จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 44)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 44

ผมพับกระดาษผลการสอบทะเบียนรถเข้ากระเป๋ากางเกง มองดูเพื่อนนายตำรวจของผม เขายังจับตาอยู่ที่ผมเหมือนกัน

“ อั๊วเห็นจะต้องยุ่ง ” ผมพูด ฝืนยิ้มออกมาได้แวบหนึ่ง

“ เอาตำรวจไปอยู่ด้วยซักคนไหมล่ะ ” เขาพูดอย่างเป็นห่วง

“ ยังไม่ถึงเวลา ” ผมตอบ มองดูเขาเต็มตา “ ถึงเวลาเมื่อไร อั๊วจะขอลื้อเอง อั๊วเคยบอกลื้อไว้แล้วว่า ถึงตอนจบลื้ออาจจะต้องเกี่ยวด้วย มันเป็นเรื่องที่ผู้การของลื้อสนใจอยู่เงียบ ๆ ”

“ ก้อตามใจ ” เขาพูด หัวเราะเบา ๆ “ อย่าให้หน้าตายับเยินเสียก่อนก็แล้วกัน คนคนนี้เขาใหญ่จริง ” เขาชี้มาที่กระเป๋ากางเกงของผม ที่เพิ่งจะยัดกระดาษผลการสอบทะเบียนรถคันนั้นเข้าไป

ผมขอบใจเขา แล้วลาออกมาจากที่นั่น

นายถมมองดูท่าทางที่ผมก้าวขึ้นรถอย่างสงสัย เพราะผมก้าวขึ้นด้วยความละเหี่ยใจจริง ๆ ทิ้งตัวลงบนเบาะข้าง ๆ เขา แล้วผมก็นิ่ง

“ ไปไหนล่ะครับ ” เขาหันมาถาม “ ที่ทำงานหรือที่บ้าน ”

“ ที่บ้าน ” ผมพูดได้แค่นั้นก็พิงศีรษะเข้าที่พนัก ผมตั้งใจแล้วว่า จะไม่ไปที่ทำงานบ่ายวันนี้

ผมเอนหลังลงนอนเมื่อเข้าห้อง แต่มันนอนไม่หลับอย่างเคย ในสมองของผม มันมีอะไรร้อยแปดเข้าไปวิ่งอยู่ในนั้น

ไอ้ถึก ! ผมนึกถึงแต่มัน แล้วไอ้เบอร์รถทะเบียนเมืองกาญจน์ฯ คันนั้น นอนอยู่ไม่ได้เสียแล้ว ยังไง ๆ มันคงจะหลับไม่ลง บอกตัวเองว่า ยอมแพ้ไม่ได้

ผมลุกขึ้น เปิดประตูห้องออกไป นายถมนอนเอกเขนกอยู่กลางห้อง เขาผุดขึ้นครึ่งนั่งครึ่งนอนมองดูผม

“ ไปกันเหอะ พี่ถม ” ผมพยักหน้ากับเขา

เขาลุกขึ้นเดินตามผมออกมานอกบ้าน ไม่ได้ถามอะไรอย่างเคย พอผมเปิดประตูขึ้นนั่งด้านหน้า เขาก็ขึ้นทางด้านของเขา

“ ไปเมืองกาญจน์ฯ ” ผมบอกเขาทันทีที่เขาขึ้นนั่ง

“ หือ ” เขาหันมาถามผมอย่างไม่เชื่อหู

“ไปเมืองกาญจน์ฯ ” ผมย้ำ “ แต่ไปที่ทำงานก่อน ”

เขาหันมามองผมอีกที แต่ไม่ถามอะไรออกมา ออกรถพรืด

ผมขึ้นไปบนที่ทำงานร่วมบ่ายห้าโมง กัณหากำลังเตรียมตัวจะกลับ หล่อนมองผมอย่างแปลกใจ ผมเดินเข้าไปหาหล่อน

“ ขอเงินผมเถอะ ” ผมพูดเมื่อถึงโต๊ะที่หล่อนนั่ง

“ เอาหมดหรือยังไงค่ะ ” หล่อนถามด้วยเสียงหวาน ๆ อย่างตอนเช้า

ผมมองดูหล่อนอย่างแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงอันนี้

“ เอาหมด ผมเห็นจะต้องใช้มันมาก ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ” ผมยังมองดูหล่อนอยู่ “ ว่าแต่ทำไมดูคุณแปลกไปวันนี้ เสียงของคุณเปลี่ยนไป ”

“ เสียงของฉันก็เป็นอย่างนี้ทุกวัน ” หล่อนพูดพร้อมกับเปิดลิ้นชักหยิบซองใส่เงินซองใหญ่นั้นส่งมาให้

“ แต่มันแปลกหูผม ฟังเหมือนประชดประชันยังไงก็ไม่รู้ ” ผมรับซองนั้นมาแล้วพูด

หล่อนหัวเราะ

“ ก็พูดกับเจ้านาย คุณไม่ใช่คุณดนัยคนเดิมแล้ว ”

ผมถึงได้เข้าใจ ไอ้สัญญาที่ผมให้หล่อนพิมพ์นั่นเอง ฐานะของผมบนสำนักงาน ไม่ใช่ลูกจ้างรายวันเสียแล้ว

“ คุณกัณหา ” ผมเรียกชื่อหล่อนเต็มด้วยเสียงที่ความรู้สึกในใจที่สั่ง จนหล่อนต้องเงยหน้าขึ้นมอง “ ความเปลี่ยน แปลงทางการงานของผม ไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงทางใจ เสียงของคุณเปลี่ยนไปนี่ มันทำลายความรู้สึกทางใจของผม อย่าให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ไหม ”

หล่อนมองดูผมด้วยสายตาที่พูดได้คู่นั้น คราวนี้ผมแปลไม่ออก

ผมถือซองใส่เงินนั้นเดินลงบันไดไป ลืมถามเสียด้วยว่า คุณพี่ยังอยู่หรือเปล่า

“ ไปเมืองกาญจน์ ฯ เดี๋ยวนี้เลยหรือครับ ”นายถมถาม เมื่อผมขึ้นนั่งที่เดิมเรียบร้อยแล้ว

“ ไปเลย ” ผมหันไปบอกเขา

“ ไปตัวเมือง หรือนอกเมือง ”

“ ในเมือง ถนนสายกลาง ไปถึงแล้วถามใครก็คงจะรู้ ”

“ งั้นต้องเติมน้ำมันหน่อยก่อน ”นายถมออกรถพร้อมกับพูด

แวะเติมน้ำมันเข้าไปอีกสองร้อยบาทที่ปั๊มที่นายถมเลี้ยวเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปเมืองกาญจน์ ฯ

ผมเอนศีรษะพิงเบาะรถ คราวนี้หลับ

ผมตื่นขึ้นอีกทีด้วยแรงเขย่าปลุกที่ขา จากมือนายถม

“ เข้าเขตตัวเมืองแล้วคุณ นี่แหละถนนสายกลาง ”

ผมถามเวลานายถม เขาบอกว่า ร่วมหกโมงครึ่งแล้ว ท้องฟ้ายังสว่าง แสงแดดยังมีอยู่เรื่อ ๆ ผมให้เขาขับช้า ๆ และให้ช่วยกันหาบ้านเลขที่ ๑๑๔๖ ผมไม่รู้ว่ามันจะอยู่ฝั่งไหนของถนน

นายถมปล่อยให้รถคลานไปช้า ๆ สองข้างถนนเป็นร้านรวง เรียงกันเป็นแถว สลับด้วยบ้านหลังย่อม ๆ สูงบ้าง ต่ำบ้างไปตลอด ผมนั่งมองไล่เลขบ้านไปทางด้านหลังที่ผมนั่ง มันมีทั้งเลขคู่และเลขคี่สลับกัน ไม่ยักแบ่งเป็นเลขคู่-คี่แต่ละฝั่ง

นายถมหยุดรถ แล้วชี้ให้ผมดูประตูบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ทางอีกฟากถนน บ้านหลังนั้นมองเห็นแค่หลังคา อยู่ห่างออกไปจากประตูบ้าน ที่ประตูบ้านสองบานที่ปิดสนิทอยู่นั้น มีเลข ๑๑๔๖ ตัวใหญ่ติดอยู่เหนือประตู

ผมนั่งมองดูประตูบ้านนั้นเฉยอยู่ คิดว่าจะเริ่มต้นยังไงดี

นายถมหันมามองผมเฉยเหมือนกัน เขาคงอยากจะถามอะไรสักอย่าง

ผมลงจากรถ เดินอ้อมหน้ารถไปที่ประตูใหญ่นั้น ที่หน้าประตูทางด้านขวา มีแผ่นปุ่มกริ่งติดอยู่ ผมกดที่ปุ่มนั้น ได้ยินเสียงกริ่งดังอยู่ภายในบ้านเบา ๆ คงจะอยู่ไกล

ครู่ใหญ่ ๆ ผมก็ได้ยินเสียงกลอนที่ประตูบานเล็กในบานใหญ่ ด้านที่ผมยืนอยู่ ขยับอยู่ข้างใน บานประตูเล็กบานนั้นแง้มออก ใบหน้าของคนที่โผล่มาให้เห็นนั้น ทำเอาผมสะดุ้ง



Create Date : 30 มิถุนายน 2553
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 1:30:03 น. 1 comments
Counter : 1190 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:49:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.