกระสุนปืนเข้าใส่ฝูงคนที่ดาหน้ากันเข้ามาสองสามคนร่วงผล็อยลงดิน แล้วฉากของการยิงต่อสู้กันก็เปิดขึ้นอย่างอึกทึก เสียงปืนของฝ่ายบุกดังหนาแน่นกว่าด้วยกำลังคนที่เหนือกว่ามากมาย

“ พี่ฝ้าย ยอมเขาเหอะ ” เสียงหนึ่งตะโกนลั่นมาทางเบื้องหลังแนวฝ่ายถูกบุก

ทวน ทองรุ่ง หันไปทางนั้น

ผู้ใหญ่ม้วนกับลูกบ้านอีกกว่าสิบ กำลังยืนจังก้าอยู่เบื้องหลังแนว ทั้งหมดจ้องปืนที่ประทับอยู่กับบ่ามายังแนวสมุนเสือฝ้ายที่หมอบยิงอยู่นั้น

“ ไอ้ม้วน ” เสือฝ้ายคำรามออกมา “ นี่ มึงหมายความว่ายังไง ”

ผู้ใหญ่ม้วนส่งเสียงหัวเราะร่า

“ ก็หมายความอย่างที่ฉันพูดนี่แหละพี่ฝ้าย ยอมเขาเสียเหอะ สั่งให้พวกนี้มันวางอาวุธเสีย ดีกว่าที่จะให้ฉันต้องทำบาป ”

เสือฝ้ายหันมามองทางทวน ซึ่งกำลังหันมามองทางเดียวกัน เสียงปืนยังดังก้องอยู่

“ ผู้ใหญ่ทรยศเราเสียแล้ว พ่อ ” ทวนพูดขบฟัน

“ ฉันบอกให้ทั้งหมดวางอาวุธยังไงล่ะ พี่ฝ้าย ” ผู้ใหญ่ม้วนกระแทกเสียงออกมาอีก “ จะว่าฉันทรยศก็เอาเหอะ แต่มันจำเป็น ”

ปืนในมือทวนลั่นเปรี้ยงออกไปทันที ร่างของผู้ใหญ่ม้วนทรุดลงตรงนั้น

แนวยิงเปิดขึ้นเป็นสองด้าน ลูกบ้านฝ่ายผู้ใหญ่ม้วนต่างวิ่งเข้าหากำบัง ลั่นกระสุนตลบหลังฝ่ายเสือฝ้ายเข้าให้อีกแนวหนึ่ง เสียงปืนแผดสนั่นหวั่นไหว ไม่รู้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายใด สมุนเสือฝ้ายสิ้นไปอีกสอง ทั้งเสือฝ้ายและทวนต่างพะวักพะวนกับการที่ต้องต่อสู้ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง

แต่ ... เหมือนปาฏิหาริย์ เสียงปืนอีกชุดหนึ่งดังมาแต่ไกล เบื้องหลังแนวที่ประกาศชื่อมเหศวรออกไปอีก เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหวยิ่งกว่าแนวอื่น สมุนฝ่ายมเหศวรต่างหันรีหันขวาง ล้มผล็อยร่วงหล่นลงเหมือนใบไม้ร่วงทีละคนสองคน เกิดระส่ำระสายในหมู่วุ่นวาย

“ ไอ้เสือถอย ” เสียงมเหศวรประกาศก้อง แล้วแนวของฝ่ายมเหศวรก็วิ่งตัดฝ่าออกไปทางชายอีกด้านของหมู่บ้าน

ชั่วครู่เดียว แนวนั้นก็วิ่งหายลับไปทางด้านหลัง อ้อมวกไปทางอีกทิศหนึ่ง เสียงฝีเท้าม้าก็ดังขึ้นก้องท้องทุ่ง เสียงควบดังค่อย ๆ หายไปทางด้านนั้น

ฝูงคนอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งฝ่าเข้ามา

“ พี่ทวน ” เสียงหนึ่งตะโกนก้อง “ ข้ามาแล้ว ”

ทวน ทองรุ่ง ผงกหัวขึ้นมอง

“ ไอ้ยอม พ่อกับข้าอยู่นี่ ”

บุคคลที่วิ่งนำหน้าฝูงคนชุดใหม่เข้ามานั้น เป็นชายหนุ่มฉกรรจ์ รูปร่างบึกบึน เขาชูปืนยาวในมือหลาเข้ามา ทวนวิ่งเข้าไปกอดหนุ่มคนนั้น ทั้งคู่กอดกันกลมท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกลุ่มชายฉกรรจ์อีกหลายสิบที่วิ่งตามหลังเข้ามา

เสือฝ้ายลุกขึ้นยืน ปืนที่ถืออยู่ในมือยังคงมีควันกรุ่นอยู่ หันไปทางแนวของผู้ใหญ่ม้วนที่อยู่ด้านหลัง แนวนั้นก็กลับว่าง ไม่รู้ว่าลูกบ้านที่เป็นฝ่ายผู้ใหญ่ม้วน หลบหายไปตั้งแต่เมื่อไร รวดเร็ว ทิ้งแต่ร่างอันไร้วิญญาณของผู้ใหญ่ม้วนให้นอนคว่ำหน้าอยู่ตรงที่ล้มลงไป

ชายหนุ่มผู้บุกเข้ามานั้น ผละจากทวน ตรงเข้ามาหาเสือฝ้าย ทรุดตัวลงกราบ เสือประคองร่างนั้นลุกขึ้น

“ ไปยังไง มายังไง นี่ ข้างงไปหมดแล้ว เอ็งมายังไง ฮึ ไอ้ยอม ”

" พี่ทวนเขาให้ฉันคุมกำลังพวกเราตามมาซี พ่อ ” คนถูกเรียกว่ายอมพูด “ เขาสั่งไว้ว่า เมื่อเขาและพ่อออกมาจากบ้านกอไผ่สักครึ่งวัน ให้ฉันนำกำลังอีกสามสิบตามมา ”

เสือฝ้ายหันไปมองทวน ทั้ง ๆ ที่มือทั้งสองข้างยังกุมอยู่ที่ไหล่พยอม ยิ้มพราย

“ ไอ้ทวน ลูกข้า เอ็งช่างรอบคอบดีแท้ เอ็งแอบไปสั่งไอ้ยอมมันเมื่อไหร่ ”

“ ตอนที่พ่อกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวนั่นแหละ ฉันเห็นว่าเราจะต้องตามถึงแดนมเหศวร เราจะตามด้วยกำลังเพียงสิบคนไม่ได้ ฉันก็ให้ไอ้ยอมมันนำพวกตามมาห่าง ๆ ถึงคราวคับขันจะได้แก้ไขอะไรได้ ไม่งั้นเราก็เสร็จมเหศวรไปแล้ว และนี่ฉันก็ว่ามเหศวรจะต้องย้อนกลับมาอีกด้วยกำลังที่มากกว่านี้ เราไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่นาน ”

“ เออ จริงของเอ็ง ” เสือฝ้ายพยักหน้าเห็นด้วย “ แต่ก่อนที่จะไป ข้าต้องกวาดล้างที่นี่ให้สิ้นซาก ไม่เหลืออะไรไว้.. เอ้า... พวกเราโว้ย”

เสือหันไปออกคำสั่ง “ ขึ้นกวาดมันทุกบ้าน ปล้นให้หมดทุกหลัง ยุ้งฉางมันมีอะไร กวาดต้อนไป ให้หมด อย่าทำเด็กกับผู้หญิง ”

สิ้นคำ บรรดาสมันทั้งหมดก็ไชโยโห่ร้อง ตรูกันแยกย้ายขึ้นไปตามบ้านแต่ละหลัง เสียงผู้คนโอดโอยดังสนั่น เด็กเล็กร้องกระจองอแง พวกผู้หญิงต่างวิ่งหนีกันลงมาจากที่ต่าง ๆ ชุลมุนไปทั่ว ด้วยเสียงหวีดร้องของผู้คนที่แตกตื่นวิ่งหนีภัย

“ ไม่ต้องตกใจ ” เสียงเสือฝ้ายประกาศก้อง “ คนของข้าจะไม่ทำเด็กกับผู้หญิง มีข้าวของอะไรส่งมอบให้มันเสียดี ๆ อย่าให้ต้องแย่งชิง ”

เสียงอึกทึกครึกโครมดังไปทั่วหมู่บ้าน ปนกับเสียงโห่ร้องของสมุนเสือ ข้าวของต่าง ๆ ถูกขนลงมากองอยู่กลางลาน เครื่องเคราทองหยองกองเป็นพะเนิน รวมทั้งเงินทองต่าง ๆ เกวียนหลายเล่มถูกลากออกมาจากที่ บางคนดึงเอาวัวควายออกมาเทียมเกวียนเหล่านั้น แล้วช่วยกันขนข้าวของขึ้นบรรทุกจนเต็มแปร้ ศพของชายฉกรรจ์หลายศพร่วงหล่นลงมาจากบ้านหลาย ๆ หลัง มากองอยู่ที่พื้นดิน ระเนระนาดไปทั่วหมู่บ้าน บางคนที่ไม่สู้ก็โดนกวาดต้อนมาไว้ที่กลางลานจำนวนนับหลายสิบ ปืนผาอาวุธต่าง ๆ กองกันเกลื่อนจากที่ยึดมาได้เป็นพะเนิน

พักใหญ่ สิ่งของต่าง ๆ ทั้งที่มีค่าและอาวุธ เสบียง อาหาร ก็ถูกลำเลียงขึ้นบรรทุกเกวียนหลายเล่มนั้น ม้าหลายตัวถูกลากจูงออกมาใช้ในการบรรทุกสิ่งของต่าง ๆ นี้ด้วย ข้าวของยังเหลือกองอยู่ที่กลางลานอีกมากมาย เพราะไม่มีพาหนะที่จะใช้บรรทุก เรียบร้อยแล้ว บรรดาเสือทั้งหลายก็มาชุมนุมกันล้อมรอบตัวหัวหน้าที่ยืนเด่นอยู่เคียงข้างทวน ทองรุ่ง ที่กลางลาน

เสือฝ้ายยืนมองดูผลงานของสมุนด้วยความพอใจ แล้วหันไปทางกลุ่มชาวบ้านทั้งหญิงชายละเด็กเล็กที่นำมารวมกลุ่มกันอยู่นั้น พูดเสียงก้อง

“ เอาละ พี่น้อง ข้าต้องขอโทษที่มาระราน แต่ถ้าไอ้ม้วนมันไม่ก่อเหตุ พวกเจ้าก็ไม่ต้องรับกรรมอย่างนี้ พวกที่ตายเพราะฝีมือของพวกข้า ข้าก็ต้องขออโหสิด้วย มันเกิดขึ้นเพราะความจำเป็น ญาติโยมใครก็ไปจัดการศพกันเอาเอง สิ่งของที่เหลือจากการขนนี้ ข้าขอคืนให้พวกเจ้า ส่วนที่ลำเลียงไปนั้นข้าขอ ไม่ได้ขอเอาไปทำประโยชน์กับพวกข้าทั้งหมดหรอก ข้าจะนำไปแจกจ่ายให้พวกที่มันไม่มีจะกิน ตามหมู่ บ้านต่าง ๆ ของข้า และข้าก็ขออุทิศส่วนกุศลให้พวกเจ้าด้วย พวกที่เหลืออยู่ก็ช่วยกันทำมาหากินต่อไป ข้าจะไม่มารบกวนอีก ธุระของข้าเสร็จแล้ว ข้าก็จำต้องขอลา ถ้ามเหศวรกลับมา พวกเจ้าช่วยบอกมันด้วยว่า ข้าไม่ได้หนีมัน แต่ข้าต้องไปเพราะหมดธุระของข้าแล้ว ถ้ามันยังติดใจอะไรอยู่อีก ก็ให้ส่งใบบอกไปถึงข้าที่บ้านกอไผ่ ข้าจะพบกับมันไม่ว่าที่ไหนและเมื่อไร ”

พูดจบก็เหยียบโกลนขึ้นหลังม้าที่สมุนจูงมาไว้ข้าง ๆ ทวนโดดขึ้นหลังม้าของตัวเองเคียงข้างเสือ ย่างช้า ๆ ออกไปจากลานบ้านนั้น พร้อมด้วยสมุนทั้งหมดที่บังคับม้าเกาะกลุ่มกันตามออกไป

ขบวนอันยาวเหยียดนั้นค่อย ๆ เคลื่อนออกสู่ท้องทุ่ง นำขบวนด้วยเสือฝ้ายที่นั่งเด่นอยู่บนหลังม้าตัวงาม เคียงด้วยทวน ทองรุ่ง ค่อย ๆ เยื้องย่างตามกันไป เสียงเครื่องม้ากระทบกันปนกันเสียงอิ๊ดอ๊าดของเกวียนที่ลากจูงด้วยวัวควายเป็นริ้วขบวนยาว ค่อย ๆ ทิ้งหมู่บ้านห่างออกไป




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2552 1:14:37 น. 0 comments
Counter : 732 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.