จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 5 ตอนที่ 1)
ผมบึ่งรถตรงมาสโมสรราชตฤณมัย แดดร่มลมตกพอดีเวลากินเหล้า ผมให้ไอ้ทองมันเฝ้ารถแล้วขึ้นไปบนสโมสร ไอ้พวกเพื่อนตำรวจของผมมันรวมกลุ่มกันอยู่แล้วตรงที่เก่าที่ผมพบมันเมื่อวานนี้ ผมเข้าร่วมโต๊ะกับมัน เงินของผมยังมีพอจะเลี้ยงเหล้ามัน
เมื่อวานนี้ เสี่ยตั้งเขามาถามเรื่องมึงกับพวกกู คนหนึ่งในวงพูดขึ้น เขาสนใจมึงเรื่องอะไรวะ ซักพวกกูเสียใหญ่ มึงไปทำอะไรเขาไว้
ผมรับถ้วยเหล้าจากบ๋อยที่ชงส่งมาให้ กระดกเทเหล้าเข้าลำคออึกใหญ่ก่อนตอบมัน
ก็เพิ่งจะรู้จักเขาเมื่อวานนี้ แล้วก็ประมือกันเท่านั้น พวกมึงคงจะบรรยายประวัติกูให้เขาฟังหมดแล้วซี
ประวัติมึงน่ารักออก ไอ้คนหนึ่งพูด ทั้งกรมตำรวจไม่มีใครเหมือน มึงกินยศร้อยโทอยู่ได้ตั้งเกือบสิบปีจนถึงป่านนี้กูว่ามึงเก่ง เขายังถามว่ามึงเป็นร้อยโทอยู่ได้ยังไงตั้งนานอย่างนี้ ไม่ยักถูกปลด
แล้วมึงให้ความรู้เขาไปว่ายังไง ผมถาม อยากรู้
กูก๊อว่า กรมตำรวจเขารักมึงมาก ไม่อยากให้กินยศเร็ว จะได้ไม่เปลืองดาวบนบ่า ประหยัดเงินค่าซื้อดาวเพิ่มเติมด้วย
เออดี ผมว่า ถ้ายังงั้น เหล้ามื้อนี้มึงเลี้ยงกูก็แล้วกัน สดุดีกูกันดีนัก
ทั้งวงหัวเราะครื้นเครง ชอบใจ พวกนี้มันเป็นร้อยตำรวจเอกกันไปหมดแล้ว บางคนกำลังคั่วพันตำรวจตรีอยู่ก็มี ทั้ง ๆ ที่มันจบออกมารุ่นเดียวกับผม
แหม กำลังอยู่กันพร้อมหน้าทีเดียว เสียงใครคนหนึ่งร้องลั่นออกมาจากทางขึ้นสโมสร ผมหันไปดู
เสี่ยตั้งคนที่ผมอยากพบนั่งเอง เขาตรงเข้ามาที่โต๊ะ แล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่ง
ผมร่วมวงด้วยคนซี เขาว่า วันนี้กินเหล้าดีกว่า เรื่องสนุกเกอร์ไม่เอาแล้ว
ไม่อยากเอาเงินคืนหรือเสี่ย ผมหยอกเขา ผมเตรียมมาให้แล้ว เขาโบกมือหัวเราะ
จะมาเอาของผมไปอีกน่ะซี ไม่เอาแล้ว วันหลังมาเป็นมือปืนให้ผมเล่นเอาเงินคนอื่นดีกว่า คุณยอด ผมถือข้างคุณไม่อั้น วันนี้ผมเลี้ยงเหล้าไม่ต้องเสียกำลัง สนุกกว่า
ว่าแล้วก็หันไปสั่งบ๋อยยกเหล้าชั้นดีขวดใหญ่มาตั้งบนโต๊ะ
เสี่ยรู้จักนักร้องคนหนึ่งชื่อนุจรีไหม ผมเริ่มเรื่องของผม
เขาหัวเราะก่อนที่จะตอบว่า ผมรู้จักนักร้องหลายคน อาจจะมีคนชื่อนุจรีอยู่ด้วยก็ได้ ผมไม่ค่อยจะจำชื่อพวกนี้มากนัก ทำไมหรือครับ
เห็นเขาบอกว่าเขารู้จักเสี่ยดี ก็ถามดู ผมบังเอิญไปพบเขาเมื่อคืนนี้ ถ้าเป็นคนของเสี่ย ผมจะได้ไม่ยุ่ง
เขาว่าเขารู้จักผมดีงั้นหรือครับ เขาหัวเราะชอบใจ เอ ถ้ายังงั้นเห็นจะต้องไปดูตัวเสียหน่อยคืนนี้ เขาอยู่ที่ไหนนะครับ
ซิลเวอร์ สตาร์ ผมตอบเขาไป เป็นดาราอยู่ที่นั่น แฟนตอมกันจม
ไอ้ยอด มึงอย่าไปแตะต้องของเสี่ยเขานะมึง ไอ้เพื่อนคนหนึ่งพูด ไม่ได้รับประทานหรอก ของของเขา เขายึดด้วยเงินโว้ย
เสี่ยตั้งหัวเราะ ไม่พูด แต่เขามองดูผมด้วยสายตาพิกล
แล้วไอ้หนุ่มรูปหล่อชื่ออนิรุตต์ เสี่ยรู้จักไหม ผมถาม
ไอ้รุตต์มันถูกยิงตายแล้วนี่ เมียมันเพิ่งจะมาบอกผมเมื่อเช้านี้เอง คุณรู้จักมันเหมือนกันหรือ ไอ้นี่เอาแต่เล่นอย่างเดียว สนามม้านี่มันเคยขาดเสียเมื่อไหร่ แล้วมันก็ชอบมาขอเงินผมเล่นม้า
ใครยิงตายเสียล่ะครับ ผมถาม
ไม่รู้ ตำรวจเขาก็ยังสืบอยู่ ผมไม่ค่อยจะได้พบมันนักหรอก
เขาเป็นลูกน้องเสี่ยด้วยหรือเปล่า ผมซักต่อ
ถ้าคนที่มาขอเงินผมบ่อย ๆ แล้วผมก็ให้มันทุกที เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องละก็ มันก็เป็น ไอ้คนนี้เงินขาดบ่อย ๆ ที่นี่มันก็เคยมาหาผมเวลามันขาดเงิน เขาพูดแล้วก็หัวเราะอีก เสี่ยคนนี้ชอบหัวเราะไปพูดไป เหมือนคนอารมณ์ดีตลอดเวลา คนอย่างนี้เป็นคนน่ากลัว แต่ผมชอบ ไม่ใช่ชอบนิสัยแต่ชอบเผชิญด้วย
เสี่ยเคยใช้เขาให้ไปยิงใครมั่งหรือเปล่า ผมยิงคำถามออกไปดื้อ ๆ
อ้าว ! เขาทำท่าผละ คุณยอดทำไมถามหาตะรางให้ผมยังงั้นล่ะ แล้วก็หัวเราะร่วน เอื้อมไปจับถ้วยเหล้าขึ้นดื่ม ผมเห็นมือเขาสั่นน้อย ๆ ตอนวางถ้วยลง
เขาสังเกตเห็นผมมองดูมือเขา ตอนวางถ้วยลงบนโต๊ะ
ไอ้ยอด เพื่อนผมคนหนึ่งพูดขึ้น มึงหาเรื่องที่มันเป็นมงคลมาคุยกันไม่ดีกว่าหรือวะ
เรื่องนี้ก็เป็นมงคลดีเหมือนกัน ผมว่า นัยน์ตายังจับอยู่ที่ใบหน้าของเสี่ย เห็นเสี่ยเขาว่าไอ้เสือนี่ถูกยิงตาย กูก็คิดเอาว่า มันอาจจะไปแอบดักยิงใครเขา แล้วโดนคนนั้นไวกว่ายิงตายเสียก่อนก็ได้ ใช่ไหมเสี่ย ประโยคท้ายผมหันไปถามเขา
เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วหัวเราะอีก พร้อมกับพูดว่า
ไม่รู้ซี คุณยอด ผมก็ไม่ได้ถามเมียมัน
เมียมันจะมาบอกคุณทำไม ถ้าคุณไม่เป็นลูกพี่ที่สนิทของมัน แล้วมันก็มาขอเงินด้วยใช่ไหมล่ะ ทีนี้ผมหัวเราะมั่ง
เขามองดูผมนิ่งก่อนที่จะพูดออกมา คราวนี้เขาไม่หัวเราะ สีหน้าของเขาเคร่งเครียด
คุณถามถึงมันทำไม
อยากรู้เท่านั้นเอง ผมไม่เคยรู้จักมัน เห็นว่ามันเป็นมือปืนของเสี่ยอะไรก็จำไม่ได้ มันเคยคุยกับผมยังงั้น ตำรวจกับมือปืนนี่มักจะเดินเข้าทางด้วยกันบ่อย ๆ สวนทางกันเมื่อไรก็ได้เรื่องเมื่อนั้น
ตำรวจช่างซักอย่างคุณนี่ ถ้าผมเป็นมือปืนหรือมีมือปืนอยู่ในมือ ก็เห็นจะต้องลองเดินสวนทางกันซะหน่อย เขาพูดเสียงหนัก ๆ แล้วก็หัวเราะ แต่เสียงหัวเราะของเขาตอนนี้มันปร่า ๆ พิกล
แหม ได้สวนทางปืนกับเสี่ยก็สวย ผมแหย่เข้าไปอีก กำลังจะเข้าเรื่อง
เฮ้ย! ไม่เอา ไม่เอา ไอ้เพื่อนของผมคนหนึ่งพูดขึ้น คุยเรื่องอื่นกันเถอะวะ ไอ้ยอด มึงอารมณ์ค้างมาจากไหน ถึงมาหาเรื่องกับเสี่ยเขาวะ
กูไม่ได้หาเรื่อง กูคุยดี ๆ เสี่ยเขาอารมณ์เสียเองต่างหาก กูก็ถามของกูเพราะกูอยากรู้เฉย ๆ ทำไมเสี่ยถึงไม่ชอบใจล่ะครับ ผมหันไปถามเขา
เขาไม่ตอบ ลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินเข้าไปข้างในสโมสร ผมเรียกบ๋อยเข้ามาให้ยกขวดเหล้าของเขาที่ทิ้งอยู่บนโต๊ะตามเข้าไปให้เขาข้างใน แล้วผมก็ควักกระเป๋าล้วงเอาใบละห้าร้อยออกมาใบหนึ่งส่งให้บ๋อยไปยกเหล้าขนาดเดียวกันมาแทน
เฮ้ย ! ไอ้ยอดเป็นเจ้ามือโว้ยวันนี้ มึงไปรวยอะไรมาอีกวะ ไอ้คนหนึ่งถาม
เราเป็นตำรวจ ผมว่า อย่าไปกินเหล้าของคนอื่นเขา มันไม่ดี เจ้าของเขาลุกไปก็ต้องตามเอาไปให้เขา ซื้อของเรากินเอง เงินทองมันของนอกกายโว้ย หาเมื่อไรก็ได้ เกียรติตำรวจของไทยมึงต้องรักษาไว้ให้ดี ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันรักษาไว้ แล้วใครจะมารักษาให้เรา
วันนี้ไอ้ยอดพูดเป็นคติ คนหนึ่งพูด มันฉวยโอกาสด่าพวกเราได้อย่างไฉไล มึงไปทีอะไรกับเสี่ยเขาเมื่อไหร่วะ เมื่อวานก็แดกเงินเขาไปตั้งสี่หมื่น มึงเอาเงินของเขามารักษาเกียรติได้สวยมาก
กูได้ของกูมาอย่างบริสุทธิ์ในการใช้ฝีมือ มันก็เป็นเงินของกูโดยชอบธรรม มันขาดตอนของการเป็นเจ้าของไปแล้ว กูเอาเงินของกูมาเลี้ยงพวกมึง ถ้าไม่ชอบใจ กูก็จะเอาของกูไปกินเอง ผมเอื้อมมือไปคว้าขวดเหล้า ไอ้คนหนึ่งชิงปัดมือผมออกเสียทันแล้วว่า
อย่าทำใจน้อย ไอ้ยอด นาน ๆ ได้เจอเพื่อนฝูงที มึงต้องใจอดทน เลี้ยงเพื่อนไป
เออ มึงพูดเป็นคติดี ผมชักมือกลับ ความจริงผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเอาจริง ๆ ตั้งใจล้อมันเล่น งั้นกูจะเลี้ยงกับแกล้มให้มันครบชุดไปเลยดีไหม กูว่ามึงต้องว่าดีพร้อมเพรียงกัน
แล้วผมก็หันไปสั่งบ๋อยยกกับแกล้มชั้นดีมาตั้งบนโต๊ะ
Create Date : 08 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 0:20:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 783 Pageviews. |
|
|
|
| |