จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
4 เมษายน 2553
 
All Blogs
 

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 59)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 59

รับเชิญเยือนต่างแดน

เจ้านายเรียกตัวผมเข้าพบอีก ถามว่าจะทำอย่างไร จะตอบรับหรืออย่างไร

ผมให้ตอบรับ และแจ้งกำหนดวันที่เราจะไปให้เขารู้ล่วงหน้า

“ เฮ้ย มึงคิดดูให้ดี ” ท่านเอะอะออกมา “ มึงจะเดินเข้าดงของเขาหรือวะ ไป เดี๋ยวไม่ได้กลับ เขาต้องสงสัยว่าเราไปทำอะไรไว้ที่ชายแดนของเขา มึงไปทำอะไรไว้หรือเปล่าวะ ”

“ ผมไม่ทราบ และท่านก็ไม่น่าจะทราบ ” ผมตอบตามวิชาการของผม “ เขาเชิญมา เราก็ไป ถ้าไม่ตอบรับคำเชิญนี่ซิครับ จะทำให้เขาแน่ใจว่า เราต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ ”

“ งั้นมึงไป ”

“ ท่านต้องไปด้วยคราวนี้ มันไม่เหมือนมาเลเซีย ”

“ อ้าว กูไม่รู้เรื่องอะไรกับมึงด้วย ” ท่านทำตาโตจ้องผม “ จะให้กูไปด้วยทำไม ”

“ ท่านเป็นเจ้าของหนังสือที่เขาเชิญมา เขาเชิญท่านในฐานะอธิบดีกรมตำรวจไทย ”

“ กูตั้งมึงให้ไปเป็นตัวแทนกูก็ได้ กูติดราชการ”

" ผมไปคนเดียว อาจไม่ได้กลับ ถ้าท่านไปด้วย เขาไม่กล้าทำอะไรหรอกครับ ” ผมตอบ “ และหนังสือเขาก็เชิญท่านมาเพื่อดูใจ ทางเราก็ต้องทำเป็นเรื่องปกติ เชิญมา ก็ไป เรื่องอย่างนี้มันต้องสู้กันที่ใจ ให้เขาเห็นว่าเราก็มีฝีมือ ”

“ ไอ้ห่า ” เป็นคำอุทานอันเสนาะหูที่ออกมาอย่างไม่รู้จะว่ายังไง

จากนั้น ก็มีหนังสือตอบรับออกไปจากกรมตำรวจ ส่งไปทางสถานทูตพม่า รับตามคำเชิญ และกำหนดวันที่จะออกเดินทาง พร้อมทั้งรายชื่อเจ้าหน้าที่ในขบวนครบถ้วนทั้งหมดหกคน มีล่ามภาษาอังกฤษจากกองต่างประเทศไปด้วย ฝ่ายสันติบาลก็คือผม และมีผู้กำกับกอง 1 ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศไปด้วย พร้อมกับเจ้าหน้าที่กอง 1-2 คน

ถึงวันกำหนดเดินทาง ก็ออกเดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ใช้เครื่องบินตำรวจไม่เหมาะ ความชำนาญทางอากาศด้านนั้นของนักบินตำรวจไม่ค่อยมี อีกประการหนึ่ง การใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศนั้น มันเป็นพิธีการดี เพราะเราไปอย่างทูตสัมพันธไมตรี ราชการส่วนอื่นอาจจะได้รับเกียรติด้วย มีนายทหารอากาศชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งร่วมคณะไปด้วย ผมจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว ไปจากกองข่าวของกองทัพอากาศ ยศ นาวาอากาศเอก พูดอังกฤษเปรี๊ยะ เป็นนักเรียนจากอังกฤษเหมือนกัน

ฝ่ายที่ได้รับเชิญก็มีท่านอธิบดีเป็นหัวหน้า นอกจากผมแล้วก็ยังหนีบเอาพันศักดิ์ไปด้วยอีกคน ให้ไปเป็นเพื่อนผม ทุกคนแต่งเครื่องแบบปกติเปิดคอ ให้เป็นสากลหน่อย

เครื่องบินใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงก็ถึงกรุงร่างกุ้ง พอจอดเรียบร้อยก็มีพนักงานทางพม่า เอาบันไดมาเทียบทางประตูออก เมื่อประตูเปิดก็มีนายทหารพม่าในเครื่องแบบติดดาวเป็นช่อ ขึ้นมารับถึงบนเครื่องบิน พาเราเดินเป็นขบวนลงจากเครื่องไปขึ้นแท่น รับความเคารพจากกองทหารที่ตั้งแถวกองเกียรติยศทันที เพลงพม่าห้าท่อนก็กระหึ่มขึ้น ตามด้วยเพลงชาติไทย ซึ่งไปเอาโน้ตมาจากที่ไหนก็ไม่ทราบ ฟังเสียงคล้าย ๆ เพลงพม่า แต่มีทำนองเป็นเพลงไทย พอฟังออก

เสร็จพิธีการทางบรรเลงแล้ว ก็ลงจากแท่นเดินตรวจพล แล้วขึ้นรถที่เตรียมมาจอดรอรับ ออกจากสนามบินตามกันเป็นแถว รถนำเป็นรถของท่านแขกรับเชิญ ผมกับพันศักดิ์นั่งรถตามไปกับนายทหารพม่าคนหนึ่ง ไม่รู้ยศชั้นไหน ดูไม่ออก มีช่อเป็นดวง ๆ แบบอังกฤษติดอยู่บนบ่า คงจะเป็นชั้นพันเอกอย่างน้อย

ที่พักของเราเป็นบ้านรับรองขนาดไม่ใหญ่โตนัก มีอยู่สามห้องนอน มีทหารยามเฝ้าหน้าบ้านสองคน เข้าห้องพักแล้วพวกที่มาต้อนรับก็กลับ ท่านทูตไทยประจำพม่ามารอรับอยู่ด้วย ตอนนั้นผมจำไม่ได้แน่ว่า เป็นหม่อมปีกทิพย์ มาลากุล หรือไม่ใช่ก็ไม่แน่ ไม่ยืนยัน มันนานมาแล้ว ไม่ได้จำ

ตกค่ำ มีการเชิญเลี้ยงที่บ้านท่านนายกรัฐมนตรีพม่า ตอนนั้น ท่านอูนูเป็นนายก ฯ การเลี้ยงก็ไม่มีพิธีการอะไร นั่งโต๊ะกันที่บ้านรับรอง ของท่านนายก ฯ อูนุ มีแขกรับเชิญไม่กี่คน พม่าเป็นประเทศยากจน ไม่มีพิธีการใหญ่โต ถึงจะเป็นขนาดนายกรัฐมนตรี นั่งโต๊ะกลางสนามตามชอบใจ แขกที่เป็นท่านผู้ใหญ่ก็ถูกเชิญให้เข้าโต๊ะท่านนายก ฯ พวกผมอยู่โต๊ะต่างหากกับพวกพม่า คงจะเป็นชั้นรอง ๆ ลงมา พูดคุยกันด้วยภาษาอังกฤษ มีการฟ้อนรำแบบพม่าออกมาร่ายรำให้ดูระหว่างอาหาร มีดนตรีพม่าประกอบการรำ ฟังแล้วพิลึก ทำนองคล้าย ๆ ไทยแต่กระแทกกระทั้นไม่เหมือนเพลงไทย จังหวะที่นางรำซึ่งเป็นผู้หญิงพม่าออกมารำนั้น ก็กระแทกกระทั้นไปตามจังหวะเพลงด้วย ดูไม่อ่อนช้อยเหมือนรำไทย แต่ยังไงก็ต้องตบมือตอนจนแต่ละรายการ

เสร็จการเลี้ยงแล้วก็เป็นอันหมดพิธี หลังจากมีการกล่าวคำต้อนรับและขอบใจกันแล้ว ก็เป็นอันหมดพิธี ลากันกลับ ในงานนั้นไม่เห็นตัวนายพลเนวิน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของพม่า ซึ่งควรจะพบวันนั้นก็ไม่เห็น ไม่ทราบว่าเพราะอะไร

พวกผมคนติดตามได้รับเชิญพิเศษจากทูตทหารพม่าประจำประเทศไทย ซึ่งบินมาคอยต้อนรับด้วยที่บ้านของตัวตอนนั้น เขาเป็นนักกอล์ฟที่เคยแอบไปตีกอล์ฟที่สนามดุสิตหลายครั้ง รู้จักกันที่นั่น และเคยติดต่อกันทางงานหลายครั้ง เขาชื่อ พันเอก เปเต๊ด เขียนเป็นภาษาฝรั่งว่า “ PETET ” แต่พวกผมเรียกเขาว่า “ เป็ดเทศ ”

เป็ดเทศบอกผมว่า อย่าเพิ่งกลับที่พัก เขาจะพาเที่ยวให้รู้จักพม่าดีกว่านี้ พวกผมสามคนที่ไม่ใช่ชั้นผู้ใหญ่ก็คอยนายเป็ดเทศอยู่ ไม่กลับเหมือนกัน อยากดูว่า พม่าที่น่ารู้จักต่อนั้น จะเป็นยังไง




 

Create Date : 04 เมษายน 2553
5 comments
Last Update : 4 เมษายน 2553 5:50:17 น.
Counter : 1246 Pageviews.

 

เข้ามาอ่านทุกวันช่วงนี้ขาดหายไปหน่อย

 

โดย: ศรชัย IP: 114.128.182.181 4 เมษายน 2553 6:34:03 น.  

 


สวัสดีคะ แวะมาทักทาย มีความสุขในวันหยุดนะคะ

 

โดย: หน่อยอิง 4 เมษายน 2553 13:55:08 น.  

 

 

โดย: thanitsita 4 เมษายน 2553 14:25:01 น.  

 

สงสัย คุณ พุฒ จะโดนพาไปเที่ยวแน่ๆเลย

 

โดย: บักบุญเถิง IP: 124.157.253.42 4 เมษายน 2553 15:46:51 น.  

 

ขอบคุณมาก..

 

โดย: ก้นกะลา 5 เมษายน 2553 1:19:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.