พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 21)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 21
ผมให้รถวกกลับไปที่หน้าปากตรอกสำเพ็งอีกครั้ง และจอดอยู่ที่เก่า ผมให้เขาคอยแล้วก็ลงเดินเข้าไปในตรอกนั้นอีก ผมเดินเลยร้านเม่งอันตึ้งนั้นไปสักสองคูหา แล้วหยุดแหงนหน้าขึ้นไปมองสำรวจตัวอาคารที่เป็นที่ตั้งของร้านเม่งอันตึ้ง
ตัวอาคารเป็นตึกสามชั้น ชั้นบนเป็นระเบียงซึ่งคงจะเป็นที่พักอาศัยได้ด้วยอีกชั้นหนึ่ง จากที่ผมยืนอยู่ ยังพอมองเห็นหลังคากระเบื้อง ซึ่งปกคลุมห้องชั้นบนที่อยู่ลึกเข้าไปจากระเบียงที่เห็น หน้าต่างของตึกชั้นสองปิดหมดทุกบาน
เลยจากที่ผมยืนอยู่ไปอีกสี่-ห้าเมตร ก็เป็นถนนซอยเล็ก ๆ ที่ตัดผ่านตรอก ผมเดินไปที่นั่น ถนนนั้นเป็นทางตัน ผมสำรวจดูแล้วว่า ร้านเม่งอันตึ้งนี้คงไม่มีทางออกหลังร้านไปทางไหนได้
ผมกลับมาจะผ่านหน้าร้านไป
ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวแบบผู้หญิงจีนแบบเก่า เดินออกมาจากร้านนั้น มีผู้หญิงกลางคนอีกคนหนึ่งเดินออกมาด้วยกัน
ผมแทบจะจำหล่อนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงกลางคนคนนั้น ผมจำผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นได้ เพราะแกไม่ได้ปลอมแปลงตัว ผมจำได้เพราะผมเคยเห็นแกที่ศาลแขวงพระนครใต้ ในวันที่ผมประกันตัวแม่ยุพดี ผมจึงพลอยจำหล่อนได้ด้วย เมื่อมองหล่อนอีกครั้งด้วยความพินิจ
ผมของหล่อนปล่อยให้เคลียใบหน้าลงมาถึงไหล่ หวีแสกตรงกลางแบบอาม่วยทั้งหลาย และในเครื่องแต่งตัวแบบคนจีนอย่างม่วยสมัยเก่าแต่ง ถ้าไม่สังเกตกันจริง ๆ ก็จำไม่ได้ หล่อนปลอมแปลงตัวสนิทนัก แม่ยุพดี พวงพยอม คนนี้
หล่อนเดินผ่านผมไปโดยไม่ได้มองซ้ายมองขวา อย่างไม่เร่งรีบ
ผมขยับจะตามไป ก็พอดีหล่อนหยุดอยู่ที่ร้านขายผลไม้ที่วางอยู่ริมทางเดิน หล่อนก้มหน้าก้มตาเลือกผลไม้อยู่ที่ร้านนั้น ผมจึงหยุดอยู่กับที่ เพราะจากที่ผมยืนนั้นไม่ห่างไกลกันนัก พอมองเห็นถนัด
หล่อนพูดจากต่อรองกับคนขายผลไม้อย่างคนที่คุ้นเคยกัน ผมสังเกตเห็นการพูดจาเป็นไปในทำนองคนที่เคยซื้อเคยขายกันบ่อย ๆ แล้วหล่อนก็ซื้อผลไม้ไปสองถุง ผู้หญิงกลางคนคนนั้น รับห่อผลไม้จากคนขายไปถือให้ หล่อนชำระเงินแล้วก็เดินต่อไป
ผมตามไปห่าง ๆ
หล่อนเลี้ยวเข้าไปในร้านขายผ้า
ผมเดินเลยร้านนั้นไป เห็นหล่อนกำลังเลือกดูผ้าเช็ดตัวขนาดเล็ก ๆ อยู่ ผมเดินเลยไปหยุดคอยเฝ้าดูหล่อน ห่างจากร้านผ้านั้น สอง-สามคูหา
พักใหญ่ หล่อนก็กลับออกมาจากร้านขายผ้า เดินย้อนกลับไปทางเก่า หล่อนเลี้ยวเข้าไปในร้านขายยาเม่งอันตึ้ง หายเข้าไปหลังร้านทั้งสองคน ผมไม่เห็นหล่อนพูดจาอะไรกับคนหน้าร้านอย่างนายเชิด
ที่เยื้องหน้าร้านนั้น มีหาบตือฺฮวนวางขายอยู่ และมีโต๊ะตั้งอยู่สองตัว ผมนั่งที่โต๊ะหนึ่ง สั่งตือฮวนมากิน เพราะชักจะหิว ผมทำธุระกับตือฮวนเจ้านั้นสองชาม พอดึง ๆ ท้อง ไม่เห็นวี่แววหล่อนอีก ผมชำระค่าตือฮวน แล้วก็กลับออกมาปากตรอก
ผมขึ้นรถ บอกให้คนขับไปส่งบ้าน
ผมไม่นึกว่า เรื่องมันจะง่ายอย่างนี้ และผมอยากจะพักผ่อน มันเมื่อยขบไปทั้งตัว
แท็กซี่พาผมกลับมาถึงบ้านเกือบจะบ่ายสองโมง ผมชำระเงินร้อยบาทตามสัญญาให้คนขับ แม้มันออกจะแพงไปหน่อย เพราะผมคิดว่า คงจะต้องใช้เขามากกว่านี้ แทนที่จะเป็นประเดี๋ยวเดียวอย่างนี้ แต่ผลที่เกิดขึ้นก็นับว่าคุ้มค่า
คุณถ้าจะเป็นตำรวจ เขาถามผมเมื่อรับเงิน
ผมยิ้ม ไม่ตอบ
ไอ้อย่างนี้ ผมชอบ เขาพูดต่อ เพราะผมเคยเป็นตำรวจมาก่อน เคยขับรถตามคนแบบนี้มาแล้ว ผมอยู่สันติบาล ตอนที่รับราชการ ถ้ามีอะไรจะใช้ผมอีก ก็เรียกผมได้ ผมชื่อ ถม
ผมมองดูรูปร่างอันกำยำของเขา แล้วว่า
ผมจะติดต่อคุณได้ที่ไหนล่ะ
ผมจอดปนระจำอยู่ที่หน้าโรงแรมเพรซิเด้นท์ ตั้งแต่ทุ่มหนึ่งจนถึงสองยาม ถ้าไม่พบผม ก็สั่งพวกแท็กซี่ที่จอดประจำอยู่ที่นั่นไว้ก็ได้
บางทีอาจจะต้องการใช้พลกำลังกันบ้าง งานของผม ผมว่า
เขาหัวเราะ มองดูใบหน้าผม แล้วพูดว่า
ผมชอบเหมือนกันเรื่องนั้น
ถ้างั้น สักหกโมงเย็น แวะมารับผมหน่อย ผมพุด ว่าแต่คุณจะคิดเงินกับผมยังไง ถ้าบางทีเราอาจจะต้องไปด้วยกันทั้งวัน
ไม่แพงหรอกครับ ถ้าลงผมชอบ ให้ค่าป่วยการผมวันละสองร้อยก็พอ แล้วน้ำมันคุณเติมเอง ยังงี้ดีกว่า ไม่เอาเปรียบกัน เท่ากับจ้างผมขับรถ แล้วก็เช่ารถผมไปด้วยในตัว ถ้าน้ำมันผมเติมเอง ผมก็คิดคุณวันละสี่ร้อย ก็ออกจะเอาเปรียบกันมากไปหน่อย
ตกลงวันละสองร้อย แล้วน้ำมันผมเติม หกโมงเย็นวันนี้ พบกัน
ครับ เขารับคำแล้วก็พารถพุ่งออกไป
ผมเข้าไปในบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ล้มตัวลงนอน หลับเป็นตาย
Create Date : 12 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 12 มิถุนายน 2553 2:33:40 น. |
|
3 comments
|
Counter : 811 Pageviews. |
|
|
|
รออ่านต่อ..ขอบคุณมากๆ..