ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 15)
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 15
ไอ้เสือเอาวา เสียงนั้นตะโกนก้องเข้ามารอบ ๆ ทิศทางเข้าหมู่บ้าน แล้วก็มีเสียงปืนดังสนั่นผสมกึกก้อง ฝูงคนนับสิบบุกเข้ามาที่ชายหมู่บ้าน แต่ละคนเป็นชายฉกรรจ์ถือปืนยาวยิงนำหน้าเข้ามา แต่เป็นเสียงปืนยิงขึ้นฟ้า
เสียงหนึ่งแผดตะโกนฝ่าเสียงปืนขึ้นมา
เสือฝ้ายอยู่นี่เหรอโว้ย ข้า ... มเหศวรมาหา ขอพบหน่อย
วงล้อมที่กำลังส่งเสียงโห่ยินดีอยู่นั้นแตกฮือ เสือฝ้ายยืนจังก้าหันไปทางเสียงบุกที่ดังมาจากชายป่า ปืนในมือกระชับ สมุนเสือเข้ามาล้อมรอบตัวหัวหน้า ทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมรบ
ข้าได้ยินเสียงมันว่า มเหศวรมาใช่มั้ย เสือฝ้ายร้องถาม
ใช่ พ่อ ทวนฉุดมือพ่อ เข้าไปตั้งหลักสู้กับมันที่ข้างในดีกว่า เฮ้ย อย่าตื่น เขาร้องสั่งสมุน ตามข้ามา
ทวนดึงมือเสือผู้พ่อ ออกวิ่งฝ่าฝูงชาวบ้านที่แตกตื่นหนีไปทางหลังหมู่บ้าน สมุนทั้งหมดวิ่งกรูตามไป เสียงปืนจากฝ่ายเข้าบุกดังถี่ ๆ ตามหลังมา
ทวนจูงมือเสือฝ้ายวิ่งแหวกไป เขาถีบโต๊ะตั่งที่ขวางหน้าให้ล้มเป็นเครื่องกีดขวางไปตามทางที่วิ่งไปนั้น ทิ้งระยะจากฝ่ายบุกห่างออกไปจนถึงใต้ถุนบ้านหลังหนึ่ง ล้มโต๊ะตัวใหญ่ลงแล้วโดดข้ามไปหมอบเป็นที่กำบัง สมุนที่เหลือต่างแยกย้ายกันเข้าที่กำบังเท่าที่จะหาได้ นอนพังพาบแอบลั่นกระสุนปืนเข้าใส่ฝูงคนที่ดาหน้ากันเข้ามาสองสามคนร่วงผล็อยลงดิน แล้วฉากของการยิงต่อสู้กันก็เปิดขึ้นอย่างอึกทึก เสียงปืนของฝ่ายบุกดังหนาแน่นกว่าด้วยกำลังคนที่เหนือกว่ามากมาย
พี่ฝ้าย ยอมเขาเหอะ เสียงหนึ่งตะโกนลั่นมาทางเบื้องหลังแนวฝ่ายถูกบุก
ทวน ทองรุ่ง หันไปทางนั้น
ผู้ใหญ่ม้วนกับลูกบ้านอีกกว่าสิบ กำลังยืนจังก้าอยู่เบื้องหลังแนว ทั้งหมดจ้องปืนที่ประทับอยู่กับบ่ามายังแนวสมุนเสือฝ้ายที่หมอบยิงอยู่นั้น
ไอ้ม้วน เสือฝ้ายคำรามออกมา นี่ มึงหมายความว่ายังไง
ผู้ใหญ่ม้วนส่งเสียงหัวเราะร่า
ก็หมายความอย่างที่ฉันพูดนี่แหละพี่ฝ้าย ยอมเขาเสียเหอะ สั่งให้พวกนี้มันวางอาวุธเสีย ดีกว่าที่จะให้ฉันต้องทำบาป
เสือฝ้ายหันมามองทางทวน ซึ่งกำลังหันมามองทางเดียวกัน เสียงปืนยังดังก้องอยู่
ผู้ใหญ่ทรยศเราเสียแล้ว พ่อ ทวนพูดขบฟัน
ฉันบอกให้ทั้งหมดวางอาวุธยังไงล่ะ พี่ฝ้าย ผู้ใหญ่ม้วนกระแทกเสียงออกมาอีก จะว่าฉันทรยศก็เอาเหอะ แต่มันจำเป็น
ปืนในมือทวนลั่นเปรี้ยงออกไปทันที ร่างของผู้ใหญ่ม้วนทรุดลงตรงนั้น
แนวยิงเปิดขึ้นเป็นสองด้าน ลูกบ้านฝ่ายผู้ใหญ่ม้วนต่างวิ่งเข้าหากำบัง ลั่นกระสุนตลบหลังฝ่ายเสือฝ้ายเข้าให้อีกแนวหนึ่ง เสียงปืนแผดสนั่นหวั่นไหว ไม่รู้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายใด สมุนเสือฝ้ายสิ้นไปอีกสอง ทั้งเสือฝ้ายและทวนต่างพะวักพะวนกับการที่ต้องต่อสู้ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง
แต่ ... เหมือนปาฏิหาริย์ เสียงปืนอีกชุดหนึ่งดังมาแต่ไกล เบื้องหลังแนวที่ประกาศชื่อมเหศวรออกไปอีก เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหวยิ่งกว่าแนวอื่น สมุนฝ่ายมเหศวรต่างหันรีหันขวาง ล้มผล็อยร่วงหล่นลงเหมือนใบไม้ร่วงทีละคนสองคน เกิดระส่ำระสายในหมู่วุ่นวาย
ไอ้เสือถอย เสียงมเหศวรประกาศก้อง แล้วแนวของฝ่ายมเหศวรก็วิ่งตัดฝ่าออกไปทางชายอีกด้านของหมู่บ้าน
ชั่วครู่เดียว แนวนั้นก็วิ่งหายลับไปทางด้านหลัง อ้อมวกไปทางอีกทิศหนึ่ง เสียงฝีเท้าม้าก็ดังขึ้นก้องท้องทุ่ง เสียงควบดังค่อย ๆ หายไปทางด้านนั้น
ฝูงคนอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งฝ่าเข้ามา
พี่ทวน เสียงหนึ่งตะโกนก้อง ข้ามาแล้ว
ทวน ทองรุ่ง ผงกหัวขึ้นมอง
ไอ้ยอม พ่อกับข้าอยู่นี่
บุคคลที่วิ่งนำหน้าฝูงคนชุดใหม่เข้ามานั้น เป็นชายหนุ่มฉกรรจ์ รูปร่างบึกบึน เขาชูปืนยาวในมือหลาเข้ามา ทวนวิ่งเข้าไปกอดหนุ่มคนนั้น ทั้งคู่กอดกันกลมท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกลุ่มชายฉกรรจ์อีกหลายสิบที่วิ่งตามหลังเข้ามา
เสือฝ้ายลุกขึ้นยืน ปืนที่ถืออยู่ในมือยังคงมีควันกรุ่นอยู่ หันไปทางแนวของผู้ใหญ่ม้วนที่อยู่ด้านหลัง แนวนั้นก็กลับว่าง ไม่รู้ว่าลูกบ้านที่เป็นฝ่ายผู้ใหญ่ม้วน หลบหายไปตั้งแต่เมื่อไร รวดเร็ว ทิ้งแต่ร่างอันไร้วิญญาณของผู้ใหญ่ม้วนให้นอนคว่ำหน้าอยู่ตรงที่ล้มลงไป
ชายหนุ่มผู้บุกเข้ามานั้น ผละจากทวน ตรงเข้ามาหาเสือฝ้าย ทรุดตัวลงกราบ เสือประคองร่างนั้นลุกขึ้น
ไปยังไง มายังไง นี่ ข้างงไปหมดแล้ว เอ็งมายังไง ฮึ ไอ้ยอม
" พี่ทวนเขาให้ฉันคุมกำลังพวกเราตามมาซี พ่อ คนถูกเรียกว่ายอมพูด เขาสั่งไว้ว่า เมื่อเขาและพ่อออกมาจากบ้านกอไผ่สักครึ่งวัน ให้ฉันนำกำลังอีกสามสิบตามมา
เสือฝ้ายหันไปมองทวน ทั้ง ๆ ที่มือทั้งสองข้างยังกุมอยู่ที่ไหล่พยอม ยิ้มพราย
ไอ้ทวน ลูกข้า เอ็งช่างรอบคอบดีแท้ เอ็งแอบไปสั่งไอ้ยอมมันเมื่อไหร่
ตอนที่พ่อกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวนั่นแหละ ฉันเห็นว่าเราจะต้องตามถึงแดนมเหศวร เราจะตามด้วยกำลังเพียงสิบคนไม่ได้ ฉันก็ให้ไอ้ยอมมันนำพวกตามมาห่าง ๆ ถึงคราวคับขันจะได้แก้ไขอะไรได้ ไม่งั้นเราก็เสร็จมเหศวรไปแล้ว และนี่ฉันก็ว่ามเหศวรจะต้องย้อนกลับมาอีกด้วยกำลังที่มากกว่านี้ เราไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่นาน
เออ จริงของเอ็ง เสือฝ้ายพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก่อนที่จะไป ข้าต้องกวาดล้างที่นี่ให้สิ้นซาก ไม่เหลืออะไรไว้.. เอ้า... พวกเราโว้ย
เสือหันไปออกคำสั่ง ขึ้นกวาดมันทุกบ้าน ปล้นให้หมดทุกหลัง ยุ้งฉางมันมีอะไร กวาดต้อนไป ให้หมด อย่าทำเด็กกับผู้หญิง
สิ้นคำ บรรดาสมันทั้งหมดก็ไชโยโห่ร้อง ตรูกันแยกย้ายขึ้นไปตามบ้านแต่ละหลัง เสียงผู้คนโอดโอยดังสนั่น เด็กเล็กร้องกระจองอแง พวกผู้หญิงต่างวิ่งหนีกันลงมาจากที่ต่าง ๆ ชุลมุนไปทั่ว ด้วยเสียงหวีดร้องของผู้คนที่แตกตื่นวิ่งหนีภัย
ไม่ต้องตกใจ เสียงเสือฝ้ายประกาศก้อง คนของข้าจะไม่ทำเด็กกับผู้หญิง มีข้าวของอะไรส่งมอบให้มันเสียดี ๆ อย่าให้ต้องแย่งชิง
เสียงอึกทึกครึกโครมดังไปทั่วหมู่บ้าน ปนกับเสียงโห่ร้องของสมุนเสือ ข้าวของต่าง ๆ ถูกขนลงมากองอยู่กลางลาน เครื่องเคราทองหยองกองเป็นพะเนิน รวมทั้งเงินทองต่าง ๆ เกวียนหลายเล่มถูกลากออกมาจากที่ บางคนดึงเอาวัวควายออกมาเทียมเกวียนเหล่านั้น แล้วช่วยกันขนข้าวของขึ้นบรรทุกจนเต็มแปร้ ศพของชายฉกรรจ์หลายศพร่วงหล่นลงมาจากบ้านหลาย ๆ หลัง มากองอยู่ที่พื้นดิน ระเนระนาดไปทั่วหมู่บ้าน บางคนที่ไม่สู้ก็โดนกวาดต้อนมาไว้ที่กลางลานจำนวนนับหลายสิบ ปืนผาอาวุธต่าง ๆ กองกันเกลื่อนจากที่ยึดมาได้เป็นพะเนิน
พักใหญ่ สิ่งของต่าง ๆ ทั้งที่มีค่าและอาวุธ เสบียง อาหาร ก็ถูกลำเลียงขึ้นบรรทุกเกวียนหลายเล่มนั้น ม้าหลายตัวถูกลากจูงออกมาใช้ในการบรรทุกสิ่งของต่าง ๆ นี้ด้วย ข้าวของยังเหลือกองอยู่ที่กลางลานอีกมากมาย เพราะไม่มีพาหนะที่จะใช้บรรทุก เรียบร้อยแล้ว บรรดาเสือทั้งหลายก็มาชุมนุมกันล้อมรอบตัวหัวหน้าที่ยืนเด่นอยู่เคียงข้างทวน ทองรุ่ง ที่กลางลาน
เสือฝ้ายยืนมองดูผลงานของสมุนด้วยความพอใจ แล้วหันไปทางกลุ่มชาวบ้านทั้งหญิงชายละเด็กเล็กที่นำมารวมกลุ่มกันอยู่นั้น พูดเสียงก้อง
เอาละ พี่น้อง ข้าต้องขอโทษที่มาระราน แต่ถ้าไอ้ม้วนมันไม่ก่อเหตุ พวกเจ้าก็ไม่ต้องรับกรรมอย่างนี้ พวกที่ตายเพราะฝีมือของพวกข้า ข้าก็ต้องขออโหสิด้วย มันเกิดขึ้นเพราะความจำเป็น ญาติโยมใครก็ไปจัดการศพกันเอาเอง สิ่งของที่เหลือจากการขนนี้ ข้าขอคืนให้พวกเจ้า ส่วนที่ลำเลียงไปนั้นข้าขอ ไม่ได้ขอเอาไปทำประโยชน์กับพวกข้าทั้งหมดหรอก ข้าจะนำไปแจกจ่ายให้พวกที่มันไม่มีจะกิน ตามหมู่ บ้านต่าง ๆ ของข้า และข้าก็ขออุทิศส่วนกุศลให้พวกเจ้าด้วย พวกที่เหลืออยู่ก็ช่วยกันทำมาหากินต่อไป ข้าจะไม่มารบกวนอีก ธุระของข้าเสร็จแล้ว ข้าก็จำต้องขอลา ถ้ามเหศวรกลับมา พวกเจ้าช่วยบอกมันด้วยว่า ข้าไม่ได้หนีมัน แต่ข้าต้องไปเพราะหมดธุระของข้าแล้ว ถ้ามันยังติดใจอะไรอยู่อีก ก็ให้ส่งใบบอกไปถึงข้าที่บ้านกอไผ่ ข้าจะพบกับมันไม่ว่าที่ไหนและเมื่อไร
พูดจบก็เหยียบโกลนขึ้นหลังม้าที่สมุนจูงมาไว้ข้าง ๆ ทวนโดดขึ้นหลังม้าของตัวเองเคียงข้างเสือ ย่างช้า ๆ ออกไปจากลานบ้านนั้น พร้อมด้วยสมุนทั้งหมดที่บังคับม้าเกาะกลุ่มกันตามออกไป
ขบวนอันยาวเหยียดนั้นค่อย ๆ เคลื่อนออกสู่ท้องทุ่ง นำขบวนด้วยเสือฝ้ายที่นั่งเด่นอยู่บนหลังม้าตัวงาม เคียงด้วยทวน ทองรุ่ง ค่อย ๆ เยื้องย่างตามกันไป เสียงเครื่องม้ากระทบกันปนกันเสียงอิ๊ดอ๊าดของเกวียนที่ลากจูงด้วยวัวควายเป็นริ้วขบวนยาว ค่อย ๆ ทิ้งหมู่บ้านห่างออกไป
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2552 1:14:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 732 Pageviews. |
|
|
|
| |