จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
30 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
13 ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย (ตอนที่ 22)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 22

ทีนี้สนุกไป แต่ฝ่ายทหารเขาไม่ค่อยชอบ เขาว่าไอ้หน่วยการสืบสวนของเรามันยาวเหลือเกิน จนกระทั่งกรมข่าวทหารบกต้องการข่าวอะไรก็ต้องมาขอข่าวไปจากเรา และเราจะให้หรือไม่ให้อยู่ที่เรา ก็เพราะเราเป็นคนลงทุนลงแรง มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ในเมื่อกรมเขาก็มาฝีมือ ทหารทุกคนก็มีฝีมือ กรมข่าวของเขาก็มี

ตอนนั้น พี่เขยของผมเป็นเจ้ากรมข่าวทหารบก เขาก็ชักจะไม่ชอบใจ

ในใจก็นั่งคิดจะทำอย่างไรดี ตอนนี้เริ่มจะขัดขากันเสียแล้ว แต่ผมก็ไม่ฟัง ผมทำงานของผมไป ใครจะมาว่าอะไรก็แล้วแต่

ต่อมาทางทหารเขาก็กล่าวหาว่าพวกเราไปดักฟังข่าวทางทหารของเขาเข้าให้แล้ว ซึ่งความจริงผมก็เอาจริง ๆ นั่นแหละ เพราะตอนนั้นท่านจอมพล สฤษดิ์ ฯ กับเจ้านายชักจะไม่ลงรอยกันเสียแล้ว ฝ่ายท่านจอมพล ป. ท่านก็แหย่อยู่เรื่อย แหย่ไปแหย่มาได้ดี พอไม่ได้พบกันนาน ๆ ก็นึกว่าเป็นเรื่องจริง จอมพล สฤษดิ์ ฯ ก็เลยจะซัดกับเจ้านาย

ไอ้จะซัดกันเราก็ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าพูดถึงกำลังทหารละก้อ ผมก็มีของผมเยอะเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่มี ของพรรค์นี้มันไม่แน่นัก ท่านจอมพล สฤษดิ์ ฯ ท่านก็เมาของท่านอยู่เรื่อย และที่ผมรู้สึกก็ดูเหมือนว่า กำลังของจอมพล สฤษดิ์ ฯ ตอนนั้นมีอยู่ไม่เท่าไหร่หรอกที่จะจงรักภักดีกับท่านจริง ๆ แต่ทางเจ้านายเผ่า ฯ ของผม รู้สึกว่าจะมีมากกว่า

อยู่มาวันหนึ่ง ท่านก็ได้เชิญจอมพล สฤษดิ์ ฯ มาพบที่วังปารุสกวัน โดยให้ผมไปเชิญ นัยว่าจะจับ เรียกพวกผมไปนั่ง ทั้งสองก็ซัดกันนัว ประเดี๋ยวเดียวท่านจอมพล สฤษดิ์ ฯ ก็ว่า

“ โธ่ ไอ้เผ่า มึงจะทำอะไรกู กูไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับมึงหรอก มึงจะเป็นผบ.ทบ. ก็เป็นไปเถิด ให้กูได้กินเหล้ากินยาให้สบายดีกว่านะ ไอ้ห่า... อย่ามายุ่งอะไรกับกูเลย... เดี๋ยวมึงคุยกับกูก่อน ไล่ไอ้พวกนี้ออกไปก่อน ”

จอมพล สฤษดิ์ ฯ พูด ชี้มาที่พวกผม พวกเราก็เดินออกจากห้องไป ท่านก็คุยกันอยู่ ๒ คนสักครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ก็ได้ยินเสียงเรียกให้เข้าไปอีก

“ เฮ้ย ไอ้สฤษดิ์ ไปเถอะวะ กูพูดกันรู้เรื่องแล้ว ”

จอมพล สฤษดิ์ ฯ ก็เดินออกไป แต่ผมนั้นใจหายวาบพอจอมพล สฤษดิ์ ฯ ออกไปแล้ว

ผมก็ถามท่านว่า “ ท่านครับ ท่านปล่อยเสือเข้าป่าไป ไม่ยิง ผมว่าต่อไปเราจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ท่านเตรียมการไว้แล้วหรือครับ ? ”

ท่านก็ว่า “ เออน่า มึงไม่ต้องยุ่งกับกูนะ เรื่องของกู เอาล่ะ มึงไม่เดือดร้อนหรอก ”

ก็เจ้านายว่าอย่างนั้น เราเป็นลูกน้องก็ต้องเชื่อเขา

ทีนี้ พอจอมพล สฤษดิ์ ฯ กลับออกไป ก็เริ่มมีการตั้งป้อมใส่กัน

เสือเข้าไปในกรงแล้วมีคนเปิดกรงออกมาให้โดดเข้าป่า

ทีนี้จอมพล สฤษดิ์ ฯ ก็เริ่มคิดจะเล่นงาน แล้วก็เริ่มด้วยวุฒิสมาชิกซึ่งเป็นทหาร ๕๒ คน ยื่นชื่อกันบังคับให้รัฐบาลของจอมพล ป. ลาออก

ในวันนั้นผมเองก็ไปที่รัฐสภาด้วย เพราะเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องไปฟังการประชุมรัฐสภา ผมก็ไปพบพี่ชุบ พลเอก กฤษณ์ สีวรา

เขาถามผมว่า “ เฮ้ย พุฒ... มาทำไมวะ ”

“ ผมได้ยินข่าวว่า วุฒิสมาชิกจะลาออกตั้ง ๕๒ คน ผมมาดูที่นั่งน่ะซิ เผื่อผมจะได้เป็นกะเขามั่ง ”

“ สัพหยอกกันอยู่เรื่อยเชียว ” พี่ชุบตบไหล่ผม

แต่ที่แท้ ผมต้องการไปดูลาดเลาเท่านั้นเอง

ชุบพูดขึ้นอีกว่า “ ผู้ใหญ่เขาล้อกันเล่นน่ะ ไม่มีอะไรหรอกวะ ”

ผมก็เลยตอบว่า “ ครับ ๆ ไม่เป็นไรหรอก ผมก็มาล้อเล่นเหมือนหัน ”

เสร็จแล้ว ผมก็เดินลงมาข้างล่าง ก็มาพบเพื่อนของผมที่เป็นผู้แทน คือ พ.ต.อ. วิเชียร สีมันตระ ผู้แทนเมืองกาญจน์ ฯ สมัยนั้น มันกำลังเข้าชื่อกันจาก ส.ส. ทั้งหมด ให้จับวุฒิสมาชิกทั้งหมด ๕๒ คน ฐานกบฏภายใน

เอาเข้าแล้ว !

ผมถามมันไปว่า “ ไอ้เชียร เอ็งเอาแน่หรือ ”

ไอ้เชียรร้อง “ เออ แน่ซิ เปิดประชุมสภาวันอังคาร กูเอาแน่ ”

“ เออ... มึงทำให้ดีก็แล้วกัน ” ผมพูดทิ้งไว้กับมันแค่นั้น

ผมก็กลับไปบ้าน สั่งเมียว่าให้เขาเตรียมหาอาหารไว้ บางทีอาจไม่มีข้าวกิน ๗ วัน เหตุการณ์ไม่ค่อยดีเสียเลย ผมสั่งได้แค่นั้นก็โทรศัพท์บอกพรรคพวก ซึ่งวันนั้นก็เป็นวันจันทร์

วันอังคารวันรุ่งขึ้นสภาก็จะเปิด เราก็ไปนั่งกันอยู่ที่สันติบาล มีคุณพี่พจน์ เภกานันท์ พันศักดิ์ วิชิต ผู้การรัตน์ ฯ ส่วน อรรณพ ไม่อยู่ในห้องของ “ คุณพี่ ”

ผู้การรัตน์ ฯ ก็ว่า คืนนี้ถ้ามันจะไม่ดี เรามาพบกัน จะเอายังไงกัน ผมก็สั่งคนของผมให้พร้อม เพราะกองกำลังของผมมีทั้งปืนและอาวุธ เตรียมกระสุนพร้อม คอยฟังคำสั่งข้าพเจ้าแต่ผู้เดียว

สักครู่เดียวก็มีโทรศัพท์เข้ามา ตอนนี้ พี่ดม (คุณหญิงอุดมลักษณ์) พูดมาเอง

“ นี่ พวกคุณ ๆ น่ะ ทหารเขารู้ว่าพวกคุณไปชุมนุมกันที่นั่นแล้วนะ ”

ผมชักสงสัย “ เอะ เขารู้ได้อย่างไร ”

“ ให้แยกกันไปซะ เดี๋ยวจะมีเรื่อง ” พี่ดมกำชับ

ผมรู้ว่ามีใครไปบอก แต่ผมไม่เอ่ยชื่อเขา เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่ไม่อยู่ในที่ประชุมในวันนั้นด้วย เพราะเขามาตึกสันติบาลเหมือนกัน เมื่อเห็นพวกเราก็กลับออกไป เมื่อผู้ใหญ่ให้แยกย้ายออกไป เราก็แยกกันไป ผมก็นั่งรถยนต์ออกมากับพันศักดิ์และผู้การรัตน์ ฯ อีกคน จะไปที่ร้านคุณพี่เขาที่สี่แยกราชประสงค์ ก็เจอเข้าให้

เห็นทหารจำนวน ๑ หมู่วิ่งไปยึดองค์การโทรศัพท์ตัดหน้ารถเราไป ตอนนั้นบาร์ลิโด้อยู่ตรงกับองค์การ ฯ

ฃผมตบไหล่พันศักดิ์ “ เฮ้ย.. ไปหานายดีกว่าว่ะ ”

ผมให้มันเลี้ยวรถกลับ ปล่อยให้ผู้การรัตน์ ฯ ลงไปสืบสวน คือเราไม่อยากให้รู้ว่านายเราอยู่ที่ไหน เมื่อเราเลี้ยวรถก็ไปหานายที่บ้านหลังหนึ่ง อยู่ไหนอย่าเพิ่งรู้เลย พอเราเข้าไปถึง เจ้านายกำลังสบายอารมณ์อยู่บนโซฟาร์

ผมก็ถามท่านว่า “ ท่านครับ จะเอายังไง ทหารเขาเอาแล้ว กำลังของผมพร้อมนะ ”

ท่านหันไปทางพันศักดิ์ “ เฮ้ย... ไอ้อ้วน โทร. ไปที่กองมึงซิ ”

มันก็โทร.ไป อิทธิพลเป็นคนรับ บอกว่ากองกำลังเราพร้อม แต่มีทหารนั่งรถมาสองคัน เอารถรบมาด้วย เขาให้เราอยู่เฉย ๆ จะสั่งการอย่างไรก็ได้ เราพร้อม

พันศักดิ์รายงานท่าน

ท่านก็ว่า “ ช่างมันเหอะ... ปล่อยมัน ไอ้สฤษดิ์ อยากใหญ่ ก็ช่างแม่มัน ”

อ้าว.. แล้วกัน !

“ เราอยู่เฉย ๆ ก็แล้วกัน อย่าไปยุ่งกับแม่มัน ” เจ้านายทำท่าไม่สะดุ้งสะเทือน






Create Date : 30 เมษายน 2553
Last Update : 30 เมษายน 2553 1:05:11 น. 1 comments
Counter : 1666 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:1:57:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.