|
พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 48)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 48
ผมปล่อยให้เรื่องมันหยุดอยู่ชั่วคราวแค่นั้น ผมยังมีอะไรที่จะเล่นกับนายอนุชิตคนนี้อีก เรื่องมันยังไม่หยุดแค่นี้
ผมชวนพี่ถมลงจากโรงพัก พอขึ้นนั่งรถ พี่ถมก็พูดขึ้นว่า
ไปทำแผลหรือยังไงคุณ ทำไมไม่ให้ตำรวจเขาพาไป จะได้ส่งค่ารักษาให้เขาไปเบิกที่นายคนนั้น
ไม่เป็นไร เราจ่ายเองก็ได้ ผมพูด กุมแผลที่ปาก
พี่ถมหันมามองผม แล้วหัวเราะออกมาหึเดียว ไม่พูดอะไร ขับรถเข้าตลาด
ผมแวะทำแผลที่คลินิกเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในตลาด ฟันบนโยกไปสองซี่ ผมให้หมอดึงออก แล้วเก็บเอาฟันสองซี่นั้นไว้ ผมต้องนั่งเอาลิ้นดุนช่องว่างที่เคยมีฟันสองซี่อยู่นั้นเล่น มันรู้สึกโล่ง ๆ ยังไงพิกลที่ตรงนั้น
ออกจากร้านหมอแล้ว ผมก็ให้พี่ถมหาร้านอาหารที่มีเหล้าชั้นดีด้วย เราหาได้ร้านที่ค่อนข้างจะโอ่โถงร้านหนึ่ง มีลูกค้าประปราย เพราะยังไม่ถึงเวลาอาหารดี เลือกได้โต๊ะว่างโต๊ะหนึ่ง ก็สั่งวิสกี้ชั้นดีมาทั้งขวด น้ำแข็งเปล่าพร้อมทั้งกับแกล้ม
ผมนั่งใช้ความคิดอยู่เงียบ ๆ พี่ถมคงจะรู้ใจผม เขานั่งรินเหล้า ใช้ตะเกียบหยิบกับแกล้ม ไม่พูดอะไรเหมือนกัน
ผมไม่รู้ว่า พี่ถมรู้หรือเปล่าว่า ไอ้ถึกอยู่ในบ้านนั้น ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะได้เห็นมันหรือเปล่าตอนที่มันมาเปิดประตูรับทีแรกที่ผมกดกริ่งหน้าบ้าน
พี่ถม เห็นไอ้ถึกหรือเปล่า
เขามองดูผมนิ่ง คงจะแปลกใจในคำถามของผม
ที่ไหน เขาถามออกมา
ก้อที่บ้านนายอนุชิตนั่น ผมบอก
ฮะ เขาอุทานออกมา มันอยู่ที่ไหน คุณเห็นมันเรอะ
มันมาเปิดประคูให้ ตอนที่ผมกดกริ่งนั่นไง
อ้าว ทำไมคุณไม่บอกผมตอนนั้น เขาวางถ้วยเหล้าที่กำลังยกขึ้นจ่อปาก ลงกระแทกโต๊ะ
ผมนึกว่าพี่ถมเห็นมันด้วย
อ๊ะ ถ้าเห็นตอนนั้น คุณก็ไม่ต้องเจ็บตัวยังงี้ เขาคลึงแก้วเล่น แถมคุณยังไม่ให้ผมเข้าไปเสียอีก
ผมยังไม่อยากให้พี่ถมเอาตัวมันตอนนั้น ผมบอกเขา ผมอยากเข้าไปดูอะไร ๆ ในบ้านก่อน
เห็นชัดไหมล่ะ เขาหัวเราะ ปากเจ่อออกมาเลย แถมยังโดนข้อหาบุกรุกเข้าให้อีก
พี่ถมพูดอะไรกับนายร้อยคนนั้น เขาถึงไม่เอาเรื่อง ผมเพิ่งนึกออกไอ้ที่ผมสงสัย
พี่ถมหัวเราะหึ ๆ ไม่ตอบคำถามของผม กลับพูดไปเสียเรื่องอื่น
ถ้าไอ้ถึกอยู่ในนั้นจริง ก็ต้องเอาตัวให้ได้
จะเอาได้ยังไง ผมถาม
เดี๋ยวก็กลับไปบุกเข้าไป มันจะยากอะไร ว่าแต่คุณเห็นมันจริงๆ หรือ
ผมเห็นมันจริง ๆ ก็มันโผล่หน้ามาเปิดประตูให้ แล้วมันก็เดินเข้าไปหลังบ้าน
งั้นไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ พี่ถมฉุดผมให้ลุกขึ้น
ผมไม่ยอมลุกตาม
บุกเข้าไปได้ยังไง พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ผมดึงแขนออกจากมือเขา มันต้องมีหมายค้นจากตำรวจชั้นสารวัตรอย่างน้อย
พี่ถมนั่งลง คว้าตะเกียบมาหยิบกับเข้าปาก ซดเหล้าฮวบ วางแก้วมองดูผม
อย่าถือกฎหมงกฎหมายอะไรมันเลย ขืนช้าไป เดี๋ยวมันหนีไปไหนเสียอีกล่ะ
ผมว่ามันไม่หนี ผมพูด คว้าแก้วเหล้ามาซดบ้าง
รู้ได้ยังไงว่า มันจะไม่หนี พี่ถมยังสงสัย
นายอนุชิตเขาใหญ่แค่ไหนที่นี่ก็เห็นอยู่แล้ว ผมคีบกับเข้าปาก ไม่ได้มองดูเขาขณะพูด ไอ้ถึกจะอยู่ในบ้านนั้นสักกี่วันกี่ปีก็ยังได้ แล้วถ้าลงเราบุกเข้าไป ก็ไม่พ้นตะรางแน่ เราเองน่ะแหละ
พี่ถมของผมทำท่าฮึดฮัดอยู่ครู่หนึ่ง ยกแก้วเทเหล้าพรวดเข้าคอ วางแก้วกระแทกลง ไม่พูด
งั้นกลับไปกรุงเทพ ฯ เอากองปราบมาบุก พี่ถมพูดออกมา เมื่อกี้คงจะนั่งหาวิธีอยู่
กลับไปกรุงเทพ ฯ แล้ว เผื่อกลับมาบุกเข้าไป ไม่เจอไอ้ถึกล่ะ ผมติง พี่ถมเผลอพูดถึงกองปราบออกมาอีกแล้ว คงจะมีอะไร ๆ พอที่จะเอากำลังกองปราบมาได้อย่างพูด
ปัญหามากจริงโว้ย พี่ถมชักอึดอัด หันมามองผม จ้องนัยน์ตาเป๋งจนผมต้องหลบตา บอกมาหน่อยถี พ่อคนปัญญาดี จะให้ยังไง ถึงจะได้ตัวไอ้ถึกกลับกรุงเทพ ฯ บอกเสียตอนนั้นก็เรียบร้อยไปแล้ว ยักกระสายอยู่ได้
อย่าเพิ่งใจร้อน พี่ถม ผมพูดช้า ๆ ค่อย ๆ คิด เดี๋ยวก็หาทางออกเอง
งั้นกินเหล้าต่อ เขาคว้าแก้วเหล้ามาดื่มอั้ก ๆ วางแก้วลงพูดว่า อิ่มแล้ว คิดให้ออกนะ เอ้า
ผมไม่ว่าอะไร ยุ่งอยู่กับกับแกล้มและแก้วเหล้าของผม ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในหัวของผม ความคิดกำลังวิ่งพล่าน ผมก็อยากได้ตัวมันเหมือนกัน
ทั้งพี่ถมและผมต่างนั่งจิบเหล้า เคี้ยวกับแกล้มกันอยู่เงียบ ๆ ต่างคนต่างไม่พูด พออิ่มดี พี่ถมเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดมือที่พาดหน้าตัก เรียบร้อยเสร็จสรรพ ก็พูดออกมา
ว่ายังไงล่ะ อิ่มแล้ว คิดออกเสียทีซี่
แอบรถจอด เฝ้ามันอยู่แถวนี้แหละ ผมว่า
พี่ถมหันมามองผม นิ่งไปพักหนึ่ง พูดว่า
เฝ้ามันทั้งคืน แล้วมันไม่ออกมา จะทำยังไง
ผมว่ามันต้องออกมา คืนนี้แหละ แต่ไม่รู้ว่าเวลาไหนเท่านั้น ผมเช็ดปากมั่ง เพราะอิ่มเหมือนกัน
วะ ทีละท่อน - ทีละท่อน ยังงี้ รำคาญตายห่า พี่ถมชักจะหงุดหงิดจริง ๆ พูดออกมาให้หมดเปลือกไม่ได้หรือไง จะให้ทำยังไงก็ว่ามา ให้มันหมดสิ้นเนื้อความซีโว้ย
ลายตำรวจออกมาตอนนี้เอง เวลาหงุดหงิด ผมหัวเราะ
เป็นตำรวจอยู่ก็ต้องปิดบังทำไม ผมพูด มองหน้าเขา เอายังงี้ พี่ถม เดี๋ยวเราออกรถ เร่งเครื่องผ่านไปหน้าบ้านเขานี่แหละ แล้ววนไปด้านหลังตลาด กลับมาออกที่ทางเข้าด้านหลัง แล้วไปจอดฝั่งเดียวกับบ้านเขานี่ ซุ่มอยู่ยังงั้นห่าง ๆ อย่าให้ใกล้บ้านนัก พอมองเห็นประตูบ้าน เดี๋ยวก็ได้เรื่อง
งั้นไป พี่ถมเรียกคนมาเก็บเงินค่าอาหาร ผมล้วงเอาเงินออกมาจ่าย พี่ถมฉุดมือลุกขึ้น ทันทีที่ทุกอย่างเรียบร้อย เดินอ้าวไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน ไม่ไกลจากบ้านนายอนุชิตนัก พอก้นถึงเบาะ รถก็กระชากพรืดออกไป
พี่ถมพารถผ่านหน้าบ้านนายอนุชิตไป เร่งเครื่องพรึ่มเมื่อถึงหน้าบ้าน ขับผ่านเลยไปอย่างเร่ง ๆ ไปทางหน้าโรงพัก ถึงตอนนี้ พี่ถมปล่อยให้รถวิ่งเอื่อย ๆ ผ่านหน้าโรงพักไปช้า ๆ แบบกินลม เร่งเครื่องอีกทีเมื่อผ่านพ้นตัวสถานีตำรวจไปแล้ว วกอ้อมไปทางด้านหลัง เมื่อเข้าเขตตลาด ก็เบารถ ปล่อยให้รถวิ่งเอื่อย ๆ ไปหยุดนิ่งอยู่บนถนนฝั่งเดียวกับบ้านนายอนุชิต ทิ้งระยะห่างขนาดพอมองเห็นประตูหน้าบ้าน ดับไฟเครื่อง ไฟรถ เงียบ และมืดสนิท
เอาหรือยังล่ะ ยังงี้ เขาหันมาถามผมเบา ๆ
ยังก๊ในหนัง ผมพูดเบา ๆ เหมือนกัน ตอนตำรวจแสดงการเฝ้าบ้านผู้ร้าย
ยังงั้นดีหรือยังล่ะ เขาย้ำถามอีก ถามอย่าง ตอบไปเสียอีกอย่างยังงี้หน้ามันถึงได้แหกบ่อย ๆ
ดีแล้วคร้าบ ผมทำเสียงสั่น ๆ เบา ๆ
เขาหันมามองผมแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร นั่งนิ่ง สายตาเพ่งไปข้างหน้า
เราทั้งสองนั่งนิ่ง ไม่พูดจากัน เสียงเคาะดังแก๊ง ๆ บอกโมงยามดังมาไกล ๆ บอกเวลาสามทุ่ม รอบ ๆ ตัวผมและพี่ถมเงียบสงบ ชาวบ้านที่นี่นอนกันแต่หัวค่ำ ผมกำลังจะหลับเอาจริง ๆ ด้วยความเงียบรอบข้าง ก็รู้สึกรถเขยื้อนช้า ๆ ผมผงกหัวขึ้นมา
พี่ถมกำลังเคลื่อนรถออกจากที่ ไฟหน้าดับมืด แต่ข้างหน้ารถผมเห็นมีรถใหญ่ ๆ คันหนึ่งแล่นเรื่อย ๆ ไปเหมือนกัน เห็นไฟท้ายและไฟหน้าทอดแสงลงไปตามพื้นถนน พี่ถมบังคับรถไปห่าง ๆ ใช้ความเร็วเท่า ๆ กับรถคันหน้า ไม่เปิดไฟรถตัวเอง อาศัยไฟท้ายรถคันหน้านำทาง ลงแบบนี้ไม่ใช่ตำรวจก็ผิดไป ผมไม่สงสัยอีกแล้วว่า พี่ถมของผมจะไม่ใช่ตำรวจ แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์
รถคันหน้าแล่นเรื่อย ๆ ไปทางโรงพัก ผ่านโรงพักไปแวะ เรื่อยไปออกถนนที่จะอ้อมไปด้านหลัง อ้อมไปทางถนนสายนั้น แล่นเรื่อย ๆ ไป
ถนนสายนี้คงจะเป็นทางหลวงเพราะกว้างใหญ่ นาน ๆ ที มีรถสวนและผ่านขึ้นหน้าไป พี่ถมยังคงเกาะระยะกับรถคันหน้าไว้อย่างเดิม ไอ้รถคันนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดที่ไหน มันคงแล่นเรื่อย ๆ ไปอย่างนั้นเหมือนไม่มีจุดหมาย
แล้วมันก็หยุดจอดเอาเฉย ๆ ข้าง ๆ ถนนใหญ่นั่นเอง พี่ถมยังไม่ทันรู้ตัว กว่าจะหยุดรถได้ก็กินระยะเข้าไปหน่อยหนึ่ง เขาชะงักชั่วขณะ ตบเกียร์พรวด บังคับรถออกวิ่งต่อ ประตูรถคันหน้าเปิดออกทันที ก่อนที่รถพี่ถมจะผ่านไอ้รถคันนั้นไป บุคคลในเครื่องแบบตำรวจ ก้าวออกมาจากประตูที่เปิดนั้น แม้พี่ถมจะไม่ได้เปิดไฟใหญ่ ผมก็เห็นในมือคนแต่งเครื่องแบบตำรวจนั้น มีปืนแบบ เอ็ม. ๑๖ ถือจังก้าอยู่ เขาออกมายืนขวางถนน ยกมือข้างซ้ายที่ไม่ได้ถือปืนขึ้น แบฝ่ามือยันมาข้างหน้า
หยุด เขาตะโกนลั่นถนน
ผมนั้นกลัวว่าพี่ถมของผมจะตะลุยเข้าชน แต่ ไม่ เขาหยุดรถได้พรืดทันทีเหมือนกัน แต่หน้ารถก็เกือบจะยันเอาตำรวจในเครื่องแบบนั่น ทีนี่ผมเห็นชัดว่า ตำรวจคนนั้นมีเครื่องหมายยศอยู่บนบ่า เป็นจ่านายสิบตำรวจ เขายืนถ่างขานิ่ง ไม่ได้หลบรถที่พี่ถมปรี่เข้ามาหา และหยุดอยู่ตรงนั้น แสดงว่าประสาทแข็งมาก
จ่าคนนั้นเดินมาที่รถ ปืนในมือเขาจี้มาที่พี่ถม
ลงมาจากรถ เขาสั่งการ ปลายลำก้อง เอ็ม. ๑๖ จี้อยู่ที่กระจกที่พี่ถมนั่ง
พี่ถมเปิดประตูรถตามสั่ง แต่ไม่ใช่เปิดธรรมดา ประตูรถข้างนั้นกระแทกเข้าที่ร่างจ่าตำรวจกระเด็นผงะหงายหลัง พี่ถมโดดออกจากรถได้เร็วยังไงก็ไม่รู้ ผมได้ยินเสียงดังโพละ ร่างของตำรวจก็ลอยคว้าง เอ็ม. ๑๖ ในมือปลิวหลุดออกจากมือ พี่ถมก็เหยียบถึงดินเต็มตัว ผมยังมองไม่ทันว่า ไอ้ปืนกระบอกนั้นมาอยู่ในมือพี่ถมได้ไวยังงั้นได้ยังไง
ผมไม่รู้อีกเหมือนกันว่า พี่ถมทำอะไรกับร่างที่ผงะกลับไปของจ่าคนนั้น แต่ผมไม่ได้เห็นจ่าคนนั้นลุกขึ้นมาอีก ผมเห็นแต่ประตูรถทั้งสองด้านของรถคันหน้าเปิดออกเกือบจะพร้อม ๆ กัน คนสองคนก้าวออกมาจากประตูที่เปิดนั้น ข้างละคน
หยุด ผมได้ยินเสียงพี่ถมตวาดลั่นถนน อย่าขยับ ยกมือขึ้นสูงๆ
คนสองคนนั้นชูมือขึ้นทั้งสองข้างสูงเหนือหัว แต่ในมือแต่ละคนมีปืนพกกระบอกสั้น ๆ ถืออยู่
ปล่อยปืนลง เสียวพี่ถมสั่งอีก
ปืนในมือสองคนนั่นถูกปล่อยหลุดจากมือ แต่ในขณะเดียวกัน ทางด้านหน้ารถ เบื้องหลังของคนที่ชูมืออยู่ทางด้านซ้าย เปิดพรวดออก เสียงปืนลั่นเปรี้ยง ผมเห็นแต่ประกายไฟที่แลบออกจากปากกระบอกปืน ก่อนที่จะเห็นตัวคนที่ก้าวพรวดออกมา พร้อมด้วยปืนในมือ เขาพาดมือที่ถือปืนนั้นที่หลังคารถ
เสียงปืนในมือพี่ถมลั่นออกมาถี่ ๆ หลายนัด คนที่อยู่ทางด้านขวา พับกลิ้งลงบนพื้นถนน คนทางด้านซ้ายขยับตัว พร้อมกับเจ้าของปืนที่พาดหลังคารถอยู่นั้น แต่ประกายไฟจากกระบอก เอ็ม. ๑๖ ในมือพี่ถม แลบออกมาก่อน พร้อมทั้งเสียงกัมปนาทก้อง มือที่พาดอยู่บนหลังคารถผงะโยนปืนขึ้นในอากาศ เจ้าของร่างหงายตีลังกากลับไป
คนทางด้านเดียวกันที่อยู่เบื้องหน้า เผ่นลงไปข้าง ๆ ถนน
ตอนนี้พี่ถมวิ่งอ้อมหน้ารถที่ผมนั่งอยู่ไปแล้ว
ทางด้านที่ผมนั่ง ผมเห็นถนัด พี่ถมยืนจังก้าอยู่ที่ริมถนน ปืนฝนมือยกขึ้นประทับบ่า เปลวไฟแลบเหมือนปากกระบอกปืนมีลิ้นสีเพลิง เสียงดังติด ๆ กันหลายเปรี้ยง แล้วก็เงียบ
ร่างใครคนหนึ่งถีบประตูทางด้านถนนออกมา พี่ถมหันขวับ ในความมืด ผมก็ยังจำร่างมันได้
Create Date : 02 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 4:25:17 น. |
|
2 comments
|
Counter : 795 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ศรชัย IP: 114.128.108.64 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:6:46:49 น. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:49:29 น. |
|
|
|
| |
|
|