จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
12 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
เหล็กละลาย (ตอนที่ 30)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 30

เราได้ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ภายในเวลามากี่วันที่ยื่นขอไป ในสมุดใบต่างด้าวนั้น ระบุไว้ด้วยว่า เราจะมาประกอบอาชีพอะไรในดินแดนสวิสส์ไม่ได้ หมายถึงจะไปเป็นลูกจ้าง หรือเสมียน พนักงานของใครที่ไหนไม่ได้ ถ้าอยากจะทำ ก็ต้องขออนุญาต อีกต่างหากเราจะต้องมีหนังสือเดินทางประจำตัว และการที่จะเดินทางไปไหนมาไหน ออกนอกประเทศ ก็จะต้องทำวิซ่าสำหรับเข้าสวิสส์อีกด้วย วีซ่านี้ใช้ได้หลายครั้งในกำหนดสามเดือน หรือหกเดือน ต่ออายุกันทีหนึ่ง เรามีหนังสือเดินทางที่ทางสถานทูตไทยเปลี่ยนมาให้เป็นหนังสือเดินทางธรรมดาไว้แล้ว จึงสะดวกหน่อย

หนังสือเดินทางฉบับแรกของผม ยังระบุยศตำรวจไว้ เดินทางไปไหนค่อยสะดวก เพราะทางด่านตรวจ พอเห็นชื่อ ยศ เข้าก็ไม่ซักอะไรมาก ปล่อยไปเร็ว ๆ พวกเดียวกัน

ภายหลังพอฉบับนั้นหมดอายุ ขอต่อใหม่ เขาเอายศผมออก ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร อยู่ ๆ มาถอดยศของผมเอาโดยพละการอย่างนั้นเอง ไม่ทราบว่าเป็นความคิดของใคร ผมคิดจะเอาเรื่องตอนนั้น เพราะยศของผมเป็นยศพระราชทาน ผู้ที่จะถอดยศได้ มีผู้เดียวเท่านั้น คือองค์พระเจ้าอยู่หัว ผมคิดจะตั้งข้อหาเอากับเจ้าหน้าที่สถานทูตถึงขนาดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่บังอาจมาเอายศซึ่งพระราชทานให้ผมออกโดยพละการ แต่คิดไปแล้วก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร ดีไม่ดีจะพลอยยึดหนังสือเดินทางคืนเสียอีก ตอนนั้นใครเขาจะมาฟังเสียงของเรา เขาอยากจะทำอะไรก็ทำเอาตามใจชอบ ก็คงจะไม่อยากให้เราใช้ยศของเราตามปกติ เพราะหมดอำนาจหน้าที่แล้ว เป็นความเขลาของคน ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เขาไม่เข้าใจอะไรอย่างถ่องแท้ ผมจึงต้องยอมรับสภาพนั้นไปก่อน เขาออกหนังสือเดินทางให้ใหม่ก็นับว่าดีแล้ว

ความจริง หนังสือเดินทางนี่ก็ไม่สำคัญอะไรมัก เพราะทางรัฐบาลไทยไม่ยอมออกให้ เราก็ขอหนังสือรับรองจากรัฐบาลสวิสส์ได้ และใช้เป็นหนังสือเดินทางได้เหมือนกัน แต่มีหนังสือเดินทางไทยไว้มันดีกว่า เพราะยังไง ๆ ก็ยังเรียกว่า เป็นคนไทยอย่างภาคภูมิ

การอยู่ที่สวิสส์ต่อไปก็จะต้องทำอะไร ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนกระบวนความของเขา คือต้องเสียภาษี รัฐบาลสวิสส์เรียกเก็บภาษีกับชาวต่างขาติทุกคนที่มาอาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง เขาถือว่าผู้ที่เข้ามาอยู่ในสวิสส์ จะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ทุกคน การประเมินรายได้ ถ้าเราไม่อยากจะแถลงรายละเอียด ก็จะถือเอาตามกฎของเขาก็ได้ว่า จะต้องมีรายได้ที่ประเมินปีละสองหมื่นห้าพันแฟรงก์ ไม่ต่ำกว่านั้น ถ้ามิฉะนั้นก็จะต้องแสดงรายละเอียดที่มาของรายได้ที่มีอยู่ เงินที่ฝากแบงค์นั้น รายได้จากที่นั่นถูกคิดภาษีเรียบร้อยแล้วทางนั้น หรือถ้ามีการลงทุนในการค้า ภาษีของถูกเก็บทางนั้นแล้ว

ผมไม่มีรายได้จากทางไหน ก็พลอยเสียภาษีไปกับเขาด้วย โดยใช้การประเมินสองหมื่นห้าพันแฟรงก์อย่างว่านั้น ภาษียี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ ทำเอาอานไปเลย แต่ไม่เป็นไร นายท่านเสียให้ ก็ผมไม่มีจะเสีย

นอกจากภาษีรายได้แล้ว ก็ยังต้องเสียค่าประกันสังคมอีก เขาประเมินเอาตามรายได้ อาศัยรายการจากการเสียภาษีได้ ค่าประกันสังคมนี้ต้องเสียเป็นรายปีตามเขากำหนด หากเราไม่พอใจตามจำนวนเงินที่เขากำหนดให้เสีย ก็อาจร้องอุทธรณ์ได้ยังสำนักงานรับเรื่องราวอุทธรณ์ เพื่อให้กำหนดจำนวนเงินที่จะต้องเสียเป็นค่าประกันสังคมรายปีใหม่ได้ เงินจำนวนนี้เขาจะคืนให้เรา ถ้าเราเป็นคนต่างชาติ ตอนที่เราจะออกจากประเทศ ถ้าไม่ไปไหน เขาก็เก็บเรื่อยไปจนถึงอายุหกสิบก็ไม่ต้องเสียอีก และไม่ต้องทำมาหากินอะไร ถึงตอนนั้นรัฐจะรับเลี้ยงดู โดยจ่ายเงินค่ายังชีพให้ตามเกณฑ์

ผมไม่คิดที่จะอยู่สวิสส์จนถึงอายุหกสิบ ผมจึงหาทางเลี่ยงค่าประกันสังคมนี้จนสำเร็จ จะว่าผมเลี่ยงก็ไม่ถูกนัก เหตุการณ์มันช่วยให้เป็นไปเอง แล้วจะเล่าให้ฟังเมื่อถึงตอนนั้น

ด้วยการช่วยเหลือจัดการของนายดูตัวต์ ทนายคนนั้น เราก็ได้มีหลักฐานที่จะอยู่ในสวิสส์โดยไม่ต้องเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง และจะไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ และรอฟังการตกลงใจของรัฐบาลสวิสส์ในเรื่องที่ผมต้องหาต่อไป โดยไม่ต้องหวาดผวาอีกต่อไป เพราะยังไง ๆ เราก็ยังมีเวลาพอที่จะคิดว่า จะทำอะไรต่อไปสำหรับเรื่องนี้ กว่าทางตำรวจไทยจะแปลสำนวนออกมาเป็นสี่ภาษาก็คงจะนานอยู่หรอก

ผมก็สบายหน่อยที่ไม่ต้องมานึกถึงเรื่องที่จะต้องถูกส่งตัวไปอยู่
ลิชเต้นสไตน์อีกต่อไป

หลังจากที่พี่ดมมาอยู่กับท่าน และคนใช้มาด้วยอย่างพร้อมมูลแล้ว ผมก็ต้องย้ายที่อยู่อีก ตอนนี้ออกจากโรงแรมไปอยู่บ้านเช่า ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปอีกจากที่อยู่เดิม เราจะต้องลดรายจ่ายลงไปเรื่อย ๆ เท่าที่จะทำได้ ตามแผนอยู่สิบปีของท่าน

บ้านที่ผมกับพันศักดิ์ไปอยู่ใหม่นี้ เป็นบ้านเช่าขนาดย่อม ๆ อยู่ที่ถนน เชอแมง เดอ ลา โปมิแอร์ ดูชื่อถนนว่า เป็นขนาด เชอแมงแล้ว ก็ต้องรู้ว่าเป็นถนนเล็ก ๆ ถนนฝรั่งเศสมีหลายระดับ ถ้าขนาด อาเวอนู ละก้อ ใหญ่ที่สุด ขนาดราชดำเนินของเรา ถ้า รู (Rue) ก็เล็กลงมาหน่อย ขนาดธรรมดาที่เราเห็น ๆ อยู่ในบ้านเรา ที่เขาติดป้ายตามหัวถนน มีภาษาอังกฤษกำกับว่า Thanon ลงไปด้วย เห็นมีอยู่ทั่วไปแทบทุกหัวถนนที่มีการเปลี่ยนแปลงป้ายถนนใหม่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นความคิดของใคร จะว่าอุตริ ก็ไม่กล้าว่า เพราะเขาอาจจะเห็นว่าถูกต้องก็ได้ มันเป็นไอเดียใหม่จากมันสมองของใครก็ไม่รู้ ที่อยากจะให้ฝรั่งอ่านชื่อถนนของเราเป็นถนนจริง ๆ ดูเชย ๆ ยังไงพิกล ปนน่าขันด้วย ถนนขนาด เชอแมง ที่ผมอยู่นี้ เป็นขนาดเล็กลงไปอีก และอยู่ห่างจากเมือง จะตรงกับคำว่าซอยของเรา ก็คงจะใช่

บ้านนี้เป็นบ่นสามชั้น แบ่งให้เช่าเป็นชั้น ๆ ชั้นล่างเป็นของครอบครัวชาวอเมริกันครอบครัวหนึ่ง ซึ่งตัวสามีเป็นคนหนุ่มทำงานอยู่บริษัทการค้าแห่งหนึ่ง ภรรยาอยู่กับลูกชายตัวเล็ก ๆ อีกสองคน

ชั้นที่สองเป็นของเรา มีห้องอยู่สี่ห้อง เป็นห้องนอนห้องหนึ่ง ห้องรับแขกห้องหนึ่ง ใช้เป็นห้องอาหารได้ด้วย และมีห้องเล็ก ๆ สำหรับคนใช้ห้องหนึ่ง แล้วก็ห้องน้ำ ค่าเช่าห้าร้อยแฟรงก์ ราว ๆ สองพันห้าร้อยบาทต่อเดือน ผมกับพันศักดิ์แบ่งห้องนอนกัน ผมเอาห้องที่เป็นห้องนอน ส่วนไอ้อ้วนเอาห้องรับแขก ห้องเล็กก็เป็นห้องของอาดอล์ฟ เพราะท่านให้เอารถมาเก็บที่บ้านเรา เพื่อการสะดวกที่ตอนเช้า เราจะไปหาท่าน จะได้ไม่ต้องเสียค่ารถ บ้านที่อยู่ใหม่ห่างจากแฟลตที่ท่านอยู่เกือบสามกิโล

ตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านใหม่นี่ เลยต้องมีภาระเพิ่มขึ้นอีก คือเรื่องทำความสะอาดบ้าน ใหม่ ๆ ก็วุ่นวายหน่อย เพราะล้วนแต่คนไม่เคยทำทั้งสองคน ต่อมาอาดอล์ฟมันคงเห็นความสะอาดชักไม่ค่อยสะอาด และมันรำคาญนัยน์ตามัน

มันจึงให้เมียซึ่งได้หยุดงานวันพฤหัส ฯ มาจากเบิร์น ซึ่งเขามีบ้านอยู่ที่นั่น มาหยุดพักที่บ้าน และได้เมียเขาช่วยทำความสะอาดให้อาทิตย์ละครั้ง บ้านจึงค่อยเป็นบ้านขึ้นหน่อย

ภาระอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องตื่นเช้านั่งรถไปหาเจ้านายที่แฟลต เพราะต้องเอารถไปให้ใช้ทุกเช้า อาหารเช้าก็ต้องทำกันเอง วันไหนอาดอล์ฟมันขยัน มันก็ทำให้ แต่ส่วนมากเราทำเอง ทอดไข่ชงกาแฟไม่ใช่เรื่องยาก พอเสร็จอาหารเช้าก็ติดรถเข้าไปหาเจ้านาย ตั้งหลักไว้ก่อน ถ้าจะไปไหนต่อก็ไปจากที่นั่น ทุ่นค่ารถไปอีกแยะ

แรก ๆ ก็ขยันตื่นไป พอนานเข้า ไม่รู้จะตื่นไปทำไม เลยปล่อยให้อาดอล์ฟเอารถเปล่า ๆ ไปคอยรับใช้ท่านอยู่ทางแฟลต ถ้าท่านมีธุระอะไรกับเราก็โทรศัพท์มาเรียกได้ วันไหนไม่มีธุระไปซื้อข้าวของ ก็นอนเขลงอยู่กับบ้าน เป็นคนว่างงานไป

ทีนี้ก็เริ่มเที่ยว ไม่ได้ออกไปไหนมานานแล้ว ตั้งแต่พลาดโอกาสกับแม่เบอาตรีซครั้งนั้นแล้ว ผมกับไอ้อ้วนก็ไม่ได้เที่ยวที่ไหนอีก เพราะต้องดูแลเจ้านายตอนป่วย พอพี่ดมเดินทางมาถึง ก็ต้องทำตัวให้อยู่ในระเบียบวินัยพอสมควร และอีกอย่างหนึ่งเกรงว่า ถ้าเราไปไหน เกิดเจ้านายเป็นอะไรขึ้นมา ต้องการเรียกใช้รถก็จะยุ่งกันใหญ่ ระหว่างที่อาการของโรคหัวใจยังไม่เป็นที่น่าวางใจ ก็ต้องคอยฟังเหตุการณ์อยู่ที่ที่พัก ถึงแม้จะอยู่กันคนละที่ ก็ต้องอยู่ให้เรียกได้ ถ้าเกิดฉุกเฉิน และอาการโรคหัวใจนั้น อาจเกิดปุบปับเมื่อไรก็ได้

ระยะหลังที่พีดมมาอยู่ด้วย อาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ และหมอรับรองอาการ ว่าอยู่ในขั้นที่หมอพอใจ สุขภาพดีขึ้น เดินไปไหนมาไหนได้ไกล ๆ เหมือนคนปกติแล้วตอนนี้ เราก็ชักจะคิดถึงราตรีของเจนีวาขึ้นมา นอนหัวค่ำจนน้ำหนักขึ้นแล้ว



Create Date : 12 กันยายน 2553
Last Update : 12 กันยายน 2553 4:28:53 น. 0 comments
Counter : 814 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.