จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
12 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 67)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 67

รถสินค้าขบวนนั้นเข้าสถานีตรงเวลา ผมปล่อยตำรวจไว้บนรถคันละหนึ่งนาย ให้คุมทหารอยู่บนรถ อาวุธบนรถนั้นไม่มีพิษสงแล้ว เพราะถูกถอดสายกระสุนออกแล้ว และในตัวทหารประจำรถก็ไม่มีอาวุธอื่นติดตัวอีก

ขบวนรถสินค้าเที่ยวสำคัญนั้นค่อย ๆ แล่นเข้าเทียบชานชาลา ทิ้งท้ายรถตู้ข้างท้ายไว้นอกตัวชานชาลา ผมเดินตรงไปที่รถตู้ที่จอดทิ้งท้ายอยู่นั้น ประตูรถนั้นเปิดออก บุรุษนายหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากรถตู้คัน
นั้น ผมรู้จักเขาดี และเขาก็รู้จักผมดี เขาเบิกตาอย่างแปลกใจ

“ อ้าว พี่พุฒ มาทำไม ”

พนักงานสถานีกำลังปลดรถตู้สองคันนั้นอกจากขบวน แล้วให้สัญญาณรถจักรเคลื่อนขบวนไป

ขบวนรถสินค้ายาวยืดขบวนนั้นก็เคลื่อนตัวออกไปจากสถานีนั้น เข้ากรุงเทพ ฯ เขาหยุดขบวนที่ช่องแคเพื่อจะปลดรถตู้สองคันนั้นไว้ที่นี่เท่านั้น ซึ่งธรรมดา รถขบวนนั้นจะไม่หยุดที่สถานีนี้

บุรุษผู้มากับรถคู้โดดลงมาหาผม

“ มาทำไม พี่ ” เขาถามย้ำ

“ ก็มารับคุณไง ” ผมตอบเขา ยิ้ม ๆ

เขายืนงง มองผมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วว่า

“ ใครสั่งให้มา ”

“ ท่านอธิบดี ” ผมตอบ

“ ฮะ ” เขาอุทานออกมา “ แล้วจะเอาของไปไหน ”

“ ก็เข้าวังปารุสกวัน ” ผมตอบ แล้วสั่งให้ตำรวจของผมขึ้นไปขนสินค้าที่อยู่ในตู้นั้นลงมา เอาขึ้นรุบรรทุกที่เตรียมมา เขายืนมองดูคนของผมทำงานอย่างสงสัยในใจ แต่ไม่รู้จะพูดยังไง แล้วหันไปมองรอบ ๆ คงจะมองห่รถของเขาที่จะมาขนของ ไอ้รถบรรทุกสองคันก็บึ่งไปก่อนหน้านั่น เห็นจะใช่

คนของผมขนกระป๋องฝิ่นลงมาจนหมดสองตู้ รถสามคันที่เตรียมมาแน่นเอี๊ยด ต้องเอาเชือกมาผูกมัดไม่ให้ตก คะเนน้ำหนักคงไม่น้อยกว่า ยี่สิบตัน

บุรุษผู้มากับรถเดินผละไปจากผม ที่บริเวณนั้นยังมีรถเก๋งจอดอยู่เงียบ ๆ คันหนึ่ง เขาเดินไปขึ้นรถคันนั้น แล้วรถคันนั้นก็ออกไปจากที่นั่น

ขนของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ให้ตำรวจของผมแยกกันขึ้นประจำรถ ตัวผมขึ้นคันหน้า ให้รถอีกสองคันตามผมมา ผมสั่งให้รถเคลื่อนออกจากที่นั่น บ่ายหน้าเข้ากรุงเทพ ฯ

ขบวนรถของผมแล่นตามกันมาตามสบาย เข้าถนนพหลโยธินมาเรื่อย ๆ ไม่แวะที่ไหน จนผ่านดอนเมืองเข้าพหลโยธินสายใน สายมาแล้ว ใกล้เที่ยง ราว ๆ สิบเอ็ดโมงกว่าได้ มาถึงที่สี่แยกสะพานควาย ก็มีคนมายืนขวางถนน

สมัยนั้น ถนนพหลโยธินยังไม่กว้างใหญ่เหมือนเดี๋ยวนี้ กว้างพอรถสวนกันได้สองคัน

ชายคนนั้นออกมายืนโบกมือ ให้รถผมหยุด

ผมรู้จักบุรุษท่านนั้นดีอีก เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้บังคับหน่วยกองทัพ เขากวักมือเรียกผมลงจากรถ ผมลงไปตะเบ๊ะให้ ฐานะที่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าผม

“ จะไปไหนล่ะ พุฒ ” เขาถาม

“ เอาเข้าวังปารุสกวันครับ ”

“ เฮ่ย ” ท่านผู้นั้นส่งเสียงออกมา “ เอาไปไว้ที่อั๊วเถอะวะ ”

“ ไม่ได้หรอกครับ ” ผมตอบ “ ท่านอธิบดีสั่งให้ผมมาจัดการ ต้องเอาเข้าวังปารุสกวันครับ ”

“ เฮ่ย ” ท่านอุทานออกมาอีก “ ผู้ใหญ่เขาพูดกันรู้เรื่องแล้ว เอาไปไว้ที่อั๊วเถอะ ”

“ ผมยังไม่เห็นคำสั่งนี่ครับ ท่านให้ใครไปเอาคำสั่งท่านอธิบดีมาให้ผมได้ไหมล่ะครับ ”

ท่านผู้นั้นยืนนั่งอยู่ครู่หนึ่งก็พูด

“ เออ ก็ได้ อั๊วจะให้ใครไปพูดกับเผ่าเขา รออยู่ที่นี่ก่อน ”

ผมก็หยุดขบวนรถอยู่ที่นั่นในขณะที่ท่านผู้นั้นหันไปสั่งการกับทหารในเครื่องแบบที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ คนหนึ่ง ทหารคนนั้นผละออกไปขึ้นรถจี๊ปที่จอดอยู่ใกล้ ๆ บึ่งเข้าไปในเมือง

ผมรออยู่ที่ตรงนั้นกว่าครึ่งชั่วโมงด้วยความเหนื่อยหน่าย ก็ยังไม่มีข่าวอะไรจากทหารคนนั้น ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วพูดกับท่านผู้นั้น ที่ยังเดินไปมาอย่างหงุดหงิดเหมือนกัน

“ ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วนะครับ ผมเห็นจะรอไม่ไหว ”

“ เดี๋ยวก่อนน่า ” ท่านหยุดเดิน พูดกับผม “ ทำไมมันถึงช้านักวะ ”

“ ถ้ายังงั้น ผมให้เวลาอีกสิบห้านาที ” ผมพูด “ ถ้าถึงเวลานั้น ยังไม่มา ผมก็เห็นจะต้องไปละครับ เดี๋ยวทางข้างในจะห่วง ”

ท่านไม่ตอบ เดินผละออกไป พูดอะไรกับทหารสอง-สามคนที่จับกลุ่มห่างออกไป

ผมเดินไปที่รถบรรทุกของที่ผมนั่งมา ขึ้นไปนั่งรออยู่บนนั้น หันไปดูทางขบวนรถของผมที่จอดอยู่เป็นแถวข้างหลัง ทุกคนในรถอยู่ในอาการสงบ เขากำลังรอคำสั่งของผม

เวลาสิบห้านาทีก็หมดลง คนของท่านผู้นั้นก็ยังไม่มาส่งข่าวอะไร ผมสั่งรถเคลื่อนทันที พอเสียงเครื่องติด ท่านผู้นั้นก็เดินรีบ ๆ เข้ามาหาผม ยกมือห้าม

“ เดี๋ยวก่อนน่า พุฒ เดี๋ยวก็คงมา ”

“ ไม่ได้แล้วครับ ถึงเวลาแล้ว ผมรออีกไม่ได้ ” ผมยกมือตะเบ๊ะ สั่งคนขับเดินหน้ารถไป โดยไม่ฟังท่าทีของท่านผู้ใหญ่ท่านนั้น

ขบวนรถของผมเคลื่อนที่ออกไปโดยไม่มีเหตุการณ์อะไร ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นที่เดาไม่ออก แต่ผมก็พร้อมที่จะเผชิญอยู่แล้ว แปลกใจอยู่เงียบ ๆ เหมือนกันที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในที่สุด ขบวนรถบรรทุกของกลางของผมก็ถึงวังปารุสก์ ผมเงยหน้ามองเห็นเจ้านายออกมายืนที่หน้ามุขระเบียงชั้นบน มองดูขบวนรถของผมเลี้ยวเข้าประตูวัง ฯ มาอย่างผิดสังเกต ท่านไม่เคยออกมายืนอย่างนั้น

ผมจอดรถทั้งขบวนเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปรายงานเหตุการณ์กับท่าน เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งที่ได้พบคนทีคุมรถตู้ที่บรรทุกฝิ่นรายนี้ว่าเป็นใครด้วย

“ เออ เรียบร้อยไปได้ก็ดี ” ท่านว่า “ มึงกลับไปบ้าน อาบน้ำอาบท่า กินข้าวแล้วค่อยมาหากูก็ได้ บอกเด็ก ๆ มันด้วย ให้แยกย้ายกันกลับได้ ทิ้งของไว้ที่นี่ ”

ผมลงมาสั่งการกับตำรวจของผม แล้วก็ขึ้นรถที่ทางหน่วยรถเกราะจัดให้ กลับบ้าน

ถึงบ้านแล้ว ผมก็อาบน้ำอาบท่า กินข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็บึ่งรถกลับมาที่วังปารุสก์

ผมมาถึงวังปารุสก์ ก็มองหารถที่บรรทุกฝิ่นของผมไม่เห็น ไม่รู้ว่าใครเอาไปไหน หายไปหมดทั้งสามคัน สอบถามตำรวจที่อยู่แถวนั้น ก็ได้ความว่า ผมออกไปได้สักเดี๋ยวเดียว ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งเข้ามาในวัง ฯ ขึ้นไปหาท่านอธิบดี แล้วก็ลงมาขับรถทั้งสามคันนั้นไป มีพันเอกคนหนึ่งคุมมา

ผมขึ้นไปพบเจ้านาย ถามว่า ใครเป็นพวกที่มาขับรถบรรทุกของกลางไป

“ อย่ารู้เลยวะ ” ท่านพูดหน้าเครียด ๆ “ เขาตกลงกับกู เขาจะให้รางวัลมึงสองแสน พวกตำรวจเขาจะให้อีกคนละสองหมื่น พรุ่งนี้มึงมาพบกูตอนบ่าย ๆ ก็แล้วกัน ”

ผมกลับลงมาอย่างไม่เข้าใจเรื่องราวว่ามันเป็นไปได้ยังไง

สมัยนั้น รัฐบาลตั้งรางวัลการจับฝิ่นเถื่อนไว้สูง เพื่อเป็นการปราบปรามการขนฝิ่นแข่งกับรัฐบาล รางวัลที่ตั้งไว้สูงขนาดตันละล้านบาทขาดตัว ยี่สิบตันก็ตกยี่สิบล้าน แบ่งกันกับคนเป็นสายส่งข่าว ก็ควรจะได้เป็นล้าน ๆ นั่งคิดรางวัลมาตั้งแต่ออกจากช่องแคมาแล้ว มาถึงที่นี่ทำไมมันเหลือสองแสนไปได้ แต่เมื่อมันเป็นคำสั่งของนายก็ต้องยอมรับ สองแสนก็สองแสน ของตำรวจของผมยังมีอีกต่างหากคนละสองหมื่น ก็ยังดี คิดไปเสียได้ยังงั้นก็สบายใจดี




Create Date : 12 เมษายน 2553
Last Update : 12 เมษายน 2553 3:57:24 น. 3 comments
Counter : 1152 Pageviews.

 
ติดตามตลอด..

ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:0:50:57 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ คุณก้นกะลา
ที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด
จะเรียกว่า เป็นแฟนพันธ์แท้ได้หรือยังน้า...

แต่ละตอนก็มีความสนุก
อ่านไปเรื่อย ๆ จะได้รู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน

ความจริงในอดีต..ที่บางที... อาจไม่ชอบเท่าไหร่
ขอให้คิดว่า นี่คือประวัติศาสตร์การเมืองของไทยเรา


โดย: ธารน้อย วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:0:59:52 น.  

 
ผมก็อ่านนะ แต่ไม่ได้มากทุกวัน หุหุ


โดย: บักบุญเถิง IP: 124.157.253.15 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:21:26:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.