สู่ลาว ... ตอนที่ 23
สู่ลาว ... ราชอาณาจักรแห่งความไม่แน่นอน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ประพันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2527
เหตุการณ์เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2507 2512
ตอนที่ 23
วันต่อ ๆ มา ผมได้ไปคุยกับพี่ภาถึงเรื่องคุณสุ อยากรู้ว่า ผู้หญิงลักษณะอย่างนี้ ทิ้งกรุงเทพ ฯ มาทำไม ไม่เหมือนพวกที่กระเจิงมาหากินด้วยวิธีการแปลก ๆ คนอื่น ๆ พี่ภาเล่าให้ฟังว่า คุณสุผิดหวังในชีวิตมาอย่างแรง ที่เตลิดมาถึงเวียงจันนี่ ก็เพื่อจะรักษาแผลหัวใจอยู่อย่างสงบ ๆ แล้วหาทางทำมาหากิน ตั้งหลักใหม่ที่นี่ คุณสุเป็นช่างเสริมสวยฝีมือดี มีประกาศนียบัตรจากโรงเรียนเสริมสวยที่มีชื่อแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ฯ เลิกกิจการไป เซ้งให้คนอื่น หอบเงินเท่าที่มีอยู่ข้ามมาเวียงจัน โดยความช่วยเหลือของเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนคนนั้นรู้จักกันดีกับพี่ภา จึงพามาฝากไว้ให้เป็นผู้ใหญ่ช่วยดูแล และหาลู่ทางที่จะทำงานที่ถนัด ตั้งเนื้อตั้งตัวต่อไป อยากจะลืมความหลัง ผมมันเป็นตำรวจ เคยสงเคราะห์คนตกทุกข์ได้ยากมามากแล้วในหน้าที่ราชการ ได้ยินเรื่องอย่างนี้เข้าก็นึกสงสาร ผู้หญิงคนหนึ่งจะมาหลับหูหลับตาเสี่ยงโชคที่เวียงจันนี่ มันอันตราย เสือสิงห์กระทิงแรดมันเยอะ ดูไม่ออกว่าตัวไหนจะมายังไง แต่ดูแล้ว คุณสุไม่ใช่เด็กสาว ๆ ที่ใครจะมาล้อเล่นได้ และถ้าไม่ดีจริง ก็คงไม่กล้าเหยียบย่างมาในแดนที่ไม่เคยมา โดยตัวคนเดียว แต่นั่นแหละ เวียงจันก็คือเวียงจัน มันมีอะไร ๆ หลายอย่างที่ไม่เหมือนเมืองอื่น ไอ้อะไรอย่างที่ไม่เหมือนที่อื่นก็คือ ความไม่แน่นอน ทั้งตัวบุคคลและสถานการณ์ คนที่ว่าเก่ง ๆ หกล้มหกคว่ำกลับไปอย่างยับเยินมาแล้วหลายคน มันเป็นเมืองที่มีอาถรรพณ์ ก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมเป็นห่วงคุณสุ มันไม่ใช่เพราะความสวยงามของเธอ ไม่ใช่เพราะความอยากได้ของผม และไม่ใช่เพราะความหลงใหลในรูปธรรมนามธรรม ผมอยู่ในวัฏจักรนี้มานานแล้ว ไม่ใช่คนแรกที่ผมเคยพบ มันเป็นเพราะผมไม่อยากเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กระเซอะกระเซิงมาจากความผิดหวัง จะต้องมาหลับหูหลับตาต่อสู้กับความไม่แน่นอนของเวียงจันแต่เดียวดาย ผมไม่อยากให้เวียงจันยัดเยียดความชอกช้ำให้กับเธออีก
ผมได้เข้ามาใกล้ชิดกับเธอเสียแล้ว จนรู้เรื่องราวจากพี่ภา ผมคิดว่า ผมควรจะฉุดเธอออกมาจากความผิดหวังนั้นด้วยความสุจริตใจ ถึงแม้จะเป็นการปิดทองหลังพระ ผมเคยทำอย่างนั้นมาแล้วกับคนหลายคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และผมก็ไม่ได้เรียกร้องสิ่งตอบแทนแต่อย่างใด และไม่ได้หวังการตอบแทนอย่างใด หลาย ๆ คนที่พ้นห้วงทุกข์ไปแล้ว ผมไม่ได้พบเขาเลยก็มี ผมให้คุณสุมาทำงานที่ร้านไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายประการ ถึงแม้ระยะนั้น ผมเป็นผู้ออกเงินค่าเช่าร้านและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วก็ตาม ช่างเก่า ๆ ยังอยู่ และรายได้ทางร้านก็ยังพอที่จะเลี้ยงตัวได้ ตรงข้ามกับร้านสีมาลา มีร้านเสริมสวยอยู่ร้านหนึ่ง เจ้าของรู้จักกัน เขาเป็นน้องของเพื่อนของผม ที่เป็นผู้แทนอยู่หนองคาย และตอนนั้นมีตำแหน่งเป็น นายกเทศมนตรี ของหนองคายด้วย ผมจึงติดต่อกับเจ้าของร้านนั้น ให้รับคุณสุเข้าเป็นช่าง ผมบอกเขาว่า คุณสุเป็นช่างเสริมสวยที่มีฝีมือ และเคยเป็นเจ้าของร้านมาแล้ว ทางร้านก็รับคุณสุไว้
คุณสุได้แสดงฝีมือสมกับคำโฆษณาของผมร้านนั้นชื่อ ร้านดาราศิลป์ ชื่อโก้ไม่เบา ลูกค้าร้านนั้นจึงเพิ่มมากขึ้นเพราะฝีมือคุณสุ คุณผู้หญิงทั้งหลายในเวียงจันจึงไม่ต้องข้ามฟากไปหาช่างเสริมสวยดี ๆ ที่ฝั่งหนองคาย เล่นเอารายได้ทางร้านสีมาลาตกไปเหมือนกัน
เจ้าของร้านดาราศิลป์นั่งยิ้มแฉ่งที่หน้าร้านทุกวัน การครั้งนี้ ผมทำของผมเงียบ ๆ ไม่ให้คุณสุรู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนฝากเธอเข้าร้านนั้น ความจริง ผมไม่อยากที่จะเขียนถึงเสี้ยวชีวิตของผมในเวียงจันตอนนี้ แต่จำต้องเขียน เพราะถ้าไม่เขียน มันก็จะขาดช่วงตอนที่สำคัญตอนหนึ่งไป และอีกประการหนึ่ง มันเป็นเสี้ยวที่ผมกำลังจะเดินทางมาถึงเวลาที่ผมจะกลับเมืองไทยได้แล้ว อายุความทางคดีของผมยังคงเหลืออีกไม่ถึงปีดีตอนนั้น ผมก็มีอันบังเอิญมาพบกับคุณสุเข้า ตัวเขาเองก็กระเซอะกระเซิงมาเจอเอาผมเข้าได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ ทั้งนี้ เห็นจะต้องว่า เป็นเรื่องของพรหมลิขิต ผมไม่ได้คิดอะไรมากสำหรับเรื่องนี้ ก็ดู ๆ อยู่ว่า ใครที่จะมีหลักฐานดีพอที่จะปลอบใจคุณสุได้ ก็จะสนับสนุนคนนั้น แต่ดู ๆ แล้วก็ไม่เห็นมีใคร และอยู่นาน ๆ ไป ดูคุณสุก็ชักจะลืมความหลังได้แล้ว เขามีความสุขอยู่กับงาน และได้เที่ยวเตร่หย่อนใจบ้าง เท่าที่ผมจะพาไป ตอนที่ผมแวะไปเยี่ยมที่บ้านคุณวิภา ผมยังไม่ทิ้งความเป็นสุภาพบุรุษ แล้วในที่สุด วันนั้นก็มาถึง ผมไปเยี่ยมคุณวิภาตามที่เคยไป เวลาไม่รู้จะไปไหน คุณวิภาไม่อยู่ พี่ภาออกไปข้างนอกค่ะ คุณสุบอกผม เห็นว่าจะกลับดึก วันนี้ รับประทานข้าวที่นี่ก็แล้วกัน หนูทำกับข้าวไว้สองสามอย่าง จะถูกปากหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ผมขับรถออกไปซื้อฝรั่งมาขวดหนึ่ง มันเคยเสียแล้ว กินข้าวโดยไม่มีวิสกี้ดีนำทางก่อน มันกินไม่อร่อย ผมกลับมาพร้อมด้วยวิสกี้ชั้นดีขวดใหญ่ แล้วก็เปิดฉากอาหารเย็นสองคนกับคุณสุในห้องนั้น ฝีมือทางทำอาหารของคุณสุใช้ได้ เก่งหลายอย่าง น่าจะเป็นแม่บ้านที่ดี ๆ ของใครสักคนหนึ่ง ไม่น่าที่จะต้องมาเร่ร่อนผจญชีวิตอยู่อย่างนี้ ผมชมฝีมือทำกับข้าวของคุณสุอย่างจริงใจ แล้วล่อข้าวมื้อนั้นเสียเต็มคราบ ผมไม่เคยกินข้าวอร่อยและมากอย่างนั้น อิ่มข้าวดีแล้ว ผมก็เอนกายลงบนพื้นห้อง คุยกับคุณสุ รอเวลากลับของพี่วิภา จะชวนคุณสุไปเที่ยวที่อื่นก็ไปไม่ได้ เพราะพี่วิภาไม่รู้จะกลับเมื่อไร เดี๋ยวจะเข้าห้องไม่ได้ ผมนอนดูคุณสุจัดการเก็บสำรับและเช็ดถูห้องไปด้วย คุยไปด้วย เมื่อเสร็จจากการเก็บสำรับทำความสะอาดห้องแล้ว คุณสุก็มานั่งคุยอยู่ข้าง ๆผม เราคุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระ แล้วก็วกเข้ามาเรื่องของคุณสุ ผมได้รับรู้ถึงเรื่องความผิดหวังของคุณสุมากกว่าเดิม บรรยากาศสลัว ๆ อย่างนั้น และความใกล้ชิดขนาดมือเอื้อมถึงอย่างนั้น ความเป็นสุภาพบุรุษของผมก็ขาดผึง ผมดึงมือคุณสุเข้ามาหา คุณสุก็ซบหน้าลงบนอกผม ไม่มีการขัดขืนอะไรจากคุณสุ เรื่องมันก็เดินไปตามครรลองของมันอย่างราบเรียบละมุนละมัย พี่วิภาไม่กลับบ้านคืนนั้น ก็ไม่รู้ว่าแกเป็นใจด้วยหรือเปล่า หรือมันเป็นเหตุบังเอิญ ผมต้องนอนเฝ้าบ้านให้จนรุ่งเช้า จนพี่วิภากลับมา ถามไถ่ได้ความว่า ไปเล่นไพ่ที่บ้านเพื่อนจนถึงเช้า แกมองดูผมสองคนด้วยสายตาพิกล หรือจะทำเป็นมองพิกลไปอย่างนั้นก็ไม่ทราบ คาดการณ์ไว้ในใจแล้วก็ไม่รู้ อยู่ที่นี่ทั้งคืนเชียวหรือคะ ท่านรอง ฯ แกพูดเหมือนถาม แล้วยิ้ม นอนหลับดีไหม คุณสุลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ไม่ได้ตอบคำถามแก ลุกขั้นจัดเครื่องแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วก็เปิดประตูออกมาจากห้อง ขึ้นรถขับกลับร้าน
Create Date : 10 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 0:56:09 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1038 Pageviews. |
|
|
|