เงื่อนไม่มีปม # 3 เรื่อง " ? " (ตอนที่ 1)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ประพันธ์เมื่อปี พ.ศ. 2516
เรื่อง " ? " (ตอนที่ 1)
ในกระบวนพ่อค้าที่โชคดีและเป็นนักฉวยโอกาสอย่างเยี่ยมยอดแล้ว ก็ต้องยกให้ มนัส ชโลรมย์ เป็นหนึ่ง
บริษัทการค้าของเขากำลังดำเนินกิจการไปด้วยความก้าวหน้า อย่างที่พ่อค้ามือชั้นเดียวกันต้องอิจฉา
นอกจากความเชี่ยวชาญในเชิงการค้าแล้ว มนัสยังเป็นผู้กว้างขวางในวงสังคมอีกด้วย มีผู้กล่าวว่า เขาจับสังคมไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งนั้นกำเอาตลาดการค้าไว้ในอุ้งมือ เมื่อประกอบกับเป็นผู้เก็งการณ์ได้แม่น เพราะความเจนจัดอันเกิดจากวัยของเขา มนัสจึงเป็นนักการค้าที่อยู่ในแนวหน้า เป็นที่หวั่นเกรงแก่พ่อค้าอื่นซึ่งเป็นคู่แข่ง
โทรศัพท์บนโต๊ะของมนัสส่งเสียงกริ่งเรียกขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เขาปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น เพื่อที่จะให้เลขาของเขาทำหน้าที่ยกหูรับ แต่เมื่อมันดังต่อไปโดยไม่มีคนรับ มนัสจึงนึกออกได้ว่า เช้าวันนี้ เขาใช้ให้เลขาของเขาไปซื้อของนอกสำนักงาน เขาเอื้อมมือไปยกหูขึ้นฟัง
ยังไม่ทันที่มนัสจะส่งเสียงอะไรลงไปในกระบอกพูด เขาก็ได้ยินเสียงทางหูฟังเสียก่อนว่า ฮัลโหล คุณชุมพลใช่ไหมคะ
เสียงนั้นเป็นเสียงของผู้หญิง มีกังวานไพเราะน่าฟัง และยังไม่ทันที่เขาจะตอบว่าใช่หรือไม่ เสียงนั้นก็พูดต่ออีกว่า แหม ปล่อยให้เรียกอยู่ได้ตั้งนาน มัวทำอะไรอยู่คะ
และก็ยังไม่ทันที่มนัสจะได้บอกว่า เขามัวทำอะไรอยู่ เสียงนั้นก็พูดต่อมาอีกว่า ว่ายังไงคะ เรื่องนั้น
มนัสนิ่งอึ้ง เพราะเขาไม่รู้ว่า จะตอบคำถามไหนก่อนดี เพราะมันเรียงมาติด ๆ กัน โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวถึงสามคำถาม
ฮัลโหล คุณฟังอยู่หรือเปล่าน่ะ เสียงนั้นดังเข้ามาอีก
ผมยังฟังอยู่ คราวนี้มนัสมีโอกาสได้ตอบ เพราะฝ่ายผู้ที่พูดมา เว้นจังหวะให้เขาตอบ
มีเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกดังมาจากทางโน้น แล้วจึงมีเสียงพูดตามมาว่า นึกว่าคุณไม่อยากจะพูดกับดิฉันเสียอีก ว่ายังไงคะ เรื่องนั้น ทางเรารอฟังคำตอบอยู่
ผมก็ยังไม่ทราบว่าจะยังไง ว่าแต่คุณจะว่ายังไง มนัสพูดตอบไป เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า หล่อนพูดเรื่องอะไร และคุณก็ยังไม่ได้บอกผมว่า คุณเป็นใคร
มีเสียงหัวเราะกังวานอย่างไพเราะมาจากทางโน้น แล้วหล่อนก็พูดว่า อย่ารู้เลยค่ะ ว่าดิฉันเป็นใคร ทราบแต่เพียงว่า เป็นตัวแทนของคุณกมลก็แล้วกัน
มนัสอมยิ้ม เขาได้ความแน่ใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่งว่า ผู้พูดไม่ใช่ผู้ที่รู้จักกันดีกับผู้ที่ชื่อชุมพล ที่หล่อนคิดว่ากำลังพูดอยู่ด้วย เขาไม่รู้ว่า ชุมพลที่หล่อนพูดถึงผู้นี้คือใคร และกมลที่หล่อนพูดถึงนี้เป็นใคร และเรื่องที่หล่อนกำลังพูดถึงอยู่นั้นคือเรื่องอะไร
ความจริงวันนี้ เขาไม่มีเรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องทำ และเขากำลังว่าง ไหน ๆ ก็ได้พูดจากันถึงเพียงนี้แล้ว พูดต่อไปอีกหน่อยคงจะรู้เรื่องอะไร ๆ ดีขึ้น และข้อสำคัญ เสียงนี้เป็นเสียงที่ไพเราะน่าฟังอยู่ เขาเดาเอาว่า เจ้าของเสียงจะต้องสวย มนัสกำลังนึกสนุก
คุณทราบดีแล้วไม่ใช่หรือคะ ว่าคุณกมลยื่นข้อเสนอไว้อย่างไร เสียงนั้นพูดต่อมาอีก
ทราบดีแล้ว มนัสตอบไป
คุณกมลรอคำตอบมาสองวันแล้ว
ทำไมเขาไม่มาพูดกับผมเอง มนัสคิดว่า คำถามนี้คงจะพาไปความรู้เรื่องอะไรได้บ้าง
คุณกมลไม่ว่างที่จะมาพูดกับคุณด้วยตัวเองค่ะวันนี้ เป็นคำตอบที่มนัสเดาอะไรไม่ได้ดีขึ้น
ถ้ายังงั้น ให้เขาพูดกับผมเมื่อเขาว่างก็ได้
เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งวางหู เสียงพูดระล่ำระลักมาจากทางโน้นคงจะคิดว่า คำพูดของเขานี้เป็นคำขาด ดิฉันได้รับมอบเรื่องจากคุณกมลให้เป็นผู้ติดต่อกับคุณแทนในเรื่องนี้
คุณเป็นอะไรกับเขา มนัสถาม เขารอฟังคำตอบ
หล่อนเงียบไปครู่หนึ่งจึงพูดมาว่า เป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง
เขาควรจะให้ผู้ที่เป็นมากกว่าเพื่อนมาพูดกับผม เพราะเราอาจจะต้องมีการตกลงอะไรกันบางอย่าง หากผมมีเงื่อนไขอะไรแตกต่างออกไป คุณจะตกลงใจอะไรแทนเขาหรือ มนัสหลิ่วตากับตัวเอง เมื่อพูดจบ
ดิฉันคิดว่า ดิฉันตกลงใจแทนเขาได้ เสียงนั้นพูดสวนมาทันที
ถ้ายังงั้น คุณก็ต้องเป็นมากกว่าเพื่อนของเขา ไม่ใช่เพื่อนเท่านั้นเองอย่างที่คุณพูด
คุณจะเข้าใจอย่างนั้นก็ไม่ผิดเหมือนกัน
อ้ะ มนัสอุทานออกมาอย่างเข้าใจความหมาย คุณพูดเสียอย่างนี้ทีแรกก็ไม่เป็นปัญหาอะไร
คุณอย่าเข้าใจผิด ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขาอย่างที่คุณกำลังเข้าใจอยู่เดี๋ยวนี้ หล่อนพูด
ผมกำลังเข้าใจอยู่ว่าอย่างไร มนัสถามอย่างนึกสนุก
เสียง อ้ะ ของคุณน่ะซิ ดิฉันรู้ว่า คุณอุทานออกมายังงั้น คุณกำลังคิดอะไร
ผมกำลังคิดอะไร ?
คุณกำลังคิดอะไรก็ตามแต่ ดิฉันไม่อยากจะเดาให้เข้าตัว แต่ที่ดิฉันบอกว่า ดิฉันตกลงแทนเขาได้นั้นก็เพราะดิฉันเป็นหุ้นใหญ่คนหนึ่งในบริษัทเศรษฐกรไทยที่คุณกมลเป็นผู้จัดการ ผลได้เสียของบริษัมส่วนใหญ่เป็นของดิฉัน ขอให้คุณเข้าใจตามนี้
คุณบอกผมเสียชัด ๆ อย่างนี้ ผมก็ไม่ อ้ะ อย่างเมื่อกี้นี้
เมื่อคุณทราบชัดเจนอย่างนี้แล้ว ดิฉันก็ขอคำตอบ เสียงของหล่อนเอาการเอางาน
ผมไม่ทราบว่า บริษัทเศรษฐกรไทย มีหุ้นใหญ่เป็นผู้หญิง เขาพูดเปรย ๆ ออกไป
ดิฉันเพิ่งจะซื้อหุ้นนั้นไว้เมื่อวานนี้เอง หล่อนตอบเพื่อจะปัดความสงสัยของเขา
เป็นนโยบายของคุณกมลหรือ ที่ใช้ให้คุณมาพูดกับผม
ไม่ใช่นโยบายของใครทั้งนั้น มันเป็นความตั้งใจของฉันเองที่จะพูดกับคุณ ดิฉันจะบอกคุณตรง ๆ ก็ได้ ไม่ใช่คุณกมลใช้ไหว้วานมาอะไรทั้งนั้น ทั้งบริษัทเขาหมดความพยายามกันแล้วที่จะพูดกับคุณถึงเรื่องนี้ ดิฉันเองได้มีความเห็นว่าจะลองพยายามอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย เขาให้เบอร์โทรศัพท์ของคุณมา แล้วดิฉันก็กำลังพูดอยู่นี่
และคุณคิดว่า คุณจะพูดกับผมได้ ? มนัสถาม ยิ้มกับตัวเอง
เราจะรู้ได้อย่างไร หากยังไม่ได้ทดลอง และมันก็ไม่เสียหายอะไร หากจะลอง ถึงแม้เขาว่ากันว่า คุณเป็นคนที่พูดด้วยยาก
ผมเจรจางานการด้วยการพูดกันด้วยตัว ไม่ใช่ทางโทรศัพท์
ดิฉันก็คิดเหมือนกัน ว่าจะเชิญคุณพบที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เพื่อเจรจาเรื่องนี้ ดิฉันก็ไม่ชอบการเจรจาที่มองไม่เห็นสีหน้าอย่างนี้ เรามีทางรู้ได้ว่า ผู้มีพูดกับเรามีทีท่าจริงจังแค่ไหน ที่โทรศัพท์มานี่ก็เพราะเป็นหนทางเดียวที่ดิฉันจะติดต่อกับคุณได้ในขั้นต้นนี้
ผมควรจะได้รู้จักคุณมากกว่านี้อีกสักหน่อย ก่อนที่จะได้ตกลงใจว่าจะพบคุณหรือไม่
เรียกดิฉันว่า เรไร ก็แล้วกันค่ะ
เรไร อะไรไม่ทราบ
ทราบแต่เพียงเท่านั้นก็แล้วกันค่ะ หล่อนหัวเราะเบา ๆ กับคำพูด
คุณรู้จักผมหรือเปล่า
ดิฉันรู้จักชื่อคุณชุมพล แต่ไม่คิดว่าจะได้เคยพูดจากับคุณ ดิฉันไม่ใช่คนค้าขายเก่าแก่ เพิ่งจะได้ซื้อหุ้นนี้ไว้เมื่อวานนี้ แต่มันคงไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอะไรไม่ใช่หรือคะ ในการที่เราจะเจรจากัน
มันไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอะไรหรอก แต่ว่าผมจะรู้ได้อย่างไรว่า เราจะพบกันได้โดยไม่มีการผิดตัว
หากคุณตกลงใจที่จะพบดิฉัน ดิฉันก็มีวิธีที่เราจะพบกันได้โดยไม่ผิดตัว ไม่ยากอะไร
คุณบอกมาก่อน แล้วผมจะบอกว่า ผมจะตกลงใจอย่างไร
คุณชุมพลเป็นคนที่ไม่ชอบเสียเปรียบคน จริงอย่างที่เขาว่ากัน หล่อนพูด หัวเราะเบา ๆ ดิฉันมีบ้านรับรองอยู่ที่ในสุขุมวิท ๓๑ ซอยสวัสดี ที่นั่น คุณจะพบดิฉันได้ หากคุณจะบอกเวลามาว่า คุณจะต้องการพบเวลาเท่าใด
คุณอยู่ที่นั่นคนเดียว
มันเป็นบ้านรับรอง คุณคงเข้าใจความหมายของมัน ดิฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น
เขาหยุดคิดนิ่งอยู่สักครู่ จึงพูดว่า ผมไม่ค่อยชอบความหมายของมัน เอายังงี้ดีกว่า คุณรอผมอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง แล้วผมจะไปรับคุณที่นั่น
หมายความว่า คุณไม่ไว้ใจบ้านหลังนั้น ?
ผมไม่ชอบความหมายของมันเท่านั้นเอง
นอกจากจะพูดด้วยยากแล้ว คุณยังเป็นคนช่างระแวงเสียอีก แล้วคุณจะรับดิฉันไปที่ไหน
นี่ก็อีกเหมือนกัน ผมยังไม่รู้ว่า จะพาคุณไปที่ไหน
คุณยังไม่รู้ หรือว่าคุณยังไม่อยากบอก
เอาเป็นว่าทั้งสองอย่าง ว่าแต่คุณจะคอยผมที่ไหน
คุณบอกมาก็แล้วกัน ดิฉันไปได้ทั้งนั้น
เที่ยงตรง ที่ลานพระรูป เป็นไง
ลานพระรูปออกกว้าง ดิฉันจะไปยืนอยู่ตรงไหน
ตรงฐานพระบรมรูปทรงม้าที่เดียวเป็นไง จะได้ไม่ผิดตัว ผมคิดว่าคงจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นไปยืนอยู่ที่นั่น นอกจากคุณ ตอนเที่ยงตรงวันนี้ และคนที่จะขับรถทันเดอร์เบิรดสีงาช้างไปรับคุณ ก็ต้องเป็นผมแน่นอน
หล่อนนิ่งไปชั่วขณะ จึงพูดว่า คุณช่างเลือกที่เก่งแท้ ไม่มีที่อื่นดีกว่าที่นั่นแล้วหรือคะ
อาจจะมี แต่เวลานี้ผมยังนึกที่ดีกว่านี้ไม่ออก เขาพูด กลั้นหัวเราะ
ตกลงค่ะ เที่ยงตรง ดิฉันจะยืนรออยู่มี่ฐานพระรูป สวัสดีค่ะ
เสียงวางหูยังกริ๊ก ก่อนที่มนัสจะทันได้พูดว่าอย่างไร
Create Date : 11 มกราคม 2555 |
Last Update : 12 มกราคม 2555 1:09:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 690 Pageviews. |
|
|
|