จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
เงื่อนไม่มีปม # 3 เรื่อง " ? " (ตอนที่ 1)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ประพันธ์เมื่อปี พ.ศ. 2516

เรื่อง " ? " (ตอนที่ 1)



ในกระบวนพ่อค้าที่โชคดีและเป็นนักฉวยโอกาสอย่างเยี่ยมยอดแล้ว ก็ต้องยกให้ มนัส ชโลรมย์ เป็นหนึ่ง

บริษัทการค้าของเขากำลังดำเนินกิจการไปด้วยความก้าวหน้า อย่างที่พ่อค้ามือชั้นเดียวกันต้องอิจฉา

นอกจากความเชี่ยวชาญในเชิงการค้าแล้ว มนัสยังเป็นผู้กว้างขวางในวงสังคมอีกด้วย มีผู้กล่าวว่า เขาจับสังคมไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งนั้นกำเอาตลาดการค้าไว้ในอุ้งมือ เมื่อประกอบกับเป็นผู้เก็งการณ์ได้แม่น เพราะความเจนจัดอันเกิดจากวัยของเขา มนัสจึงเป็นนักการค้าที่อยู่ในแนวหน้า เป็นที่หวั่นเกรงแก่พ่อค้าอื่นซึ่งเป็นคู่แข่ง

โทรศัพท์บนโต๊ะของมนัสส่งเสียงกริ่งเรียกขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เขาปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น เพื่อที่จะให้เลขาของเขาทำหน้าที่ยกหูรับ แต่เมื่อมันดังต่อไปโดยไม่มีคนรับ มนัสจึงนึกออกได้ว่า เช้าวันนี้ เขาใช้ให้เลขาของเขาไปซื้อของนอกสำนักงาน เขาเอื้อมมือไปยกหูขึ้นฟัง

ยังไม่ทันที่มนัสจะส่งเสียงอะไรลงไปในกระบอกพูด เขาก็ได้ยินเสียงทางหูฟังเสียก่อนว่า
“ ฮัลโหล คุณชุมพลใช่ไหมคะ ”

เสียงนั้นเป็นเสียงของผู้หญิง มีกังวานไพเราะน่าฟัง และยังไม่ทันที่เขาจะตอบว่าใช่หรือไม่ เสียงนั้นก็พูดต่ออีกว่า
“ แหม ปล่อยให้เรียกอยู่ได้ตั้งนาน มัวทำอะไรอยู่คะ ”

และก็ยังไม่ทันที่มนัสจะได้บอกว่า เขามัวทำอะไรอยู่ เสียงนั้นก็พูดต่อมาอีกว่า
“ ว่ายังไงคะ เรื่องนั้น ”

มนัสนิ่งอึ้ง เพราะเขาไม่รู้ว่า จะตอบคำถามไหนก่อนดี เพราะมันเรียงมาติด ๆ กัน โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวถึงสามคำถาม

“ ฮัลโหล คุณฟังอยู่หรือเปล่าน่ะ ” เสียงนั้นดังเข้ามาอีก

“ ผมยังฟังอยู่ ”
คราวนี้มนัสมีโอกาสได้ตอบ เพราะฝ่ายผู้ที่พูดมา เว้นจังหวะให้เขาตอบ

มีเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกดังมาจากทางโน้น แล้วจึงมีเสียงพูดตามมาว่า
“ นึกว่าคุณไม่อยากจะพูดกับดิฉันเสียอีก ว่ายังไงคะ เรื่องนั้น ทางเรารอฟังคำตอบอยู่ ”

“ ผมก็ยังไม่ทราบว่าจะยังไง ว่าแต่คุณจะว่ายังไง ”
มนัสพูดตอบไป เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า หล่อนพูดเรื่องอะไร
“ และคุณก็ยังไม่ได้บอกผมว่า คุณเป็นใคร ”

มีเสียงหัวเราะกังวานอย่างไพเราะมาจากทางโน้น แล้วหล่อนก็พูดว่า
“ อย่ารู้เลยค่ะ ว่าดิฉันเป็นใคร ทราบแต่เพียงว่า เป็นตัวแทนของคุณกมลก็แล้วกัน ”

มนัสอมยิ้ม เขาได้ความแน่ใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่งว่า ผู้พูดไม่ใช่ผู้ที่รู้จักกันดีกับผู้ที่ชื่อชุมพล ที่หล่อนคิดว่ากำลังพูดอยู่ด้วย เขาไม่รู้ว่า ชุมพลที่หล่อนพูดถึงผู้นี้คือใคร และกมลที่หล่อนพูดถึงนี้เป็นใคร และเรื่องที่หล่อนกำลังพูดถึงอยู่นั้นคือเรื่องอะไร

ความจริงวันนี้ เขาไม่มีเรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องทำ และเขากำลังว่าง
ไหน ๆ ก็ได้พูดจากันถึงเพียงนี้แล้ว พูดต่อไปอีกหน่อยคงจะรู้เรื่องอะไร ๆ ดีขึ้น และข้อสำคัญ เสียงนี้เป็นเสียงที่ไพเราะน่าฟังอยู่ เขาเดาเอาว่า เจ้าของเสียงจะต้องสวย มนัสกำลังนึกสนุก

“ คุณทราบดีแล้วไม่ใช่หรือคะ ว่าคุณกมลยื่นข้อเสนอไว้อย่างไร ”
เสียงนั้นพูดต่อมาอีก

“ ทราบดีแล้ว ” มนัสตอบไป

“ คุณกมลรอคำตอบมาสองวันแล้ว ”

“ ทำไมเขาไม่มาพูดกับผมเอง ”
มนัสคิดว่า คำถามนี้คงจะพาไปความรู้เรื่องอะไรได้บ้าง

“ คุณกมลไม่ว่างที่จะมาพูดกับคุณด้วยตัวเองค่ะวันนี้ ”
เป็นคำตอบที่มนัสเดาอะไรไม่ได้ดีขึ้น

“ ถ้ายังงั้น ให้เขาพูดกับผมเมื่อเขาว่างก็ได้ ”

“ เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งวางหู ”
เสียงพูดระล่ำระลักมาจากทางโน้นคงจะคิดว่า คำพูดของเขานี้เป็นคำขาด
“ ดิฉันได้รับมอบเรื่องจากคุณกมลให้เป็นผู้ติดต่อกับคุณแทนในเรื่องนี้ ”

“ คุณเป็นอะไรกับเขา ”
มนัสถาม เขารอฟังคำตอบ

หล่อนเงียบไปครู่หนึ่งจึงพูดมาว่า
“ เป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง ”

“ เขาควรจะให้ผู้ที่เป็นมากกว่าเพื่อนมาพูดกับผม เพราะเราอาจจะต้องมีการตกลงอะไรกันบางอย่าง หากผมมีเงื่อนไขอะไรแตกต่างออกไป คุณจะตกลงใจอะไรแทนเขาหรือ ”
มนัสหลิ่วตากับตัวเอง เมื่อพูดจบ

“ ดิฉันคิดว่า ดิฉันตกลงใจแทนเขาได้ ”
เสียงนั้นพูดสวนมาทันที

“ ถ้ายังงั้น คุณก็ต้องเป็นมากกว่าเพื่อนของเขา ไม่ใช่เพื่อนเท่านั้นเองอย่างที่คุณพูด ”

“ คุณจะเข้าใจอย่างนั้นก็ไม่ผิดเหมือนกัน ”

“ อ้ะ ” มนัสอุทานออกมาอย่างเข้าใจความหมาย
“ คุณพูดเสียอย่างนี้ทีแรกก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ”

“ คุณอย่าเข้าใจผิด ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขาอย่างที่คุณกำลังเข้าใจอยู่เดี๋ยวนี้ ”
หล่อนพูด

“ ผมกำลังเข้าใจอยู่ว่าอย่างไร ”
มนัสถามอย่างนึกสนุก

“ เสียง อ้ะ ของคุณน่ะซิ ดิฉันรู้ว่า คุณอุทานออกมายังงั้น คุณกำลังคิดอะไร ”

“ ผมกำลังคิดอะไร ? ”

“ คุณกำลังคิดอะไรก็ตามแต่ ดิฉันไม่อยากจะเดาให้เข้าตัว แต่ที่ดิฉันบอกว่า ดิฉันตกลงแทนเขาได้นั้นก็เพราะดิฉันเป็นหุ้นใหญ่คนหนึ่งในบริษัทเศรษฐกรไทยที่คุณกมลเป็นผู้จัดการ ผลได้เสียของบริษัมส่วนใหญ่เป็นของดิฉัน ขอให้คุณเข้าใจตามนี้ ”

“คุณบอกผมเสียชัด ๆ อย่างนี้ ผมก็ไม่ อ้ะ อย่างเมื่อกี้นี้ ”

“ เมื่อคุณทราบชัดเจนอย่างนี้แล้ว ดิฉันก็ขอคำตอบ ”
เสียงของหล่อนเอาการเอางาน

“ผมไม่ทราบว่า บริษัทเศรษฐกรไทย มีหุ้นใหญ่เป็นผู้หญิง ”
เขาพูดเปรย ๆ ออกไป

“ ดิฉันเพิ่งจะซื้อหุ้นนั้นไว้เมื่อวานนี้เอง ”
หล่อนตอบเพื่อจะปัดความสงสัยของเขา

“ เป็นนโยบายของคุณกมลหรือ ที่ใช้ให้คุณมาพูดกับผม ”

“ ไม่ใช่นโยบายของใครทั้งนั้น มันเป็นความตั้งใจของฉันเองที่จะพูดกับคุณ ดิฉันจะบอกคุณตรง ๆ ก็ได้ ไม่ใช่คุณกมลใช้ไหว้วานมาอะไรทั้งนั้น ทั้งบริษัทเขาหมดความพยายามกันแล้วที่จะพูดกับคุณถึงเรื่องนี้ ดิฉันเองได้มีความเห็นว่าจะลองพยายามอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย เขาให้เบอร์โทรศัพท์ของคุณมา แล้วดิฉันก็กำลังพูดอยู่นี่ ”

“ และคุณคิดว่า คุณจะพูดกับผมได้ ? ” มนัสถาม ยิ้มกับตัวเอง

“ เราจะรู้ได้อย่างไร หากยังไม่ได้ทดลอง และมันก็ไม่เสียหายอะไร หากจะลอง ถึงแม้เขาว่ากันว่า คุณเป็นคนที่พูดด้วยยาก ”

“ ผมเจรจางานการด้วยการพูดกันด้วยตัว ไม่ใช่ทางโทรศัพท์ ”

“ ดิฉันก็คิดเหมือนกัน ว่าจะเชิญคุณพบที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เพื่อเจรจาเรื่องนี้ ดิฉันก็ไม่ชอบการเจรจาที่มองไม่เห็นสีหน้าอย่างนี้ เรามีทางรู้ได้ว่า ผู้มีพูดกับเรามีทีท่าจริงจังแค่ไหน ที่โทรศัพท์มานี่ก็เพราะเป็นหนทางเดียวที่ดิฉันจะติดต่อกับคุณได้ในขั้นต้นนี้ ”

“ ผมควรจะได้รู้จักคุณมากกว่านี้อีกสักหน่อย ก่อนที่จะได้ตกลงใจว่าจะพบคุณหรือไม่ ”

“ เรียกดิฉันว่า เรไร ก็แล้วกันค่ะ”

“ เรไร อะไรไม่ทราบ ”

“ ทราบแต่เพียงเท่านั้นก็แล้วกันค่ะ ” หล่อนหัวเราะเบา ๆ กับคำพูด

“ คุณรู้จักผมหรือเปล่า ”

“ ดิฉันรู้จักชื่อคุณชุมพล แต่ไม่คิดว่าจะได้เคยพูดจากับคุณ ดิฉันไม่ใช่คนค้าขายเก่าแก่ เพิ่งจะได้ซื้อหุ้นนี้ไว้เมื่อวานนี้ แต่มันคงไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอะไรไม่ใช่หรือคะ ในการที่เราจะเจรจากัน ”

“ มันไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอะไรหรอก แต่ว่าผมจะรู้ได้อย่างไรว่า เราจะพบกันได้โดยไม่มีการผิดตัว ”

“ หากคุณตกลงใจที่จะพบดิฉัน ดิฉันก็มีวิธีที่เราจะพบกันได้โดยไม่ผิดตัว ไม่ยากอะไร ”

“ คุณบอกมาก่อน แล้วผมจะบอกว่า ผมจะตกลงใจอย่างไร ”

“ คุณชุมพลเป็นคนที่ไม่ชอบเสียเปรียบคน จริงอย่างที่เขาว่ากัน ”
หล่อนพูด หัวเราะเบา ๆ
“ ดิฉันมีบ้านรับรองอยู่ที่ในสุขุมวิท ๓๑ ซอยสวัสดี ที่นั่น คุณจะพบดิฉันได้ หากคุณจะบอกเวลามาว่า คุณจะต้องการพบเวลาเท่าใด ”

“ คุณอยู่ที่นั่นคนเดียว ”

“ มันเป็นบ้านรับรอง คุณคงเข้าใจความหมายของมัน ดิฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น ”

เขาหยุดคิดนิ่งอยู่สักครู่ จึงพูดว่า
“ ผมไม่ค่อยชอบความหมายของมัน เอายังงี้ดีกว่า คุณรอผมอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง แล้วผมจะไปรับคุณที่นั่น ”

“ หมายความว่า คุณไม่ไว้ใจบ้านหลังนั้น ? ”

“ ผมไม่ชอบความหมายของมันเท่านั้นเอง ”

“ นอกจากจะพูดด้วยยากแล้ว คุณยังเป็นคนช่างระแวงเสียอีก แล้วคุณจะรับดิฉันไปที่ไหน ”

“นี่ก็อีกเหมือนกัน ผมยังไม่รู้ว่า จะพาคุณไปที่ไหน ”

“ คุณยังไม่รู้ หรือว่าคุณยังไม่อยากบอก ”

“ เอาเป็นว่าทั้งสองอย่าง ว่าแต่คุณจะคอยผมที่ไหน ”

“ คุณบอกมาก็แล้วกัน ดิฉันไปได้ทั้งนั้น ”

“ เที่ยงตรง ที่ลานพระรูป เป็นไง ”

“ ลานพระรูปออกกว้าง ดิฉันจะไปยืนอยู่ตรงไหน ”

“ ตรงฐานพระบรมรูปทรงม้าที่เดียวเป็นไง จะได้ไม่ผิดตัว ผมคิดว่าคงจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นไปยืนอยู่ที่นั่น นอกจากคุณ ตอนเที่ยงตรงวันนี้ และคนที่จะขับรถทันเดอร์เบิรดสีงาช้างไปรับคุณ ก็ต้องเป็นผมแน่นอน ”

หล่อนนิ่งไปชั่วขณะ จึงพูดว่า
“ คุณช่างเลือกที่เก่งแท้ ไม่มีที่อื่นดีกว่าที่นั่นแล้วหรือคะ ”

“ อาจจะมี แต่เวลานี้ผมยังนึกที่ดีกว่านี้ไม่ออก ”
เขาพูด กลั้นหัวเราะ

“ ตกลงค่ะ เที่ยงตรง ดิฉันจะยืนรออยู่มี่ฐานพระรูป สวัสดีค่ะ ”

เสียงวางหูยังกริ๊ก ก่อนที่มนัสจะทันได้พูดว่าอย่างไร





Create Date : 11 มกราคม 2555
Last Update : 12 มกราคม 2555 1:09:20 น. 1 comments
Counter : 690 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก



โดย: ก้นกะลา วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:20:43:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.