Bloggang.com : ธารน้อย : ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 19)

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 19)

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ " บุรุษเหล็หแห่งเอเชีย "
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 19

เผ่า เรียกอัศวินคู่ใจกลับ

จากนั้นอีกไม่กี่วัน ก็มีคำสั่งเฉพาะออกมา เป็นคำสั่งตั้งกองตรวจตำรวจนครบาลขึ้นใหม่ มีผู้กำกับการชื่อ พันตำรวจตรี เยื้อน ประภาวัต มีร้อยตำรวจเอก วิชิต รัตนภาณุ เป็นสารวัตรแผนก 1 กองตรวจนครบาลเหนือ ร้อยตำรวจเอก พุฒ บูรณสมภพ เป็นสารวัตรแผนก 2 กองตรวจนครบาลใต้ และร้อยตำรวจเอกพันศักดิ์ วิเศษภักดี เป็นสารวัตรแผนก 3 กองตรวจนครบาลธนบุรี

ส่วนสารวัตรนครบาลท้องที่ก็เป็นนายตำรวจจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ย้ายเข้ามาอยู่ในตำแหน่งทุกท้องที่ที่สำคัญ ๆ ผมจะไม่จาระไนในที่นี้

ทีนี้นายตำรวจติดตามก็เปลี่ยนเป็นเอาสารวัตรท้องที่ ผลัดเปลี่ยนกันมาเข้าเวรยี่สิบสี่ชั่วโมง พวกผมก็ได้มีวันพักผ่อนกันหลายวัน ตัดขาดไปจากเวรติดตามเลย เป็นหน้าที่ของสารวัตรท้องที่ต่อไป

ท่านเจ้าของนาม เผ่า ศรียานนท์ ผู้นี้ถือกำเนิดเมื่อวัน เดือน ปี อะไร ผมก็จำไม่ได้ ทราบเพียงเลา ๆ ว่า ท่านผู้ให้กำเนิดท่านผู้นี้มีบรรดาศักดิ์เป็นคุณพระ มีราชทินนามว่าอย่างไรผมก็ไม่ทราบอีก และไม่คิดที่จะถามใครเพื่อเอามาเขียน เพราะผมตั้งใจที่จะเขียนแต่เรื่องที่ผมรู้ด้วยตนเองเท่านั้น พี่น้องร่วมท้องนั้นพอจะทราบ เพราะเขาเป็นเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกับผม คือโรงเรียนสวนกุหลาบ น้องชายของท่านบุรุษเหล็กนี้เป็นลูกฝาแฝดผู้ชาย คือ ฉัตร กับ มงคล คงจะเกิดตรงกับวันฉัตรมงคลพอดี ผมรู้จักกับเขาทั้งสองคนนี้ เมื่อเรียนอยู่ที่สวนกุหลาบ เขาเป็นรุ่นพี่ผมสองปี เห็นกันในโรงเรียนและเคยพูดจาทักทายกัน

ผมไม่ทราบว่า ท่านที่ชื่อ เผ่า ศรียานนท์ ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนั้นนานเท่าใดจึงได้เข้ากรุงเทพ ฯ และได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนไหน น้องชายฝาแฝดสองคนนั้นมาเรียนที่สวนกุหลาบ ส่วนตัวพี่ชาย ไม่ทราบว่าไปเข้าโรงเรียนไหน แล้วมาเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกได้ก็คงเพราะท่านบิดาเป็นทหารยศชั้นพันเอก คุณเผ่าจึงได้เข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยทหารบกได้ และได้มีเลขประจำตัว 3820

นักเรียนนายร้อย เผ่า ศรียานนท์ ใช้ชีวิตในโรงเรียนนายร้อยก็คงจะต้องเป็นชีวิตที่อยู่ในระเบียบวินัย ภายในรั้วโรงเรียนนั้น นักเรียนที่นั่นต้องอยู่ในระเบียบวินัยเคร่งครัดอยู่แล้วทุกคน มิฉะนั้นก็คงไม่ได้ออกมารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร และการสอบในโรงเรียนนายร้อยนั้น เขายอมให้สอบตกได้เพียงครั้งเดียว และเรียนซ้ำชั้นได้เพียงสองปี ถ้าสอบตกสองปี เขาก็เชิญให้ออกไปหาที่เรียนที่อื่น จะได้มีที่ว่างให้คนอื่นเข้ามาเรียนบ้าง จะมานั่งเรียนจนเป็นปู่โรงเรียนอย่างโรงเรียนสามัญไม่ได้

เรื่องเรียนในโรงเรียนสามัญ คือโรงเรียนชั้นประถมจนถึงมัธยมปลายนั้น เมื่อสมัยก่อน นักเรียนจะเรียนสอบตกอย่างไรก็ให้นั่งเรียนต่อได้ จนกว่าจะสอบได้ มีความอดทนก็เรียนเข้าไปจนเป็นปู่โรงเรียนก็ยังได้

คำว่า ‘ปู่โรงเรียน’ นี้ คงหมายถึง เรียนจนหนวดหงอก สมัยที่ผมเรียนอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบ ก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่เรียนจนเป็นปู่โรงเรียน ผมเข้าเรียนในชั้น ม. 4 เขาเรียนอยู่ชั้น ม. 8 ผมขึ้นชั้น ม. 5 เขาก็สอบตกอยู่ ม. 8 ผมขึ้นชั้น ม. 6 เขาก็ยังอยู่ ม. 8 ผมขึ้นชั้น ม. 7 เขาก็ยังซ้ำชั้นอยู่ ม. 8 ผมขึ้นชั้น ม. 8 เขาก็อยู่ ม. 8 ผมจบ ม. 8 ออกไป เขาก็ยังเรียนอยู่ ม. 8 คิดดูก็แล้วกันว่าเขามีความอดทนแค่ไหน เขาเรียนอยู่ ม. 8 จนกระทั่งทางกระทรวงศึกษาเลิก ม. 8 เปลี่ยนระบบการศึกษาใหม่มาเป็นแค่ ม. 6 เป็น ม. สุดท้าย เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนไป เพราะเทียบชั้นไม่ถูก นี่แหละที่เขาเรียกว่า ปู่โรงเรียนจริง ๆ ผมจำชื่อได้แม่นยำ แต่จะไม่เอ่ยชื่อเขาในที่นี้ ถ้าคุณ ๆ อยากจะทราบก็ให้ไปถามนักเรียนสวนกุหลาบรุ่นตั้งแต่ปี 2475 มาจนถึงปี 2480 ได้ ทุกคนรู้จักเขาดี และเขาเป็นคนเดียวที่เรียนจนเป็น ปู่โรงเรียน

ที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก คุณจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เขาให้โอกาสเพียงเรียนชั้นละสองปีเท่านั้น รวมแล้วเรียนได้แค่หกปีในโรงเรียนเป็นอย่างมากที่สุด หลักสูตรสมัยนั้นเขาวางไว้เพียงสามปี เรียนซ้ำชั้นละสองปีก็รวมเป็นหก พอสำเร็จออกมา เพื่อนร่วมรุ่นในปีแรกเขาก็เป็นร้อยโทกันแล้ว เจ้าตัวจึงออกมารับยศร้อยตรี ใจเย็นดี

โรงเรียนนายร้อยทหารบกในสมัยนั้น เป็นโรงเรียนทหารเพียงโรงเรียนเดียวที่ไม่ใช่ทหารน้ำ โรงเรียนนายเรือนั้น เขาแยกไปต่างหาก ทหารอากาศยังคงต้องมาอาศัยโรงเรียนนายร้อยเรียน แล้วแยกเหล่าไปในปีที่สองที่สาม ส่วนตำรวจนั้น แต่ก่อนยังมีโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่ห้วยจระเข้ นครปฐม ต่อมาก็ถูกยุบ ต้องมาอาศัยเรียนที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกเหมือนกัน มาแยกชั้นเอาเมื่อสอบเข้าได้แล้ว และแสดงความจำนงที่จะเรียนตำรวจเอาตอนเข้าใหม่ๆ แยกเหล่าไปเลย แต่ก็ต้องเรียนวิชาทหารอย่างนักเรียนเหล่าทหารเขาเรียนกัน แถมวิชาตำรวจเข้าไปอีก

สมัยนั้น จะหาคนสมัครเป็นตำรวจยาก รุ่น ๆ หนึ่ง เขาจะตัดไปให้ตำรวจหนึ่งในสี่ ถ้ารุ่นไหนรับหกสิบ ก็จะต้องแยกไปเรียนตำรวจเสีย 15 คน

ในวันเปิดภาคต้น เขาก็จะถามความสมัครใจว่า ใครจะสมัครไปอยู่ตำรวจ ส่วนมากไม่ค่อยมีใครสมัครใจไป ก็ต้องใช้วิธีจับสลากกัน ใครโดนสลากก็จะเปลี่ยนไม่ได้ ต้องก้มหน้าก้มตาเรียนตำรวจไป ไม่ชอบใจก็ลาออกไป แต่ก็ลาออกยากเพราะเขารับเข้าไปแล้ว จะหาคนมาแทนยาก

สมัยหลัง ๆ นี้ เขาว่ากันว่า แต่ละรุ่นมีคนสมัครเรียนตำรวจมากกว่ากำหนด ถึงกับต้องจับสลากออก ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร มาถึงสมัยนี้ มีโรงเรียนรวมเหล่าซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมทหารที่รับนักเรียนสอบผ่านมัธยมการศึกษาสามัญไป และไปแยกเหล่ากันที่นั่น เมื่อสอบผ่านออกมาจากโรงเรียนรวมเหล่าแล้วก็จะแยกย้ายกันไป เรียนบก-เรือ-เรืออากาศ และตำรวจต่อไป

สมัยโบราณเก่าแก่ เมื่อครั้งผมคงจะยังไม่เกิด โรงเรียนนายร้อยนี้เขามีชั้นประถมและมัธยม คือเรียนกันตั้งแต่เด็กไปเลย ซึ่งนักเรียนส่วนมากก็จะเป็นลูกหลานนายทหาร ส่งเข้าไปเรียนตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เอาเลือดทหารเข้าไปฝังไว้ตั้งแต่ยังอยู่ชั้นอนุบาล ให้เลือดทหารเข้มข้นกันตั้งแต่ยังเยาว์วัยเลยทีเดียว ปลูกฝังกันไว้ตั้งแต่เพิ่งจะรู้ความ ฉะนั้น นายทหารรุ่นเก่า ๆ จึงมีเลือดทหารเข้มข้นชนิดฝังแน่นอยู่ในสายเลือด

รุ่นที่ท่านบุรุษเหล็กเข้าเรียนคงจะไม่ใช่รุ่นนั้น คงจะเป็นรุ่นหลังมากหลายรุ่น เพราะท่านได้เลขประจำตัว 3820 ซึ่งคงจะเป็นเมื่อโรงเรียนนายร้อยทหารบกตั้งมากกว่า 30 ปีแล้ว ว่ากันว่า ท่านได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนายดาบก่อน

สมัยก่อนนั้น มีโรงเรียนนายดาบทหารอยู่บริเวณเดียวกันกับโรงเรียนนายร้อยทหารบก ก็คงจะเป็นโรงเรียนนายทหารชั้นต่ำกว่าโรงเรียนนายร้อย จะมีขีดขั้นการศึกษาอย่างไรผมไม่ทราบ ไม่ได้สอบถามท่านพวกนักเรียนนายดาบมาก่อน ทราบแต่ว่า เมื่อจบจากโรงเรียนนายดาบแล้วก็อาจจะขอเรียนต่อไปในโรงเรียนนายร้อยได้ ถ้ายังไม่อยากออกรับราชการ

ผมอ่านดูจากเลขประจำตัวของท่านแล้ว ก็เห็นว่าอาจจะจริง เพราะนักเรียนนายร้อย สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีเลขประจำตัว 3377 นักเรียนนายร้อย ถนอม กิตติขจร มีเลขประจำตัว 3490 นักเรียนนายร้อย ละม้าย อุทยานานนท์ มีเลขประจำตัว 3551 เป็นเลขประจำตัวที่มาก่อนเลขประจำตัวของนักเรียนนายร้อย เผ่า ศรียานนท์ ฉะนั้น ท่านก็คงอาจจะไปเรียนอยู่ในโรงเรียนนายดาบก่อนพวกนั้น แล้วจึงเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนายร้อยภายหลัง จึงได้เลขประจำตัวมากกว่าพวกเขา และในบรรดานักเรียนนายร้อยที่ออกชื่อมานั้น ต่างก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมา มีความสนิทสนมใกล้ชิดเหมือนคนรุ่นเดียวกัน ตอนเข้าคงจะเข้าพร้อมกัน แต่คนหนึ่งไปเรียนโรงเรียนนายดาบเสียก่อน แล้วมาเข้าโรงเรียนนายร้อยทีหลัง จึงได้หมายเลขประจำตัวมากกว่าเขา

นี่ผมคาดหมายเอา ไม่ยืนยันว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คาดหมายเอาจากทำเนียบนักเรียนนายร้อยที่มีอยู่

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553

Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 23:19:18 น.

3 comments

Counter : 2768 Pageviews.